“ผางเซิง เหตุใดเจ้ามิโต้แย้งเล่า?”
ฮองเฮาเว่ยอดมิได้ที่จะเอ่ยถาม
ราชองครักษ์ผางยังคงมิพูดอะไร
ฮองเฮาเว่ยตะคอกด้วยความโกรธ “หรือว่าข้าพูดถูก เจ้าจึงมิสามารถโต้แย้งได้ก็เลยมิพูดอะไรกระนั้นรึ?”
จักรพรรดิอู่อันคิดถึงเมื่อครู่ที่กล่าวหาผางเซิงอย่างมิยุติธรรม ในใจรู้สึกผิดเล็กน้อย จึงเอ่ยเรียบ ๆ “ผางเซิง ข้าอนุญาตให้เจ้าโต้แย้งให้ตัวเอง เจ้ามีอะไรจะบอกก็บอกมา!”
ราชองครักษ์ผางหรี่ตาลง พลางเอ่ยเสียงต่ำ “ฝ่าบาทเคยได้ยินเรื่อง 'จือจือสงสัยเพื่อนบ้าน' หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? มีขวานของคนคนหนึ่งหล่นหายไป มิว่าเขาจะมองอย่างไรก็คิดว่าเพื่อนบ้านขโมยขวานของตนไป!”
“ในใจของฮองเฮาได้ตัดสินไปแล้วว่าผางเซิงเป็นคนผิด เช่นนั้นมิว่าผางเซิงจะอธิบายเยี่ยงไร ฮองเฮาก็ยังคิดว่าผางเซิงเถียงข้าง ๆ คู ๆ อยู่ดีพ่ะย่ะค่ะ!”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ผางเซิงจะมิพูดอะไร และขอโปรดฝ่าบาทจัดการลงโทษเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
จักรพรรดิอู่อันกับฮองเฮาเว่ยต่างพูดมิออกกับคำพูดของผางเซิง
จักรพรรดิอู่อันฟังความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของราชองครักษ์ผางออก
ผางเซิงได้บอกความลับที่เขามิสามารถบอกคนอื่นได้ออกมาแล้ว แต่ตนกับฮองเฮาเว่ยก็ยังคงสงสัยในตัวเข