Search
Library
Home / LGBTQ+ / รอยรักหวนคืน / ตอนที่ ๓ นิมิต ๒...คุณรู้จักผม?

ตอนที่ ๓ นิมิต ๒...คุณรู้จักผม?

Author: PinkPenguin
2024-11-21 18:17:59

ตลอด 1 อาทิตย์ที่เข้ามาทำงาน  พุดวิ่งไปวิ่งมาไม่หยุดทั้งวัน  เพราะถูกรับน้องด้วยการใช้ให้ทำงานยิบย่อยตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบแต่เขาก็ไม่บ่นเลยสักคำ หนำซ้ำยังตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายมาอย่างเต็มที่

ใกล้เวลาเลิกงาน...

“พุดจ๋า...ช่วยพี่หน่อยสิ”

“ครับพี่แพรว”

“พี่เหลืองานเอกสารอีกนิดหน่อย พุดช่วยตรวจแทนพี่หน่อยได้มั้ย พี่ต้องรีบไปรับลูกน่ะ”

“อ๋อ...ได้สิครับ” พุดไม่ปฏิเสธอีกเช่นเคย คนใจดีแบบเขาถ้าช่วยอะไรใครได้เขาไม่เคยปฏิเสธอยู่แล้ว

เวลาผ่านไปจนถึง 1 ทุ่มกว่า...

“เฮ้ออออ เสร็จสักที! กลับบ้านได้!!!”

“อ้าวน้องพุด งานเพิ่งเสร็จเหรอ?”

บดินทร์สังเกตพุดแบบห่าง ๆ มาเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์โดยไม่แสดงความอยากได้ออกนอกหน้า อย่างมากก็เล่นบทเจ้านายใจดีคอยให้คำปรึกษา ครั้งนี้สบโอกาส จึงวางแผนที่จะเข้าใกล้เหยื่อตัวน้อยของเขาอีกขั้น

“ครับพี่ดิน”

“งั้นให้พี่ไปส่งนะ”

“ไม่เป็นไรครับพี่ ผมเกรงใจ”

“เห... ไม่เอาน่า ห้ามปฏิเสธเจ้านาย”

“เอ่อ...ก็ได้ครับ”

พุดกล่าวตอบรับน้ำใจของเจ้านายใหม่ และคิดว่าคงไม่เป็นไร มีคนอาสาไปส่งก็ดี จะได้ไม่ต้องไปรอรถเมล์ให้เมื่อย

รถสปอร์ตคันหรูสีดำแล่นมาจอดหน้าบ้าน

“ขอบคุณมาก ๆ เลยนะครับ”

พุดกล่าวขอบคุณคนใจดีที่มาส่งและกำลังจะลงจากรถ

“พี่หิวน้ำจัง ขอเข้าไปกินน้ำสักหน่อยได้มั้ย”

บดินทร์เอ่ยขอออกมาด้วยใบหน้าที่เจือรอยยิ้ม พุดจะปฏิเสธได้อย่างไร ในเมื่อเขาคือเจ้านายและอุตส่าห์มีน้ำใจมาส่งถึงที่

ภายในบ้าน...

“น้ำครับ”

“ขอบคุณครับ เออ...น้องพุดอยู่คนเดียวเหรอครับ”

“ใช่ครับ”

“แล้ว...ไม่เหงาเหรอ ทำไมไม่อยู่กับแฟนล่ะ”

“เอ่อ...ผมไม่มีแฟนคลับ”

“เฮ้ยยย จริงดิ หน้าตาดีแบบน้องพุดเนี่ยนะไม่มีแฟน”

พุดได้แต่ยิ้มรับ รู้สึกไม่ค่อยอยากตอบคำถามเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ แต่ทำยังไงได้ ในเมื่อบดินทร์คือเจ้านาย แม้จะรู้สึกแปลก ๆ อยู่บ้าง

“อ๊ะ!”

