ฟ่านรั่วเจี๋ยเพิ่งเข้าใจว่าการรับเลี้ยงมู่ชิงซานเป็นความคิดที่ผิดมหันต์และตอนนี้นางยังหาเรื่องใส่ตัวด้วยการพาเขาเข้าวังเพื่อไปยังตำหนักของเยี่ยฉี ซึ่งการชมสวนดอกไม้และอ่านกลอนนับว่าเหลวไหลที่สุด
“เจ้าควรรออยู่ที่ศาลารับรองด้านนอกนี้”
มู่ชิงซานส่ายหน้าหวือ ดวงตาคมๆ คล้ายมีลูกไฟน้อยๆ อยู่ข้างในริมฝีปากบางสีสดเบ้เบะอย่างขัดใจ
“เจ้าเป็นผู้ชาย จะร้องไห้ทำไมเป็ดน้อย”
“เปล่า ข้าแค่โมโห มารดา ท่านต้องให้ข้าเข้าไปด้วย”
“หึๆ ในฐานะอันใด องครักษ์ประจำตัวข้า หรือว่านางเล็กๆ ดี” เมื่อคิดได้ดังนั้น ฟ่านรั่วเจี๋ยก็เหมือนพบทางสว่าง นางหันไปมองรอบๆ ตัวได้เห็นพวกขันทีซึ่งเดินไปมาเข้าพอดี คนเหล่านั้นล้วนมาจากตำหนักขององค์หญิงเล็กเจียวหมิง
“ได้ มารดาจะพาเข้าตำหนักองค์หญิงใหญ่ แต่เรื่องนี้เจ้าอย่าได้ถือสาในภายหลัง เพราะเจ้าเป็นคนดิ้นรนอยากตามก้นข้าไปเอง”
ถึงฟ่านรั่วเจี๋ยจะอยู่ตำหนักเย็นอย่างโดดเดี่ยวมานาน แต่การที่นางมักหาของฝากไปให้เหล่านางรับใช้ขององค์หญิงเล็กเจียวหมิงกับเหล่าขันทีก็ช่วยให้นางมีหูตากว้างขวางเป็นที่ชื่นชอบของคนในวังมิน้อย ทั้งหมดจึงลบความอัปลักษณ์ของนางไปได้
และหลังจากส่งจดหมายให้ขันทีผู