กระทั่งเที่ยง พอถึงเวลาอาหารกลางวัน พวกเขาถึงได้มีโอกาสพักหายใจบ้างเวลานี้ จู่ ๆ โทรศัพท์ของหรงฉือก็ดังขึ้นเป็นข้อความที่ส่งมาจากฉู่จื่อหลาน ถามเธอว่าตอนบ่ายอยากจะไปเล่นสกีด้วยกันกับเธอไหมหรงฉือส่งข้อความเสียงตอบกลับไปว่า “วันนี้ฉันมีงานต้องทำ คงไปไม่ได้แล้ว เธอไปเถอะ”ฉู่จื่อหลาน “โอเค”ตอนบ่าย ขณะที่หรงฉือออกมาจากห้องหนังสือของหนานจื้อจือเพื่อไปเอาน้ำ ฉู่จื่อหลานก็ส่งข้อความมาหาเธออีกครั้งครั้งนี้ ส่งมาเป็นรูปถ่ายหลายใบและคนที่อยู่ในรูป ก็คือเฟิงถิงเซิน หลินอู๋ เฟิงจิ่งซินแล้วยังมีเฮ่อฉางปั่วกับตานตาน ทั้งหมดห้าคนจากนั้น ฉู่จื่อหลานยังส่งข้อความมาอีกว่า “ฉันกับเพื่อน ๆ กำลังเล่นสกีอย่างอารมณ์ดีอยู่เลย คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญเจอพวกเขา ช่างเป็นตัวทำลายบรรยากาศจริงๆ!”หรงฉือกดดูแค่รูปเดียว หลังจากรู้ว่าเป็นพวกเขา รูปถัดไปเธอก็ไม่เปิดดูอีกพอเห็นข้อความที่ฉู่จื่อหลานส่งมา เธอก็ตอบกลับด้วยข้อความเสียงอย่างใจเย็น “พวกเธอเล่นให้สนุกเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกเขาหรอก”ฉู่จื่อหลานตอบกลับด้วยข้อความเสียงมาอย่างรวดเร็ว “พวกเราอาจจะอยู่จนดึก เธออยากมาไหม?”หรงฉือ “ไม่ล่ะ ทางนี้ฉันยังมี
อาจเพราะเดาเหตุผลที่ลังเลเธอได้ เฮ่อฉางปั่วจึงเอ่ยว่า “ผมสามารถรับรองคุณได้ว่า จะไม่มีวันเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับงานระหว่างผมกับลุงของคุณอย่างเด็ดขาด”ฟังมาถึงตรงนี้ หรงฉือก็เอ่ย “คุณแน่ใจนะ?”“แน่ใจ”หรงฉือรู้ว่าตอนนี้บริษัทของลุงเธออยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากเธอลังเลเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ย “ตกลง”“ว่างเมื่อไรแล้วติดต่อผมได้นะ ผมจะนัดเวลาเจอกันเอง”หรงฉือเอ่ย “ได้ค่ะ”พูดมาถึงตรงนี้ เฮ่อฉางปั่วก็มองผมสีดำของเธอที่ถูกลมหนาวพัดจนยุ่งเล็กน้อย จากนั้นเอ่ย “คืนนี้ลมหนาว เข้าไปเถอะ”เมื่อฟังเขาพูดประโยคนี้ หรงฉือก็ชะงักไปเพราะคำพูดนี้ เหมือนที่เฟิงถิงเซินพูดกับเธอเมื่อครู่นี้เลยเธอพยักหน้าเล็กน้อย ไม่พูดอะไรอีก และเข้าไปในรถเฮ่อฉางปั่วไม่ขยับตอนที่รถผ่านเขาไป หรงฉือลดกระจกลงแล้วพยักหน้ามาทางเขาเล็กน้อย เพื่อเป็นการทักทาย จากนั้นก็เหยียบคันเร่งและจากไปเมื่อเห็นรถของเธอขับไปไกลแล้ว เฮ่อฉางปั่วจึงจะขึ้นรถและขับออกไปหรงฉือกลับมาถึงบ้านตระกูลหรงแล้วคุณยายหรงกับคู่สามีภรรยาหรงฉ่างเซิ่งยังไม่เข้านอน ส่วนพี่น้องหรงสวินกับหรงอวิ๋นเฮ่อกลับขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้นบนแล้วเห
