“ครับๆ ไว้ผมจะส่งรูปที่เราถ่ายวันนี้ให้” ขณะเอ่ยก็โน้มตัวมาใกล้ๆ อามาเรีย เพราะรังเกียจ เธอจึงผลักเขาให้ออกห่าง แล้วกระโดดลงจากเตียงรีบควานหาเสื้อผ้ามาสวมทันที
“ถ้าจะส่งก็ส่งผ่านมาทางพี่ลูกศรเลยนะ ระหว่างเราจบแค่นี้ เพราะฉันไม่ได้อยากมีเพื่อนสาวเพิ่ม” “ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับได้น่าฟัง แต่สำหรับอามาเรียกลับไม่เป็นเช่นนั้น เฟร์เรกลับมาเก็บกล้องและอุปกรณ์ใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย เมื่อเสร็จก็กลับออกไป ปล่อยให้อามาเรียยืนหน้าแดงก่ำ ทั้งโกรธ ทั้งอาย เพราะหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ ที่อ่อยใครไม่อ่อย กลับมาอ่อยชายที่ไม่ใช่ชาย “กรี๊ดดดด!!! ไอ้บ้า…บ้าๆ” เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งของอามาเรีย ทำให้ลูกศรรีบเข้าไปดู ส่วนเฟร์เรนั้นได้แต่หัวเราะชอบใจ ก่อนจะเดินผิวปากตรงไปยังรถอย่างอารมณ์ดี “หยุด ไม่ต้องถามอะไรเลยนะพี่ลูกศร” พอเห็นหน้าผู้จัดการส่วนตัวที่ตั้งท่าจะถาม อามาเรียก็รีบยกมือห้าม “สรุป…นี่มีอะไรกันแล้วเหรอ” แม้จะถูกห้าม แต่ลูกศรก็อดที่จะถามไม่ได้จ“อ้อ…นิดหน่อยน่ะจ้ะ” เพลงพิณเอ่ยรับ ก่อนจะตั้งสติทำงานของตัวเธอต่อ กระทั่งได้เวลาเลิกงาน ขณะที่ทันตแพทย์สาวกำลังก้มๆ เงยๆ เก็บของบนโต๊ะ ใครคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา“เลิกงานแล้วใช่มั้ยครับ” เสียงคุ้นหูที่ดังขึ้น ก็ทำเอาเธอถึงกับสะดุ้ง“คุณนี่! ฉันตกใจหมดเลย”“พึ่งรู้ว่าคุณขวัญอ่อน” เฟร์เรเอ่ยยิ้มๆ แต่คนฟังกลับแยกเขี้ยวใส่“ชิส์…ใครจะไม่ขวัญอ่อน อยู่ๆ ก็โผล่พรวดเข้ามาแบบนี้ นี่ถ้ามีไม้เบสบอลอยู่ในมือ ฉันฟาดคุณไม่เลี้ยงเหมือนตอนนั้นแน่ๆ” ตอนนั้นที่ว่า คือตอนที่อยู่ๆ ฟาโรห์ก็โผล่เข้าไปในบ้านของเพลงพิณ ด้วยเหตุผลว่าตนเข้าบ้านผิด ซึ่งถึงตอนนี้ทันตแพทย์สาวก็ยังเข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นคือเฟร์เร“คุณนี่โหดกว่าที่ผมคิดไว้อีก” หนุ่มมาดเซอร์เออออตามน้ำไปก่อน เพราะเขาตั้งใจให้เธอได้พบกับน้องชายฝาแฝดของเขาอยู่แล้ว“แน่ล่ะ”“สรุปคุณมีธุระอะไรจะคุยกับฉัน...หืม”
