“หมอ?” เธอเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“นายจะบอกคุณเอง ขอตัวก่อนนะครับ”
หญิงสาวมองตามเขาแล้วถอนหายใจออกมาและคิดหาทางหนีออกจากที่นี่อีกครั้ง เธอไม่รู้ว่าคนพวกนี้จะทำอะไรกับเธอบ้าง
ตอนนี้จึงจำใจแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ไนล์นำมาให้ เสื้อผ้าในถุงมีหลากหลายแบบให้เลือกซึ่งล้วนเป็นสไตล์ที่เธอชอบใส่อยู่เป็นประจำก็คือชุดเดรสยาวสีขาวคลุมเข่ากับรองเท้าผ้าใบสีขาวเพราะเธอรู้สึกว่ามันคล่องตัว
หลังจากแต่งตัวเสร็จเธอเดินมุ่งหน้าไปยังห้องรับแขกโดยมีไนล์เดินนำหน้าอยู่ ระหว่างทางก็แอบมองเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำสลับทองดูหรูหราแต่ลึกลับไปพร้อมๆ กัน
ห้องที่นี่ดูเหมือนว่าจะมีหลายห้องและระบบความปลอดภัยก็หนาแน่น หากจะหนีออกไปคงไม่ง่ายอย่างแน่นอน แต่มันคงต้องมีสักวิธีที่จะออกไปได้ เธอคิดอย่างไม่ยอมแพ้
ครั้นมาถึงห้องรับแขกก็เห็นว่าคุณหมอมาดเข้มกำลังนั่งคุยกับมาเฟียหนุ่มอยู่บนโซฟาตัวหรูและมีบอดี้การ์ดของเขาอีกสิบกว่าคนยืนอยู่ทั่วทุกมุมห้อง
'คนพวกนี้ถูกคัดหน้าตาเข้ามาหรือยังไง '
เธอคิดแล้วไล่สายตามองคนเหล่านั้นที่มีใบหน้าหล่อคมคายแต่ยืนเรียงรายกันเหมือนคนไร้ชีวิตจิตใจ
มาเฟียหนุ่มปรายตามองหญิงสาวที่กำลังใช้สายตาใสซื่อมองเหล่าบอดี้การ์ดของเขาแล้วพูดออกมา
“ผมคงต้องสั่งสอนพวกมันซะหน่อย ที่ทำให้คุณสนใจได้” เขากระตุกยิ้มชั่วร้ายพลางชักปืนออกมาเหนี่ยวไกไปทางลูกน้องที่ยืนนิ่งอยู่
ปัง!! กรี๊ด!!
มาเฟียหนุ่มลั่นไกออกไปเฉียดไหล่หนาของลูกน้องที่ยืนนิ่งอยู่เพื่อขู่หญิงสาวตรงหน้า
อลิสกลืนน้ำลายหนืดลงคอรีบก้มหน้าลงมองพื้น ตอนนี้หัวใจเธอสั่นระรัวอย่างไม่อาจห้ามได้ เมื่อเขาเห็นปฏิกิริยาของเธอก็กระตุกยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วปรายตามองหญิงสาวก่อนจะวางปืนลงบนโต๊ะข้างๆ เขา
“เป็นคนของผม ให้มองแค่ผม” มาเฟียหนุ่มพูดเสียงเย็น
อลิสเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาแต่ทว่าเขากลับใช้สายตามองเธอสลับกับโซฟาเพื่อสั่งให้นั่งลง
'ไอ้บ้านี่มันป่าเถื่อนและเอาแต่ใจที่สุด '
เธอคิดในใจแล้วเดินไปกระแทกก้นนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามหมอหนุ่มอย่างว่าง่ายและเงยหน้ามองเคลย์ตันชัดๆ อีกครั้ง วันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนดูสบายๆ ใบหน้าคมเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากหนาคล้ำเล็กน้อยคาดว่าเกิดจากการสูบบุหรี่ กำลังนั่งไขว้ขามองเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย เมื่อเห็นเธอจ้องเขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเขาจึงพูดออกมา
“ผมให้หมอมาฉีดยาคุมให้คุณ”
“ทำไมต้องฉีด”
“จะปล่อยให้ท้อง?”
