เฟิ่งจิ่วเหยียนดิ้นรนขัดขืนเต็มกำลัง แต่นางต้องพิษผงสลายเส้นเอ็น ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย ต่อยหมัดไปก็แค่ทำให้คัน ๆ เท่านั้น
ร่างของเซียวอวี้ทับอยู่เหนือร่างนาง ดุจดั่งหินก้อนใหญ่ตกลงมาจากบนฟ้า ทั้งแข็งและร้อนลวก
ริมโสตคือเสียงลมหายใจของเขาที่หอบกระชั้นและรุ่มร้อนมากขึ้นทุกที
นางราวกับอยู่ในฤดูร้อนที่ร้อนระอุ ไอร้อนของแดดเปรี้ยงโอบล้อมร่างนางไว้ประหนึ่งถูกลูกไฟห่อหุ้ม แผดเผานางด้วยความร้อนจัด ทำให้อุณหภูมิร่างกายนางสูงขึ้นตามไปด้วย...
ศีรษะเฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปด้านข้าง ภาพที่เห็นตรงหน้าเลือนรางกว่าเดิม
ทางออกอยู่ใกล้แค่เบื้องหน้าสายตา แต่ก็เหมือนอยู่ไกลจนสุดขอบฟ้า
ขณะที่นางจวนเจียนจะหมดสติ เงาร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในความคิด
คนผู้นั้นสวมชุดขาวยิ่งกว่าหิมะ น้ำเสียงเปี่ยมความห่วงใย “จิ่วเหยียน ตื่นสิ...”
พริบตานั้น ดวงตาที่กำลังจะปิดลงของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเบิกโพลง
นางอาศัยเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายแทงเข็มเงินเข้าไปในจุดฝังเข็มของตัวเอง ใช้ความเจ็บปวดรักษาสติที่เหลืออยู่เอาไว้
แต่ก็ไม่ได้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ตรงหน้าแต่อย่างใด
หากไม่มียาแก้พิษ หนึ่งเค่อถัดจากนี้ นางก็จะหมดสติไปโดยสิ้