“ที่นี่สวยจังเลยค่ะ” นี่คือประโยคแรกที่เพลงพิณเอ่ยเมื่อมาถึงร้านอาหาร เธอหย่อนตัวลงนั่งบนเบาะนุ่มๆ ตรงหน้าคือวิวสวยๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตอนนี้พระอาทิตย์ยามเย็นกำลังจะเลือนหายลับไปจากขอบฟ้า แต่ก็ยังคงทอแสงสีทองยามอัสดงที่ระยิบระยับ“ชอบมั้ยครับ”“ชอบค่ะ” ต่อให้เป็นร้านอาหารริมทาง แต่ถ้าได้นั่งทานกับเฟร์เร เพลงพิณก็ดูเหมือนจะชอบหมด ไม่เคยคิดว่าหนุ่มมาดเซอร์ๆ จะโรแมนติกกับเขาได้เหมือนกัน“ดีใจที่คุณชอบ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น จากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกันเลือกว่ามื้อนี้จะทานอะไร เมื่อสรุปลงตัวก็สั่งกับพนักงานที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่แล้วและขณะที่รออาหารมาเสิร์ฟ เพลงพิณก็มองบรรยากาศเลิศๆ ตรงหน้าอย่างเพลินตา นานๆ จะมานั่งกินข้าวริมน้ำแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ เพราะบรรยากาศมันช่วยให้ผ่อนคลายได้ดี กระทั่งสมองหวนคิดถึงบุหลันขึ้นมา นั่นเพราะยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ เกิดมองหน้ากันไม่ติดจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่“คุณรู้ใช่มั้ย ว่าส้มชอบคุณ”“ผมรู้ครับ”“แล้วคุณคิดยังไงกับส้มคะ”&ldquo
“ก็มันน่าคิดออก” ได้ยินแบบนี้ เฟร์เรก็ทำท่าจะดีดหน้าผากเธออีกครั้ง นั่นทำให้เพลงพิณต้องรีบห้าม “อย่าดีดนะ เจ็บแล้ว”“คุณนี่ ไม่ไว้ใจกันเลย”“เอ้า! หรือไม่จริง”“ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นอาจทำ แต่สำหรับผม ไม่…ก็คือไม่” เฟร์เรตอบเสียงหนักแน่น พลอยทำให้เพลงพิณยิ้มออกและรู้สึกชอบเขามากขึ้นไปอีก ผู้ชายดีๆ แบบนี้หาได้ที่ไหน เข้าบ้านไปเอาไม้เบสบอลมาตีหัวแล้วลากเลยซะดีมั้ยเนี่ย รวมทั้งร้องขออยู่ในใจว่า รักนี้…เจ้ขอ ได้ไหมส้ม...กรี๊ดดดด!!!“แล้วคุณให้เหตุผลอะไรไป เธอถึงปล่อยให้คุณรอด ทั้งๆ ที่ลงทุนทั้งจูบ ทั้งกอด อ้อ…มีเปลือยหน้าอกด้วยแบบนั้น” อารมณ์หึงนิดๆ กำลังมา แต่ดูเหมือนเพลงพิณจะยังไม่รู้ตัว“ผมบอกเธอไปว่าผมไม่ใช่ผู้ชาย แล้วแสดงละครนิดๆ หน่อยๆ เธอก็เชื่อสนิทใจ ผมก็เลยรอดปลอดภัย ไม่เสียตัวให้คนที่ผมไม่ได้รัก” เฟร์เรเน้นคำว่า ‘คนที่ผมไม่ได้รัก’ ให้ชัดๆ พร้อมกับสบตาเพลงพิณไปด้วย แม้รอบข้างจะมืด แต่แสงสว่างจากไฟบนถนนและริมรั้วที่ส่องเข้ามาก็ทำใ
แม้จะไม่เคยเสียจิ้นกินตับกับใคร แต่เรื่องจูบ เพลงพิณก็พอมีประสบการณ์มาบ้าง แหม…เธออายุปูนนี้แล้วนี่นา ไม่ใช่สาวรุ่นวัยขบเผาะเสียเมื่อไหร่ แต่ดูท่าประสบการณ์จะน้อยนิดไปหน่อย เพราะตามความช่ำชองของเฟร์เรไม่ทัน ส่งผลให้เพลงพิณหูอื้อตาลายคล้ายจะเป็นลม ยามที่ริมฝีปากอุ่นจัดบดขยี้ลงบนปากอิ่ม บางครั้งก็อ้อยอิ่งคลอเคลียหยอกเย้าเอาใจการจูบโต้ตอบของเพลงพิณทำให้เฟร์เรพอใจ แม้เธอจะเก้ๆ กังๆ บ่งบอกว่ายังอ่อนประสบการณ์ไปบ้าง