ขนตางอนขยับเบาราวผีเสื้อขยับปีกดวงตาหวานเปิดขึ้นช้า ๆ คล้ายคนมึนงง สมองของเธอขาวโพลนเมื่อเพิ่งฟื้นคืนสติก่อนจะค่อย ๆ ทบทวนความทรงจำและนั่นทำให้ดวงตากลมเบิกโพลงพร้อมสปิงตัวขึ้นกวาดตามองรอบกายอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องรีบลุกพรวดพราดก็ได้เพราะถึงยังไงเธอก็มีเวลาว่างพอที่จะนอนเล่นอยู่ในนี้ได้อีกนานโข” เสียงเยาะหยันดังเรียกความสนใจจากเธอให้หันกายกลับไปมองทันที
“คุณจับฉันมาอย่างนั้นเหรอ” เสียงหวานแหลมตวาดถามดังลั่น
“ใช่! รู้อย่างนี้แล้วมีปัญญาจะทำอะไรฉันได้ไหมล่ะ” รอยยิ้มแสยะเย้ยหยันกับสายตาดูถูกเหยียดหยามทำให้เธอรู้สึกเดือดพล่านจนแทบควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
“นายต้องการอะไร” แพรพลอยพยายามทำใจดีสู้เสือ
“สิ่งที่ฉันต้องการและเคยบอกเธอไปแล้ว แต่ดูเหมือนเธอมันเป็นพวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตานี่นะ”
“เรื่องอะไร...ฉันไปทำอะไรอีกอย่างนั้นเหรอ” แพรพลอยเริ่มกลืนน้ำลายลงคอ
“นังแม่มด...เธอนี่มันเลวกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีกนะ ฉันเห็นกับตายังกล้ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องอย่างนั้นเหรอ” เขาขบฟันพร้อมกับกำมือแน่น
“แต่นั่นมัน...” แพรพลอยลังเลที่จะปฏิเสธเพราะความเป็นห่วงในตัวน้องสาวจนละล้าละลัง อย่างไรเธอก็รักและห่วงใยแพรจ