สายลมอุ่นของปลายฤดูใบไม้ผลิยังคงพัดเอื่อยเหนือลานหน้าโรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋น กลีบดอกไม้ยังร่วงหล่นประปราย เฉินอี้เพิ่งจัดเสื้อคลุมของตนกลับเข้าที่ อู๋เป่ยเดินเข้ามาใกล้บ่าวหนุ่ม ในมือของเขาถือซองผ้ากำมะหยี่สีเทาปักลายดาบไขว้สีเงินที่ด้านหน้า
“เฉินอี้” อู๋เป่ยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มแน่น “ข้ามาที่นี่ นอกจากจะมาสังเกตการณ์และชี้ขาดการประลองแล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ตั้งใจนำมาให้เจ้าโดยเฉพาะ”
“หรือว่า...” เฉินอี้พยายามถามกลับ พร้อมเลิกคิ้วเล็กน้อย
อู๋เป่ยไม่ตอบทันที แต่คลี่ซองผ้าออก เผยให้เห็นตราทองคำรูปดาบคู่ไขว้บนโล่หกเหลี่ยมซึ่งประทับตราสำนักคุ้มภัยเอาไว้ ชิ้นส่วนโลหะนั้นไม่ใหญ่นัก แต่วาววามและหนักแน่นจนสัมผัสได้ถึงอำนาจในสัญลักษณ์
“นี่คือตราสัญลักษณ์พันธมิตรกิตติมศักดิ์แห่ง สำนักคุ้มภัยเทียนอวิ๋น” อู๋เป่ยกล่าวพลางส่งมันให้กับบ่าวหนุ่ม เขาวางตราลงในฝ่ามือของเฉินอี้อย่างช้า ๆ
“มิใช่ทุกคนจะได้รับมัน มันเป็นสิ่งที่แสดงว่า เจ้าคือมิตรผู้สำนักเรายอมรับ ด้วยการกระทำ คุณธรรมน้ำมิตร ไม่ใช่ด้วยคำพูดหรือเงินทอง”
“จากนี้ หากเจ้าหรือคนในโรงเตี๊ยมของเจ้าเดือดร้อนประการใด ให้นำตรานี้ไปยังสำนักคุ้มภัยเท