“ดังนั้นท่านคงเข้าใจแล้วกระมังว่าข้าขาดกำลังคนมากเพียงใด?”
เซียวจิ่งอี้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เข้าใจแล้ว”
อวิ๋นฝูหลิงนึกบางสิ่งขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน และกล่าวว่า “จริงสิ หากทหารที่เกษียณแล้วเหล่านั้นมีครอบครัว ถ้าพวกเขายินยอมก็ให้พาครอบครัวมาด้วยได้ ข้ามีงานให้ผู้หญิงทำเช่นกัน”
เซียวจิ่งอี้เห็นอวิ๋นฝูหลิงมีความคิดเอาใจใส่รอบด้านเช่นนี้ ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
หากลูกน้องของเขารู้ว่าเขาได้ตบแต่งกับพระชายาที่จิตใจดีงานและมีความสามารถ คิดว่าคงจะดีใจกับเขาเป็นแน่
หลังจากทั้งสองคนพูดคุยเกี่ยวกับทหารที่เกษียณเรียบร้อยแล้ว เซียวจิ่งอี้จึงเพิ่งกล่าวว่า “ข้าให้คนไปคัดเลือกเด็กจากชนบทมานิดหน่อย พรุ่งนี้เช้าเจ้าพาจิงมั่วไปดูเถอะ”
“หากมีคนที่เข้าตา ก็ให้อยู่เป็นสหายของจิงมั่ว”
“ให้พวกเขาอยู่ด้วยกันสักระยะ หากเข้ากันได้ดี ก็ให้อยู่เป็นคนรับใช้ส่วนตัว หากเข้ากันไม่ได้ก็เปลี่ยนเป็นคนใหม่แทน”
อวิ๋นฝูหลิงเข้าใจ เด็กจากตระกูลสูงศักดิ์ในยุคสมัยนี้ คนที่คอยปรนนิบัติข้างกายโดยพื้นฐานแล้วล้วนเป็นคนที่คัดเลือกมาตั้งแต่ยังเด็ก
เซียวจิ่งอี้ก็กำลังเริ่มจัดหาคนให้จิงมั่วเช่นกัน
อวิ๋นฝูหลิงตัดสินใจนานแ