ชายหนุ่มพยักหน้ายิ้ม ๆ “แน่นอน ผู้หญิงที่จะมาเป็นเจ้าสาวของฉันต้องยอมให้ฉันชื่นใจบ้าง หรือหากจะยอมขึ้นเตียงด้วยก็ยิ่งดี...”
“จะบ้าเหรอ! ฉันไม่เอาด้วยคนหรอก นี่ออกไปห่าง ๆ เลยนะ มายืนชิดฉันแบบนี้ทำไม มันหายใจไม่ออก...”
ส่ายศีรษะดิก ขณะที่ใบหน้างามเต็มไปด้วยความสยดสยอง มือไม้ก็ผลักไสคนตัวโตที่เข้ามาใกล้เกินกว่าเหตุ จนแทบจะยืนผสานกับเป็นเนื้อเดียวอยู่แล้วพัลวัน
“เหรอ... งั้นสัญญาเป็นอันยกเลิก” ชายหนุ่มซ่อนยิ้ม ขณะจะถอยออกห่าง แต่สาวน้อยก็รีบโผเข้ากอดร่างกำยำนั้นไว้แทน
“อย่า... ไม่นะ! คุณต้องแต่งงานกับฉัน...”
‘ไม่แต่งก็แย่นะสิ ไร่ถูกยึดแน่ จะไปกู้นอกระบบก็ไม่เห็นหนทางรอด แต่ถ้ายอมแต่งก็ต้องถูกนายหน้าหล่อนี่กอด จูบ ลูบคลำน่ะสิ โอ๊ย... ทำไงดี ทำไงดี’
ชายหนุ่มอึ้งไปชั่วขณะ ร่างกายเครียดเขม็งขึ้นมาฉับพลัน เลือดร้อน ๆ พุ่งปรู๊ดปร๊าดแทบทะลุออกมาจากริมฝีปาก รู้สึกถึงความควบคุมตัวเองที่ลดน้อยถอยลงไปราวกับถูกสูบ ความอวบอัด เนื้อนมไข่ที่ได้สัมผัส ทำให้เขาอยากทำการสำรวจด้วยฝ่ามือใหญ่ของตนเองนัก
ใช่ว่าในชีวิตเขาจะไม่เคยถูกผู้หญิงกอดซะเมื่อไหร่ เคยบ่อยมากต่างหาก แถมยังทำมากกว่ากอดเสียอีก แต่ทำไมอารมณ์ของเขาไม่เคยหลุดหลงถึงเพียงนะ
ธาราเขตรีบสลัดเจ้าความคิดน่าสะอิดสะเอียนนั้นออกไปจากสมองของตนเองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่คล้ายกับกำลังเรียกสติกำลังคืนมา
“อย่างนั้นหรือ... งั้นฉันคงต้องทดสอบสินค้าชิ้นนี้สักหน่อย ว่ามีตำหนิมากน้อยเพียงใด จะได้ให้ราคาได้ถูกต้อง...”
‘น่าตบปากให้ฉีกนัก พูดออกมาได้ยังไงว่าเราเป็นสินค้า ฉัน เมียนะ เมีย มาเป็นเมียโว้ย!’ ร้องตะโกนอยู่ในใจอย่างขุ่นเคือง แต่ก็ทำได้แค่ในใจเท่านั้นนั่นแหละ
“เอ่อ... คือ... งั้นฉันขอฟังคุณสมบัติข้ออื่นก่อนได้ไหม... คือว่าฉันอยากรู้ว่าตัวเองมีเกินหรือเปล่า...”