จู่ ๆ บดินทร์ก็ขยับเข้ามาใกล้ พร้อมกับเอามือโอบเอวพุดพร้อมขยำแน่นแบบถือวิสาสะ

“พี่ดินจะทำอะไรครับ?!”

“พี่เหรอ? ไม่ได้จะทำอะไร แค่อยากสนิทกับเราให้มากขึ้นน่ะ”

“เอ่อ...ผมมีเอกสารที่ต้องรีบทำอีกเยอะเลยครับ ถ้าไง...”

“โอเค ๆ พี่ไม่กวนเราแล้ว เดี๋ยวพี่กลับเลยแล้วกัน”

บดินทร์เอ่ยขอตัวกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทำให้พุดคลายความอึดอัดลงมาก ๆ  เขาเดินมาส่งบดินทร์หน้าบ้านตามมารยาท

“ขับรถดี ๆ นะครับ”

“ครับ พรุ่งนี้เจอกันนะ”

หลังจากกล่าวคำลากันเสร็จพุดก็ปิดประตูเข้าบ้านไปโดยที่บดินทร์ยังไม่ทันสตาร์ทรถเลย

“หึ...เล่นตัวแบบนี้ ของชอบเลย...”

บดินทร์ยกยิ้มมุมปากพร้อมกับสตาร์ทรถออกไป เขาเริ่มวางแผนการต่อไปในใจแบบเงียบ ๆ

ภายในบ้าน...

“เราคิดมากเกินไปหรือเปล่าวะ...”

“คนผู้นั้นไว้ใจไม่ได้!!!”

“ฮึ!!!”

พุดตกใจกับเสียงแว่วเมื่อสักครู่ หันซ้ายหันขวามองไปรอบ ๆ แต่ทุกอย่างก็นิ่งสงบ มีแค่เสียงแอร์ที่ดังหึ่ง ๆ อยู่ท่ามกลางความเงียบ

“หูฝาดอีกแล้วเหรอ?”

พุดสะบัดหัวไล่ความคิดพร้อมกับขึ้นไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน ความจริงเรื่องเอกสารที่ต้องทำเป็นเพียงข้ออ้าง เขาทำเสร็จตั้งแต่อยู่ที่ออฟฟิศแล้ว

เสียงน้ำจากฝักบัวเปิดราดรดร่างกายเปลือยเปล่า เขาหลับตารับความอุ่นของสายน้ำ โชคดีที่บ้านหลังนี้มีเครื่องทำน้ำอุ่นพร้อมเสร็จสรรพโดยที่พุดไม่ต้องหามาติดใหม่ให้เปลืองเงิน ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน และหลาย ๆ เรื่องที่ประดังเข้ามาในหัวทำเขาหมดพลังไปเยอะในวันนี้ การยืนแช่ในน้ำอุ่นแบบนี้ก็ช่วยผ่อนคลายไปไม่น้อย 

“อบอุ่นจัง...”

พุดแปลกใจที่น้ำอุ่นนี้ไม่ได้ให้แค่ความอุ่นแก่ร่างกาย แต่กลับให้ความอบอุ่นไปถึงภายในจิตใจ แต่หากพุดรับรู้ได้สักนิด ว่าตอนนี้มีใครอีกคนกำลังยืนช้อนโอบกอดเขาอยู่จากทางด้านหลังก็คงจะไม่แปลกใจ

“เหนื่อยมากไหม...”

ร่างสูงใหญ่ยืนโอบกอดร่างกายเปลือยเปล่าของพุดพร้อมกับหอมแก้มเพื่อปลอบประโลมโดยที่พุดไม่รับรู้เลย

“คนผู้นั้นไว้ใจไม่ได้ พี่จะเตือนเจ้าอย่างไรดี หากเผยตัวบอกเจ้า จะกลัวพี่หรือไม่?”

เขาตนนั้นนึกคิดด้วยใบหน้าเศร้าหมองและเป็นกังวล

นาฬิกาบอกเวลา 4 ทุ่ม...

เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าพุดกำลังนอนหลับสนิท ร่างสูงใหญ่เดินทะลุจากผนังห้องมาหยุดยืนอยู่ตรงข้างเตียงนอน มือหนาค่อย ๆ เอื้อมไปสัมผัสเบา ๆ ที่หน้าผากของคนที่นอนหลับใหลไม่รู้สึกตัว

ในห้วงฝันของพุด เขากำลังยืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ ไม่สิ...ต้องเรียกว่าราชวังแล้วล่ะ เพราะมันใหญ่โตมาก มันไม่ใช่บ้านเช่าที่เขาฝันถึงเมื่อคืนวาน

“ฝันอีกแล้วเหรอเนี่ย...สถานที่เดิมเลย”

พุดมองซ้ายมองขวา แล้วปะทะเข้ากับชายหนุ่มร่างสูง จึงทำให้ได้รู้ว่าครั้งนี้เขาไม่ได้มาคนเดียว

“เฮ้ย!!! คุณ!!!”

“สวัสดี”

ใบหน้าคุ้นเคยเอ่ยสวัสดีพุดด้วยรอยยิ้มบาง ๆ

“เฮ้ย!!! คุณเห็นผม? คุณพูดกับผม?”

พุดตกใจกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปจากเดิม เมื่อวานคนในฝันไม่มีใครมองเห็นเขาเลยสักคน แต่ฝันวันนี้กลับมีคน ๆ นี้มายืนคุยกับเขา อีกทั้งยังให้ความรู้สึกเสมือนจริงมาก

“ตกใจหรือ? แล้วกลัวหรือไม่?”

“...”

พุดไม่ตอบคำถามแต่คิดในใจว่าถ้าตื่นจากฝันนี้คงต้องไปหาจิตแพทย์สักหน่อยแล้ว

“ไม่ต้องถึงขั้นไปหาหมอหรอกกระมัง...”

“เฮ้ย!!! ได้ยินความคิดผมด้วยเหรอ?”

“เจ้าพูดว่า เฮ้ย รอบที่เท่าไหร่แล้วได้นับหรือไม่?”

ร่างสูงเอ่ยพร้อมหัวเราะเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู

“สรุปว่านี่คือความฝันใช่มั้ย?”

“จะคิดเช่นนั้นก็ได้”

“เอ้าวะ!!! ฝันก็ฝัน ปล่อยจอยไปเลยแล้วกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ตื่นแล้ว”

พุดขี้เกียจคิดให้ปวดหัว ในเมื่อมันคือความฝันเดี๋ยวสักพักก็คงตื่นเอง

“คุณเป็น...ผีหรือคน?”

“ถ้าไม่ใช่คน...เจ้าจะกลัวพี่หรือไม่?”

“หึ...ไม่อะ ก็ความฝันนี่นา ถ้ามาหน้าหล่อ ๆ แบบนี้ ไม่มาแลบลิ้นปริ้นตาใส่ก็ไม่มีอะไรให้กลัว”

“หากไม่ใช่ในความฝัน...เจ้าจะยังกลัวพี่หรือไม่?”

“ถามเยอะจริง!!! ก็...ไม่รู้สิ...ค่อยว่ากัน ว่าแต่คุณรู้จักผม?”

“พี่รู้จักเจ้ายิ่งกว่าใคร”

“???...แล้ว...คุณชื่ออะไร?”

พุดเริ่มเพลิดเพลินกับความฝันและรู้สึกสนุกที่ได้คุยกับคนตรงหน้า

“ปกรณ์ณพัฒน์...หม่อมเจ้าปกรณ์ณพัฒน์ รัชนีพงษ์”

“โห...มีเชี้อเจ้านี่เอง มิน่าล่ะ ในฝันวันก่อนคนพวกนั้นถึงเรียกคุณว่าท่านชาย เอ่อ...ฝ่าบาท ผม...กระหม่อม ใช้คำราชาศัพท์ไม่เก่งนะ”

“เจ้าพูดกับพี่ตามสบายเถิด เรียกพี่แบบที่เจ้าเคยเรียก”

“แบบที่ผมเคยเรียก?”

“พี่ลืมไปว่าเจ้ายังจำพี่ไม่ได้...”

แววตาท่านชายหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้พุดรู้สึกหวิว ๆ ขึ้นมาในหัวใจชั่วขณะหนึ่ง

“เรา...เคยรู้จักกันเหรอ?”

“ยิ่งกว่าคำว่ารู้จัก”

“...”

“เพียงแต่ตอนนี้เจ้าไม่หลงเหลือความทรงจำเมื่อชาติก่อนแล้ว พี่ถึงได้พาเจ้าเข้าสู่นิมิตเพื่อระลึกอดีตชาติ นิมิตครั้งก่อนของเจ้าก็เช่นกัน”

“แต่ในฝันครั้งก่อนคุณไม่เห็นผม”

“ไม่ใช่ไม่เห็น...นั่นเป็นเพียงภาพนิมิตในอดีตที่พี่สร้างขึ้นมา แต่มิได้เข้ามาด้วยตัวเอง เลยพาไปผิดช่วงเวลานิดหน่อย ไม่เช่นนั้น ในวันนี้เจ้าอาจจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง”

“ภาพในอดีตเหรอ? คุณบอกว่าฝันของผมวันก่อนเป็นคุณที่พาผมเข้าไป?”

“เป็นเช่นนั้น และวันนี้พี่จะพาเจ้าไปในช่วงเวลาสำคัญที่จะไม่มีใครมาขัดจังหวะ...”

ท่านชายพูดพลางยิ้มมุมปาก พุดฟังแล้วรู้สึกเสียวสันหลังและงุนงงเล็กน้อย แต่ก็คิดว่าฝันนี้สนุกดี และอยากรู้ว่าความฝันวันนี้เขาจะได้เห็นอะไรบ้าง เพียงชั่วครู่ ใบหน้าพุดก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ เพราะนึกขึ้นได้ถึงฉากเด็ดในฝันเมื่อคืน เลยรีบพูดแก้เขิน

“อ่า...แล้วที่นี่ที่ไหน? เฮ้ยยย!!!”

พุดยังพูดไม่ทันจบ ท่านชายก็จับที่ข้อมือของพุดพร้อมกับเคลื่อนกายหายเข้าไปในโถงบ้านหลังใหญ่ราวกับราชวังตรงหน้า

“ที่นี่คือ?...”

“ที่นี่คือวังรัชนีพงษ์”

“วังรัชนีพงษ์?”

ภายในห้องโถงวังรัชนีพงษ์ ปรากฏภาพชายท่าทางใจดีวัยประมาณ 40 ปีกว่า ๆ แต่งกายด้วยชุดราชปะแตนสีน้ำเงินเข้ม สวมโจงกระเบนผ้าไหมสีทองนั่งบนโซฟาสไตล์ยุโรปขนาดใหญ่ เขากำลังอุ้มเด็กทารกหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่ง ข้าง ๆ กันมีเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักวัยประมาณ 6 ขวบ กำลังจ้องมองเด็กทารกคนนั้นด้วยแววตาตื่นเต้น

“ชายพัฒน์ เด็กคนนี้เป็นลูกของผู้มีพระคุณของพ่อ ต่อไปนี้ ชายพัฒน์ต้องรักและดูแลให้เหมือนกับน้องแท้ ๆ ของตัวเองนะ”

“ขอรับกระหม่อม”

หลังจากกล่าวรับคำ ท่านชายพัฒน์ตัวน้อยก็เอานิ้วไปจิ้มแก้มกลม ๆ สีชมพูของทารกหน้าตาจิ้มลิ้ม  ดวงตากลมโตเหมือนลูกลำไยดวงนี้ทำให้ท่านชายพัฒน์ตัวน้อยหลงในความน่ารักนี้ทันที

“เสด็จพ่อ!!! น้องยิ้มให้ลูก”

ท่านชายพัฒน์ในวัยเด็กเอ่ยด้วยความตื่นเต้นดีใจที่ทารกตัวน้อยยิ้มให้เขา ทำให้ผู้เป็นพ่อส่ายหน้าเอ็นดูโอรสของตน

เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น อยู่ในสายตาของชายหนุ่มทั้งสองคน

“นั่นคือเสด็จพ่อของพี่ พระองค์เจ้าพงษ์จักรพรรณ”

“...”

