อัจฉริยะทางการแพทย์ยุคปัจจุบันเดินทางข้ามผ่านเวลากลายมาเป็นพระชายาอ๋องผู้ถูกทอดทิ้ง แม้แต่ลูกชายของตนยังถูกเรียกว่าลูกนอกสมรส! จ้าวสงครามที่สองขาพิการรังเกียจนางเยี่ยงมด แม้แต่การอยู่การกินของนางก็แสนระกำลำบาก! ดีที่นางมีมืออันวิเศษของหมออัจฉริยะ และพรแห่งห้วงเวลาอยู่ ถูกคนรับใช้ดูหมิ่น ก็ทำให้ตาบอดเสียเลย! พวกนางรับใช้ แม่นมรังแก ก็ตัดเส้นเอ็นข้อมือเสียให้! สามีขี้เผด็จการ ก็แขวนเขาไว้บนต้นไม้ซะสิ! หลิงอวี๋ถลกแขนเสื้อขึ้น ทำเสียจนตำหนักอ๋องอี้วุ่นวาย! อาศัยมือวิเศษคู่นั้นที่ช่วยชีวิตท่านเสนาบดี ช่วยชีวิตไทเฮา... ! ชนะใจชายหนุ่มผู้มากยศมั่งคั่งทั้งหลาย ในที่สุด นางก็ถูกสามีจ้าวสงครามต้อนจนมุมเสียได้ “ขโมยทั้งร่างกายทั้งหัวใจข้า ยังคิดที่จะหนีไปให้ไร้ร่องรอยอีกรึ?”
View Moreท่านผู้เฒ่าเย่ก็เข้าใจคำพูดของเซียวหลินเทียนเช่นกัน เขามิรู้สึกตื่นเต้นแม้แต่น้อย กลับกัน ในใจนั้นพลุ่งพล่านไปด้วยความรู้สึกสิ้นหวังอย่างสุดซึ้ง“เมื่อครั้งอดีต ตระกูลใหญ่ของเราต่างร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้กับฝูไห่อย่างมิคิดชีวิต แต่หลายร้อยปีให้หลัง พวกเรากลับต้องมาเข่นฆ่ากันเองเพื่อมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เพียงชิ้นเดียว!”“นี่คือความก้าวหน้า หรือว่าความถดถอยกันแน่?”“ฝูไห่ยังมิถูกปล่อยออกมา พวกเราก็กลับมาสู้รบกันเองเช่นนี้แล้ว หากเขาออกมาเห็นภาพนี้เข้า จะมิหัวเราะเยาะพวกเราเหล่าตระกูลใหญ่หรอกหรือว่า ที่ทำไปทั้งหมดนั้นสูญเปล่า?”“พี่ใหญ่ของข้าเคยบอกว่า มหันตภัยแห่งแดนเทพนั้นน่ากลัวยิ่งนัก แต่ข้ากลับรู้สึกว่า การสู้รบกันเองภายในพวกเราต่างหากคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด!”กำเนิดจากรากเหง้าเดียวกัน เหตุใดต้องเผาผลาญกันอย่างเร่งร้อนถึงเพียงนี้!มิว่าตระกูลเหล่านี้จะสกุลเย่ สกุลจงเจิ้ง หรือสกุลเฉียว ล้วนเป็นราษฎรของแดนเทพ เป็นชีวิตคนที่มีเลือดเนื้อทั้งสิ้น!ท่านผู้เฒ่าเย่ร่ำไห้น้ำตานองหน้า ทุบหน้าอกทึ้งผมด้วยความเจ็บปวดใจ “หากบรรพบุรุษของตระกูลใหญ่ทั้งหลายยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ จะมิ
เมื่อหลงเพ่ยเพ่ย ท่านผู้เฒ่าเย่และคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดของเซียวหลินเทียน ทุกคนต่างตกตะลึงไปตามกันหากฝูไห่ถูกช่วยออกมาได้ นั่นก็คือมหันตภัยครั้งใหญ่หลวง!มหันตภัยครั้งนี้น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าการที่หลงหมิงได้เป็นจักรพรรดิเสียอีก หรือว่าแดนเทพจะต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของตงกู่อวี้และฝูไห่อย่างสมบูรณ์แล้วกระนั้นหรือ?“หลงหมิง เจ้าคนสารเลวนั่น เขามิรู้หรือไรว่าหากปล่อยตัวฝูไห่ออกมาแล้วผลที่จะตามมาจะเป็นอย่างไร?”