เฟิงจิ่งซินโอบรอบคอเธอ แล้วซุกใบหน้าเล็กเข้ากับซอกคอของเธอเพื่อหลบลมหนาวเสื้อผ้าที่หรงฉือสวมใส่ทั้งนุ่มและอบอุ่น เธอซุกไซ้ซอกคอแล้วอยู่ในอ้อมกอดของหรงฉืออย่างมีความสุขความจริงเฟิงถิงเซินเป็นคนตรงต่อเวลามากตอนที่หรงฉืออุ้มเฟิงจิ่งซินมาถึงลานจอดรถ รถของเฟิงถิงเซินก็ขับเข้ามาพอดีเมื่อเห็นพวกเธอ รถก็จอดอยู่ตรงปลายเท้าของหรงฉือเห็นเฟิงถิงเซินมาถึงแล้ว เฟิงจิ่งซินก็ยังไม่ลงมาจากอ้อมแขนของหรงฉือ แต่ลดกระจกลง พูดออดอ้อนเฟิงถิงเซินที่นั่งอยู่ในรถว่า “พ่ออุ้มหนูเข้าไปหน่อยค่ะ”เฟิงถิงเซินไม่พูดอะไร ลงมาจากรถ และเข้ามาอุ้มเฟิงจิ่งซินเฟิงจิ่งซินแกว่งเท้าน้อย ๆ อยู่ในอ้อมแขนเฟิงถิงเซินอย่างมีความสุขตอนที่เฟิงถิงเซินขยับเข้ามาใกล้ หรงฉือก็ได้กลิ่นน้ำหอมของหลินอู๋จากตัวเขาอีกครั้งตอนที่เขานั่งอยู่ข้างเธอก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้กลิ่นน้ำหอมนี่เลยนั่นก็หมายความว่า หลังจากเขาแยกจากพวกเขา ก็ไปที่บ้านตระกูลซุนเฟิงถิงเซินมองเธอ พร้อมกับเอ่ย “คืนนี้ลมหนาว กลับไปเถอะ”หรงฉือถอยหลังหนึ่งก้าว จากนั้นก็ตอบว่า “รู้แล้ว”เฟิงจิ่งซินเอ่ยอย่างมีความสุขว่า “ลาก่อนค่ะแม่”หรงฉือ “อืม”เฟิงถิงเซิ
หนานจื้อจือเอ่ย “ได้”เฟิงถิงเซินพยักหน้า จากนั้นก็หันมามองหรงฉือ “คืนนี้จะกลับบ้านไหม?”หรงฉือยังคงคิดตามเนื้อหาที่เขาเพิ่งพูดกับหนานจื้อจือ พอจู่ ๆ เขาพูดกับเธอ เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตั้งสติได้แล้วตอบไปว่า “ไม่กลับ”เฟิงถิงเซินพยักหน้า พร้อมกับเอ่ย “รู้แล้ว” จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน แล้วพูดว่า “คืนนี้ผมจะเข้ามารับซินซินกลับ”หมายความว่าเขาจะกลับแล้วหรงฉือเอ่ยอย่างเย็นชา “เข้าใจแล้ว”เฟิงถิงเซินไม่ได้พูดอะไรกับเธออีก เดินไปทางคุณหญิงหรง “คุณหญิง ผมยังมีธุระ ขอตัวกลับก่อนนะครับ”คุณหญิงหรงไม่ได้ลุกขึ้น น้ำเสียงก็เย็นชามากเช่นกัน “เดินทางดี ๆ ฉันไม่ส่งนะ”เฟิงถิงเซินไม่ได้โกรธเคืองความเฉยชาของคุณหญิงหรง เขายังหันไปทางหรงฉ่างเซิ่ง แล้วพยักหน้าให้เขาเล็กน้อยเหมือนเป็นการทักทาย แล้วหมุนตัวก่อนจะเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงไปเมื่อเห็นเฟิงถิงเซินเดินออกจากโรงแรม เฮ่อฉางปั่วก็ชะงักไปก่อนจะลงจากรถเฟิงถิงเซินไม่นานก็ขึ้นรถจากไปแล้วเฮ่อฉางปั่วมองและนั่งนิ่งอยู่ในรถหลังงานเลี้ยงจบลง หนานจื้อจือถึงจะออกไปกับอวี้มั่วซวินวันนี้เฟิงจิ่งซินกินขนมมากเกินไป หลังจากเริ่มรับประทานอาหารเย็น
