~~ครืนนนนนนนน ครืนนนนนนนนน~~
ร่างสูงยังไม่ทันพูดจบเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังแทรกขึ้นมา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีที่เห็นชื่อลูกน้องคนสนิทของเขาแสดงอยู่บนหน้าจอ
“ว่าไง”
(คุณหนูอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้ครับ ตอนนี้ไม่ยอมให้เข้าใกล้เลยครับ) ภาคเอ่ยบอกกับปลายสายเสียงอ่อน ปกติแล้วคุณหนูของบ้านไม่เคยตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วร้องไห้งอแงแบบนี้มาก่อนเลย นี่ถ้าตาลไม่เดินขึ้นมาดูก็คงไม่มีใครรู้ว่าคุณหนูของพวกเธอกำลังร้องไห้อยู่เพียงลำพัง
“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
“เกิดอะไรขึ้นวะ?” เพิร์ชเอ่ยถามร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย
“ฮาญาร้องไห้ว่ะ”
“ตอนตี 1 เนี่ยนะ?” สกายพูดขึ้นอีกคนพร้อมกับคิ้วหนาของเขาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย
“เออสิวะ...วันนี้กูกลับก่อน” ฮันเตอร์เอ่ยบอกกับเพื่อนรักของเขาทั้งสองคนเสียงเรียบ
“กูไปด้วย...มึงก็รู้ว่ากูเป็นหมอและก็เป็นคุณลุงสุดที่รักของฮาญาด้วยยังไงหลานก็ฟังกู” เพิร์ชพูดขึ้น...
“ฮาญารักกูมากกว่ามึงครับ” สกายเอ่ยเถียงเพื่อนรักกลับไป...
“เออ...ไปด้วยกันให้หมดนี่แหละ” ฮันเตอร์เอ่ยบอกกับเพื่อนของเขากลับไปอย่างตักรำคาน ก่อนที่เขาจะเดินนำร่างสูงทั้งสองคนออกไปจากห้อง
อีกด้าน...
“เจ้พีชชี่คะ” ตะวันวิ่งออกมาหน้าตื่นก่อนจะเจอกับเจ้พีชชี่ยืนต้อนรับลูกค้าอยู่ไม่ไกล
“อ้าว! ตะวันมีอะไรรึป่าว ทำไมทำหน้าแบบนี้ล่ะ?” พีชชี่เอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกมาด้วยความสงสัย ก่อนจะดึงแขนเรียวของหญิงสาวให้ตามเธอเข้าไปภายในห้องแต่งตัวที่อยู่ไม่ไกล
“ขอโทษด้วยนะคะ แต่ตะวันทำงานนี้ต่อไม่ได้แล้วค่ะ”
“โดนลูกค้าลวนลามใช่ไหม?”
“ชะ ใช่ค่ะ ตะวันไม่...”
“ไม่เป็นไรเจ้เข้าใจ...รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าซะแล้วรีบออกไปทางประตูหลัง เจ้จะช่วยถ่วงเวลาไว้ให้ก่อน...”
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยหนู”
“ไม่เป็นลูก...รีบไป” พีชชี่เอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง เดิมที่เธอไม่ได้มีเจตนาจะให้ตะวันทำงานนี้อยู่แล้ว แต่เบื้องบนสั่งลงมาเพราะลูกค้าระดับ VVip ของวันนี้ชอบเด็กสาวอย่างตะวัน ตอนนี้เธอทำได้เพียงแค่ภาวนาให้ตะวันหนีรอดออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย
ตะวันทำตามที่พีชชี่บอกอย่างว่าง่าย เธอใช้เวลาเปลี่ยนชุดไม่นานก่อนจะรีบวิ่งออกไปยังประตูหนีไฟที่เชื่อมกับประตูทางออกด้านหลังของผับแห่งนี้ทันที
เธอยังคงตกใจไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุครบ 20 ปีเธอไม่เคยเจอใครที่น่ากลัวและก็บ้ากามเท่ากับผู้ชายคนนั้นมาก่อนเลย
“หมดกันทำงานไปตั้งหลายชั่วโมงเงินก็ไม่ได้สักบาท” ตะวันบ่นพึงพำออกมาก่อนที่เธอจะเดินออกมาขึ้นรถที่หน้าปากซอย ไม่ใช่ว่าหน้าผับไม่มีรถหรอกนะแต่ถ้าขึ้นตรงนั้นจะแพงกว่ามาก สำหรับตะวันแล้วเธอยอมเสียเวลาเดินออกมาไม่ไกลแต่ได้ราคาที่ดีกว่ามากสำหรับเธอถือว่าคุ้มค่าแล้ว
“ไม่เอาๆ คิดซะว่าโชคดีแล้วที่ไม่เสียอะไรไปมากกว่าจูบแรก ฮืออออ จูบแรกของฉัน...” ตะวันทำได้แค่เดินไปแล้วก็บ่นไป พร้อมกับทอดถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันนี้แล้วก็ไม่รู้
บรื้นนนนนนน~~
บรื้นนนนนนน~~
บรื้นนนนนนน~~
“...” ตะวันหันกลับไปมองตามเสียงของรถที่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ก่อนที่หญิงสาวจะตกตะลึงให้กับความงามของรถไฮเปอร์คาร์ทั้ง 3 คันที่กำลังขับผ่านเธอออกไป
“คงไม่ใช่รถของพวกนั้นใช่ไหมนะ...แต่ก็ช่างเถอะแค่คิดก็ขนลุกแล้วอะ” ตะวันพูดขึ้นก่อนที่เธอจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกไปขึ้นรถทันที...