แต่เขาเชื่อว่าอีกไม่นานจะทำให้เธอเร่าร้อนได้ไม่ยาก ปากอุ่นจัดของเฟร์เรยังคงทำหน้าที่มอบจูบให้คนในอ้อมกอดอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่เขาจะยกมืออีกข้างขึ้นมาจับคางมนของเพลงพิณแล้วสัมผัสเบาๆ เพื่อให้ริมฝีปากเธอเผยอออก จากนั้นก็ส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปาก เพื่อดูดดื่มความหวานจากเธอ“อื้อ…” เสียงครางคล้ายจะต่อต้านดังมาจากเพลงพิณ นั่นเพราะความเร่าร้อนที่มากขึ้นของเฟร์เร ทำให้เธอถึงกับขาอ่อน อดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นจูบเขามากถึงขนาดนี้เชียวเหรอ ไหนจะกอดแน่นๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้อีก แน่นเสียจนเธอหายใจไม่ออก เกือบจะแทรกเข้าไปในตัวเขาได้
เพราะไม่ต้องการให้เกิดความหมางใจกับบุหลัน เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกกันไปมากกว่านี้ เพลงพิณจึงตัดสินใจที่จะคุยแบบเปิดอกกันไปเลย เธอนัดแนะให้บุหลันขึ้นไปพบที่ชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาล ที่ถูกออกแบบให้เป็นสวนย่อมๆ“นัดเค้ามา มีอะไรหรือเปล่าเจ้” บุหลันพอจะรู้ว่าเพลงพิณนั้นจะคุยอะไรกับเธอ แต่ก็ไม่วายถามออกไป“ส้ม…คนนี้เจ้ขอ”“หืม…เจ้จะขอใคร” แม้จะรู้ว่าใคร แต่บุหลันก็ยังถาม เห็นสีหน้าเครียดๆ ของเพลงพิณแล้วก็อยากอำต่อ คนอะไร บทจะห้าวก็ห้าว ไม่แคร์นางสาวที่ใช้นำหน้าชื่อตัวเองเลย“คนที่ส้มกำลังขายขนมจีบเขาอยู่น่ะ”“อ้อ…เบคน่ะเหรอ” บุหลันแสร้งทำเป็นร้องอ๋อ“แกไปจีบคนอื่นเลยส้ม คนนี้เจ้ขอว่ะ”“เอ้า! เจ้ อยู่ๆ มาขอกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ”“อืม” เพลงพิณเอ่ยรับ ก็จะให้เธออ้อมค้อมไปทำไม เปิดอก พูดกันไปตรงๆ มันนี่แหละ จะได้เข้าใจ แต่จะว่าไป เกิดมาเธอก็เพิ่งจะทำแบบนี้นี่นา“ส้มขอเหตุและผลของการถอนตัวหน่อยเจ้ ถ้าฟังขึ้
“นี่ก็รู้ดี”“แล้วถ้าไม่รู้ ฉันจะเป็นเพื่อนสนิทแกเหรอยัยโปรด”“ย่ะ…เพราะฉันก็มีชะนีอย่างแกเป็นเพื่อนสาว เป็นเพื่อนแท้คนเดียวที่หาจากไหนไม่ได้ของฉันเหมือนกัน” เพราะคำพูดซึ้งๆ ของโปรดทำเอาต่อมน้ำตาพานจะไหล เพลงพิณจึงเฉไฉ“โอ๊ย! พอๆ อย่ามาทำซึ้งตอนนี้ เดี๋ยวฉันเป่าปี่เป็นพระอภัยอีกรอบ”“เรียกนางผีเสื้อสมุทรเหรอยะ” โปรดแซวทันที“เรียกเบคมาต่างหากเล่า แค่คิดถึงก็มีความสุข...กรี๊ดดด!!!”“บทแกจะเพี้ยนนี่ก็เพี้ยนจนโรงพยาบาลบ้าไม่รับรักษาเลยนะ ยัยบ้า” เอ่ยจบก็ส่ายหน้าให้คนข้างๆ ทันที โปรดมีเพื่อนไม่เยอะ แต่ถึงไม่เยอะก็อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ อยู่กับเพื่อนดีแค่ไม่กี่คน ยังดีกว่ามีเพื่อนเป็นสิบเป็นร้อย แต่หาความจริงใจให้กันไม่ได้เลยความสัมพันธ์ระหว่างเพลงพิณและเฟร์เรนั้น เรียกได้ว่าหวานหยด น้ำตาลเรียกพี่ ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างเดินเข้านอกออกภายในบ้านของกันและกันได้อย่างส