หลังจากนั้น พวกเขาก็ไม่ได้พูดคุยกันอีกเมื่อก่อนลูกพี่ลูกน้องทั้งสองของหรงฉือแทบไม่เคยเจอเฟิงถิงเซินเลยจริง ๆ ตอนนี้พอเห็นตัวจริงแล้ว จึงมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยเฟิงถิงเซินเป็นผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงมานานหลายปี แม้เขาจะไม่ได้ตั้งใจแสดงออก แต่ทุกอิริยาบถล้วนแฝงไปด้วยอำนาจของผู้ที่อยู่เหนือคนอื่นมายาวนานเห็นพวกเขามองมา เขาก็เหลือบสายตามองกลับไปเมื่อไม่กล้าสบตากับเขา ก็เผลอหลบสายตาโดยไม่รู้ตัว แล้วไม่กล้ามองอีกเฟิงถิงเซินไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ไม่คิดจะทักทายพวกเขา แค่เบือนสายตาไปอย่างเงียบ ๆเฟิงถิงเซินคือคนที่หรงฉือรักหรงฉือพุ่งเข้าไปเต็มแรง หลายปีมานี้ก็ยังออกมาไม่ได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เฟิงเถิงเซินปฏิบัติต่อหลานสาวตนแบบนี้ หากจะบอกว่าหรงฉ่างเซิ่งไม่มีความเคืองแค้นต่อเฟิงถิงเซิน นั่นคงเป็นไปไม่ได้แต่ถึงเขาจะมีความเคืองแค้นแล้วอย่างไร?ตระกูลหรงไม่สามารถทำอะไรเฟิงถิงเซินได้ตอนนี้ในเมื่อเฟิงถิงเซินมาถึงแล้ว หรงฉ่างเซิ่งในฐานะเจ้าบ้าน จึงทำได้เพียงต้อนรับอย่างสุภาพเหมือนแขกทั่วไป ลุกขึ้นยืน ยกแก้วขึ้นแล้วเอ่ย “ไม่รู้ว่าประธานเฟิงจะมา ถ้ามีจุดไหนดูแลไม่ทั่วถึง ขออ
เมื่อได้ยินว่าเฟิงถิงเซินไปบ้านตระกูลหรง หลินอู๋กลับไม่ได้ตื่นตระหนกคุณย่าเฟิงกับคุณยายบ้านตระกูลหรงสนิทสนมกันขนาดนั้น วันเกิดครบเจ็ดสิบปีของคุณยายบ้านตระกูลหรง เธอเองมาร่วมไม่ได้ ย่อมต้องสั่งให้เฟิงถิงเซินไปร่วมด้วยตนเองอยู่แล้วเรื่องนี้เธอรู้มานานแล้วแต่การที่ตอนนี้เฟิงถิงเซินไปบ้านตระกูลหรง ถึงแม้จะเป็นคำสั่งของคุณย่าเฟิงจนทำให้เขาจำเป็นต้องไป เธอก็ยังไม่ค่อยพอใจนักเมื่อเห็นว่าทุกคนในงานพอรู้ว่าเฟิงถิงเซินไปบ้านตระกูลหรง ไม่ได้มาที่นี่ ก็พากันคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฟิงถิงเซินเกิดปัญหาขึ้น เธอจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณย่าเฟิงกับคุณยายหรงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถิงเซินเพียงแต่ทำตามคำสั่งของผู้ใหญ่ ไปนั่งเล่นที่บ้านตระกูลหรงสักครู่เท่านั้นเอง”ก่อนหน้านี้มีข่าวลือจริง ๆ ว่าตระกูลหรงกับตระกูลเฟิงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันหลายปีมานี้ทุกคนไม่เคยเห็นตระกูลหรงกับตระกูลเฟิงไปมาหาสู่กันเลย จึงคิดว่าเป็นเพียงข่าวลือตอนนี้เมื่อฟังความหมายของหลินอู๋ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริงเหรอ?ในขณะนั้น ข้างนอกก็มีคนเดินเข้ามาทันทีอีกฝ่ายอุ้มกล่องของขวัญกล่องหนึ่ง เดินเข้าม