เย่ซื่อเจียงโกรธจนสบถออกมาในอดีต บรรพบุรุษของหลงอี้และหวงฝู่หลินต่างร่วมกันทุ่มเทความพยายามอย่างสุดความสามารถกว่าจะสามารถผนึกจอมมารตนนั้นไว้ใต้ภูเขาหิมะได้ ชัยชนะในสงครามครั้งนั้นได้มาอย่างยากลำบากยิ่ง มีผู้คนล้มตายนับมิถ้วนบรรพบุรุษของตระกูลเย่เองก็เสียชีวิตในสนามรบครั้งนั้นเช่นกันบัลลังก์ของตระกูลหลงนั้นตั้งมั่นอยู่ได้ก็เพราะกองกระดูกจำนวนมหาศาลเหล่านี้!ในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลหลง หลงหมิงมิคิดที่จะนำพาทุกคนร่วมสร้างความรุ่งเรือง แต่กลับมุ่งมั่นศึกษาเพียงวิธีที่จะสังหารธิดาของตนเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีมาครอบครอง และเพื่อให้ตนมีชีวิตเป็นอมตะคนเห็นแก่ตัวเช่นนี้จะมีคุณสม
เผยอวี้เห็นทุกคนล้วนมีน้ำใจ มิได้หนีทัพเอาตัวรอด ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเขาตบอกตัวเองแล้วกล่าวว่า “ฉินซานพูดถูก พี่หญิงหลิงหลิงคือพี่สะใภ้ของพวกเรา ส่วนข้ากับนางยิ่งมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นไปอีก!”“หากข้าหนีเอาตัวรอดไปในตอนนี้ หลิงหว่านคงไม่มีวันให้อภัยข้าไปชั่วชีวิต!”“พวกท่านทุกคนช่วยเป็นพยานให้ข้าด้วย ข้าจะต้องช่วยหลิงอวี๋ออกมาให้ได้ เมื่อถึงเวลาที่เรากลับไปยังฉินตะวันตก พวกท่านต้องช่วยพูดส่งเสริมข้า ให้หลิงหว่านยอมแต่งงานกับข้าให้ได้”เซียวหลินเทียนรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ คนเหล่านี้ล้วนเป็นสหายแท้ของเขาทั้งสิ้น!ตนจะต้องจดจำสหายเหล่านี้ไว้ หากมีโอกาสในภายภาคหน้า ตนจะต้องตอบแทนพวกเขาอย่างแน่นอน“ขอบคุณพวกเจ้ามาก!”เซียวหลินเทียนประสานมือคารวะทุกคนพลางกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ขอเพียงพวกเราร่วมแรงร่วมใจกัน ก็ไม่มีอุปสรรคใดที่พวกเราจะข้ามผ่านไปมิได้!”“วันพรุ่ง พวกเราทุกคนมาพยายามให้ถึงที่สุดกันเถิด!”เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปตามแผนที่วางไว้ ซุ่มอยู่ตามเส้นทางสำคัญหลายสายเพื่อรอคอยการมาถึงของพวกหลงหมิงขณะที่เซียวหลินเทียนและเผยอวี้กำลังรอคอยอย่างอดทน สายลั
เซียวหลินเทียนเองยังไร้ซึ่งความมั่นใจว่าจะเอาชนะหลงหมิงได้ เขาจึงมิอาจตอบคำถามของเจ้าแห่งทิศใต้ได้เซียวหลินเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้น “ท่านอ๋อง หากพวกท่านช่วยฮองเฮาออกมาได้สำเร็จ ก็พาพระนางออกจากเมืองหลวงแดนเทพไปก่อนเถิด!”“ไปรออยู่ที่ท่าเรือ หากพวกเราเอาชนะหลงหมิงได้ พวกท่านค่อยกลับมา!”“แต่หากพวกเราพ่ายแพ้ พวกท่านก็จงจากไปเสีย!”นี่คือเส้นทางที่มิอาจคาดเดาอนาคตได้ เซียวหลินเทียนทำได้เพียงจัดเตรียมเส้นทางถอยไว้ให้พวกเขาเสียก่อนชั่วขณะนั้น เจ้าแห่งทิศใต้เองก็ยังคิดหาวิธีอื่นที่สมบูรณ์พร้อมกว่านี้มิได้ จึงจำต้องยอมรับการจัดการของเซียวหลินเทียนในคืนนั้น เจ้าแห่งทิศใต้ได้ให้องครักษ์ของตนนำชายาเจ้าแห่งทิศใต้และเหล่าสตรีในจวนไปยังท่าเรือล่วงหน้าชายาเจ้าแห่งทิศใต้มิได้เอ่ยคำพูดที่บั่นทอนกำลังใจใด ๆ ออกมา ในเมื่อเลือกเส้นทางนี้แล้วก็ทำได้เพียงก้าวเดินต่อไปอย่างเด็ดเดี่ยวนางมองไปยังหลงเพ่ยเพ่ยแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางเบา “เพ่ยเพ่ย ดูแลตัวเองให้ดี!”“รอจนกว่าเมฆหมอกมืดมนจะพัดผ่านไป วันนั้นครอบครัวเราจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง!”หลงเพ่ยเพ่ยโผเข้ากอดมารดา นับจากวิน