“ครับ” เฟร์เรเอ่ยรับไปตรงๆ นั่นทำเอาเพลงพิณคอตก“ฉันขอโทษ คือฉันไม่ได้ตั้งใจจะลวนลามน้องคุณนะ ก็…ฉันนึกว่าเป็นคุณนี่นา”“คุณนี่มันจริงๆ เลยนะ” จากที่โกรธเธออยู่ พอมาเจอประโยคนี้ของเพลงพิณเข้า เฟร์เรก็ถึงกับโกรธไม่ลง ยิ่งได้เห็นสีหน้า รวมถึงท่าทางที่กำลังอ้อนให้เขาหายโกรธด้วยแล้ว เฟร์เรก็ใจอ่อนยวบ“ฉันขอโทษ อย่าโกรธเลยนะคะ...นะ” เพลงพิณสวมวิญญาณโชคดี เข้าไปสวมกอดชายหนุ่มไว้แล้วคลอเคลีย ออดอ้อนขอให้หายโกรธ แต่พอเห็นว่าเขายังนิ่งๆ ก็ชูนิ้วก้อยออกไป“ดีกันนะ...นะ อย่าโกรธกันเลย”“ตามผมมานี่” เสียงทุ้มเอ่ยบอก ก่อนจะจูงเพลงพิณให้ตามขึ้นไปชั้นบน เฟร์เรเผลอยิ้มกับการง้อของคนรัก แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะหายโกรธเธอตอนนี้“คุณเบค คุณจะพาฉันไปไหนคะ ปล่อยก่อน” ทันตแพทย์สาวรีบห้าม เมื่อเห็นเขาพาเธอเข้ามายังห้องนอน ใจนั้นเต้นตุ๋มๆ ต้อมๆ ว่าเขาอาจลงโทษเธอด้วยการทำมิดีมิร้าย ถ้าเป็นจริง เธอจะทำยัง
ริมฝีปากหยักจูบคลอเคลียหยอกเย้าไปบนริมฝีปากอิ่มที่แสนหอมหวาน เพลงพิณชักจะหายใจไม่ออก ทั้งประหม่า หวั่นไหว จน แข้งขาอ่อน นั่นเพราะเฟร์เรแทบไม่เปิดช่องให้เธอได้สูดอากาศเข้าปอดหรือผลักไสสัมผัสที่เขาตั้งใจมอบให้มืออุ่นๆ ลูบไล้ทั่วแผ่นหลังของคนในอ้อมกอด จากจูบคล้ายจะลงโทษค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นเรียกร้อง เฟร์เรส่งลิ้นร้อนชื้นเข้าสู่โพรงปากของเพลงพิณได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ก่อนจะตวัดปลายลิ้นหยอกเอินกับปลายลิ้นเล็กๆ ของเธอ ส่วนเพลงพิณนั้นก็ปล่อยใจไปกับสัมผัสที่กำลังเกิดขึ้น เธอเคลิบเคลิ้มจนใจนั้นล่องลอย เผลอจูบตอบเขาไปครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะมาสะดุ้งโหยง ผลักอกชายหนุ่มให้ออกห่างอย่างอัตโนมัติ เมื่อรับรู้ว่าตอนนี้เสื้อเชิ้ตตัวที่สวมอยู่กำลังจะถูกถอดออกไปจากร่างกาย สาบเสื้อมันคลอเคลียอยู่แถวๆ หัวไหล่ เฟร์เรนี่ร้ายนัก มาถอดเสื้อเธอเอาตอนไหน ทำไมไม่เห็นจะรู้ตัวเลยสักนิด“จะทำอะไรคะ” รู้อยู่ว่าเฟร์เรจะทำอะไร แต่เพลงพิณก็ยังถาม ยิ่งได้สบตาเขาก็ยิ่งอายและได้รู้คำตอบว่าเขาจะทำอะไร“จะลงโทษ ที่คุณพิณกล้าทำให้ผมหึง&r
