ที่คาเฟ่หรูสุดสบายขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนฝั่งตรงข้ามกับตึกสูงเจ็ดสิบชั้นของบริษัท SKONE อันเป็นตึกสำนักงานหรูเลิศที่มีหนุ่มสาววัยทำงานสุดเก๋ไก๋ เดินเข้าออกราวกับเป็นมหาวิทยาลัยหรือแคทวอล์คเดินแบบ
อัยย์ญาดานั่งดื่มกาแฟเหมือนคนหมดหวังในชีวิต ใบหน้าสวยหวานซีดเซียวเพราะไม่ได้แต่งหน้าแต่งตาเหมือนทุกวัน เพียงแค่แต้มริมฝีปากด้วยลิปสติกมันนิดหน่อยเพื่อไม่ให้ปากแห้งเท่านั้น
สาวสวยตัวเล็กวัยยี่สิบห้าปี เจ้าของผิวพรรณขาวผุดผ่องและผมดำขลับยาวสลวย แต่งชุดเรียบร้อยเหมือนสาวออฟฟิศทั่วไป โดยสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวรัดตัวและกระโปรงสีดำกรอมเข่ากับรองเท้าคัทชูสีดำคู่เก่าที่ใส่มาจนส้นจะสึก
“โอว...” เธอหันมองรอบร้านอย่างสนใจแบบเนียนๆ เพื่อสำรวจความเก๋ไก๋นำแฟชั่นของหนุ่มสาวออฟฟิศที่มาใช้บริการที่ร้านแสนแพงนี้กันเนืองแน่น ซึ่งก็คงจะทำงานกันอยู่ในตึกสูงใหญ่โตที่ตั้งเรียงรายอยู่เต็มถนนสายธุรกิจใจกลางเมืองแห่งนี้
“ดูดีกันจริง ๆ” เธออดอิจฉาคนพวกนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่ได้ทำงานที่บริษัทน้ำหอมยักษ์ใหญ่นั่น เพราะเธอรู้มาว่าเงินเดือนของบริษัทนี้โคตรแพง ขนาดปริญญาตรีจบใหม่ไประสบการณ์ หากผ่านเข้าไปทำงานได้ เงินเดือนสตาร์ตครั้งแรกก็ปาเข้าไปสามหมื่นแล้ว
“อยากทำงานแถวนี้บ้างจัง” สาวชานเมืองอย่างเธอถึงกับบ่นครวญ ใช่แล้ว เธอไม่ได้ทำงานแถวนี้หรอก ที่เธอมานั่งร้านสุดชิคแห่งนี้ก็เพราะเธอมารอเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย ซึ่งทำงานเป็นเซลล์สุดสวยอยู่ที่ตึก SKONE ต้อม หทัยรัตน์ ตัวอย่างของเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งเรื่องการงานและเรื่องหัวใจ คนที่มีชีวิตดี๊ดีจนใครก็ต้องอิจฉา
“ถ้าได้ทำงานที่บริษัท SKONE ก็คงดีนะ...”
“ยัยดา!” เสียงเรียกของเพื่อนสาวปลุกเธอให้หลุดจากฝันหวานและจินตนาการที่เป็นไปไม่ได้
“อ้าวต้อม คุยกับลูกค้าเสร็จแล้วเหรอ ทำไมเร็วจัง”
“คุยเสร็จแล้ว ลูกค้ากลับไปแล้วด้วย ก็เลยรีบลงมาหาแก แกสั่งอาหารรึยัง?”
“ยัง แค่กาแฟแก้วเดียว” อเมริกาโน่เย็นหนึ่งแก้วที่วางอยู่ตรงหน้าอัยน์ญาดาเหลือเพียงค่อนแก้วเท่านั้น บ่งบอกว่าเจ้าหล่อนนั่งรออยู่สักพักแล้ว
“งั้นฉันสั่งเอง” หทัยรัตน์พูดพลางกวักมือเรียกบริกรมารับออเดอร์อย่างกระฉับกระเฉงสมกับเป็นสาวมั่น แล้วสั่งอาหารไปสามสี่อย่างอย่างคล่องปาก ทั้งสปาเกตตี้ พิชซ่า สลัด รวมทั้งเครื่องดื่มและขนมอีกสองสามอย่าง โดยไม่เกรงใจเงินในกระเป๋าของเธอเลย “แกต้องชิมอาหารร้านนี้ ร้านประจำฉันเลย เด็ดมาก”