Se connecterเขาไม่ได้รักเธอ แต่เขาแต่งงานกับเธอเพราะความสงสาร และเพื่อปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีให้กับของบิดาเธอซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่เขานับถือ แล้วอยู่ๆ เธอก็หายตัวออกจากบ้านไปและเขาได้พบเธออยู่กับผู้ชายที่เป็นต้นเหตุให้น้องสาวของเขาต้องตาย ความเข้าใจผิดบวกความสับสนทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนเธอได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง ความจำของเธอสูญหายและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นความรักระหว่างเขากับเธอที่ไม่ใช่ภรรยาตีทะเบียนของเขาอย่างที่เขาคิด แต่เป็นใครอีกคนที่ใบหน้าเหมือนกันไม่ผิดฝาแฝด
Voir plusแสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านรอยต่อระหว่างผ้าเนื้อหนาสองผืนที่ทิ้งชายลงบดบังไอร้อนด้านนอก ส่องกระทบเปลือกตาหญิงสาวที่นอนระทวยนิ่งกลางเตียงใหญ่ในห้องนอนสีควันบุหรี่หม่น เธอพลิกกายหลบแสงระคายตาอย่างอิดออด เพราะฤทธิ์มาการิต้ารสเปรี้ยวที่เผลอดื่มตามคำคะยั้นคะยอของเพื่อนในค่ำคืนที่ผ่านมากำลังสำแดงฤทธิ์เดชให้คนคออ่อนพ่ายแพ้อย่างราบคาบ พราวรุ้งพยายามจะลืมตาแต่เปลือกตาเธอหนักอึ้งเหมือนถ่วงด้วยหินแต่เธอก็พยายามแม้จะยากลำบาก หญิงสาวสูดลมหายใจลึกและผ่อนออกอย่างช้า ๆ พลางส่งเสียงครางแผ่วพร่า รับรู้ถึงความรวดร้าวแปลก ๆ บริเวณท้องน้อยไปจนถึงกึ่งกลางเรือนกายเมื่อขยับตัว อาการร้าวระบบค่อย ๆ แทรกซ่านไปทั่วสรรพางค์จนคนที่เพิ่งลืมตาขึ้นเผลอหรี่ตาลง กัดริมฝีปากก่อนจะลองขยับตัวใหม่ด้วยความยากเย็น
ร่างเปลือยเปล่านุ่มรื่นที่ขยับตัวเบียดเข้ามาเสียดสีเรือนกายกำยำปลุกเพลิงเพชรให้ตื่นขึ้นอย่างเกียจคร้าน เขากะพริบตาแผ่วเบา ขับไล่อาการพร่ามัวก่อนจะตื่นเต็มตาและต้องขมวดคิ้ว เมื่อเหลือบมองใบหน้าเหยเกของหญิงสาวที่นอนหนุนต้นแขนตนอย่างงุนงงอยู่ชั่วขณะ กว่าคิ้วจะคลายปมหลังลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ในเวลาต่อมา
ดวงตากลมวาวอ่อนเดียงสากับเครื่องหน้าจิ้มลิ้ม และผิวละเอียดขาวอมชมพู ส่งให้หญิงสาวในวงแขนเขาดูสวยหวาน พริ้มเพรามากขึ้นเมื่อใบหน้างดงามล้อมกรอบเส้นผมสีน้ำตาลเข้มดัดปลายเป็นลอนคลื่นอ่อน ๆ อย่างมีชีวิตชีวา รูปร่างระหงบอบบางแบบสาวยุคใหม่กับบุคลิกนุ่มนวลภายใต้เสื้อผ้าแบบเรียบสีหวาน ที่เขาเป็นคนถอดเองกับมือ ช่างขัดแย้งกับอาชีพของเธออย่างเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่ใส่ใจนักเมื่อนายหน้าของเธอให้เหตุผลว่านี่เป็นการทำงานครั้งแรกของหญิงสาว
ในขณะที่หญิงสาวเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างแช่มช้า พร้อมกับถอนหายใจยาวอย่างงัวเงีย ประสาคนเพิ่งตื่น เธอเงยหน้าขึ้นและได้สบสายตากับเขาในระยะแค่ลมหายใจกั้น ดวงตาวาวหวานที่ช้อนขึ้นมองประสานสายตาของเขาแสดงอาการตื่นตระหนกขึ้นอย่างฉับพลัน
“คุณ!”