รูปร่างสมส่วนของเฟร์เรทำเอาเลือดกำเดาของเพลงพิณแทบพุ่ง เธอรู้ว่าเขาสูง และคาดเดาเอาเองว่าต้องหุ่นดี มีซิกแพค และมันก็มีจริงๆ ซิกแพคลอนสวยซึ่งกว่าจะได้มาครอง คงต้องผ่านการออกกำลังกายและดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ช่างท้าทายสายตาของทันตแพทย์สาวยิ่งนัก ไหนจะรอยสักรูปตาข่ายดักฝันร้ายที่แต่งด้วย ปีกนกและกุญแจบนอกซ้ายนั่นอีก“อุ๊ย!” เพลงพิณอุทานออกมา เมื่ออยู่ๆ เฟร์เรก็คว้ามือเธอไปวางบนรอยสักบนหน้าอก แล้วลูบฝ่ามือลงต่ำ กระทั่งถึงหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม และสัมผัสเช่นนี้กับเธอบ้าง นั่นทำเอาเพลงพิณแทบเป็นลม“เราต่างอยากสัมผัสร่างกายของกันและกัน ใช่มั้ยครับ”“ค่ะ” ทันตแพทย์สาวเอ่ยอายๆ“ผมให้คุณพิณเริ่มก่อน” ว่าแล้วก็นำทางมือของเพลงพิณให้ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของตัวเอง แต่เพียงครู่เดียวเขาก็ปล่อยให้เธอสัมผัสร่างกายเขาอย่างที่ใจนั้นต้องการเพลงพิณค่อยๆ ไล้ฝ่ามือไปตามลำตัวเปล่าเปลือยของเฟร์เร ซิกแพคเขาสวยจริงๆ ไหนจะหน้าอกและนมชมพูสองข้างตรงหน้านี่อีก เธอตัดความชมพูล่อตาล่อใจทิ้งไปชั่วคราว ก่อนจะไล้มือพร้อมกั
ริมฝีปากหยักจูบคลอเคลียหยอกเย้าไปบนริมฝีปากอิ่มที่แสนหอมหวาน เพลงพิณชักจะหายใจไม่ออก ทั้งประหม่า หวั่นไหว จน แข้งขาอ่อน นั่นเพราะเฟร์เรแทบไม่เปิดช่องให้เธอได้สูดอากาศเข้าปอดหรือผลักไสสัมผัสที่เขาตั้งใจมอบให้มืออุ่นๆ ลูบไล้ทั่วแผ่นหลังของคนในอ้อมกอด จากจูบคล้ายจะลงโทษค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นเรียกร้อง เฟร์เรส่งลิ้นร้อนชื้นเข้าสู่โพรงปากของเพลงพิณได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ก่อนจะตวัดปลายลิ้นหยอกเอินกับปลายลิ้นเล็กๆ ของเธอ ส่วนเพลงพิณนั้นก็ปล่อยใจไปกับสัมผัสที่กำลังเกิดขึ้น เธอเคลิบเคลิ้มจนใจนั้นล่องลอย เผลอจูบตอบเขาไปครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะมาสะดุ้งโหยง ผลักอกชายหนุ่มให้ออกห่างอย่างอัตโนมัติ เมื่อรับรู้ว่าตอนนี้เสื้อเชิ้ตตัวที่สวมอยู่กำลังจะถูกถอดออกไปจากร่างกาย สาบเสื้อมันคลอเคลียอยู่แถวๆ หัวไหล่ เฟร์เรนี่ร้ายนัก มาถอดเสื้อเธอเอาตอนไหน ทำไมไม่เห็นจะรู้ตัวเลยสักนิด“จะทำอะไรคะ” รู้อยู่ว่าเฟร์เรจะทำอะไร แต่เพลงพิณก็ยังถาม ยิ่งได้สบตาเขาก็ยิ่งอายและได้รู้คำตอบว่าเขาจะทำอะไร“จะลงโทษ ที่คุณพิณกล้าทำให้ผมหึง&r
