เมื่อแม่มาตามแล้วฝนก็รีบวิ่งมาหานางฉวีทันที และเดินตามแม่เข้าไปในห้องพักผู้ป่วย เมื่อเข้าไปแล้วก็เจอกับอาจารย์หมอยืนอยู่ข้างเตียงที่พ่อของเธอนอนอยู่ กำลังอ่านชาร์ตผู้ป่วยด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอจึงเดาไม่ออกเลยว่าอาการพ่อของเธอหนักหรือเบา หรือเป็นโรคร้ายแรงอะไรหรือเปล่า
เมื่อคุณหมอเหลือบเห็นเธอกับแม่จึงส่งชาร์ตผู้ป่วยให้นางพยาบาล และเดินไปตรวจคนไข้เตียงต่อไป นางพยาบาลคนนั้นจึงเข้ามาพูดคุยกับสองแม่ลูก
"จากอาการของคนไข้อาจารย์หมอบอกว่ามีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นมะเร็งลำไส้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราขอเช็คอย่างละเอียดอีกทีค่ะ"
พูดจบนางพยาบาลก็เข็นรถเข็นที่ใส่อุปกรณ์ทางการแพทย์ตามอาจารย์หมอไป ปล่อยให้สองแม่ลูกมองหน้ากันด้วยความตกใจ นางฉวีมองสามีที่นอนหลับอยู่บนเตียงด้วยความสงสาร
"โธ่ตาสอน"
เอามือลูบผมให้สามีคู่ทุกข์คู่ยากเบา ๆ อยู่กินกันมาตั้งแต่อายุสิบแปด จนตอนนี้อายุสี่สิบปีพอดี ไม่เคยมีคำว่าสบายเลยสำหรับทั้งคู่ เห็นกิริยาอาการของแม่แล้วฝนก็น้ำตาตก
"แม่ให้พ่อนอนพักก่อนเถอะจ้ะ แม่ไปกินข้าวเอาแรงก่อนดีกว่า"
นางฉวีพยักหน้าให้ลูกสาวและเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย เข้มที่ยืนรออยู่ข้างนอกรีบเดินมาหาฝ