หลายวันผ่านไป เสี่ยวซุ่ยเริ่มปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ได้ ตอนนี้นางแทบไม่เหลือเค้าของเทพเซียนในอดีต นางตื่นแต่เช้ามืด ปัดกวาดลานไม้ ขัดถ้วยชาม หรือซักผ้าริมลำธาร แม้แต่เมื่อถูกพี่หลินดุบ้างก็เพียงก้มหน้ารับคำเงียบ ๆ ไม่โต้เถียง
ช่วงเวลาว่างหลังเสร็จงานครัว งานซักผ้า ล้างจาน หากไม่ได้ถูกเรียกไปฝึกเขียนอักษร เสี่ยวซุ่ยมักนั่งปะชุนผ้า หรือนั่งดูเฉินอี้ลองฝึกท่าก้าวเท้าหมุนตัวของเขาซ้ำ ๆ เสียงพูดคุยระหว่างทั้งสองดูสนิทสนมขึ้นในทุกวัน ๆ แม้เสี่ยวซุ่ยจะดูขวยเขินอยู่ในหลายครั้ง แต่ก็พอจะประคองสติสนทนาได้อยู่บ้าง
คืนหนึ่ง ขณะเดินกลับจากลานตากผ้า เสี่ยวซุ่ยถูกเรียกตัวขึ้นไปยังห้องของซูหรงเช่นเคย ทว่าในครั้งนี้ ดวงตาของอดีตศิษย์ที่ตอนนี้สวมบทเป็นอาจารย์ กลับดูอ่อนโยนกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“เจ้าทำได้ดีมากเสี่ยวซุ่ย ข้าเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเจ้าแล้ว การทำงานดีขึ้นทุกอย่าง นี่ถือเป็นสัญญาณของการเติบโต เจ้าผ่านประเมินแล้วล่ะ” ซูหรงแสดงความชื่นชม ขณะที่เสี่ยวซุ่ยก็คุกเข่ารับคำ พลางก้มหน้า แต่ไม่เหมือนคราวก่อน ๆ นางไม่ได้ต่อต้านอะไรอีกแล้ว
“และในฐานะอาจารย์...” ซูหรงเว้นคำเล็กน้อย พลางยิ้มราวกับจะเย้ยหยั