“บ้านน้องปัทเหรอ ทำไมน่ารักจังเลยหลังเล็กๆ กระทัดรัด แต่งบ้านได้น่ารักมาก มองจากด้านนอกเหมือนจะเล็กนะคะ แต่พอเข้ามาด้านในไม่คิดว่าจะกว้างขนาดนี้เนอะโย หรือว่าไง”
“ครับ ออกแบบได้ดีช่างฝีมือมากเลย”
ของเยอะแต่เป็นระเบียบเรียบร้อย ภายในบ้านหลังเล็กๆ มีสองห้องนอน แบ่งเป็นครัว ห้องรับแขก ด้านหน้าออกแบบไว้เป็นห้องตัดเสื้อผ้า ถัดไปแบ่งเป็นห้องทำงาน หอมดอกจำปีอยู่ทั่วบ้าน รอบบริเวณบ้านไม่ว่าจะมุมไหน มีกระทงใบตองใส่ดอกจำปีไว้หอมมากมาย
“บ้านนี้ปัทออกแบบเองค่ะ ย่าเป็นคนจ่ายเงินให้ ปัททำงานดึกเสียงเย็บจักรดัง ทำคนแก่นอนไม่หลับ เลยแยกออกมาปลูกส่วนตัวค่ะ"
“ย่ากุลน่ารักจัง ใจดีด้วย นี่แม่กับพ่อพี่ก็ถามหาย่าอยู่นะ เชื่อไหมว่าปู่ของปัท เป็นครูสอนพ่อกับแม่พี่ด้วย”
“ว้าว...เหรอคะ เพิ่งรู้นะคะเนี้ย”
“แม่บอกว่า ย่ากุลสวยมากเมื่อสมัยเป็นสาว และขยันมากๆ ใจดีชอบทำขนมให้เด็กๆ กิน”
“ใช่ค่ะปัทก็ว่าย่าสวย เสียดายย่าไม่มีลูกสาวถ้ามีคงจะสวยมาก มีพ่อปัทคนเดียว”
“พี่เสียใจด้วยนะเรื่องปู่กับพ่อ เรายังไม่รู้จักกันไม่งั้นก็คงได้มาช่วยงานแล้วล่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ภา เรื่องมันผ่านไปแล้วโชคดีที่ย่ากับแม่เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งทั้งคู่”
“พี่ว่าแบบนี้แน่เลย ย่ากับแม่เลยมุ่งมั่นทำงาน คงไม่อยากคิดถึงคนรัก”
“เห็นจะจริงค่ะพี่ภา”
“ขอเข้าห้องน้ำสักหน่อยนะครับ”
“เชิญค่ะ เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายก็เจอแล้วค่ะ”
โธยินแอบสำรวจบริเวณบ้านของปัทมา เขาประทับใจ ห้องน้ำที่หอมและสะอาด เขาไม่รู้ว่าหอมจากอะไร เขาเป็นผู้ชายถึงตัวเองจะไม่ค่อยสะอาด แต่เขารักความสะอาด ชอบอะไรที่สะอาดและเป็นระเบียบ
“น้องปัทพี่เข้าห้องน้ำบ้านย่ากุล สะอาดมาก ดูห้องน้ำไม่มีกลิ่นเลย ใช้อะไรล้างเหรอคะ”
“ไม่ได้ใช้อะไรหรอกค่ะ แค่ล้างบ่อยๆ ปกติปัทจะเป็นคนล้างห้องน้ำเอง ทั้งของแม่และของย่าไม่อยากให้คนสูงอายุทำกลัวอันตรายค่ะ สูตรง่ายๆ ไม่ยากเลยค่ะพี่ภา น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า น้ำยาล้างจาน ผสมกันแล้วก็ล้างปกติเลย ไม่มีสารเคมี ห้องน้ำไม่เหม็นคาวและแห้งเร็ว สุขภัณฑ์ก็วาววับด้วยนะคะ”
“ดีจังเลย งั้นเดียวพี่จะให้แม่บ้านลองทำบ้างแล้วล่ะ แล้วไอ้ที่หอมน้ำยาปรับผ้านุ่มตลอดเวลาในห้องน้ำนั่นใช้อะไรบ้างพี่เหมือนเห็นในขวดเล็กๆ มีซีกมะนาวด้วย”
