“จะมาเกรงใจอะไรข้าเล่า!”
เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างมิเห็นด้วย “ข้าบาดเจ็บ เจ้าก็ดูแลข้าเช่นกันมิใช่หรือ? ข้าแค่กลัวว่าข้าจะซุ่มซ่ามแล้วดูแลเจ้าได้มิดี!”
“ดีมากแล้วเพคะ!”
หลิงอวี๋ยิ้มแล้วดึงเขาไว้ “ขึ้นมานอนเถิดเพคะ! ฟ้ายังมิสางเลย!”
“มิต้องหรอก ข้านั่งตรงนี้ก็ได้!”
เซียวหลินเทียนกังวลว่าเขาจะเบียดนาง
หลิงอวี๋ค่อย ๆ ขยับเข้าไปข้างในแล้วตบเตียงตรงที่ว่าง
“ขึ้นมาเถิดเพคะ… หม่อมฉันได้รับบาดเจ็บ มิสามารถดูแลท่านได้! หากท่านล้มป่วยไป หม่อมฉันอุ้มท่านมิไหวหรอกเพคะ!”
เซียวหลินเทียนจึงทำได้เพียงถอดรองเท้าแล้วนอนลงข้าง ๆ นางอย่างระมัดระวัง
ทั้งยังยกมือข้างหนึ่งไปช่วยห่มผ้าห่มให้หลิงอวี๋อย่างอ่อนโยนด้วย
“ทำให้เจ้าเป็นห่วงแล้ว!”
หลิงอวี๋นอนหลับมากแล้วจึงมิง่วง และกระซิบ “หม่อมฉันได้ยินหว่านเอ๋อร์บอกว่า เสด็จพ่อทรงนำโอสถบำรุงโลหิตอันล้ำค่ามาช่วยชีวิตหม่อมฉันไว้! วันหลังหม่อมฉันจะเตรียมโอสถบำรุงโลหิตให้เสด็จพ่อสักหน่อย ท่านก็เก็บไว้บ้างบางส่วน เผื่อไว้ในยามจำเป็น!”
“อืม! ข้าลืมไปว่าเสด็จพ่อยังมีโอสถบำรุงโลหิตอยู่ ครั้งนี้ที่พระองค์พระทัยกว้างถึงเพียงนี้ข้าเองก็คิดมิถึงเช่นกัน! วันหลังข้าต้อ