ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะถอนหายใจ “เจ้าเหมาะที่จะหาสตรีที่ชอบกระบี่มากกว่า”
“พวกเจ้าคงจะเข้ากันได้ดี”
“แต่ข้ามิใช่คนผู้นั้น”
เฉินชีคุ้นเคยกับการปฏิเสธของลั่วชิงยวนแล้ว เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “อาเหลาเข้าใจว่าข้าชอบอะไร พวกเราก็เข้ากันได้ดี”
“เช่นนั้นเจ้าเข้าใจข้าหรือไม่เล่า?” ลั่วชิงยวนนั่งอยู่บนม้านั่งเตี้ย พลางหมุนไก่ป่าที่กำลังย่างอยู่บนกองไฟ
เฉินชีหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ สายตาลึกล้ำของเขาจับจ้องที่แผ่นหลังของลั่วชิงยวน “ย่อมเข้าใจ”
“ข้าคือผู้ที่เข้าใจอาเหลาที่สุดในใต้หล้านี้”
เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าวันนี้นางไปที่ภูเขาฝั่งตรงข้ามหน้าผา
ไปพบสหายจากแคว้นเทียนเชวีย
เพราะรอยยิ้มที่เปี่ยมล้นบนใบหน้าของนางเมื่อกลับมาในวันนี้ มิเคยปรากฏมาก่อนตลอดเวลาที่อยู่ในแคว้นหลี
เป็นความสุขและความพึงพอใจที่มาจากใจจริง
ทั้งหมดล้วนเผยออกมาจากในแววตาและคิ้ว
ลั่วชิงยวนมิได้เอ่ยคำใด เพียงแค่ย่างไก่พลางรับลมราตรีและฟังเสียงเฉินชีตีเหล็กเป็นจังหวะ
เมื่อย่างเสร็จแล้ว ลั่วชิงยวนก็ยื่นเนื้อไก่ให้เฉินชี
แล้วกล่าวว่า “หากครึ่งเดือนเป็นเวลาที่กระชั้นชิดเกินไปสำหรับเจ้า ข้าก็สามารถเลื่อนออกไปอีกสองสามวันได้”