ลมกลางคืนพัดเอื่อย ๆ แสงจันทร์ส่องลงมากระทบพื้นดินที่ลานหลังโรงเตี๊ยม เสี่ยวซุ่ยนั่งอยู่บนพื้นไม้ข้างบานหน้าต่ใต้ต้นไม้ สายตาจับจ้องไปยังหมู่ดาวเบื้องบนเงียบ ๆ เงาของต้นไม้ไหวตามแรงลม ราวกับนางทบทวนความรู้สึกในใจตนเอง ทว่าเสียงฝีเท้าค่อย ๆ ดังใกล้เข้ามา ทำให้นางละสายตาจากดวงดาวเสียก่อน
“ยังไม่นอนรึ” เสียงเฉินอี้เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา เสี่ยวซุ่ยสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ตอบกลับไป
“เจ้าค่ะ”
เฉินอี้เดินเข้ามาใกล้ ใบหน้าของเขาเงียบสงบ แต่แววตานั้นกลับบอกว่าเขานอนไม่หลับเช่นกัน
“พรุ่งนี้ข้าต้องประลองห้ากระบวนท่า ข้าไม่คิดจะแพ้หรอก ต้องใช้ท่านั้นหลบไปเรื่อย ๆ ถ้าพลาดก็เพียงแต่อดทนให้ได้ ไม่ล้มลงก็พอ”
“แต่ถ้าท่านเจ็บล่ะ?” เสี่ยวซุ่ยเอ่ยพลางเบือนหน้าไปอีกทาง “ข้า... หมายถึง ถ้ามีใครเจ็บขึ้นมามันก็ไม่ดีใช่ไหมเจ้าคะ…”
“เจ้าเป็นห่วงข้า?” เฉินอี้ยิ้มจาง ๆ ขณะนั่งลงข้าง ๆ นาง เสี่ยวซุ่ยชะงัก หน้าแดงก่ำ รีบก้มหน้าเร็วจี๋
“ก็...ก็แค่คิดว่า... ถ้ามีคนเจ็บ นายหญิงอาจจะต้องมาเสียเวลารักษาพยาบาล นางอาจจะหงุดหงิด แล้วเดี๋ยวข้าก็จะโดนพาลใส่ตอนนางสอนหนังสือให้อีกน่ะเจ้าค่ะ”
คำตอบของนางทำเอา เฉินอี้หัวเราะเบา ๆ ก่อน