“ใช่ค่ะขวดแก้วเล็กๆ ปัทเอามะนาวที่ใช้ทำอาหารมาผ่าเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ไว้ในขวดแก้ว ใส่เกลือ แล้วเติมน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นที่เราชอบ วางไว้ในห้องน้ำ แค่นี้ห้องน้ำก็หอมถูกใจเรา ดับกลิ่นได้ประมาณหนึ่งเลยนะคะ”
“ดีงาม จังเลยพี่ชอบมากเลย แต่ขออีกนิดได้ไหมทำไมบริเวณห้องนี้หอมตะไคร้จังเลย หอมอ่อนๆ พี่ชอบกลิ่นพวกสมุนไพรไทยๆ”
“อ๋อ ไม่ยากเลยค่ะบ้านเราอยู่ท้ายซอย ติดสวนผัก มดกับแมลงเยอะมากค่ะ ปัทเลยใช้น้ำตะไคร้กับน้ำส้มสายชูผสมกันแล้วก็เอามาถูพื้น ที่ถูกใจมากเลยก็คือ มดไม่มี ไม่มีกลิ่นคาว สูตรนี้ปัทชอบมาก ย่าสอนมาค่ะ อีกอย่างผ้าของปัทเยอะมากพับเก็บไว้ในตู้ ช่วงหน้าฝนนี่มดชอบเข้าไปอยู่ในผ้า บางทีเจาะจนเป็นรูเลยค่ะ”
“ไหนๆ บอกสูตรพี่หน่อยเถอะ ที่ร้านผ้ามดเยอะมาก เผื่อพี่เอาไปใช้มดได้หนีบ้าง”
“ได้เลยค่ะปัทยินดี ใช้ตะไคร้สักห้า 5-10 ต้น ทุบหรือหั่นให้พอมีกลิ่น นำไปใส่ขวด เติมน้ำส้มสายชูให้ท่วมตะไคร้ หมักไว้ 1วัน แล้วเอามาถูบ้านได้เลย สูตรนี้เก็บได้นาน สมัยอยู่กรุงเทพฯปัทก็ใช้บ่อย รับรองว่ามดไม่มาแน่นอนค่ะ”
“ดีจังเลย พี่เริ่มชอบบ้านน้องปัทแล้วซิ ตู้นี่ก็สวยมากเลย ชอบงานไม้เหรอคะ”
เยาวภาเดินดูตู้กระจกตัวใหญ่ที่วางอยู่ข้างผนังห้อง เธอไม่ค่อยเห็นร้านตัดเสื้อที่ใช้ตู้ไม้แบบนี้ กระจกใสมาก ภายในตู้มีชุดเดรสแต่ละแบบแขวนไว้อย่างเรียบร้อย อีกฝั่งผ้าเมตรและผ้าลูกไม้พับซ้อนกันแยกสี ชั้นบนสุด ด้ายสำหรับเย็บผ้าตั้งวางเรียงรายแยกเฉดสีสวยงาม ตู้อีกหลังเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการตัดเย็บเสื้อผ้า จักรสีขาวตัวใหญ่สองตัวตั้งเรียงกัน แยกเป็นโซนไว้อย่างเป็นระเบียบ
“ใช่ค่ะชอบงานไม้แต่ไม่ได้ไม้จ๋านะคะ ผสมผสาน เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นเป็นของเก่าของปู่กับย่าค่ะ ปัทขอมา “
“ดีจัง เดี๋ยวพี่ต้องให้โย สร้างบ้านแบบนี้ให้สักหลัง บ้านพี่อยู่คนเดียวสองชั้น ทำความสะอาดไม่ทั่วถึง แบบนี้ดีกว่ามาก แต่ต้องดูทำเลดีๆ หน่อย เอาแบบปลอดภัยไว้ก่อน”
“ใช่ค่ะพี่ภา อยู่คนเดียวแค่นี้ก็พอแล้ว นึกถึงตอนอายุมาก ทำความสะอาดลำบาก ดีนะคะบ้านย่า มีแม่มาอยู่ด้วย คอยช่วยย่าทำความสะอาดห้องที่ไม่ได้ใช้ แต่พอขนมขายดีก็ต้องปล่อย นานๆ ปัทก็ไปทำความสะอาดให้”
“บ้านนี้มีแต่ผู้หญิง แต่ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมน้องปัท มีพวกหัวขโมยหรือพวกนักเลงติดยามากวนบ้างไหม”
“ไม่มีนะคะพี่ภา อาจเป็นเพราะว่าเราอยู่ท้ายซอยก็ได้ สวนของย่าด้านหลังก็ติดคลอง ตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ไม่ค่อยมีใครหลงเข้ามาค่ะ”