หลังจากได้ฟังอูจาบอกเล่าเกี่ยวกับสภาพตำแหน่งที่ตั้งของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เซียวหลินเทียนก็ล้มเลิกความคิดที่จะบุกโจมตียอดเขาหินคู่จากทางด้านหลังป่าทึบเช่นนั้นหากหลงเข้าไปข้างในก็อาจจะหาทางออกมามิได้จนกระทั่งสิ้นใจ แล้วจะไปพูดถึงการช่วยหลิงอวี๋ได้อย่างไร!“ในเมื่อบุกเข้ายอดเขาหินคู่มิได้ เช่นนั้นเราก็ชิงตัวคนกลางทาง สกัดกั้นหลงหมิงไว้ระหว่างการเดินทาง!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวต่อให้หลงหมิงจะมีวรยุทธ์สูงส่งเพียงใด แต่สองหมัดย่อมยากจะต้านทานสี่มือ เซียวหลินเทียนมิเชื่อเด็ดขาดว่า ภายใต้การวางแผนอย่างรอบคอบของตน หลงหมิงจะสามารถพาตัวหลิงอวี๋ไปจากเงื้อมมือของเขาได้อย่างราบรื่นขันทีโม่ได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายผู้เป็นศิษย์พี่ของเขาแล้วเซียวหลินเทียนมิรู้ว่าขันทีโม่จะเกลี้ยกล่อมแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้สำเร็จหรือไม่ เขาทำได้เพียงระดมคนจากตำหนักปีกเงินทั้งหมดมาเตรียมพร้อมสู้ตายกับหลงหมิงการปะทะกันซึ่งหน้าเช่นนี้ มีเพียงผลลัพธ์สองทางคือ หากมิเสียหายหนักทั้งสองฝ่ายก็เป็นฝ่ายหนึ่งที่พ่ายแพ้ย่อยยับไปเลยเซียวหลินเทียนเคยประจักษ์ถึงความน่าสะพรึงกลัวของหลงหมิงมาแล้ว ในใจ
ค่ำคืนนั้น เย่ซื่อเจียงและท่านผู้เฒ่าเย่ได้นำคนของตระกูลเย่เร่งรุดมาถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน พวกเขามาเพื่อสมทบกับเย่ซงเฉิงทว่า เมื่อสอบถามเซียวหลินเทียน พวกของเซียวหลินเทียนกลับไม่มีใครได้พบเย่ซงเฉิงเลยเย่ซื่อเจียงเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย “ท่านปู่บอกว่าหลงหมิงจะต้องพาหลิงอวี๋มาที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำพิธีหลอมโลหิตสลายกระดูกอย่างแน่นอน ท่านจึงเดินทางล่วงหน้ามาเพื่อเตรียมการช่วยหลิงอวี๋ แล้วเหตุใดจึงมิพบพวกท่านเล่า?”“หรือว่าท่านปู่จะประสบเหตุร้ายเข้า?”เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นท่านผู้เฒ่าเย่ ก็มิสนใจเรื่องของเย่ซงเฉิงอีกต่อไป เขารีบร้อนถามขึ้นว่า “ท่านผู้เฒ่า ก่อนหน้านี้เคยกล่าวไว้ว่าที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์มีสมุนไพรที่ใช้ในพิธีหลอมโลหิตสลายกระดูกของอาอวี๋ได้ แท้จริงแล้วคือสมุนไพรอันใด และอยู่ที่ใดหรือขอรับ?”ภูเขาศักดิ์สิทธิ์มียอดเขาถึงสิบแปดลูก ด้วยกำลังคนที่มีอยู่อย่างจำกัด พวกเขาคงมิสามารถไปซุ่มโจมตีได้ทุกที่หากทราบแน่ชัดว่าสมุนไพรนั้นอยู่ที่ยอดเขาใด พวกเขาก็จะสามารถกำหนดจุดซุ่มโจมตีที่ชัดเจนได้ท่านผู้เฒ่าเย่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ก่อนหน้านี้ข้ากับพี่ใหญ่เคยหารือกันแล้ว คว
Comments