“เปล่า ฉันหมายถึงกินยาคุมฉุกเฉินเอาก็ได้ มันก็แค่ครั้งเดียว”
“ใครบอกว่าผมจะเอาคุณแค่ครั้งเดียว ผมจะเอาทุกวัน ถ้าได้ทุกชั่วโมงก็คงดีแต่ผมต้องทำงาน ยังไงคุณไม่ต้องเสียดายไป ผมจะพยายามสละเวลาให้”
“ไอ้..” เธอกำลังจะด่าเขาที่กล้าพูดเรื่องน่าอายต่อหน้าคนมากมาย เขาไม่อายแต่เธออาย
“หุบปากแล้วทำตามที่สั่ง”
“คุณเป็นใครมาสั่งฉัน ไอ้บ้า”
“จะให้รื้อฟื้นตรงนี้มั้ยว่าผมเป็นอะไรกับคุณ ถ้าไม่ ก็เลิกด่าแล้วทำตามที่บอก อีกอย่างผมไม่อยากให้เด็กต้องเกิดมาโดยปราศจากความรัก” มาเฟียวัยสามสิบห้าปีพูดออกมาด้วยแววตาวูบไหวเพียงครู่เดียวหลังจากนั้นแววตาเขาก็กลับมาว่างเปล่าเหมือนเดิม
“ฉันก็ไม่อยากให้ลูกมีพ่อแบบคุณเหมือนกัน ฉีดเลยค่ะคุณหมอ”
หญิงสาวหันไปหาหมอหนุ่มพร้อมให้หมอฉีดยาแต่โดยดี เคลย์ตันนั่งมองใบหน้าหวานที่ฉายแววดื้อรั้นออกมาแล้วคิดอะไรบางอย่าง
เมื่อหมอทำการฉีดยาเสร็จเรียบร้อยก็บอกรายละเอียดต่างๆ แล้วขอตัวกลับหลังจากทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ เคลย์ตันจึงพูดขึ้นอีกครั้ง
“คืนนี้คุณต้องไปงานเลี้ยงกับผม ไนล์เตรียมชุดไว้ให้แล้ว”
“คุณคิดว่าจะพาฉันไปไหนมาไหนก็ได้ตามใจชอบเหรอ” อลิสพูดอย่างหงุดหงิด
“มันก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ”
“ฉันไม่ไป”
“คุณคิดว่าจะทำแบบนั้นได้สินะ”
“ฉันเกลียดแก”
“ผมรู้”
“แต่พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปทำงาน ถ้าฉันหายไปแบบนี้ที่ทำงานต้องตามหาตัวแน่” เธอรีบหาข้ออ้าง
“ผมลาออกให้คุณแล้ว”
“คุณจะทำตามใจตัวเองแบบนั้นไม่ได้ ฉันต้องทำงานหาเงิน”
“ผมจะให้เงินคุณเอง”
“จะบ้าเหรอ กว่าฉันจะเข้าทำงานที่นั่นได้ไม่ใช่ง่ายๆ”
“คุณก็เข้าไปได้ไม่ยากไม่ใช่เหรอ” เขาพูดแล้วเหยียดยิ้มออกมา
“คุณเป็นใครกันแน่”
“แค่ทำตามที่ผมบอกก็พอ” เมื่อพูดเสร็จเคลย์ตันก็เดินออกไปจากห้องรับแขกโดยทิ้งให้อลิสมองตามเขาอย่างคับแค้นใจ
หญิงสาวที่อยู่บนโซฟาในห้องนอนนั่งกัดเล็บของตัวเองเบาๆ อย่างใช้ความคิดจนลืมไปว่าตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปงานเลี้ยงแล้ว
ด้านมาเฟียหนุ่มเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่มีทีท่าว่าจะออกมาจากห้องเขาจึงเดินเข้าไปด้วยอารมณ์เดือดดาล
พลั่ก! ปัง!
อลิสที่กำลังนั่งใจลอยอยู่ก่อนหน้าสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจเมื่อเคลย์ตันเปิดประตูเข้ามาแล้วปิดมันอย่างแรง เธอมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง เขาเองก็ปรายตามองเธออย่างไม่พอใจเช่นเดียวกัน
“ทำไมยังไม่แต่งตัว”
เธอเงียบไม่พูดอะไรแต่หันหน้ามองไปทางอื่นโดยไม่สนใจเขา เขาจึงเดินเข้าไปพร้อมกระชากแขนให้เธอลุกขึ้น
“โอ๊ย เจ็บนะ”
เคลย์ตันไม่ฟังและไม่สนใจแต่กลับฉุดกระชากลากถูเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจนของในห้องกระจัดกระจายเพราะไม่มีใครยอมใคร
เมื่อเขาจับเธอแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาจากห้องใช้มือคลายเนกไทออกหลวมๆ แล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวหรูพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างหนัก ไนล์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลเห็นอาการของเจ้านายก็พูดขึ้น
“ดื้อเหมือนกันนะครับ”
“ฤทธิ์เยอะแบบนี้ก็ดี ว่าแต่..เธอจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อนไม่ได้จริงๆ เหรอ” เคลย์ตันถามออกมาอย่างสงสัยและค่อนข้างที่จะไม่เชื่อ
“จากที่ผมได้รับข้อมูลมาดูเหมือนว่าเธอจะจำไม่ได้จริงๆ ครับ”
“แบบนั้นก็ดี”
“แต่ถ้าเธอเกิดจำได้ขึ้นมาผมเกรงว่า...”
ไนล์ยังพูดไม่จบก็เห็นว่าอลิสเดินออกมาจากห้องของเธอเขาจึงหยุดพูดทันที
“แล้วอลิสไม่พยายามตรงไหน มึงสองคนก็พยายามด้วยกันทั้งนั้น และตอนนี้พวกมึงควรคุยและเป็นกำลังใจให้กันและกันมากกว่าจะมาใส่อารมณ์กันแบบนี้” อาร์เดลพยายามพูดให้มาเฟียหนุ่มได้คิดตามทั้งสองจะได้ไม่ต้องมีปัญหากัน“มึงไม่ใช่กู มึงก็พูดได้สิ” เขามองสองหนุ่มด้วยใบหน้าบึ้งตึง“ไอ้นี่แม่ง” อาร์เดลเห็นท่าทางของเขาก็รู้สึกเหนื่อยหน่าย“กูไม่อยากคุยกับพวกมึงแล้ว”เคลย์ตันพูดเสร็จก็เดินไปทันทีโดยไม่สนใจอาร์เดลและไนล์ที่มองตามเขาไปพร้อมกับส่ายหัว“เดี๋ยวมันก็เป็นหมา เชื่อเถอะ” ไนล์หัวเราะในลำคอเบาๆอลิสใส่ชุดนอนสายเดี่ยวสีดำสุดเซ็กซี่เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง หญิงสาวใช้ครีมบำรุงผิวลูบไล้ไปทั่วผิวกายเนียนละเอียดของเธอ จากนั้นก็หยิบชุดคลุมขึ้นมาสวมใส่การกระทำของหญิงสาวตกอยู่ในสายตาของมาเฟียหนุ่มที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เขาเหลือบมองหญิงสาวตั้งแต่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว และเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเปิดประตูห้องออกไปเขาจึงถามขึ้นเสียงราบเรียบ“จะไปไหน”“ไปนอนห้องอื่น”“ไม่ให้ไป” เขารีบลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วไปยืนขวางประตูไว้“หลีกไป” เธอพยายามดันตัวเขาให้ถอยออกไป แต่แรงที่เธอม
“มิเกล แม็กซ์เวลล์” อลิสเรียกคนทั้งสองที่กำลังเดินเข้ามาแล้วรีบลุกขึ้นไปรับเด็กชายมาอุ้มด้วยความคิดถึง คาเทียร์ที่เคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้างก็พอจะรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร“สวัสดีค่ะ เกลพาแม็กซ์มาหาอลิสและเห็นว่ามาร์ตินคลอดแล้วจึงซื้อของเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก” เธอหันไปทักทายคุณแม่มือใหม่อย่างเป็นมิตรแล้วเดินไปวางของที่นำมาให้ลงข้างๆ พร้อมนั่งลง“ไม่เห็นต้องลำบากเลย ขอบคุณนะคะ” คาเทียร์ตอบกลับเธอด้วยความเกรงใจ“ไม่ลำบากเลยค่ะ” เธอส่งยิ้มให้กับคาเทียร์“คิดถึงแม็กซ์จังเลย” เธอกดจมูกลงบนแก้มป่องๆ ของเด็กน้อย ทำให้เขาหัวเราะร่วนด้วยความชอบใจ“เกลมีของมาฝากอลิสกับคุณเคลย์ตันด้วยนะ” เธอวางถุงผ้าไว้ตรงหน้าพร้อมกับหยิบขวดใสที่บรรจุน้ำสีอำพันออกมา“ยาสมุนไพร เห็นว่ากำลังพยายามมีเบบี้กันอยู่ใช่มั้ย พอดีเกลไปได้สูตรมาจากคนรู้จักที่เขาก็อยากมีลูกและตอนนี้พวกเขาสมหวังไปแล้ว”“ขอบคุณมากเลยนะ”อลิสพูดอย่างซาบซึ้งใจเพราะตั้งแต่พวกเขาพยายามที่จะมีลูกน้อย คนรอบข้างก็คอยให้คำแนะนำและซื้อนั่นซื้อนี่มาฝากเป็นประจำ แม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอที่ส่งยาสมุนไพรมาให้จากไทยตลอด พวกท่านพึ่งกลับไปเมื่ออาทิตย์ก่อนและอีกไม่นานก็คงจะก
เสียงของคาเทียร์ที่ดังขึ้นทำให้พวกเขารีบหันไปมองพร้อมกัน“ที่รักเป็นอะไร ปวดท้องจะคลอดเหรอ” อาร์เดลถามอย่างตกใจ“ลูกดิ้นแรงไปหน่อยค่ะ” คุณแม่ยังสาวพูดแล้วยิ้มแหยๆเพราะทำให้คนอื่นตกใจ“เบาๆกับคุณแม่หน่อยสิครับเจ้าลูกชาย” อาร์เดลใช้มือสัมผัสกับหน้าท้องของผู้เป็นภรรยาเบาๆและรับรู้ได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่ดิ้นอยู่ในนั้น เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุขมาเฟียหนุ่มมองว่าที่คุณพ่อคุณแม่ตรงหน้าแล้วหันไปพูดกับหญิงสาวข้างกาย“ผมอยากมีความรู้สึกแบบนั้นบ้าง เรารีบไปกันเถอะ” เขาลุกขึ้นแล้วกระตุกมืออลิสเบาๆ เธอทำตามอย่างว่าง่าย ทั้งสองเดินออกไปจากตรงนั้นโดยมีอาร์เดลตะโกนไล่หลังไป“ขอให้สมหวังนะเว้ย”เมื่อเข้าไปในห้องพักของโรงแรมหรู พวกเขาต่างถอดเสื้อผ้าของตนเองออกอย่างรู้หน้าที่ จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็ต้อนร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอไปยังเตียงนอนเขาขึ้นคร่อมร่างเล็กแล้วโน้มตัวลงไปชิมริมฝีปากหวานและซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นพร้อมขบเม้มมันเบาๆ จากนั้นเขาเลื่อนลงมาใช้ลิ้นร้อนแตะลงไปบนยอดถันสีชมพูอ่อนแล้วดูดดึงมันอย่างหิวโหยจนหญิงสาวบิดกายเร่าพร้อมความต้องการที่มากล้นจนต้องส่งเสียงออกมา“อ๊าส์”เสียงหวานที่เปล่งออกมาจากปา
ลูกน้องคนสนิทที่หลับใหลไปหลายชั่วโมงลืมตาขึ้นมาก็เห็นเจ้านายของเขานั่งคิ้วขมวด ส่วนหญิงสาวข้างๆ ก็มีใบหน้ากังวลไม่ต่างกัน“หมอบอกว่าผมรอดตายแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมทำหน้าแบบนั้นกัน เอ๊ะ หรือผมตายไปแล้ว” ไนล์พูดอย่างล้อเล่น เมื่อมองอาการของคนทั้งสอง“ไนล์ ฮึก” อลิสที่ได้ยินรีบเดินเข้าไปหาเขาแล้วปล่อยโฮอีกครั้งตามด้วยเคลย์ตันที่เดินมาหยุดยืนข้างๆ เตียง“ทำไมถึงทำแบบนั้น” เคลย์ตันถามลูกน้องคนสนิทออกไป“ถ้าผมไม่ทำแบบนั้นกระสุนคงจะฝังไปที่คุณอลิสแทนนะสิครับ”“แล้วนายมาบังฉันไว้ทำไม ดูสิต้องมาเจ็บแบบนี้” หญิงสาวปาดน้ำตาออกลวกๆ“ก็ถ้าคุณอลิสเป็นอะไรไป เพื่อนของผมคงอยู่ไม่ได้” คำว่าเพื่อนที่หลุดออกมาจากปากของไนล์ ทำให้เคลย์ตันถึงกับชะงักแม้ทั้งสองจะเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่ไนล์มักจะปฏิบัติกับมาเฟียหนุ่มแบบเจ้านายกับลูกน้องตั้งแต่เหตุการณ์ของโลแกนในครั้งนั้น เพราะเขารู้ว่าเคลย์ตันเป็นคนอ่อนไหวกับคำว่าเพื่อนมากขนาดไหน มาเฟียหนุ่มกลัวว่าเมื่อใช้คำนี้เขาจะสูญเสียคนๆ นั้นไปและเขาไม่อยากเสียเพื่อนอย่างไนล์ไปอีกคน“ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกกูว่านายแล้ว เรียกเหมือนเมื่อก่อนได้เลย” อลิสยืนมองทั้งสองคุยกันอย่างแป
สายลมพัดผ่านปะทะใบหน้าของหญิงสาวทำให้เธอหยุดพูดครู่หนึ่งหลังจากนั้นก็พูดต่อ“ตอนที่ฉันรู้ความจริงจากปากเคลย์ตัน ฉันตกใจมากเพราะไม่คิดว่าคุณจะทำถึงขนาดนั้น ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาเป็นคนทำให้ฉันสูญเสียคุณไป แต่ฉันไม่เคยรับรู้เลยว่าเขาเองได้สูญเสียอะไรไปบ้างในชีวิต ฉันเข้าใจเขาผิดมาตลอดและเรื่องที่คุณทำกับฉัน ฉันยกโทษให้คุณทุกอย่าง เราจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ลาก่อน โลแกน”หญิงสาวพูดเสร็จก็วางดอกไม้ลงแล้วหันหลังเดินไปที่รถ เธอรู้สึกผิดกับมาเฟียหนุ่มอย่างสุดหัวใจ หญิงสาวเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนลืมสังเกตว่ามีคนกำลังเดินตามเธอมา อยู่ดีๆ เธอก็รู้สึกเหมือนมีอะไรแข็งๆ ปะทะเข้าที่ก้านคอแล้วเธอก็สลบไปเอี๊ยดดดมาเฟียหนุ่มที่กำลังขับรถไปธุระข้างนอกเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกน้องคนสนิทรายงานให้ฟัง เขารีบวนรถกลับไปแล้วเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ไนล์บอก เขาขับรถไปด้วยหัวใจสั่นระรัวหลังจากรับรู้ว่าหญิงสาวถูกผู้เป็นพ่อของแดเนียลจับตัวไปที่บ้านหลังหนึ่งเส้นทางที่เข้าไปล้วนเป็นป่าและดูน่ากลัว เขาจอดรถยังหน้าบ้านขนาดเล็ก แม้ว่าไนล์จะกำชับว่าให้คนของพวกเขามาก
“ผู้หญิงเขาบอกให้ปล่อย หูหนวกหรือไง” เสียงทุ้มต่ำที่แสนจะคุ้นเคยทำให้หญิงสาวถึงกับชะงักแล้วหันไปมองคนที่เดินเข้ามาใกล้ๆ“เคลย์ตัน” หญิงสาวเรียกเขาเสียงแผ่ว“มึงเป็นใคร แล้วมาเสือกอะไรด้วย” ชายคนนั้นปลดปล่อยอลิสให้เป็นอิสระแล้วหันไปทางเคลย์ตันอย่างเอาเรื่อง“มึงคงไม่อยากรู้หรอกว่ากูเป็นใคร” มาเฟียหนุ่มพูดเสียงเย็นแล้วหันไปสั่งลูกน้องที่อยู่ไม่ไกล“เอามันไปจัดการ”หลังจากลูกน้องของเขาได้พาชายหนุ่มคนนั้นออกไป มาเฟียหนุ่มก็ปรายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดขึ้น “แต่งตัวขนาดนี้มันคงคิดว่า..ขาย”“เคลย์” อลิสเรียกเขาเสียงเบาหวิว เธอไม่สนใจคำพูดเจ็บแสบของเขาก่อนหน้านี้ เธอเดินเข้าไปแล้วเตรียมจะกอดเขาด้วยความคิดถึงแต่มาเฟียหนุ่มเบี่ยงตัวหลบอย่างไร้เยื่อใย“เลิกเรียกผมแบบนั้นได้แล้ว”“ฉันพยายามโทรหาคุณ คุณก็ไม่รับ ไปหาที่เพนต์เฮาส์คนพวกนั้นก็ไม่ให้ฉันเข้าไป ตอนนี้ฉันได้กลับไปทำงานที่เดิมแล้วนะ”“อืม ดีใจด้วย” เขามองหน้าเธอแล้วพูดเสียงเรียบจากนั้นก็หันหลังให้เตรียมจะเดินออกไป แต่อลิสนึกขึ้นได้จึงถามเขาและคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะตามเธอมา“คุณมาที่นี่ทำไม นัดเพื่อนไว้เหรอ”“มาธุระ” เขา