“ครับ” เฟร์เรเอ่ยรับไปตรงๆ นั่นทำเอาเพลงพิณคอตก“ฉันขอโทษ คือฉันไม่ได้ตั้งใจจะลวนลามน้องคุณนะ ก็…ฉันนึกว่าเป็นคุณนี่นา”“คุณนี่มันจริงๆ เลยนะ” จากที่โกรธเธออยู่ พอมาเจอประโยคนี้ของเพลงพิณเข้า เฟร์เรก็ถึงกับโกรธไม่ลง ยิ่งได้เห็นสีหน้า รวมถึงท่าทางที่กำลังอ้อนให้เขาหายโกรธด้วยแล้ว เฟร์เรก็ใจอ่อนยวบ“ฉันขอโทษ อย่าโกรธเลยนะคะ...นะ” เพลงพิณสวมวิญญาณโชคดี เข้าไปสวมกอดชายหนุ่มไว้แล้วคลอเคลีย ออดอ้อนขอให้หายโกรธ แต่พอเห็นว่าเขายังนิ่งๆ ก็ชูนิ้วก้อยออกไป“ดีกันนะ...นะ อย่าโกรธกันเลย”“ตามผมมานี่” เสียงทุ้มเอ่ยบอก ก่อนจะจูงเพลงพิณให้ตามขึ้นไปชั้นบน เฟร์เรเผลอยิ้มกับการง้อของคนรัก แต่มันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะหายโกรธเธอตอนนี้“คุณเบค คุณจะพาฉันไปไหนคะ ปล่อยก่อน” ทันตแพทย์สาวรีบห้าม เมื่อเห็นเขาพาเธอเข้ามายังห้องนอน ใจนั้นเต้นตุ๋มๆ ต้อมๆ ว่าเขาอาจลงโทษเธอด้วยการทำมิดีมิร้าย ถ้าเป็นจริง เธอจะทำยัง
“นี่ก็รู้ดี”“แล้วถ้าไม่รู้ ฉันจะเป็นเพื่อนสนิทแกเหรอยัยโปรด”“ย่ะ…เพราะฉันก็มีชะนีอย่างแกเป็นเพื่อนสาว เป็นเพื่อนแท้คนเดียวที่หาจากไหนไม่ได้ของฉันเหมือนกัน” เพราะคำพูดซึ้งๆ ของโปรดทำเอาต่อมน้ำตาพานจะไหล เพลงพิณจึงเฉไฉ“โอ๊ย! พอๆ อย่ามาทำซึ้งตอนนี้ เดี๋ยวฉันเป่าปี่เป็นพระอภัยอีกรอบ”“เรียกนางผีเสื้อสมุทรเหรอยะ” โปรดแซวทันที“เรียกเบคมาต่างหากเล่า แค่คิดถึงก็มีความสุข...กรี๊ดดด!!!”“บทแกจะเพี้ยนนี่ก็เพี้ยนจนโรงพยาบาลบ้าไม่รับรักษาเลยนะ ยัยบ้า” เอ่ยจบก็ส่ายหน้าให้คนข้างๆ ทันที โปรดมีเพื่อนไม่เยอะ แต่ถึงไม่เยอะก็อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ อยู่กับเพื่อนดีแค่ไม่กี่คน ยังดีกว่ามีเพื่อนเป็นสิบเป็นร้อย แต่หาความจริงใจให้กันไม่ได้เลยความสัมพันธ์ระหว่างเพลงพิณและเฟร์เรนั้น เรียกได้ว่าหวานหยด น้ำตาลเรียกพี่ ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างเดินเข้านอกออกภายในบ้านของกันและกันได้อย่างส
เพราะไม่ต้องการให้เกิดความหมางใจกับบุหลัน เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกกันไปมากกว่านี้ เพลงพิณจึงตัดสินใจที่จะคุยแบบเปิดอกกันไปเลย เธอนัดแนะให้บุหลันขึ้นไปพบที่ชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาล ที่ถูกออกแบบให้เป็นสวนย่อมๆ“นัดเค้ามา มีอะไรหรือเปล่าเจ้” บุหลันพอจะรู้ว่าเพลงพิณนั้นจะคุยอะไรกับเธอ แต่ก็ไม่วายถามออกไป“ส้ม…คนนี้เจ้ขอ”“หืม…เจ้จะขอใคร” แม้จะรู้ว่าใคร แต่บุหลันก็ยังถาม เห็นสีหน้าเครียดๆ ของเพลงพิณแล้วก็อยากอำต่อ คนอะไร บทจะห้าวก็ห้าว