-คฤหาสน์ของฮันเตอร์-
“ฮืออออออ!!”
“โธ่ลูก!” สกายร้องออกมาเบาๆ ทันทีที่เขาได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหลานสาวดังออกมาจากด้านในห้อง ก่อนที่เขาจะเดินตามฮันเตอร์และเพิร์ชเข้าไปหาหลานสาว
“ออกไปก่อน” ฮันเตอร์เอ่ยบอกกับคนงานในบ้านเสียงเรียบ ในขณะที่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ร่างเล็กที่นอนมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ฮาญา” ฮันเตอร์นั่งลงบนเตียงของลูกสาวก่อนที่เขาจะเอ่ยเรียกเด็กหญิงตรงหน้าออกไปเสียงอ่อน
“...” มือน้อยๆ ของฮาญาค่อยๆ ดึงผ้าห่มที่ปิดหน้าของเธอลง ก่อนที่ร่างเล็กจะค่อยๆ คลานเข้ามานั่งลงบนตักแกร่งของคุณพ่อของเธอ เด็กหญิงจะกอดคุณพ่อของเธอเอาไว้แน่น พร้อมกับซุกใบหน้าที่เต็มใบด้วยคราบน้ำตาของเธอลงกับอกแกร่งของร่างสูงอย่างออดอ้อน
“พ่ออยู่นี่ลูกรัก” ฮันเตอร์เองก็กอดตอบลูกสาวของเขาเอาไว้แน่น พร้อมกับมือหนาลูบหัวของเด็กหญิงตรงหน้าเบาๆ อย่างทะนุถนอม ก่อนจะเอ่ยบอกกับลูกสาวเสียงอ่อน
เขาประคบประหงมฮาญามาตั้งแต่วันแรกที่เธอลืมตาขึ้นมาดูโลก กอดแรกที่ควรจะมอบความอบอุ่นให้กับเธอเป็นเขา แทนที่จะเป็นพ่อกับแม่ผู้ให้กำเนิด
ฮันเตอร์เป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดาๆ ที่ทำงานอย่างหนักและรักสนุกไปวันๆ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะต้องกลายมาเป็นพ่อคนในชั่วข้ามคืน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามทำหน้าที่ ‘คุณพ่อ’ ให้กับฮาญาอย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ และต่อให้เขาจะมั่นใจว่าเขาเลี้ยงดูและให้ทุกอย่างที่ลูกควรจะมีได้ทั้งหมด ลึกๆ แล้วเขาก็รู้สึกว่าลูกสาวของเขายังคงขาดความรักและความอบอุ่นจากแม่อยู่ดี...
“ฮาญาครับ” เพิร์ชเอ่ยเรียกหลานสาวเสียงอ่อน พร้อมกับมือหนาของเขาลูบลงที่หัวน้อยๆ ของหลานสาวอย่างทะนุถนอม
“หลานรักของลุงเป็นอะไรครับ เล่าให้พวกลุงฟังได้ไหมเอ่ย?” สกายโน้มตัวลงมาใกล้ๆ หลานสาวพร้อมกับเอ่ยถามออกมาเสียงเล็กเสียงน้อย
“...” ฮาญาเงยหน้าขึ้นมามองลุงๆ ทั้งสองของเธอ ก่อนที่มือน้อยๆ จะยกขึ้นมาไหว้พวกเขาอย่างนอบน้อม
ฮันเตอร์ยกยิ้มออกมาให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของลูกสาว ถึงเธอจะยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนตักแกร่งของเขา แต่ก็ไม่ลืมที่จะทักทายคนอื่นอย่างมีมารยาทตามที่เขาเคยสอนเธอ
“อยากเล่าไหมคนดี ฮาญาก็รู้ว่าพวกลุงรักหนูไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรมาหนูสามารถเล่าให้พวกเราฟังได้ทุกเรื่องเลยนะครับ”
“เพื่อนบอกว่าฮาญาโกหก ฮาญาไม่มีแม่ ไม่มีใครอยากเล่นกับฮาญาเลยค่ะคุณลุง”
“ไอ้พวกเด็กวะ...”
“ไอ้สกายหลานอยู่พูดจาดีๆ” เพิร์ชรีบเอามืออุดปากเพื่อนรักทันที ก่อนที่จะเขาจะเอ็ดร่างสูงตรงหน้าเสียงเรียบ
“ลืมตัว” สกายผลักมือหนาของเพิร์ชออก ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับเด็กหญิงตรงหน้า...
