"เอาหมูปิ้งสิบไม้ ข้าวเหนียวสาม"
ผมบอกแม่ค้าหมูปิ้งก่อนจะดูดน้ำหวานเอื๊อกๆ "โอ๊ยร้อนๆ ร้อนฉิบหาย" ผมบ่นในใจ หิวข้าวก็หิว อยากกลับบ้านเร็วๆ วันนี้เหนื่อยเป็นบ้า
"แปดสิบบาทจ้ะ"
ผมรีบยื่นเงินให้แม่ค้า แล้วขึ้นไปนั่งหลับบนรถเมล์ต่อ แถมนั่งเลยมาอีกสามป้าย
"เวรจริงๆ"
ผมเดินคอตกมารอรถเมล์อีกรอบ กว่าจะนั่งย้อนกลับมาบ้านก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง รถติดมากจนผมอยากร้องไห้ วันนี้ผมเหนื่อยจริงๆ พอถึงบ้านก็แทบจะคลานเข้ามา
"กลับช้าจังวันนี้"
แม่ยังนั่งรอผมอย่างเช่นทุกวัน "เควิน แม่ถามทำไมไม่ตอบ" ผมเดินผ่านแม่ไปจนเธอทำเสียงดุ "ขอโทษครับ" ผมพูดอ่อยๆ "ช่างเถอะ ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมากินข้าวกัน แม่ทำของโปรดเราไว้เยอะเลย" ผมยิ้มออก ก่อนจะถือถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งเข้าห้อง กินรองท้องก่อนสักหน่อยดีกว่า
ผมกินอย่างมูมมาม ชดเชยที่ทั้งวันนี้แทบไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ข้าวเหนียวคำใหญ่ถูกยัดเข้าปาก ผมจะกลืนมันลงท้อง แต่มันไม่ลง!!!
อั๊ก อั๊กๆๆๆๆๆ
ข้าวเหนียวติดคอผม ผมหายใจไม่ออก พยายามทำให้มันหลุดออกมา แต่ยิ่งแน่น ยิ่งเหมือนใจจะขาด "อั๊กๆๆๆๆๆ" ตาผมเหลือกค้าง ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะเรียกให้คนช่วย ผมเอนล้มลงพื้น ตัวเกร็งไปหมด
"ไงพ่อหนุ่ม"
เสียงเรียกนั้นทำให้ผมค่อยๆลืมตาขึ้น "สวัสดี ยินดีที่ได้พบกัน" ผมกระพริบตาปริบๆ นี่ใครกำลังพูดกับผม แล้วผมอยู่ที่ไหน? ทำไมมันมีแต่สีขาวโพลนไปหมด
"นี่เรายังไม่ตาย"
ผมพึมพำคนเดียว คิดย้อนถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ผมกินข้าวเหนียวหมูปิ้ง แล้วข้าวเหนียวก็ติดคอผม ผมทรมาน ทุรนทุรายเพราะหายใจไม่ออก แต่ผมรอดมาได้เหรอ โชคดีจริงๆ
"คุณหมอเหรอครับ"
ใช่ คุณคนนี้คงเป็นหมอที่รักษาผม "หมอเหรอ ฮ่าๆๆๆๆๆ ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ" เขาถามผม เอาแต่หัวเราะเสียงดังลั่น ก่อนจะดึงผมที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นนั่ง
"นายน่ะ ตายแล้ว" เขากระซิบข้างหูผม "ตายจากโลกเดิมที่นายเคยอยู่"
"คุณพูดบ้าอะไร" ผมผลักเขาออก "แม่ผมล่ะ เรียกแม่มาหาผมที" ผมพึ่งรอดตายมาแท้ๆแต่หมอคนนี้ดันมาแช่งให้ผมตายอีก
"ผมจะร้องเรียนคุณ"
"ใจเย็นๆสิพ่อหนุ่ม นายตายไปแล้วนี่คือความจริง นายต้องยอมรับมันนะ"
เขาจ้องตาผม แล้วผมก็มองเห็นภาพตัวเองที่นอนตัวแข็ง ตาเหลือกค้าง ลิ้นจุกปาก แถมยังฉี่ราดนองเต็มพื้น สภาพทุเรศทุรังสุดๆ