หัวใจของพราวรุ้งเต้นสะดุด แล้วดิ่งวับหายราวหลุดออกจากอกไปชั่วขณะก่อนกลับมาเต้นโลดโผนอย่างน่าหวาดเสียว ดวงตาคู่งามตื่นโพลงขณะมองใบหน้าคมคายแฝงเงากระด้างของคนข้างกายในอาการตกใจ ผู้ชายที่เธอเพิ่งพบครั้งแรกเมื่อคืน จากการแนะนำของมยุเรศ และแก้วเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์รสเปรี้ยวแก้วนั้นที่มยุเรศคะยั้นคะยอให้เธอดื่มกับเขา จากนั้นสติของเธอก็ขาดหายเหมือนหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ถูกปิดเครื่องและเธอก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
“อรุณสวัสดิ์...คนสวย” เขาเปิดยิ้มเก๋มุมปากแล้วขยับพลิกตัวขึ้นเหนือร่างระหง กักขังเธอไว้ใต้ร่างในลักษณะวาบหวาม ดวงตาเป็นประกายจ้องมองนัยน์ตาตื่นโพลงของเธออย่างเร่าร้อน
“อุ๊ย!” อารมณ์ตกใจทำให้เธอเผลออุทานเสียงหลง รีบยกมือขึ้นผลักอกเขาไว้พลางละล่ำละลักตวาดเสียงแหลม “ถอยออกไปเดี๋ยวนี้นะไอ้คนสาระเลว คอยดูนะ! ฉันจะแจ้งความ เอาตำรวจมาลากคอคุณเข้าคุกให้ได้”
พราวรุ้งเบือนหน้าหนีใบหน้าที่ก้มต่ำลงมาของเขาอย่างรังเกียจระคนหวั่นไหว
“หืม...ข้อหาอะไรไม่ทราบ” เขากระซิบถามเสียงแหบพร่าข้างใบหูนุ่มแล้วเย้าเธอเล่นด้วยการแทรกปลายลิ้นไล้เข้าไปในรูหูของเธออย่างหยอกล้อ
“อ๊ะ!”
ลิ้นเปียกชื้นที่แทรกไล้ใบหูเธอเล่นราวจะหยอกเย้า สร้างความกระสันเสียวให้แก่คนอ่อนประสบการณ์เกินต่อต้าน ประกอบกับความสนิทแนบอย่างชิดเชื้อของอวัยวะเปลือยเปล่าที่เสียดสีท่อนขาเปล่าเปลือยของเธอโดยพลการ ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ต่างกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นปราดไปทั่วร่าง และพุ่งไปกระจุกรวมตัวกันอยู่กึ่งกลางเรือนกายที่ยังรวดร้าว กำลังบีบรัดแรงเหมือนกับรอคอยให้บางสิ่งบางอย่างเข้ามาสัมผัสแตะต้อง ในเวลาเดียวกันนั้นจิตสำนึกของกุลสตรี ที่ยังพอมีเหลืออยู่บ้างรีบออกคำสั่งบงการให้เธอร้องออกไปเสียงขรม“ออกไปให้ห่างจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ”
น้ำเสียงแตกพร่าและแหบแห้งของพราวรุ้งแผดสนั่นขึ้นอย่างขวัญเสีย เลือดทั่วร่างแซดซ่านไปทุกอณู บงการก้อนเนื้อในอกให้เต้นระส่ำอย่างไม่อาจควบคุม ส่งผลให้สมาธิกับสติของเธอพลอยกระเจิดกระเจิงไปกับความฉ่ำชื้น นุ่มรื่นของปลายลิ้น กับอวัยวะบางส่วนที่ดิ้นขลุกขลักสัมผัสท่อนขาเธออย่างเริงร่า
“ไม่เอาน่าสาวน้อย ถึงเธอจะสด ใหม่ และสะอาดจริงอย่างที่นายหน้าเธอบอกกับฉันก็เถอะ แต่ไอ้จำนวนเงินที่ฉันจ่ายสำหรับเป็นค่าตัวเธอมันก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลยนะ เธอว่ามันไม่เอาเปรียบฉันเกินไปหน่อยเหรอ ถ้าจะให้ฉันมีสิทธิ์ครอบครองตัวเธอได้แค่คืนเดียวน่ะ”