“เพื่อนบอกว่าฮาญาโกหก...ทำไมพวกเขาถึงต้องพูดแบบนั้นล่ะครับ” ฮันเตอร์ที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยถามลูกสาวตัวน้อยในอ้อมแขนออกไปด้วยความสงสัย
“คุณพ่อคะฮาญาอยากตามหาคุณแม่ค่ะ พาคุณแม่มาอยู่กับฮาญาได้ไหมคะ” ฮาญาเงยหน้าขึ้นไปมองร่างสูงก่อนที่เธอจะเอ่ยถามเขาออกมาเสียงอ่อน
“แม่?” เพิร์ชเอ่ยออกมาอย่างตกใจ...
“ตามหา?” สกายเองก็มีท่าทีไม่ต่างจากเพิร์ชเท่าไหร่นัก...
“พี่สาวเจ้าของคุกกี้เหรอครับ?” ฮันเตอร์เอ่ยถามฮาญาออกมาอีกครั้ง พร้อมกับมองไปที่เด็กหญิงตรงหน้าอย่างรอคำตอบ
“...” ฮาญาพยักหน้าเบาๆ เพื่อเป็นคำตอบให้กับคุณพ่อของเธอ ชายหนุ่มทั้งสามมองหน้ากันนิ่งๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจเด็กน้อยตรงหน้าของพวกเขาต่อ
“ทำไมพี่สาวถึงเป็นคุณแม่ของฮาญาล่ะครับ” เพิร์ชเอ่ยถามเด็กหญิงตรงหน้าออกมาเสียงอ่อน ก่อนที่เข้าจะลูบแก้มนุ่มนิ่มของเด็กหญิงตรงหน้าอย่างทะนุถนอม
“...” ฮาญาสายหัวเบาๆ พร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเองเอาไว้
“ถ้าฮาญาไม่ยอมบอก พวกลุงก็จะไม่สามารถหาพี่สาวที่หนูพูดถึงเจอนะครับ” สกายพูดขึ้นอีกคน พร้อมกับมองไปที่หลานสาวตรงหน้าอย่างต้องการรอฟังว่าเธอจะพูดอะไรออกมา
“ฮาญาบอกไม่ได้ค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ...ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ฮาญานอนก่อนนะครับดึกมากแล้ว” ฮันเตอร์เอ่ยบอกกับลูกสาวเสียงอ่อน
“ค่ะคุณพ่อ”
หลังจากที่มั่นใจว่าฮาญาหลับไปเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็พากันไปยังห้องทำงานของฮันเตอร์ที่อยู่ไม่ไกลจากห้องนอนของหลานสาวมากนัก
“ทีนี้จะเอาอย่างไงต่อวะ?” สกายเอ่ยถามขึ้น…
“ให้กูเดาสถานการณ์ไหม?” เพิร์ชมองไปที่เพื่อนรักของเขาทั้งสองคนก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
“กูรอฟังอยู่” ฮันเตอร์พูดขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปที่เพื่อนรักตรงหน้าอย่างรอฟังคำตอบ
“กูว่าหลานถูกเพื่อนบูลลี่เรื่องแม่มานานแล้ว แต่ไม่ยอมบอกกับพวกเรา ฮาญาซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายใต้รอยยิ้มหวานๆ ของเธอ”
“.../...”
“ฮาญายังเด็กไอ้ฮันเตอร์เธอไม่ได้เข้าใจอะไรมากนักเหรอ” เพิร์ชเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเพื่อนรักก่อนจะเอ่ยบอกกับชายตรงหน้าตามสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่
“พวกเด็กเวร” สกายพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองแทนหลานสาวของเขา
“เด็กน่ะมึง...อยากที่พวกเรารู้ฮาญาไม่ใช่เด็กที่เข้ากับคนอื่นง่ายๆ การที่ผู้หญิงคนนั้นเขามาในโลกของฮาญาได้...”
“แสดงว่าเธอต้องมีอะไรที่พิเศษและมันต้องมากพอที่ฮาญาจะลืมผู้หญิงคนนั้นไม่ลง” ฮันเตอร์เอ่ยสมทบขึ้นอีกคนพร้อมกับมองไปที่ภาพถ่ายของน้องสาวของเขาที่ตั้งอยู่ไม่ไกลด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“กูคิดว่าเราควรพาหลานไปพบจิตแพทย์เด็ก”
“กูเห็นด้วย” สกายเอ่ยสมทบเพิร์ชขึ้นอีกคน...
“แล้วถ้ากูหาผู้หญิงคนนั้นเจอล่ะวะ”
“ตอบยากว่ะ เพราะถึงยังไงผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนอื่น ถึงเธอจะมีผลต่อฮาญาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะฟื้นฟูจิตใจของฮาญาที่บอบช้ำได้ มันต้องดูกันยาวๆ ว่ะ” เพิร์ชตอบคำถามของร่างสูงตรงหน้ากลับไปเสียงเรียบ
“ถ้าไม่อยากให้ยากมึงก็จับทำเมียซะเลย”
“ไอ้เวร / มึงนี่มัน...” ฮันเตอร์และเพิร์ชหันไปมองสกายเป็นตาเดียวก่อนจะส่ายเบาๆ อย่างเอือมอากับนิสัยของเพื่อนรักของพวกเขา