“แต่ไม่แน่นะน้องปัท เดี๋ยวเปิดคาเฟ่ลูกค้าต้องแห่มาแน่เลยพี่ว่า”
“สาธุ ขอให้จริงเถอะค่ะ ยายกับแม่จะได้ไม่เหงา”
“นี่ชุดในตู้นี่ชุดใหม่เหรอคะ ตัดนานหรือยัง มีแต่สวยๆ เลย”
ชุดปัทเองค่ะ ตัดแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้ใส่ ลองได้นะคะ มี 10แบบนี่ปัทเพิ่งตัดเสร็จ แบบไม่ยากตัดใส่สบายๆ พี่ภารูปร่างดีอยู่แล้ว ใส่อะไรก็สวยค่ะ”
“ขอบใจนะที่ชม พี่ว่าเราหุ่นเท่าๆ กันเลยนะ ดีไม่ดีใช้ไซส์ของปัทได้เลย”
“ลองได้นะคะพี่ภา มีห้องลองอยู่ข้างๆ ตู้ค่ะ”
“นี่ปัทตัดชุดนอนด้วยเหรอ ผ้าดีจังใส่นอนน่าจะสบาย”
“ใช่ค่ะ พอดีลูกค้าเห็นชุดที่ปัทใส่ถ่ายวีดีโอลงในเพจ เขาอยากได้ให้ตัวเขาและแฟนปัทก็เลยตัดให้ จะเป็นเซตลายสกอตหญิงกับชายค่ะ”
“ดีอ่ะ พี่อยากได้บ้าง”
“เดี๋ยวปัทตัดให้ค่ะ ชุดนอนตัดง่าย ผ้าชุดนี้นิ่มมากค่ะ ปัทตัดให้ย่ากับแม่ใส่นอนชอบกันมากเลยค่ะ “ปัทมาส่งชุดนอนที่ตัดเสร็จแล้วให้เยาวภาได้ลองจับเนื้อผ้าดู
“โยๆ มาดูนี่หน่อย อยากได้ชุดนอนไหมเดี๋ยวพี่ให้น้องปัทตัดให้ จะได้ให้พ่อกับแม่ด้วย ผ้านิ่มมาก นี่ลองจับดู”
“ครับนิ่มดี”
“งั้นน้องปัทตัดเลยนะคะ ขอคนละ 2 ชุดก่อน ตัดของพี่กับโยก่อนก็ได้ เดี๋ยววันหลังพี่ส่งไซส์พ่อกับแม่มาให้”
“ได้ค่ะ พี่ภาดูแบบไปก่อนนะคะ เดี๋ยวปัทไปเอาน้ำดอกอัญชันที่บ้านย่าแป๊ป"
“หนูปัท แม่เยาวภากับน้องชายเขายังไม่กลับใช่ไหมลูก”
“ยังค่ะย่า พี่ภากำลังดูผ้าแล้วก็กำลังจะวัดตัวค่ะ น่าจะอีกสักพัก”
“นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว ก็ชวนเขามากินข้าวกลางวันด้วยกันนะหลาน”
“ได้ค่ะย่า เดี๋ยวบ่ายๆ พี่ภากลับไปแล้ว ปัทจะไปตัดใบเตยในสวนให้นะคะ”
“ไม่รีบหรอกลูก วันพรุ่งนี้ก็ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะย่า วันนี้ปัทขยัน”
หญิงชรามองตามร่างสูงโปร่งของหลานสาวคนเดียว ดีใจและภุมิใจในตัวหลานสาว ที่ขยันทำมาหากิน ยอมลาออกจากงานมาอยู่ดูแลย่า ไม่ห่วงสวยจากที่ทำงานบริษัทฯอยู่ในห้องแอร์แต่งตัวสวยๆ ต้องมาเป็นแม่ค้าขายขนม และช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ย่ากุลมองรูปสามี เมื่อก่อนอยู่ด้วยกันสองคน ก่อนที่สามีจะเสียชีวิต ย่าก็ว่ามีความสุขแล้ว
เมื่อสามีตายไป ได้ลูกสะไภ้กับหลานสาวมาอยู่ด้วย กลับมีความสุขมากกว่าเดิม ได้ทำขนมไม่เหงา ตามธรรมดาของคนแก่ ไม่ชอบอยู่คนเดียว ชอบมีเพื่อนคุย ลูกสะไภ้ก็เป็นคนดี แถมเป็นพยาบาล คอยดูแลเรื่องสุขภาพให้ รวมๆ แล้วหญิงชราคิดว่าตัวเองโชคดี ถึงแม้จะเสียสามีและลูกชายไป ก็ยังมีหลานชายหลานสาวมาทดแทน
