Rechercher
Librairie
Accueil / โรแมนติก / สัญญาสามี / ตอนที่ 2 เจรจา

ตอนที่ 2 เจรจา

2025-04-08 14:53:52

ตอนที่ 2 เจรจา

“แล้วเธอจะได้อะไรถ้าฉันตกลงเป็นผัวเธอ เธอคงไม่ได้ลงทุนทำทั้งหมดนี้แค่เพราะอยากได้ฉันเป็นผัวหรอกใช่ไหม”

“แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันทำทั้งหมดนี้แค่เพราะอยากได้พี่เป็นสามีจริงๆล่ะ พี่จะยอมตกลงหรือเปล่า” ถิงถิงพูดด้วยสายตาออดอ้อนถ้าเป็นคนอื่นคงตกบ่วงเสน่ห์ของเธอแล้ว แต่กับผู้ชายที่ผ่านมารยาผู้หญิงมาแล้วทุกรูปแบบอย่างเขาแค่นี้ไม่คณามือเขาหรอก

“พอดีฉันไม่ใช่ไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่จะเชื่อคำพูดกับท่าทีจอมปลอมของเธอ” อี้ฟานตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ฉันรู้สึกแย่จัง นี่ฉันอุตส่าห์สารภาพความในใจกับพี่เลยนะ พี่ไม่เชื่อฉันหน่อยเหรอ” ถิงถิงพูดเสียงเศร้าและท่าทางเสียใจที่ใครได้เห็นเป็นต้องใจอ่อนให้กับเธอ แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับคนตรงหน้าเลยสักนิด เขายังคงมองเธอด้วยสายตาที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขากำลังหงุดหงิดขนาดไหน

“เลิกเล่นลิ้นแล้วพูดมาตรงๆ เลยดีกว่าว่าเธอต้องการอะไรจากฉัน ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับเธอ” อี้ฟานถามด้วยเสียงต่ำด้วยความหงุดหงิดขั้นสุด

แต่ทำให้เขาหงุดหงิดกว่าก็คือตัวเขาเอง อี้ฟานไม่เข้าใจทำไมเขาถึงยังนั่งอยู่ตรงนี้ถ้าเป็นปกติเขาคงจะลุกหนี้ไปตั้งแต่คำพูดแรกที่เธอพูด ไม่มาเสียเวลานั่งคุยให้เด็กบ้านั่นมาพูดจายั่วโมโหเขาได้แบบนี้หรอก

ถิงถิงยิ้มให้กับท่าทางหงุดหงิดของคนตรงหน้า แต่ก็แอบเสียดายที่คนตรงหน้าไม่หลงกลเธอไม่งั้นอะไรก็คงง่ายกว่านี้ แต่ก็เพราะเขาแบบนี้เขาถึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาเป็นสามีของเธอ

“พี่นี่จัดการยากเหมือนที่คนเขาพูดกันเลยนะ ฉันไม่ล้อเล่นกับพี่แล้วก็ได้ งั้นเรามาคุยเรื่องจริงจังกันเถอะ” ถิงถิงพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง ต่างจากตอนแรกที่คุยกับอี้ฟานอย่างกับเป็นคนละคน จนอี้ฟานอดแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอไม่ได้

“ฉันต้องการทำสัญญาแต่งงานกับพี่” ถิงถิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่มีท่าทางของการพูดเล่นเหมือนตอนแรก

“หึ เธอคงเป็นบ้าไปแล้วสินะ สัญญาแต่งงานเนี่ยนะ ถ้าอยากหาเพื่อนเล่นก็ไปเล่นที่อื่น ฉันเสียเวลากับเธอมามากพอแล้ว อาคังไล่สองคนนี้ออกไป” พูดจบอี้ฟานก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตูทันทีโดยไม่สนใจว่าหญิงสาวจะตกใจแค่ไหน เขาทนฟังเรื่องไร้สาระมามากพอแล้ว และจะไม่ทนฟังมันอีกแม้แต่วินาทีเดียว แต่ก่อนที่อี้ฟานจะเดินถึงประตูเสียงของหญิงสาวก็หยุดเขาไว้ได้อีกครั้ง

“คุณปู่ของฉันป่วย” คำพูดของถิงถิงทำให้มือที่กำลังจะเปิดประตูต้องหยุดชะงัก ก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ

“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร” อี้ฟานถามซ้ำอีกรอบ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ฟังผิด

ถิงถิงถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดประโยคเดิมให้อี้ฟานอีกครั้งอย่างชัดๆ “ฉันบอกว่าคุณปู่ของฉันป่วย”

“ปู่ของเธอ ผู้เฒ่าจางนะเหรอ” อี้ฟานยังคงทวนคำพูดของหญิงสาวซ้ำ เพราะเขาไม่อยากจะเชื่อหรือยอมรับว่าเรื่องที่ได้ยินเป็นความจริง

