เมื่อสองคนพบหน้ากัน เจิ้งหนานซวี่ก็เข้ามากอดหลินหยางทันที
“พี่หยาง ไม่เจอกันนานเลย ฉันคิดถึงจะตายอยู่แล้ว”
“นายอย่ามาหวานเลี่ยนขนาดนี้ ฉันรับไม่ไหว”
หลินหยางตบหลังเจิ้งหนานซวี่เบาๆ
เจิ้งหนานซวี่ก็ชกอกหลินหยางเบาๆ ทีหนึ่งเช่นกัน คนทั้งสองต่างสบตากันหัวเราะขึ้นมา
“นายมีความกล้าไม่เบานะ กล้านัดผีพนันขี้ยาแบบฉันมากินข้าว ไม่กลัวฉันจะยืมเงินนายหรือไง?” หลินหยางหยอกเย้า
“ขอแค่นายเอ่ยปาก เงินเยอะฉันไม่มี แต่ถ้าไม่ถึงห้าหกแสนฉันยังพอขายบ้านขายรถรวบรวมมาให้นายได้ ส่วนไอ้เรื่องขี้ยาผีพนันอะไรนั่น ฉันไม่เชื่อคำพูดไร้สาระพวกนั้นหรอก”
เจิ้งหนานซวี่กล่าว
“มีคำพูดนี้ของนายก็พอแล้ว ไป เข้าไปกินเหล้ากัน”
หลินหยางโอบบ่าของเจิ้งหนานซวี่ เดินเข้าไปในร้านอาหารด้วยกัน
“นายหยาง สองปีนี้นายไปที่ไหนมาน่ะ? ติดต่อนายไม่ได้เลย”
เจิ้งหนานซวี่ถาม
การตายของพ่อแม่ฉันส่งผลกระทบต่อฉันอย่างมาก ฉันเลยออกนอกเมืองไปหาอารามเต๋าแห่งหนึ่ง ตัดขาดจากโลกภายนอก ฝึกสมาธิอยู่สองปี
“แบบนั้นก็ดีมากเหมือนกัน ฝึกกายฝึกใจอ่ะนะ ดูจากท่าทางของนายตอนนี้แล้วก็ดีมากเลยล่ะ”
เจิ้งหนานซวี่ชนแก้วแล้วกล่าวออกมา
สองคนผลัดกันชน