หลายวันผ่านไป กลิ่นหอมอันนุ่มนวลของเครื่องหอมสมานฉันท์ได้ลอยอวลไปทั่วทุกตำหนักในวังหลวง ดุจสายลมวสันต์ที่พัดพาความขุ่นมัวให้จางหาย บรรยากาศที่เคยตึงเครียดและอบอวลด้วยไอแห่งความขัดแย้ง ค่อย ๆ คลายลงอย่างน่าประหลาดใจ เหล่าขุนนางที่เคยหน้าบึ้งตึงใส่กันเริ่มมีรอยยิ้มและคำทักทายให้แก่กันบ้างแล้ว แม้จะเป็นเพียงผิวเผินก็ตามที
ตู้เยี่ยนอวี่รู้ดีว่านี่เป็นเพียงการรักษาตามอาการ มิใช่การถอนรากถอนโคน แต่ก็ถือว่านางได้ซื้อเวลาและสกัดกั้นแผนการของฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จไปอีกหนึ่งก้าว
ทว่า พยัคฆ์ร้ายที่ถูกลิดรอนคมเล็บ ย่อมต้องหาวิธีสังหารเหยื่อด้วยวิธีอื่นที่แยบยลกว่าเดิม
ณ เรือนรับรองของคณะทูตแคว้นเวย องค์ชายจ้าวเฟิงกำลังพิจารณากระดานหมากเบื้องหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา
“เครื่องหอมของนาง ทำให้บรรยากาศในวังหลวงสงบลงอย่างเห็นได้ชัด” เสนาบดีหลิวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงความกังวล “สตรีผู้นี้มีวิธีการที่เหนือความคาดหมายอยู่เสมอ”
องค์ชายจ้าวเฟิงแย้มพระสรวลที่มุมปาก
“นางใช้โอสถรักษาโรคที่กายและอากาศ แต่จะรักษาโรคที่เกิดในใจคนได้อย่างไร&rdquo