(เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี)
เหตุการณ์ก่อนหน้า
KK.HOTEL
หญิงสาวรูปร่างสันทัด สวมชุดยูนิฟอร์มเรียบหรูใบหน้ารูปไข่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนแฝงรอยยิ้มจาง จมูกเชิดรั้นเล็กน้อยรับกับริมฝีปากกระจับอมชมพูกำลังส่งรอยยิ้มชวนมองและเปล่งเสียงหวานออกมาทำให้บรรดาผู้มาใช้บริการโรงแรมแห่งนี้ต่างชื่นชอบและพึงพอใจกันถ้วนหน้า
ช่วงนี้เป็นช่วงซัมเมอร์จึงมีนักท่องเที่ยวหลากหลายประเทศเดินทางเข้ามาเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย
หญิงสาวได้เข้ามาทำงานที่โรงแรมแห่งนี้ตำแหน่งพนักงานต้อนรับหลังจากเรียนจบ เธอเชื่อมาตลอดว่าตนเองเข้ามาด้วยความสามารถที่มีจึงตั้งใจทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยความกระตือรือร้นให้สมกับการที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้
ตัวเธอเองชื่นชอบที่ได้ดูแลและสร้างความประทับใจให้กับบรรดานักท่องเที่ยวที่ไว้วางใจในการเลือกมาใช้บริการที่นี่
“ไม่สบายหรือเปล่า อลิส” เพื่อนร่วมงานของเธอถามขึ้นหลังจากบริเวณล็อบบี้ไม่มีแขกแล้วและเห็นว่าใบหน้าหวานมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมาจากไรผม
“เปล่าหรอก ช่วงนี้อากาศมันร้อนด้วยแหละ”
อลิสตอบเพื่อนสาวตรงหน้าแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่ซึมออกมาเบาๆ พร้อมยิ้มแห้งส่งให้
แม้อากาศจะร้อนอย่างที่เธอว่าแต่มันก็ไม่ได้ร้อนขนาดนั้น ในใจของหญิงสาวรู้สึกกังวลอย่างยิ่งหลังจากได้รับข้อความล่าสุดจากพี่ชายคนเดียวของเธอ
ครั้นถึงเวลาพักกลางวันเธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือต่อสายหาคนที่ทำให้เธอปั่นป่วนใจ คิ้วสวยขมวดเป็นปมพลางกัดปากล่างอย่างรอคอย รอสายอยู่สักพักปลายสายก็กดรับ เธอจึงรีบถามในสิ่งที่รู้สึกร้อนใจ
“พี่เดล คิดจะทำอะไร”
[พี่ยังบอกเราตอนนี้ไม่ได้]
อาร์เดลซึ่งเป็นพี่ชายสายเลือดเดียวกันกับเธอที่อายุห่างกันถึงสิบปีตอบกลับมาเสียงเรียบราวกับว่าเรื่องที่เขาทำเป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจดีแล้ว
“แล้วพี่อยู่ไหน”
[พี่บอกไม่ได้จริงๆ แต่พี่อยากให้ลิสระวังตัวไว้เพราะเคลย์ตันรู้เรื่องแล้วและมันกำลังตามหาตัวพี่อยู่]
“พี่ก็ไม่สมควรพาเธอไปไม่ใช่เหรอ”
[พี่จำเป็นต้องทำแบบนี้ พี่ขอโทษที่ทำให้เราต้องกังวลไปด้วย]
“ลิสเข้าใจว่าพี่คงมีเหตุผล ”
[ ขอบใจนะที่เข้าใจพี่แล้วคืนนี้ไปฉลองวันเกิดที่ไหน]
“ที่ร้านอาหารประจำของครอบครัวเราไงคะ นึกว่าลืมวันเกิดน้องสาวไปซะแล้ว”
[พี่ไม่ลืมหรอกน่า พี่ขอให้เรามีความสุขและผ่านทุกช่วงเวลาที่ยากๆของชีวิตไปได้ ขอให้เราจดจำแต่ช่วงเวลาดีๆ]
“ชีวิตลิสก็ไม่ได้แย่ซะหน่อย ทำไมมีแต่คนอวยพรว่าให้ลิสจำแต่เรื่องราวดีๆ แด๊ดกับมัมก็เหมือนกัน”
[ทุกคนอยากให้ลิสมีความสุขที่สุดไง]
“ถ้าไม่มีเรื่องพี่เดล ลิสคงจะกระอักความสุขตายไปแล้ว ลิสเป็นห่วงพี่นะคะ”
[ขอบใจนะ พี่ขออีกอย่างสิ อย่าบอกเรื่องนี้ให้แด๊ดกับมัมรู้เด็ดขาดนะ]
“ลิสรับปากค่ะ”
[เดี๋ยวลิสจะติดต่อพี่ไม่ได้แล้ว หลังจากนี้พี่จะติดต่อไปเอง แค่นี้ก่อนนะลิส]
“บายค่ะ”
หลังจากวางสายเธอก้มลงมองโทรศัพท์ในมือด้วยแววตากังวลใจอีกครั้งริมฝีปากพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ หากพี่ชายของเธอถูกจับได้ต้องเกิดปัญหาใหญ่อย่างแน่นอนยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด
เธอจึงรีบสลัดความคิดออกเพราะใกล้ถึงเวลาทำงานพร้อมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อย่างเรียกสติแล้วเดินไปหน้าล็อบบี้เพื่อเริ่มงานในช่วงบ่าย
หลังเลิกงานเธอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปฉลองวันเกิดตนเองโดยได้นัดกับเพื่อนๆและพี่ๆในแผนกไว้ งานในวันนี้จัดขึ้นบนดาดฟ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านประจำของครอบครัวเธอ แต่ปีนี้ไม่มีใครว่างร่วมงานเพราะพ่อและแม่ของเธอติดงานอยู่ต่างประเทศซึ่งเธอเข้าใจดี
หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงที่กำลังก้าวเท้าฉับๆ บนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วกำลังมุ่งหน้าไปยังรถสปอร์ตสีเหลืองสดใสของเธอที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถของพนักงาน
ผมยาวประบ่าสีน้ำตาลคาราเมลรับกับใบหน้าหวานเข้ากันอย่างลงตัวกำลังส่งยิ้มให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้มีใบหน้าคมคายที่กำลังยิ้มให้เธออยู่
เธอเคยคิดเล่นๆ ว่าเขาหล่อเกินกว่าจะมาเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นี่ด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เธอเลิกงานเมื่อเดินออกมาก็มักจะเห็นเขาเป็นคนแรกและหนุ่มหล่อคนนี้มักจะทักทายเธอเป็นประจำ
“วันนี้มีนัดต่อสินะครับ” เขาถามแล้วส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร
“ใช่ค่ะ”
อลิสตอบพร้อมหยุดเดินแล้วควานหากุญแจในกระเป๋าของตนเองเมื่อมาถึงรถแต่รู้สึกว่ามีร่างของใครบางคนมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังพร้อมได้กลิ่นคล้ายยาปะทะเข้ากับจมูกเธออย่างจัง ไม่นานสติสัมปชัญญะก็เลือนหายไป
ปัจจุบัน เช้าวันใหม่
หญิงสาวนั่งมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกบานใหญ่ที่อยู่ในห้องน้ำ ใบหน้ากับลำคอของเธอขึ้นปื้นแดงและมีรอยคิสมาร์กตามร่างกายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ชายเลวๆ คนนั้น เคลย์ตัน มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลของอิตาลี
‘นี่สินะของขวัญวันเกิดวัยเบญจเพสของเธอ’
อลิสนั่งทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นชั่วโมง จนได้ยินเสียงฝีเท้าที่เข้ามาในห้องและหยุดอยู่บริเวณหน้าประตูห้องน้ำพร้อมกับเสียงเคาะที่ดังขึ้น เธอจึงเดินไปเปิดประตูแล้วกระชับชุดคลุมอาบน้ำให้แน่นขึ้นอย่างระวังตัว
เธอเดินออกจากห้องน้ำสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ลูกน้องของเคลย์ตันอย่างไม่ไว้ใจ จนสายตาไปสะดุดกับถุงแบรนด์เนมมากมายที่วางอยู่บนเตียง
เธอหันไปมองบอดี้การ์ดหนุ่มชุดดำอีกครั้งอย่างละเอียด หน้าตาหล่อเหลาผมสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาวเหลือง ไม่ว่าจะรูปร่างหรือใบหน้าล้วนดูดีทั้งสิ้น จะมีก็แต่สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ นั้นทำให้ยากที่จะคาดเดาว่าเขาคิดอะไรอยู่ดูแล้วรู้สึกขัดใจไม่น้อย
“ผมชื่อไนล์ เป็นลูกน้องของคุณเคลย์ตันและจะเป็นคนที่คอยดูแลคุณระหว่างอยู่ที่นี่ครับ”
บอดี้การ์ดหนุ่มพูดกับหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังมองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
“ใครจะอยากรู้กัน” เธอพึมพำออกมาเบาๆ แล้วใช้สายตาเป็นเชิงถามว่าของบนเตียงหมายความว่าอย่างไร เขาเห็นสายตาของเธอจึงพูดขึ้น
“คุณเคลย์ตันให้ผมนำสิ่งของที่คุณจำเป็นต้องใช้มาให้ ถ้าขาดอะไรก็ให้บอก ผมจะจัดการให้ทุกอย่างครับ” เขาพูดออกมาเสียงราบเรียบเช่นเดิม
“ไปบอกมันว่าฉันไม่ต้องการ” แววตาขุ่นเคืองตวัดไปสบตากับลูกน้องของเขาทันทีเมื่อได้ยินชื่อของผู้ชายคนนั้น
“คุณไม่สมควรเรียกนายแบบนั้นนะครับ ผมเกรงว่าหากคุณเคลย์ตันได้ยิน ตัวคุณเองจะลำบาก” บอดี้การ์ดหนุ่มกล่าวตักเตือน
“ฉันไม่สนใจหรอก”
“อีกเรื่องครับ คุณเคลย์ตันนัดหมอไว้ให้คุณและตอนนี้นายรอคุณอยู่ที่ห้องรับแขกมาสักพักแล้ว นายไม่ชอบรออะไรนานๆ แต่งตัวเสร็จแล้วออกไปได้เลยครับ”