ลมหายใจอุ่นร้อนกระทบซอกคอระหง ขณะที่เขาเอ่ยถามเสียงแหบเบาอยู่ข้างใบหูของเธอ
“เงินอะไร! ฉันไม่รู้เรื่อง คนชั่ว ออกไปจากตัวของฉันนะ” พราวรุ้งปฏิเสธเสียงสั่นเครือด้วยความตระหนก พยายามดึงมือที่ถูกเขากุมไว้พร้อมกับขืนตัวสุดพลังแต่ดูเหมือนทุกสิ่งที่เธอทำจะไร้ซึ่งประโยชน์
“ตอนที่พวกเราสองคนรู้ว่าหลังแยกกันที่บางรักแล้วพี่ธามกับคุณรุ้งไปเกิดอุบัติเหตุ พวกเรารู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้พี่ธามกับคุณรุ้งมีปากเสียงกันจนเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องในคืนนั้น นี่ถ้าคุณรุ้งได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้ละก็พวกเราคงจะไม่กล้ามาเสนอหน้าให้พี่ธามเห็นอีกแล้วล่ะครับ” เก่งกาจเอ่ยไปอย่างที่รู้สึก“คืนนั้นเกิดอะไรขึ้นหรือคะ ทำไมผู้กองไม่เห็นเล่าให้ฉันฟังเลยคะ” เธอเอียงคอมองนายทหารทั้งสองอย่างสงสัยพลางเอ่ยถามอย่างสนใจในขณะที่ธมกรมุ่นคิ้วส่งสายตากำราบสองเพื่อนนายทหารรุ่นน้องแทนคำสั่ง เตือนไม่ให้เอ่ยอันใดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดในคืนนั้น เพราะยังไม่ต้องการให้เธอรื้อฟื้นความทรงจำจากเรื่องในคืนนั้นเพราะหากหญิงสาวจำแสงฉานได้จริง ๆ เธอก็อาจจะกลับไปติดต่อกับหมอนั้นอีก ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นดังนั้นจึงมองทั้งสองตาเขม็งและทั้งคู่ก็เข้าใจและสามารถพลิกลิ้นได้อย่างฉับไว“อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอกครับ พวกเรารู้ว่าพี่ธามไม่ชอบเห็นคุณรุ้งดื่มเหล้า แต่เราสองคนดันคะยั้นคะยอชวนพี่ธามไปที่บางรักจนเป็นเรื่องขึ้นมานะครับ” เก่งกาจตอบเสียงร
‘โอ๊ย...ผู้หญิงที่ผ่านการมีสามีมาแล้วเขาเกิดความต้องการทางเพศกันแบบนี้เหรอ แต่ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าควรจัดการอารมณ์แบบนี้ยังไงล่ะ ทำยังไง ทำยังไงดี’เธอตะโกนกรีดร้องก้องในอกอย่างจนปัญญาจะหาทางจัดการกับอารมณ์ที่ไม่รู้จัก‘หรือจะเดินเข้าไปสะกิดชวนเขาดีน้อ...ไม่ได้ จะบ้าเหรอ เขาจะมองว่าเธอเป็นคนแบบไหน ความจำเสื่อมยังจะหื่นอีก’ความคิดที่ฟุ้งซ่านไปไกลทำเอาใบหน้าของเธอร้อนผ่าวจนต้องรีบจิกเล็บบนฝ่ามือเพื่อเรียกสติของตัวเองสลัดความคิดที่เพริดไปไกลอย่าง วาบหวาม สลัดอารมณ์เพ้อเจ้อที่ทำเธอร้อนผ่าวไปทั้งตัวแล้วรีบดึงอารมณ์กลับคืนสู่ความเป็นจริงอย่างรวดเร็ว“ให้ฉันช่วยอะไรไหมคะ”“ช่วยกินให้หมดอย่าให้เหลือก็พอ” เขาหันไปส่งยิ้มบาง ๆ ให้เธอแล้วหันมาสนใจอาหารในกระทะต่อ“ปกติคุณเป็นคนทำอาหารให้ฉันทานใช่ไหมคะ ถึงจะจำอะไรไม่ได้แต่ฉันแน่ใจว่าตัวเองไม่มีความสามารถเรื่องทำอาหารแน่ ๆ ใช่ไหมคะ” เธอเอ่ยอย่างมั่นใจ“อืม...อาก็ไม่เคยชิมฝีมือเรามาก่อนเห