ไม่แคร์นางสาวที่ใช้นำหน้าชื่อตัวเองเลย“คนที่ส้มกำลังขายขนมจีบเขาอยู่น่ะ”“อ้อ…เบคน่ะเหรอ” บุหลันแสร้งทำเป็นร้องอ๋อ“แกไปจีบคนอื่นเลยส้ม คนนี้เจ้ขอว่ะ”“เอ้า! เจ้ อยู่ๆ มาขอกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ”“อืม” เพลงพิณเอ่ยรับ ก็จะให้เธออ้อมค้อมไปทำไม เปิดอก พูดกันไปตรงๆ มันนี่แหละ จะได้เข้าใจ แต่จะว่าไป เกิดมาเธอก็เพิ่งจะทำแบบนี้นี่นา“ส้มขอเหตุและผลของการถอนตัวหน่อยเจ้ ถ้าฟังขึ้
แม้จะไม่เคยเสียจิ้นกินตับกับใคร แต่เรื่องจูบ เพลงพิณก็พอมีประสบการณ์มาบ้าง แหม…เธออายุปูนนี้แล้วนี่นา ไม่ใช่สาวรุ่นวัยขบเผาะเสียเมื่อไหร่ แต่ดูท่าประสบการณ์จะน้อยนิดไปหน่อย เพราะตามความช่ำชองของเฟร์เรไม่ทัน ส่งผลให้เพลงพิณหูอื้อตาลายคล้ายจะเป็นลม ยามที่ริมฝีปากอุ่นจัดบดขยี้ลงบนปากอิ่ม บางครั้งก็อ้อยอิ่งคลอเคลียหยอกเย้าเอาใจการจูบโต้ตอบของเพลงพิณทำให้เฟร์เรพอใจ แม้เธอจะเก้ๆ กังๆ บ่งบอกว่ายังอ่อนประสบการณ์ไปบ้าง แต่เขาเชื่อว่าอีกไม่นานจะทำให้เธอเร่าร้อนได้ไม่ยาก ปากอุ่นจัดของเฟร์เรยังคงทำหน้าที่มอบจูบให้คนในอ้อมกอดอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่เขาจะยกมืออีกข้างขึ้นมาจับคางมนของเพลงพิณแล้วสัมผัสเบาๆ เพื่อให้ริมฝีปากเธอเผยอออก จากนั้นก็ส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปาก เพื่อดูดดื่มความหวานจากเธอ“อื้อ…” เสียงครางคล้ายจะต่อต้านดังมาจากเพลงพิณ นั่นเพราะความเร่าร้อนที่มากขึ้นของเฟร์เร ทำให้เธอถึงกับขาอ่อน อดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นจูบเขามากถึงขนาดนี้เชียวเหรอ ไหนจะกอดแน่นๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้อีก แน่นเสียจนเธอหายใจไม่ออก เกือบจะแทรกเข้าไปในตัวเขาได้
“ก็มันน่าคิดออก” ได้ยินแบบนี้ เฟร์เรก็ทำท่าจะดีดหน้าผากเธออีกครั้ง นั่นทำให้เพลงพิณต้องรีบห้าม “อย่าดีดนะ เจ็บแล้ว”“คุณนี่ ไม่ไว้ใจกันเลย”“เอ้า! หรือไม่จริง”“ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นอาจทำ แต่สำหรับผม ไม่…ก็คือไม่” เฟร์เรตอบเสียงหนักแน่น พลอยทำให้เพลงพิณยิ้มออกและรู้สึกชอบเขามากขึ้นไปอีก ผู้ชายดีๆ แบบนี้หาได้ที่ไหน เข้าบ้านไปเอาไม้เบสบอลมาตีหัวแล้วลากเลยซะดีมั้ยเนี่ย รวมทั้งร้องขออยู่ในใจว่า รักนี้…เจ้ขอ ได้ไหมส้ม...กรี๊ดดดด!!!“แล้วคุณให้เหตุผลอะไรไป เธอถึงปล่อยให้คุณรอด ทั้งๆ ที่ลงทุนทั้งจูบ ทั้งกอด อ้อ…มีเปลือยหน้าอกด้วยแบบนั้น” อารมณ์หึงนิดๆ กำลังมา แต่ดูเหมือนเพลงพิณจะยังไม่รู้ตัว“ผมบอกเธอไปว่าผมไม่ใช่ผู้ชาย แล้วแสดงละครนิดๆ หน่อยๆ เธอก็เชื่อสนิทใจ ผมก็เลยรอดปลอดภัย ไม่เสียตัวให้คนที่ผมไม่ได้รัก” เฟร์เรเน้นคำว่า ‘คนที่ผมไม่ได้รัก’ ให้ชัดๆ พร้อมกับสบตาเพลงพิณไปด้วย แม้รอบข้างจะมืด แต่แสงสว่างจากไฟบนถนนและริมรั้วที่ส่องเข้ามาก็ทำใ
