“เถาจื่อ!”
หานเหมยโผเข้ากอดเถาจื่อแน่น ปล่อยโฮร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา
ยามนี้ นางหวนนึกถึงวันวานที่เคยใช้ชีวิตร่วมกับเถาจื่อและหานอวี้ ราวกับเป็นพี่น้องแท้ ๆ
ความผูกพันที่สั่งสมมาทีละน้อยนั้น มีหรือจะลบเลือนไปได้ง่าย ๆ?
เถาจื่อเองก็มิอยากทำร้ายหานอวี้ถึงตาย!
หลิงอวี๋เห็นทั้งสองคนก็พลอยน้ำตาไหลตามไปด้วย
เซียวหลินเทียนและฉินซานที่มองดูอยู่ห่าง ๆ เห็นภาพตรงหน้าแล้ว ก็มิรู้จะปลอบโยนสตรีทั้งสามอย่างไรดี
เนิ่นนานผ่านไป เถาจื่อเป็นฝ่ายหยุดร้องไห้ก่อน นางฝืนยิ้มกล่าวว่า “คุณหนู อย่าร้องไห้เลยเจ้าค่ะ!”
“เหตุใดจึงทำราวกับว่าบ่าวไปแล้วจะต้องตายเสียอย่างนั้น!”
“ฝ่าบาททรงรับสั่งเรื่องที่ให้บ่าวปฏิบัติอย่างชัดแจ้งแล้ว เพียงบ่าวระมัดระวังรอบคอบ ย่อมสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยแน่นอน!”
“คุณหนู ท่านหลักแหลมถึงเพียงนั้น บ่าวเชื่อว่าหากทำตามที่ท่านชี้แนะ ย่อมมิเป็นอันตรายแน่นอนเจ้าค่ะ!”
เซียวหลินเทียนจึงเดินเข้ามาประคองหลิงอวี๋ให้ลุกขึ้น
“เข้าไปด้านในกันก่อนเถิด! เรื่องนี้ยังต้องหารือกันอีกมาก ทั้งวิธีการใช้พิษของเจ้าด้วย อาอวี๋ ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ!”
วันที่หลิงอวี๋คิดแผนการนี้ขึ้นได้ เมื่อกล