“น้ำอัญชัญมาแล้วค่า แม่ทำไว้ให้ ดื่มแล้วชื่นใจ” ปัทมายื่นแก้วเครื่องดื่มให้สองพี่น้อง
“สีสวยจังเลย มาบ้านนี้รับรองกินอะไรก็กินได้เต็มที่ ไม่มีสารเคมีแน่นอน พี่ชอบจังเลยน้องปัท”
“ชอบก็ดื่มเยอะๆ นะคะ ขนมนี่ก็ทำใหม่ๆ เมื่อเช้านี่เองค่ะ อ้อ...ย่าชวนกินข้าวกลางวันด้วยนะคะพี่ภา แม่กับย่าทำกับข้าวไว้เพียบเลยค่ะ”
“เกรงใจจังเลย เช้าก็กินแถมมื้อกลางวันอีก”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ บ้านเราไม่ได้รับแขกบ่อย คนแก่ก็จะได้ไม่เหงา ย่าชอบค่ะ”
"พี่จะขออนุญาตใช้โน้ตบุ๊คหน่อยได้ไหมครับปัทมา”
“เชิญค่ะ อยู่ในห้องทำงาน เดี๋ยวปัทไปเปิดไฟให้”
“ห้องทำงานน่าเล็กน่ารักดีจัง ออกแบบเองเหรอครับ” โยธินพูดแบบที่เห็นจริงๆ
“ค่ะ ช่างทำออกมาได้ดีถูกใจทุกอย่าง เสียดายแกไม่อยู่แล้วค่ะ กลับไปอยู่บ้านที่อีสาน เชิญตามสบายนะคะ”
“น่าเสียดายนะครับ ช่างฝีมือดีเนี้ยบมาก”
ปัทมาออกไปแล้ว โยธินนั่งนิ่งๆ ภาพหน้าจอโน้ตบุ๊ค เป็นภาพของปัทมาเมื่อสมัยที่ยังเป็นนักศึกษา เขายอมรับว่าผู้หญิงคนนี้สวยมาก มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือน ห้องทำงานของปัทมาเป็นห้องเล็กๆ แต่จัดแบ่งได้น่านั่งทำงานมาก อะไรๆ ก็ดูดีไปหมด
โยธินจัดการส่งแบบคาเฟ่ หลายแบบส่งเข้าไลน์ของปัทมา ที่เขาขอไว้ก่อนหน้านี่ เขาเห็นหญิงสาวมีไอแพด เผื่อจะได้เปิดให้ย่ากุลแม่คุณน้าประภาพรดู
โยธินทำงานเสร็จ ปัทมาก็วัดตัวเยาวภาเสร็จพอดี
“พี่ส่งแบบคาเฟ่ให้ในไลน์แล้วนะครับ เปิดไอแพดให้ย่ากับแม่ดูได้เลย”
“ขอบคุณมากค่ะพี่โย เดี๋ยวช่วงเย็นปัทจะให้ย่ากับแม่ดู แต่ตอนนี้ไปกินข้าวกลางวันดีกว่า แม่ไลน์มาตามแล้ว”
“ดีจังเลยเนอะ ปัทได้กินกับข้าวอร่อยแทบทุกมื้อเลย”
“ดีค่ะ ปัทนี่น้ำหนักขึ้นตั้งหลายกิโลมากตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน ไม่กินก็ไม่ได้ค่ะ ย่ากับแม่น้อยใจ”
“กลางคืนปัทนอนที่นี่เลยเหรอ”
“ส่วนมากจะนอนที่นี่ค่ะ นอกจากไม่มีงานเลยจริงๆ ก็จะไปนอนบ้านย่า”
“บ้านก็แน่นหนาดี ไม่น่าอันตรายอะไร เราเป็นสาวเป็นแส้แถมยังสวยด้วย แต่พี่ติอย่างหนึ่งนะ ทำไมไม่มีเหล็กดัดเลย”
“ขอบคุณมากนะคะพี่ภา ที่เป็นห่วง แต่ว่าก็ไม่เคยมีปัญหาเลยนะคะ “
"ไม่เคยมีแต่ยังไงก็ต้องระวังนะครับ คนสมัยนี้ไว้ใจยากรู้หน้าไม่รู้ใจ พี่แนะนำว่าติดเหล็กดัดดีกว่า บ้านใกล้ทางด้วย แล้วยิ่งถ้ามีร้านหน้าบ้านยิ่งต้องระวัง กันบ้านกับร้านออกให้เป็นสัดส่วน"โยธินออกความเห็น