เสียงร้องเร่งของหญิงสาวปลุกเขาขึ้นจากอาการตกตะลึง รีบกระตุกหัวใจที่ล่วงลงไปกองอยู่ต่ำกว่าเอวกลับขึ้นมาอย่างเร่งด่วน เลือดเห่อขึ้นหน้าจนร้อนผ่าวไปทั้งร่าง ต้องรีบยื่นผ้าขนหนูส่งให้กับเธอแล้วรีบหมุนตัวหันหลังให้บานประตูอย่างว่องไวแล้วพ่นลมหายใจแรง ๆ ขณะหลับตาดึงสติ“ขอบคุณค่ะ”คนในห้องอาบน้ำเอ่ยพลางใช้ผ้าขนหนูในมือซับน้ำและแชมพู สระผมที่ไหลเปื้อนเปลือกตาก่อนจะลืมตาแล้วหวีดร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นความโปร่งของบานประตูจึงนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ควรยืนอยู่ตรงนี้ในขณะที่เขายืนอยู่อีกด้านของประตูบานเดียวกันถึงเขาจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษด้วยการยืนหันหลังให้ประตูไม่ได้หันมามองเธอก็เถอะ“ว๊าย!”หญิงสาวรีบตวัดผ้าขนหนูรัดรอบลำตัวอย่างกระโจมอกอย่างรวดเร็วแม้จะรู้สึกอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีแต่สถานการณ์ตอนนี้บังคับให้เธอไม่สามารถหลบหลีกเขาได้ จึงจำเป็นต้องข่มความรู้สึกด้วยการบอกกับตัวเองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ในเมื่อเธอโป๊ต่อหน้าเขาซึ่งเป็นสามี‘ทำไมต้องใจเต้นแรงขนาดนี้ด้วยนะ ทำอย่างกับว่าไม่เคยโป๊ให้เขาเห็นอย่างนั้
หญิงสาวอ้าปากเหวอมองเขาตาโพลงและรีบขืนตัวเมื่อเขาเดินเข้ามาฉุดข้อมือเธอทำท่าจะดึงไปที่ห้องลองสินค้า “จะพาฉันไปไหนคะ”“ก็ไปลองชุดไงล่ะ อาเลือกชุดนี้แต่ก่อนซื้อก็อยากจะเห็นก่อนว่ามันเหมาะกับรุ้งจริง ๆ หรือเปล่า”เขาต้องกลั้นหัวเราะจนปวดแก้มเมื่อเห็นสีหน้าตระหนกผสมเขินอายของหญิงสาวที่รีบขืนตัวไม่ยอมเดินตามแรงรั้งของเขาง่าย ๆ“อื้ม...มะ ไม่ต้องลองหรอกค่ะ ถ้าคุณชอบชุดนี้ก็เอาชุดนี้แหละ” เธอส่ายศีรษะรัวพลางขืนตัวไม่ยอมเดินตามพลางเอ่ยอย่างละล่ำละลัก“ถ้าไม่ลองแล้วอาจะรู้ได้ยังไง ว่าอากะขนาดไซน์ของเราพลาดไปหรือว่าพอดีกันแน่ เผื่อครั้งหน้ารุ้งไหว้วานให้อามาหาซื้อให้อีก อาจะได้เลือกไปได้ถูกยังไงล่ะ” เขาเป็นฝ่ายพลิกเกมกลับมาอยู่เหนือหญิงสาว“ไม่ต้องค่ะ...ไซน์ที่คุณเลือกนั่นแหละคือไซน์ที่ฉันใส่”เธอรีบบอกเสียงหลงขณะปรายหางตามองค้อนเขาวงใหญ่ก่อนจะรีบคว้าชุดชั้นในจากมือเขาส่งให้กับพนักงานขายและหันไปบอกเขาอย่างหมั่นไส้“คุณเดินไปจ่ายเงินให้ด้วยล่ะ เดี๋ยวฉันจะไปยืนรออยู่ตรงนู้น”