“พ่อพุดลองเดาดูสิว่าทารกน้อยคนนั้นคือใคร?”

“ผมจะไปรู้ได้ไง คงไม่ใช่ผมหรอกมั้ง ฮ่าๆๆๆ”

พุดพูดเอาฮาเพราะไม่คิดว่าจะเป็นตัวเองจริง ๆ แต่ความเงียบของท่านชายทำเอาพุดหยุดขำแทบไม่ทัน

“กะ...ก็คือ...เด็กผู้ชายคนนั้นก็คือคุณ ส่วนทารกน้อย...คือผม?”

พุดพูดพลางชี้มาที่หน้าตัวเอง

“เจ้าเข้าใจถูกแล้ว”

“...”

“น้องชื่ออะไรหรือกระหม่อม?”

“พ่อยังไม่ได้ตั้ง เจ้าอยากตั้งหรือไม่?”

“ได้หรือกระหม่อม?”

“ได้สิ”

ท่านชายน้อยยิ้มแก้มบานพร้อมกับทำท่าครุ่นคิดอยู่สักครู่

“พุด...ลูกจะตั้งชื่อน้องว่าพุดขอรับ!!!”

“เหตุใดจึงตั้งว่าพุดหรือ?”

“ลูกชอบดอกพุดซ้อน ถ้าเป็นหญิงลูกคงตั้งว่าแม่พุดซ้อน แต่น้องเป็นชาย ลูกเลยให้ชื่อว่าพ่อพุดขอรับ”

“ได้สิ จากนี้เจ้ามีน้องชายชื่อพุด ดีหรือไม่?”

“ขอบพระทัยขอรับเสด็จพ่อ”

ขณะที่พุดกำลังยืนยิ้มกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ท่านชายพัฒน์ก็พาพุดวาร์ปไปอีกที่

           

“เย้ยยยย ท่านชาย!!! ให้ผมได้ตั้งตัวหน่อย เล่นผลุบ ๆ โผล่ ๆ แบบนี้ผมเวียนหัวนะ ถึงจะฝันผมก็เวียนหัว!!!”

พุดโวยวายโดยที่ท่านชายไม่ได้ตอบอะไรกับคำบ่นของพุด เพียงแต่หลุดขำเล็กน้อยเท่านั้น

“เห...ที่นี่มัน...”

พุดตื่นตาตื่นใจกับบริเวณรอบ ๆ ที่เป็นส่วนหย่อมขนาดใหญ่ มีเรือนขนาดเล็กเปิดโล่งสไตล์ยุโรปตั้งอยู่ใจกลางสวน ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพันธุ์สวยงามละลานตา

“เรือนรับรองวังรัชนีพงษ์ แต่เป็นช่วงเวลาอีก 20 ปีต่อมาหลังจากที่เราได้เจอกัน”

“???”

พุดยังไม่ทันเอ่ยถามอะไรต่อก็หันไปเห็นหญิงชายคู่หนึ่งกำลังสนทนากัน ชายหนุ่มคนนั้นหน้าตาเหมือนท่านชายคนข้าง ๆ ไม่มีผิดเพี้ยน

“ดะ...เด็จพี่เพคะ”

หญิงสาววัยประมาณ 22 ปี ผมลอน หน้าตาสวยจัดเพราะแต่งแต้มเครื่องสำอางตามสมัยนิยมเอ่ยถามท่านชายด้วยความเหนียมอาย ราวกับกำลังสารภาพรักอย่างไรอย่างนั้น

“ว่าอย่างไรหรือแม่วิลา...”

