“หึ...ให้มันแน่เถอะย่ะ แล้วก็ไม่ต้องเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ผู้กองธามเขาฟังล่ะ ถึงยังไงแกก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียเขาแล้ว จะในนามหรืออะไรก็ตามแต่คนนอกก็มองว่าแกเป็นเมียเขาอยู่ดี ขืนเขาระแวงเรื่องพ่อของตาหนูขึ้นมา เขาจะคิดมากกลัวแกเอาความเสื่อมเสียมาสู่วงศ์ตระกูลเขาเอา”
ราตรีเอ่ยเหน็บแนมอย่างต้องการเตือนอยู่ในที พลางปรายหางตามองผ่านใบหน้าเปรอะเปื้อนคราบน้ำตาของบุตรสาวเหมือนจะค้อนแล้วเอ่ยต่อ
“แล้วนิได้คุยกับผู้กองธามบ้างหรือเปล่า ผัวแกเขาจะกลับจากกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ฮะยายรุ้ง”
“รุ้งยังไม่ได้คุยกับอาธามเลยค่ะ” คำเตือนของมารดาทำให้พราวรุ้งคิดมากและรู้สึกลำบากใจกับการไปทำงานที่เหมืองแร่ของเพลิงเพชรมากขึ้น
“ให้มันได้อย่างนี้สิ แกรีบส่งข้อความไปถามสารทุกข์สุกดิบของผู้กองเขาซะเดี๋ยวนี้เลยนะ อาไร้...ผัวกันเมียกันไม่จะไม่คุยแชทคุยไลน์กันบ้างเลยหรือยังไงฮะ อารมณ์เสีย” คนเป็นแม่บ่นกะปอดกะแปด พลางเหวี่ยงหางตามองค้อนอีกวงก่อนเดินสะบัดผ่านคนเป็นลูกเข้าไปในห้องนอนของตน
พราวรุ้งทิ้งตัวแรงนั่งลงกลางโซฟาหวายข้างหน้าต่างพร้อมกับ ถอนหายใจยืดยาวอย่างกลัดกลุ้ม ดวงตาที่เคยเป็นประกายแวววาวสดใสอยู่เป็นนิจ บัดนี้กลับเ