“ที่นี่สวยจังเลยค่ะ” นี่คือประโยคแรกที่เพลงพิณเอ่ยเมื่อมาถึงร้านอาหาร เธอหย่อนตัวลงนั่งบนเบาะนุ่มๆ ตรงหน้าคือวิวสวยๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตอนนี้พระอาทิตย์ยามเย็นกำลังจะเลือนหายลับไปจากขอบฟ้า แต่ก็ยังคงทอแสงสีทองยามอัสดงที่ระยิบระยับ“ชอบมั้ยครับ”“ชอบค่ะ” ต่อให้เป็นร้านอาหารริมทาง แต่ถ้าได้นั่งทานกับเฟร์เร เพลงพิณก็ดูเหมือนจะชอบหมด ไม่เคยคิดว่าหนุ่มมาดเซอร์ๆ จะโรแมนติกกับเขาได้เหมือนกัน“ดีใจที่คุณชอบ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น จากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกันเลือกว่ามื้อนี้จะทานอะไร เมื่อสรุปลงตัวก็สั่งกับพนักงานที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่แล้วและขณะที่รออาหารมาเสิร์ฟ เพลงพิณก็มองบรรยากาศเลิศๆ ตรงหน้าอย่างเพลินตา นานๆ จะมานั่งกินข้าวริมน้ำแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ เพราะบรรยากาศมันช่วยให้ผ่อนคลายได้ดี กระทั่งสมองหวนคิดถึงบุหลันขึ้นมา นั่นเพราะยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ เกิดมองหน้ากันไม่ติดจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่“คุณรู้ใช่มั้ย ว่าส้มชอบคุณ”“ผมรู้ครับ”“แล้วคุณคิดยังไงกับส้มคะ”&ldquo
“อ้อ…นิดหน่อยน่ะจ้ะ” เพลงพิณเอ่ยรับ ก่อนจะตั้งสติทำงานของตัวเธอต่อ กระทั่งได้เวลาเลิกงาน ขณะที่ทันตแพทย์สาวกำลังก้มๆ เงยๆ เก็บของบนโต๊ะ ใครคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา“เลิกงานแล้วใช่มั้ยครับ” เสียงคุ้นหูที่ดังขึ้น ก็ทำเอาเธอถึงกับสะดุ้ง“คุณนี่! ฉันตกใจหมดเลย”“พึ่งรู้ว่าคุณขวัญอ่อน” เฟร์เรเอ่ยยิ้มๆ แต่คนฟังกลับแยกเขี้ยวใส่“ชิส์…ใครจะไม่ขวัญอ่อน อยู่ๆ ก็โผล่พรวดเข้ามาแบบนี้ นี่ถ้ามีไม้เบสบอลอยู่ในมือ ฉันฟาดคุณไม่เลี้ยงเหมือนตอนนั้นแน่ๆ” ตอนนั้นที่ว่า คือตอนที่อยู่ๆ ฟาโรห์ก็โผล่เข้าไปในบ้านของเพลงพิณ ด้วยเหตุผลว่าตนเข้าบ้านผิด ซึ่งถึงตอนนี้ทันตแพทย์สาวก็ยังเข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นคือเฟร์เร“คุณนี่โหดกว่าที่ผมคิดไว้อีก” หนุ่มมาดเซอร์เออออตามน้ำไปก่อน เพราะเขาตั้งใจให้เธอได้พบกับน้องชายฝาแฝดของเขาอยู่แล้ว“แน่ล่ะ”“สรุปคุณมีธุระอะไรจะคุยกับฉัน...หืม”