คุณปู่ที่ถิงถิงพูดถึงก็คือคุณปู่จางที่เขาเคารพนับถือ และถือว่าเป็นไอดอลเลยก็ว่าได้เพราะท่านเป็นคนที่ทำงานเก่งและก็นำพาตระกูลจางไปสู่ความยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้ และเขาเองก็หวังว่าสักวันเขาจะทำได้อย่างคุณปู่จาง ว่าแต่ท่านป่วยงั้นเหรอป่วยได้ยังไงป่วยตอนไหน ทำไมเขาถึงไม่เคยได้ยินข่าวนี้เลย

“คุณปู่ป่วยมาได้เดือนกว่าๆแล้ว ความจริงต้องบอกว่าคุณปู่ป่วยมานานแล้วแต่ท่านไม่ได้ป่วดหนักเท่าตอนนี้ เมื่อสองเดือนก่อนอยู่ๆ อาการของคุณปู่ก็ทรุดลงแต่ท่านไม่ยอมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลและคุณปู่ก็ไม่ต้องการให้คนภายนอกรู้ถึงอาการป่วยของท่าน” ถิงถิงพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เศร้าและหวาดกลัว ตั้งแต่ที่นั่งคุยกันมาเขาไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกจริงๆ ของผู้หญิงตรงหน้าได้เลย มีแค่ครั้งนี้ที่เขารู้สึกว่าเธอพูดด้วยความรู้สึกจริงๆ

“แล้วตอนนี้ท่านรักษาตัวอยู่ที่ไหน” อี้ฟานกลับไปนั่งที่เดิมก่อนจะถาม

“คุณปู่รักษาตัวอยู่ที่บ้านพักนอกเมือง” ถิงถิงตอบแล้วก็เงียบไป เพราะเธอพยายามที่จะไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เธอพยายามทำตัวเข้มแข็งมากตลอดแต่ทุกครั้งที่คิดถึงอาการป่วยของคุณปู่เธอก็อดที่จะกลัวไม่ได้

“อาการของท่านแย่มากเลยเหรอ” อี้ฟานคิดอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจถามออกไป

“ค่ะ คุณปู่เคยหัวใจหยุดเต้นไปสองครั้งแต่หมอก็ช่วยท่านกลับมาได้ แต่หลังจากฟื้นท่านต้องใส่ท่อช่วยหายใจตลอดเวลา ส่วนตอนนี้ท่านก็นอนหลับมากกว่าตื่น” ถิงถิงพูด เธอยังจำเหตุการณ์ที่คุณปู่หยุดหายใจตอนนั้นได้เป็นอย่างดี เธอเข้าไปเยี่ยมคุณปู่ตามปกติเหมือนทุกๆ วัน แต่อยู่ๆ เครื่องวัดชีพจรก็หวีดร้องเสียงดังแล้วหมอกับพยาบาลก็ต่างพากันวิ่งเข้ามาให้ห้องก่อนที่เธอจะถูกกันตัวให้ออกมารออยู่ข้างนอก

“เธอเลยอยากแต่งงานกับฉันเพื่อให้ท่านสบายใจงั้นเหรอ” อี้ฟานถาม ที่ผ่านมาเขาเคยได้ยินปู่จางพูดอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นห่วงกลัวว่าหลานสาวของท่านจะไม่มีใครดูแล

“นั่นก็ส่วนหนึ่งแต่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมด พี่ก็คงพอจะรู้เรื่องภายในตระกูลฉันใช่มั้ย” อี้ฟานพยักหน้าตระกูลฮั้วของเขาเองก็สนิทสนมกับตระกูลจางมานานพอสมควร เพราะปู่ของพวกเขาสนิทกันและตระกูลจางก็ได้ช่วยตระกูลฮั้วของเขาไว้หลายครั้งในตอนที่คุณปู่ของเขาเริ่มทำธุรกิจ เขาจึงรู้เรื่องภายในของตระกูลพอสมควร

“ตอนนี้คนในตระกูลจางกำลังแย่งตำแหน่งหัวหน้าตระกูลสินะ” นี่เป็นเรื่องที่เดาได้ไม่ยากเลย ในตระกูลที่ใหญ่โตแบบนี้จำเป็นจะต้องมีหัวหน้าตระกูลเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายในตระกูล โดยปกติจะมอบตำแหน่งนี้ให้กับลูกชายคนโตที่เป็นสายเลือดหลัก แต่ลูกชายคนโตเพียงคนเดียวของตระกูลจางก็คือพ่อของหญิงสาวตรงหน้าเขาได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อสิบสองปีก่อน

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่ฉันต้องแต่งงานกับเธอ” ถึงอี้ฟานจะเข้าใจเรื่องภายในพวกนั้นแต่เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าการแต่งงานจะช่วยเรื่องภายในพวกนี้ได้ยังไง

“ฉันต้องการอำนาจของพี่” ถิงถิงพูดพร้อมกับจ้องหน้าอี้ฟานด้วยสายตาจริงจัง “ฉันอยากให้พี่ช่วยหนุนหลังหวังเหล่ย”

“หวังเหล่ย? น้องชายของเธอนะเหรอ” เขานึกถึงเด็กชายตัวเล็กที่ยืนเกาะแขนของพี่สาวแน่นคนนั้น ตอนที่เจอกันเมื่อสิบสองปีก่อนเด็กนั่นอายุประมาณห้าขวบ ถ้างั้นตอนนี้ก็คงประมาณสิบเจ็ด

“ใช่ ตอนนี้หวังเหล่ยอายุสิบเจ็ดปีแล้วอีกหนึ่งปีก็จะบรรลุนิติภาวะ แต่ก่อนหน้านั้นเขาจำเป็นต้องมีผู้ปกครอง”

“ก็เธอไง เธอเป็นพี่สาวแถมบรรลุนิติภาวะแล้ว เธอเป็นก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องมาแต่งงานกับฉัน ถ้าอยากได้การสนับสนุนฉันสนับสนุนให้ได้ ยังไงน้องชายเธอก็มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดในการเป็นผู้นำตระกูล” อี้ฟานพูดเรื่องมันไม่เห็นจะยากตรงไหน แต่ถิงถิงกลับส่ายหน้า

“แค่นั้นไม่เพียงพอหรอก ถ้าทำแค่นั้นได้ฉันจะให้พี่แต่งงานกับฉันทำไม” อี้ฟานยังคงไม่เข้าใจในเมืองนี้อำนาจของตระกูลจางยิ่งใหญ่ที่สุดก็จริง แต่ตระกูลของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลจางเลย ถ้านับรวมอำนาจที่เขาสร้างไว้นอกเมืองอีกเขาอาจจะเหนือกว่าตระกูลจางในตอนนี้เลยก็ว่าได้แค่นี้ยังไงพออีกเหรอ

“พี่คิดว่าการหนุนหลังจากคนภายนอกจะสู้การหนุนหลังของคนภายในได้เหรอ ถ้าพี่อยากช่วยหวังเหล่ยจริงๆ พี่ต้องเขามาเป็นคนใน”

“หมายความว่าถ้าฉันคิดจะช่วยหนุนหลังน้องชายเธอฉันต้องแต่งงานกับเธอใช่มั้ย” อี้ฟานพูดพร้อมกับจ้องหน้าของหญิงสาว

“ใช่ และฉันเองก็จะช่วยโครงการพัฒนาเขตที่อยู่ที่พี่อยากทำ” ถิงถิงตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ตอนนี้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบไม่มีใครพูดอะไร มีเพียงแค่สายตาของทั้งสองที่จ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนในที่สุดอี้ฟานก็ต้องเป็นคนพูดขึ้นมาก่อน

“เธอจะทำได้ยังไง ถ้าคุณปู่จางเสียเธอก็จะไม่มีคนคุ้มกะลาหัว ตอนนั้นเธอจะเอาปัญญาที่ไหนมาช่วยฉัน” สิ่งที่อี้ฟานพูดไม่ต่างจากการดูถูกเธอเลย แต่มันก็คือความจริงที่เธอทำตัวแบบนี้ได้ก็เพราะเธอมีคุณปู่เป็นคนหนุนหลัง แต่ไม่ใช่แค่นั้นหรอกเธอเองก็มีกำลังพอจะดูแลและปกป้องตัวเองได้แต่ไม่จำเป็นต้องบอกให้เขารู้

“แต่ตอนนี้คุณปู่ยังอยู่ และฉันมั่นใจว่าพี่จะได้รับการช่วยเหลือจนถึงที่สุด” ข้อเสนอที่ถิงถิงเสนอมาก็น่าสนใจอยู่เหมือนกันถ้าแค่แต่งงานแล้วมันแก้ปัญหาทุกอย่างได้ง่ายขนาดนั้นมันก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย เขาได้พัฒนาเขตที่อยู่อาศัยอย่างที่เขาต้องการไม่ต้องปวดหัวรับมือกับพวกตาแก่ที่เห็นแก่เงินด้วยซ้ำ ส่วนยัยเด็กนั่นก็ได้คนคอยหนุนหลังน้องชายและเขายังได้ตอบแทนบุญคุณที่คุณปู่จางเคยช่วยตระกูลเขาไว้ด้วยนับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ติดอยู่อย่างเดียว

“แต่ฉันก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว” อี้ฟานบอก ถิงถิงก็ดูไม่ได้ตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน

“ฉันไม่คิดว่าเรื่องนั้นจะเป็นปัญหา เพราะถึงยังไงคนที่พี่ชอบก็ไม่ได้ชอบพี่” ยัยเด็กนี่รู้ไปถึงขนาดว่าคนที่เขาชอบคือใครเลยเหรอทั้งๆ ที่เขาไม่เคยบอกใครเลยด้วยซ้ำว่าคนที่เขาชอบเป็นใคร คนที่สืบข่าวให้เธอเก่งขนาดไหนกันถึงรู้

“ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่นั่นก็ยังไม่ใช่เหตุผลที่ฉันจะต้องแต่งงานกับเธอ”

“แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่พี่ต้องปฏิเสธฉัน” ถิงถิงพูดก่อนจะจ้องหน้าอี้ฟานแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด

“แต่งงานกับฉันซะ แล้วปัญหาของพวกเราจะได้จบ”

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application