"มะ ไม่จริงใช่มั้ย"
ผมนึกว่าผมรอดแล้วแท้ๆ คิดว่าจะยังมีโอกาสได้อยู่มองโลกใบนี้ไปอีกนานๆ
"ไม่จริง กูไม่เชื่อ กูไม่เชื่อ ไม่จริงๆ" ผมเสียสติเหมือนคนบ้า วิ่งหาทางออกไปจากที่แห่งนี้ แต่หายังไงก็ไม่เจอ สีขาวโพลนนี้ไม่มีที่สิ้นสุด วิ่งไปไกลแค่ไหนก็ยังไม่เจอประตู
"ไม่ๆๆๆๆๆๆๆ ผมยังอ่านนิยายเรื่องนั้นไม่จบเลย อนิเมะที่ดูค้างไว้ก็ยังเหลือหลายตอน เดือนหน้าก็จะไปเที่ยวอิตาลี ปีหน้าก็จะบวชให้แม่ด้วย ไอดอลที่ชอบก็ยังไม่ได้เจอตัวจริงเลย"
ผมพูดพล่ามถึงสิ่งที่ยังต้องทำไม่หยุด ชีวิตผมมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะ ผมจะมาตายอย่างนี้ไม่ได้ โชคชะตาจะมากลั่นแกล้งผมอย่างนี้ไม่ได้
"อ๊ากกกกกก ไม่จริง กูไม่เชื่อ กูไม่เชื่อ กูจะตายได้ยังไง กูยังมีอะไรต้องทำตั้งมากมาย จะมาพรากชีวิตกูไปอย่างนี้ได้ยังไง"
"ไม่จริง ไม่จริงๆๆๆๆๆ"
"หยุดโวยวายสักทีได้มั้ย" เขาตะโกนไล่หลังผมมา น้ำเสียงดูรำคาญผมเต็มทน
"ผมยังไม่อยากตาย ไม่อยากตายจริงๆนะ แม่ผมจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีผม" ผมเดินกลับมาหาเขา
"ก็คงต้องอยู่ต่อไป ถึงจะเจ็บปวดเสียใจแค่ไหนก็ต้องอยู่ให้ได้ นายจากมาแล้วยังต้องห่วงอะไรอีก" เขาว่าอย่างนั้น ผมก็ได้แต่คิดตาม แต่พูดตรงๆว่ายอมรับไม่ได้เลย
"คุณเป็นยมบาลเหรอ จะพาผมไปนรกใช่มั้ย" คนอย่างผมคงขึ้นสวรรค์ไม่ได้แน่ๆ
"ฉันคือพระเจ้า คือจิตวิญญาณ คือผู้ล่วงรู้ทุกอย่างในโลกใบนี้"
"ฮะ" ผมฟังอย่างงงๆ
"ฉันจะให้พรนาย" เขาวางมือลงบนหัวผม
"ขอให้ชีวิตใหม่ของนายสว่างไสวเหมือนพระจันทร์เต็มดวง"
"ชีวิตใหม่ อะไร ผมไม่เข้าใจ" ผมพึ่งตายจะได้ไปเกิดใหม่แล้วเหรอ
"อย่าพึ่งขัดสิ เอ่อ ต่อไปขอให้นายเก่งกาจ ให้นายหล่อเหลา ที่สำคัญนะ ขอให้นายได้อยู่กับคนที่รักและปกป้องนายทุกอย่าง"
"ทำไมต้องให้เมียมาปกป้องผมด้วยล่ะ" ผมสิต้องเป็นฝ่ายดูแลเธอ
"ไปเลยนะ" เขาบอก
"ไปไหนอ่ะ อ๊ากกกกกกกกก" ตัวผมลอยขึ้น สูงขึ้นเรื่อยๆ แล้วสติผมก็ดับไปอีกครั้งนึง
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ โชคดีนะมนุษย์ตัวเล็กจ้อย" พระเจ้ามอบโอกาสให้เขาอีกครั้ง หวังว่าเกิดใหม่ครั้งนี้ เขาจะโชคดีกว่าเดิม
ผมหายใจไม่ออก
แม่ ช่วยด้วย ช่วยผมที
ผมเรียกหาแม่ได้แค่ในความคิด แต่ความเป็นจริงผมกำลังจะตาย ตาผมเหลือกจนแทบถลน ผมพยายามหายใจให้ได้ แต่มันทรมานมาก มือผมตะกุยตะกาย น้ำตาไหลอาบหน้า
และแล้วสติผมก็ดับลง ไม่รับรู้อะไรอีกเลย