ท่านชายตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“คือ...ว่าคืนพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของวิลา วิลาอยากชวนเด็จพี่มาร่วมงานที่วังเทวลักษณ์เพคะ”

“พี่ไม่...”

“อ๊ะ!”

ขณะที่ท่านชายกำลังจะปฏิเสธคุณหญิงวิลา หรือหม่อมราชวงศ์วิลาวัณย์ เทวลักษณ์ จู่ ๆ คุณหญิงวิลาก็เซไปซบอกท่านชาย ภาพตอนนี้จึงดูเหมือนท่านชายกำลังโอบกอดสาวสวยอยู่

“ขอประทานอภัยเพคะ วิลาเพิ่งซื้อรองเท้าใหม่มาจากปารีส มันสูงไปหน่อย วิลายังไม่ชินเพคะ น่าอายจังเลย”

ปากบอกขอประทานอภัย แต่มือไม้กลับเกาะแกะรัดตัวท่านชายแน่นขึ้น สีหน้าของท่านชายบ่งบอกว่าไม่ค่อยพอใจ แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษจึงต้องค่อย ๆ ประคองคุณหญิงวิลา จะผลักไสออกทันทีเดี๋ยวสาวเจ้าจะเสียหน้าแล้ววิ่งโร่ไปฟ้องท่านพ่อของเขาอีก แต่ก็พยายามจะแกะมือปลาหมึกของสาวสวยไปในคราเดียวกัน

แกร๊ง!!!

เสียงช้อนทองเหลืองหล่นจากมือของชายหนุ่มผู้มาใหม่ดังขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมอง รวมถึงท่านชายและพุดที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่

“เอ่อ...ขอประทานอภัยที่มาขัดจังหวะกระหม่อม เชิญตามสบาย”

ชายหนุ่มคนนั้นพูดจบก็รีบเก็บช้อนที่หล่นพร้อมกับเดินลิ่ว ๆ หายเข้าไปในวัง ซึ่งพุดเดาว่าเป็นเขาแน่ ๆ เพราะหน้าตาเหมือนเขาเป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว

“พ่อพุด!!!”

ท่านชายในภาพนิมิตหันไปเห็นพุดที่ตอนนี้มีสีหน้าไม่สบอารมณ์และวิ่งหนีไปแล้ว จึงหันซ้ายหันขวาไปเจอกับบ่าวรับใช้ที่เดินอยู่ใกล้ ๆ

“แม่นิ่ม ๆ”

“เพคะ!”

“พาคุณหญิงวิลาไปทายาหน่อย ถ้าเป็นหนักก็ให้คนพาไปหาหมอนะ”

“เพคะ!”

ท่านชายรีบส่งคุณหญิงวิลาให้กับนิ่มบ่าวรับใช้แล้วรีบวิ่งตามพุดไปอย่างไว

“ฝ่าบาท!!! แล้วงานวันเกิดวิลาพรุ่งนี้ละเพคะ”

ไร้เสียงตอบรับจากท่านชายทำให้คุณหญิงวิลาไม่สบอารมณ์

“เป็นเช่นนี้ทุกครา ทำไมท่านชายต้องสนใจแต่ไอ้พุดคนเดียว กับอีแค่ลูกไพร่ชั้นต่ำ!!!”

ทางฝั่งของท่านชายกับพุดที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ ก็พากันวาร์ปไปที่ห้องนอนของใครสักคน ซึ่งในนี้มีพุดในนิมิตนั่งหน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับกำลังบ่นกับตัวเอง

“คนโกหก ไหนว่าไม่ชอบคุณหญิงวิลาไงเล่า!”

ก๊อกๆๆๆ

“พ่อพุด เปิดประตูให้พี่”

ก๊อกๆๆๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP