พูดจบ จ้าวอี้ก็หยิบสเต๊กขึ้นมา เขาใช้มีดและส้อมค่อยๆ หั่นเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ “กินข้าวให้เสร็จก่อน แล้วค่อยคุยกัน”เย่ฮวนเอ่อร์หัวเราะเยาะ “จ้าวอี้ เธอต้องการอะไรแน่? ด้วยสถานะของเธอตอนนี้ อยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น แล้วทำไมถึงยังตามรังควานฉันอยู่? อย่าบอกนะว่าเธอรักฉัน”จ้าวอี้ชะงักขณะหั่นสเต๊ก แล้วเงยหน้าขึ้นมองเย่ฮวนเอ่อร์ “ฮวนเอ่อร์ ถ้าฉันบอกว่าฉันรักเธอจริงๆ ล่ะ?”เย่ฮวนเอ่อร์ “จ้าวอี้ คนอย่างนายรู้ไหมว่าความรักคืออะไร? รักของนายคือการนอกใจ คือการทรยศ!”จ้าวอี้ “ฮวนเอ่อร์ ฉันกับฮั่วเสวียนมันจบกันไปแล้ว เธอจะลืมมันไม่ได้เลยเหรอ?”“ผู้ชายที่นอกใจครั้งเดียว ไม่สมควรได้รับโอกาสอีกเลย! จ้าวอี้ เธอไม่ได้รักฉันหรอก เธอแค่รับไม่ได้ที่เห็นฉันไปได้ดีกับฟู่อวิ๋นเซิน มันทำให้เธอไม่พอใจ พูดตรงๆ เธอมันก็แค่คนเห็นแก่ตัวไม่อยากให้ผู้หญิงที่เคยอยู่กับตัวเองมาท้าทายอำนาจ ฉันไม่ชอบเธอแล้ว ความอยากครอบครองและความท้าทายของเธอมันกำลังครอบงำเธอ นั่นไม่ใช่ความรักเลย!”จ้าวอี้รีบพูด “ไม่ใช่นะ ฮวนเอ่อร์ ฉันรักเธอจริงๆ!”“พอได้แล้ว จ้าวอี้! ต่อให้นายรักฉันจริงๆ แต่นายรู้ไหมว่าความรักคืออะไร? รัก
รับสายแล้วก็เดินออกไปงั้นเหรอ?ฟู่อวิ๋นเซินขมวดคิ้วเข้าหากัน “รู้ไหมว่าใครโทรมา?”ผู้ช่วยหลี่ส่ายหัว “ประธานครับ เรื่องนี้ผมไม่ทราบครับ”“รู้แล้ว ลงไปได้”“ครับ”ผู้ช่วยหลี่เดินออกไปฟู่อวิ๋นเซินยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ด้วยรูปร่างสูงโปร่ง เขาดึงเนกไทที่คอหลวมเล็กน้อย เมื่อเช้าตกลงกันไว้แล้วว่าให้เธอรอเขาอยู่ในสำนักงาน ตอนเย็นจะได้ไปทานข้าวด้วยกัน เธอก็รับปากแล้ว แต่สุดท้ายเธอกลับเดินออกไปเมื่อคืนทั้งสองเพิ่งจะตกลงคบกัน ฟู่อวิ๋นเซินอยากอยู่กับเธอตลอดไป ไม่อยากห่างกันเลยเขาหยิบมือถือขึ้นมา เปิดหน้าแชทของเย่ฮวนเอ่อร์ในวีแชท แล้วเริ่มพิมพ์“คุณไปไหน…”แต่ยังไม่ทันกดส่ง โทรศัพท์ของเขาก็มีสายเข้าฟู่อวิ๋นเซินกดรับสาย “ฮัลโหล ใครครับ?”เสียงคุ้นเคยดังขึ้น “ประธานฟู่ ผมเอง”เป็นจ้าวอี้ฟู่อวิ๋นเซินไม่มีสีหน้าใดๆ “ที่แท้ก็คุณชายจ้าว โทรหาผมมีอะไร?”จ้าวอี้ยิ้ม “ประธานฟู่ ตอนนี้คุณกำลังตามหาเย่ฮวนเอ่อร์อยู่ใช่ไหม?”ฟู่อวิ๋นเซินแววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เธออยู่กับคุณ?”“ใช่ ตอนนี้เย่ฮวนเอ่อร์อยู่กับผม เรากำลังกินข้าวด้วยกัน”เย่ฮวนเอ่อร์ไปกินข้าวกับจ้าวอี้ฟู่อวิ๋นเซินหัวเราะเย
ผู้ช่วยหลี่มองฟู่อวิ๋นเซิน แล้วชี้ไปที่รอยที่คอของเขา “ประธานครับ ตรงคอของคุณมีรอยจูบ จะให้ปิดไว้ไหมครับ?”ฟู่อวิ๋นเซินมองผ่านกระจกไปเห็น เย่ฮวนเอ่อร์ฝากรอยจูบเอาไว้เมื่อคืนเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดี “ไม่ต้องปิด ไปกันเถอะ”ฟู่อวิ๋นเซินพาผู้ช่วยหลี่ออกไป พนักงานด้านนอกเห็นเขาก็กล่าวทักอย่างเคารพ “สวัสดีครับ ประธาน”ฟู่อวิ๋นเซินก้าวเดินอย่างมั่นคงมุ่งหน้าไปยังห้องประชุมพนักงานเริ่มซุบซิบกันทันที “พวกเธอเห็นรอยจูบบนคอประธานหรือเปล่าเนี่ย? โอ้พระเจ้า มีคนฝากรอยจูบไว้ให้ประธานด้วย!”“วันนี้ประชุมตอนเก้าโมงยังเลื่อนเลยนะ ผู้บริหารทั้งบริษัทก็นั่งรออยู่ ได้ยินว่ามีสาวงามอยู่ในห้องของประธานด้วย เพิ่งจะตื่นกันทั้งคู่”“โอ้พระเจ้า ฉันนึกภาพเป็นฉากๆ เลยล่ะ!”“ฉันว่าน่าจะเป็นฉากเข้าด้ายเข้าเข็มแน่ๆ”ทุกคนกำลังเม้าท์กันสนุกสนานเย่ฮวนเอ่อร์ตื่นขึ้นมาแล้ว เธอเดินเข้าไปในสำนักงาน ผู้ช่วยหลี่ได้สั่งให้คนเอาอาหารเช้ามาไว้เรียบร้อย “คุณเย่ สวัสดีครับ อาหารเช้าทั้งหมดนี้ประธานให้เตรียมไว้ให้คุณ คุณเย่สามารถทานได้เลยครับ”เย่ฮวนเอ่อร์นั่งลง “ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”ผู้ช่วยหลี่เดินออกไป ขณะน
อยู่กับเขางั้นเหรอ?ตอนนี้เธอยังไม่ได้แต่งงาน เขาเองก็ยังไม่ได้แต่งงาน ที่จริงแล้วการอยู่ด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแต่ระหว่างสองคนมีช่วงเวลาว่างห่างกันถึงสามปี เย่ฮวนเอ่อร์ยังคงรู้สึกเขินอาย “ฉันขอคิดดูก่อนนะ”ฟู่อวิ๋นเซิน “คุณหนูใหญ่เย่ ผมไม่ให้คุณมีสิทธิ์คิดหรอกนะ ผมจะอยู่กับคุณ”ฟู่อวิ๋นเซินจูบเธอในใจของเย่ฮวนเอ่อร์เหมือนมีน้ำผึ้งหลั่งไหล หวานจนเกินจะบรรยาย “ผมจะอยู่กับคุณ” เขาช่างเอาแต่ใจเหลือเกิน………ฟู่อวิ๋นเซินอุ้มเย่ฮวนเอ่อร์เข้าไปในห้องประธานของตัวเอง ช่วยเธออาบน้ำ แล้ววางเธอลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาเย่ฮวนเอ่อร์เหนื่อยมาก ล้มตัวลงนอนก็หลับทันทีฟู่อวิ๋นเซินอาบน้ำอย่างรวดเร็วแล้วขึ้นเตียง กอดเธอไว้ในอ้อมแขน สามปีหกวัน ในที่สุดเธอก็ได้กลับมาอยู่ในอ้อมแขนของเขาอีกครั้งฟู่อวิ๋นเซินจูบหน้าผากเธออย่างลึกซึ้ง พูดอย่างอ่อนโยน “คุณหนูของผม ราตรีสวัสดิ์”เธอหลับสนิทจนตื่นเองตามธรรมชาติ เมื่อเย่ฮวนเอ่อร์ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมแขนของฟู่อวิ๋นเซิน ฟู่อวิ๋นเซินก็ยังไม่ตื่นแต่พอเธอขยับตัว ฟู่อวิ๋นเซินก็ลืมตาทันที เขากอดเธอแน่นขึ้น เสียงทุ้มแหบพร่าด้วยความงัวเงีย “
ดวงตาขาวใสของเย่ฮวนเอ่อร์เริ่มแดงเรื่อ “ฟู่อวิ๋นเซิน จริงๆ แล้วคุณก็บอกฉันได้นะ”ฟู่อวิ๋นเซินมองใบหน้าหวานของเธอ “ตอนนั้นเธอเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ ส่วนฉันไม่มีอะไรเลย เป็นแค่คนจนๆ คนหนึ่ง ฉันไม่คู่ควรกับเธอ และยิ่งไม่ควรเอาเธอไปเสี่ยงกับเรื่องของฉัน”เย่ฮวนเอ่อร์ซบหน้าลงที่ลำคอเขา “คุณนี่มัน...โง่จริงๆ”ฟู่อวิ๋นเซินกอดเธอแน่น “ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว”เย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองเขา “แล้วใบหน้าของคุณล่ะ?แล้วถ้าคุณแค่แต่งงานหลอกๆ ทำไมตลอดสามปีนี้คุณถึงไม่มาหาฉันเลย?”พอพูดถึงใบหน้านั้น แววตาของฟู่อวิ๋นเซินก็ดูลึกขึ้น “เรื่องใบหน้าฉัน เธอไม่รู้อะไรเลยจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์ชะงัก “หมายความว่ายังไง?ฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดอะไร”ฟู่อวิ๋นเซินเม้มริมฝีปากแน่น ไม่พูดอะไรเย่ฮวนเอ่อร์เริ่มกระวนกระวาย “ทำไมไม่พูดล่ะ? ใบหน้าของคุณเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฉัน…”ขณะนั้นเอง เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เย่ฮวนเอ่อร์มีสายเรียกเข้าเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอคือ...จ้าวอี้สายจากจ้าวอี้จ้าวอี้โทรมาหาเธอฟู่อวิ๋นเซินก็เห็นเช่นกัน “จ้าวอี้โทรมา”เย่ฮวนเอ่อร์รับสายเสียงของจ้
ฟู่อวิ๋นเซินเปิดประตูมานั่งที่เบาะหลัง เย่ฮวนเอ่อร์กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขายื่นมือมาประคองใบหน้าเธอไว้ แล้วก้มลงจูบเธอทันทีเย่ฮวนเอ่อร์ “อืม…” เธอทั้งตัวอ่อนยวบลง ขณะเดียวกันฟู่อวิ๋นเซินก็โอบเอวบางของเธอ ยกตัวเธอขึ้นมานั่งบนตักของเขา แล้วเริ่มจูบอย่างล้ำลึกเย่ฮวนเอ่อร์ “ฟู่อวิ๋นเซิน ที่นี่ที่ไหนเหรอ?”สัมผัสได้ถึงความกังวลของเธอ ฟู่อวิ๋นเซินตอบ “ที่จอดรถของบริษัทฉัน ไม่ต้องห่วง ที่นี่ไม่มีใครมา”เย่ฮวนเอ่อร์จึงผ่อนคลายลง เธอยกมือโอบคอเขาไว้ แล้วเอื้อมไปจะถอดหน้ากากของเขาฟู่อวิ๋นเซินเบี่ยงหน้าเล็กน้อย “จะทำอะไร?”“ฉันอยากถอดหน้ากากของคุณออก คุณใส่ไว้แบบนี้ไม่เหนื่อยเหรอ?”ฟู่อวิ๋นเซิน “แต่เธอไม่กลัวหน้าฉันทำให้หมดอารมณ์เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์เลิกคิ้ว “ก็ลองดูสิ”เธอยื่นมือถอดหน้ากากของเขาออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่ฟู่อวิ๋นเซิน “ใส่ไว้น่าจะดีกว่านะ”“ฟู่อวิ๋นเซิน คุณนี่มันโรคจิตชัดๆ จะทำเรื่องแบบนี้ทั้งที ยังจะใส่หน้ากากอยู่ได้ ฉันก็แค่อยากเห็นหน้าคุณ”เย่ฮวนเอ่อร์ประคองใบหน้าเขา แล้วเริ่มจูบเขาฟู่อวิ๋นเซินรู้สึกได้ถึงริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอแตะลงบนใบหน้าเขา เธอจูบตร