ฉินเยียนหรานขบคิดเป็นร้อยรอบก็ยังคงไม่เข้าใจ
“คืนที่เขาถูกโยนลงแม่น้ำลั่ว เขาถูกผู้สูงส่งคนหนึ่งช่วยไว้ ไม่เพียงช่วยรักษาตาของเขา แต่ยังถ่ายทอดวิชายุทธ์ให้เขาด้วย”
ฉินโม่หนงอธิบาย
“ไอ้สารเลวนี่ ไม่ใช่แค่ดวงแข็ง แต่ยังดวงดีขนาดนี้ด้วย!”
ฉินเยียนหรานพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคับแค้น
“เยียนหราน วันหลังแกอย่าไปหาเรื่องเขาอีก ทุกคนอยู่กันแบบน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลองก็พอ” ฉินโม่หนงกล่าว
“แม่คะ พวกเราสามารถใช้เงินเชิญยอดฝีมือมาฆ่ามันได้ ไม่อย่างนั้นมันต้องมาแก้แค้นพวกเราแน่ เพราะสองปีมานี้ พวกเราก็ทรมานมันจนดูไม่ได้เลย”
ฉินเยียนหรานพูดอย่างอำมหิต
“พอแล้ว! เรื่องนี้ไม่ต้องให้แกมาห่วงอีก แกแค่จำคำพูดของฉันไว้ก็พอ”
ฉินโม่หนงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ยังมีอีก ช่วงนี้เรื่องในบริษัทมีมากมาย ฉันก็ยุ่งมาก แกไม่มีอะไรก็ไม่ต้องกลับมาบ้าน พักอยู่ที่โรงเรียนไปนั่นแหละ”
การสูญเสียความช่วยเหลือจากติ่งเซิ่งกรุ๊ปไป ได้ชักนำปัญหาใหญ่มาให้ฉินโม่หนงจริงๆ ไม่เพียงผู้ถือหุ้นที่กดดัน บริษัทที่ร่วมมือกันอยู่ก็พากันเอนเอียงไปตามสถานการณ์ด้วย
ถ้าไม่ถ่วงเวลาหรือไม่ยอมจ่ายเงิน ก็พูดเรื่องระงับความร่วมม