ชายหนุ่มแทบปล่อยก๊ากออกมา กับคำพูดน่าขบขันของสาวน้อยที่ยังกอดร่างกำยำของเขาไม่เลิกตรงหน้า
คงกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจไม่แต่งล่ะสิ ต้องรู้ให้ได้ว่าหล่อนต้องการจากการแต่งงานครั้งนี้กันแน่ จะว่าทำตามสัญญาเขาก็ว่าไม่น่าจะใช่ มันต้องมีอะไรมากกว่านี้ และเขาก็ต้องค้นให้เจอ
“ไว้ฉันจะบอกเธอตอนเราอยู่บนเตียงก็ได้กัน... มานี่”
คำพูดของเขาทำให้สาวน้อยรีบปล่อยแขน ตั้งท่าจะถอยออกห่าง แต่พ่อเจ้าประคุณก็ไวได้อย่างลิงปนค่าง เพราะหล่อนยังไม่ทันก้าวเท้าหนีเลย มือหนาก็วางแหมะที่เนินสะโพกซะงั้น แต่แค่นั้นคงยังไม่สะใจ เพราะไม่ช้าร่างของหล่อนก็ถูกรั้งเข้าไปแนบชิดอีกครั้ง พร้อม ๆ กับปลายจมูกโด่งที่ฝังลงมาบนแก้มนวลฟอดใหญ่
“ผิวเธอหอมนะ ใช้แป้งอะไรหรือ”
ลวนลามแล้วยังจะมาถามยี่ห้อแป้งอีก ไอ้คนเฮงซวย คอยดูเถอะ ได้เงินเมื่อไหร่ ฉันจะฆ่านายหมกใต้เตียงเลยคอยดู
“เภสัช...” ตอบเสียงห้วนเป็นมะนาวไม่มีน้ำ ขณะเอียงหน้าหลบพัลวัน
“เอ๋... แป้งยี่ห้อนี่มีด้วยหรือ ฉันไม่เคยได้ยิน”
ชายหนุ่มหัวเราะ ตั้งใจจะแกล้งให้หล่อนหวาดกลัวและกลับไปยังที่ที่หล่อนมา แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนจะอึดจะทนไม่ต่างจากสีทนได้สักนิด
“ก็ได้ยินซะสิ นี่แล้วจะกอดอีกนานหรือเปล่า ฉันหายใจไม่ออกนะ”
หญิงสาวเริ่มดิ้นรน แต่ดิ้นไปสักระยะก็ต้องหยุดกะทันหัน เพราะรู้สึกได้ถึงความผงาดกำยำที่ดุนดันหน้าท้องไม่หยุด พลอยไพลินเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาเหลือเชื่อ
“เธอปลุกมันเองนะ ว่าฉันไม่ได้...”
“มะ หมายถึงอะไร...” ปากคอสั่น ความร้อนผ่าวแล่นจากลำคอขึ้นกระจายที่พวงแก้มจนเป็นสีแดงระเรื่อชวนมอง
ธาราเขตหัวเราะเสียงพร่าต่ำ ลมหายใจกระชั้นแปลกใจ จนเจ้าตัวก็ยังไม่เข้าใจ ขณะกระชับมือใหญ่ของตนเองที่วางอยู่เหนือสะโพกผายให้แนบแน่นมากขึ้นอีก
“จูบกันหน่อยดีกว่ามั้ง...”
“ไม่นะ... คนบ้า...ม่าย...”
ส่ายหน้าพัลวัน รีบยกมือที่กั้นระหว่างแผงอกกว้างกับหน้าอกสาวของตนเองขึ้นปิดปากของตนเองทันที และนั้นก็ทำให้ความแข็งแกร่งได้บดเคล้ากับความนุ่มหยุ่นอย่างถนัดถนี่
“ปากบอกว่าไม่... แต่ร่างกายยั่วได้ดีมาก...”
ชายหนุ่มครางออกมา ร่ำ ๆ อยากจะกระชากเสื้อผ้าที่ดูจะมากชิ้นของสาวเจ้าให้ออกจากตัวไปซะ และจากนั้น... จากนั้นก็ฝังกายที่อลังการของตนเองลงไปในความนุ่มลื่นดุจแพรไหมของเจ้าหล่อนให้หายคลุ้มคลั่ง
เขาคงจะมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...
แต่เขากำลังพยายามหาวิธีเพื่อให้ผู้หญิงที่สวยเกินคาดอย่างพลอยไพลินวิ่งแจ๋นกลับบ้านไปไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงได้เกิดปรารถนาอยากได้เนื้อตัวของเจ้าหล่อนขึ้นมาล่ะ
เขาไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงไม่ใช่หรือ...
‘โอเค...ต้องไล่หล่อน ต้องทำให้หล่อนกลัว และรีบเผ่นไป นี่คือความคิดที่ดีที่สุด’
ธาราเขตร้องสั่งตัวเองอยู่ภายในใจลั่น ก่อนจะเก็บซ่อนทุกอารมณ์ไว้ภายใต้หน้ากากน้ำแข็งตามเดิม
“นี่ฉันชักไม่อยากเชื่อแล้วสิว่าสินค้าของฉันจะยังสด ๆ ซิง ๆ เหมือนที่เธอโฆษณาเอาไว้...”
ผู้ชายตัวโตใช้สายตากวาดมองร่างกายของหล่อนอย่างหยาบโลน สาวน้อยหน้าร้อนผ่าว นี่ถ้ามุดดินได้คงมุดลงไปนั่งคุยกับขอมแล้วล่ะ
พลอยไพลินฝืนยิ้ม “คุณจะได้พิสูจน์แน่ค่ะ หากเราแต่งงานกัน...”
“หากฉันอยากจะลองเลยล่ะ...”