"ทีแรกปัทก็ไม่กลัวหรอกนะคะ แต่พอฟังพี่ทั้งสองพูดแล้ว งั้นเพิ่มงานเหล็กดัดด้วยก็ได้ค่ะ"
"ดีแล้วครับ ปลอดภัยไว้ก่อน อะไรที่ป้องกันได้ก็ทำ"
"พี่เห็นด้วย กันไว้ดีกว่าแก้ บ้านมีแต่ผู้หญิงคนไม่ค่อยเกรงหรอกค่ะ เห็นว่ามีน้องชายด้วยใช่ไหมคะน้องป้ท"
"ใช่ค่ะ ภาษกำลังเตรียมสอบเทอมสุดท้าย สอบเสร็จเดี๋ยวก็กลับมาบ้านค่ะ "
"ดีแล้ว มีผู้ชายมาอยู่ด้วย คนจะได้เกรง ถึงจะไม่มีอะไรก็เถอะ"
สองพี่น้องร่วมกินข้าวกลางวันกับครอบครัวของปัทมา บ่ายๆ ทั้งคู่ขอตัวกลับ โยธินอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาพอใจกับทุกเรื่องราวของวันนี้มาก
ครอบครัวของโยธินส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอปัทมา เจ้าบ่าวใจร้อนมาก งานแต่งงานถูกจัดงานถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติครอบครัวของฝ่ายหญิง นายยุทธนาและนางบุหงาทุ่มทุนสร้างมาก สินสอดมอบให้กับฝั่งเจ้าสาวเต็มที่ และอาสาออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ให้บ้านฝ่ายหญิงได้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว จัดงานถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง ครอบครัวของโยธินตื่นเต้นและดีใจมากกับการที่ลูกชายคนเล็กแต่งงาน เป็นสิ่งที่รอมานานมาก ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวเลยทีเดียว โยธินสร้างบ้านริมน้ำอีกหลังเอาไว้พักผ่อน อยู่ภายในรั้วบ้านของย่ากุล เขาตามใจภรรยาที่อยากอยู่ดูแลย่าและแม่ ขอร้องให้ภรรยาทำงานน้อยลง อยากให้ดูแลแค่ย่ากับแม่ ไม่อยากให้ทำงานหนัก แค่คอยดูแลเขาและเตรียมตัวเป็นแม่ของลูกก็พอ เวลาที่ต้องเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯต้องมีภรรยาไปด้วยเสมอ แค่ต้องตามสามีไปตรวจงานในแต่ละที่ ปัทมาก็ไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว บางทีเธออาจต้องยกร้านกาแฟให้น้องชายดูแล งานตัดเสื้อผ้า เธอแทบไม่ได้ทำเลย เพราะไม่มีเวลาจริงๆ “ปัทมา วันนี้กลับไปนอนในเมืองกันดีกว่านะครับ พรุ่งนี้วันหยุดแล้ว พี่มีงานที่ร้านผ้า” “อ้าว.....แล้วพี่ภาไปไหนเหรอคะ” “กำลังมีความรัก แฟ
ตั้งแต่เกิดเหตุร้ายขึ้นกับปัทมา กระทั่งถึงวันนี้ผ่านมาสามเดือนแล้ว ร้านคาเฟ่ขนมไทยของเธอเปิดมาเกือบสองเดือน ผลตอบรับดีมากๆ ลูกค้าไม่ใช่แค่ได้กินแค่กาแฟ และเครื่องดื่มที่อร่อย ยังได้กินขนมไทย ขนมบางชนิด คนรุ่นใหม่ไม่เคยรู้จัก ลูกค้ามาจากหลายพื้นที่ สุดท้ายต้องขยายร้านเพิ่ม เพิ่มโต๊ะ และมีพื้นสำหรับให้ถ่ายรูป โยธินสร้างบ้านให้ประภาษ ย่ากุลวางมือจากการทำขนม ปล่อยให้ลูกสะไภักับลูกชายช่วยกันทำ ด้วยนิสัยที่ขยันของย่า พาคนงานปลูกผักสวนครัว และผักปลอดสารต่างๆ ทำเป็นสวนสวยงาม ยาวไปถึงศาลาริมน้ำ ให้ลูกค้าร้านกาแฟเก็บผักกลับบ้านได้ฟรีๆ ประภาษมองเห็นโอกาส เขาให้โยธินสร้างบ้านหลังเล็กกระทัดรัด ทำเป็นบ้านพัก ลูกค้าชอบมาก และกลายเป็นโฮมสเตย์ เดิมขนมไทยจะทำวันละห้าอย่าง หลังๆ มาไม่พอขาย ต้องเพิ่มทุกอย่างเท่าตัว ทั้งกิจการบ้านพักและร้านคาเฟ่ขนมไทยไปดีสุดๆ พ่อกับแม่ของราวีมาลาทุกคน สองสามีภรรยาประกาศขายบ้านและย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพฯเพื่อที่จะได้ดูแลลูกชายเต็มที่ ราวียังคงอยู่ที่โรงพยาบาล ล่าสุดเขาพูดไม่รู้เรื่อง ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาล จำใครไม่ได้เลย แม้กระทั่งพ่อและแม่ของตัวเอง ครอบ
บนศาลาริมน้ำตำรวจทั้งสี่คน กู้ภัยอีกสี่คนเขารวบตัวของราวีไว้ ก่อนที่เขาจะกระโดดน้ำหนีไป ทุกคนต่างก็หดหู่กับภาพที่เห็น ย่ากุลเข้าไปจับมือพ่อกับแม่ของราวีเอาไว้ ราวีดิ้นรนหนี เขาร้องไห้คร่ำควาญไม่เป็นเรื่องเป็นราว ตะโกนเสียงดัง กู้ภัยต้องมัดร่างของเขาไว้ที่เปลผ้าใบ ไม่งั้นเขาไม่ยอมสงบ ช่วงที่ทุกคนกำลังชุลมุนกับการควบคุมตัวราวี โยธินและประภาษช่วยกันดึงร่างของปัทมาขึ้นมาบนฝั่งได้อย่างปลอดภัย หญิงสาวร้องไห้ดีใจที่ตัวเองรอดจากราวีมาได้ หดหู่ใจกับภาพที่เห็น กู้ภัยหามเปลพาร่างของเขาที่นอนดิ้นอยู่บนเปลนั้นไปขึ้นรถฉุกเฉิน บริเวณรั้วหน้าบ้านมีชาวบ้าน มายืนมุงดู ต่างก็แช่งด่าราวีอย่างเกลียดชัง คนแถวนี้นับถือปู่และย่ามาก ย่ากุลกับนางประภาพร ขอบอกขอบใจตำรวจและกู้ภัยที่เข้ามาช่วย ให้กำลังใจพ่อกับแม่ของราวี บอกให้รีบตามไปดูลูกชาย เรื่องที่เกิดขึ้นไว้ค่อยมาคุยกันวันหลัง สองสามีภรรยาเชื่อฟังแต่โดยดี รีบตามไปดูลูกชายที่โรงพยาบาล ทุกคนกลับไปหมดแล้ว ย่ากุลกับนางประภาพรรีบเข้าไปดูปัทมา ที่ตอนนี้ โยธินและประภาษ พาไปพักที่บ้านเรียบร้อยแล้ว ปัทมาปลอดภัยไม่มีบาดแผล มีเพียงรอยแดงที่อาจจะเกิดจาก ช่วงที่รา
หลังจากที่ปัทมาไปบ้านโยธินและช่วยทำความสะอาดและจัดระเบียบบ้าน ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเขาก็ไปนอนที่บ้านเกือบทุกคืน เช้ามาดูงานที่ก่อสร้างร้านกาแฟ เที่ยงกินข้าวที่บ้านปัทมาทุกวัน บ่ายๆ บางวันไปดูงานที่ร้านวัสดุก่อสร้าง เย็นกลับไปนอนที่บ้านทำแบบนี้ทุกวัน อีกไม่น่าจะเกินสองอาทิตย์ร้านกาแฟน่าจะเสร็จ เขามีงานที่จะต้องเข้าไปเคลียร์ที่กรุงเทพฯ เลขาโทรตามให้เข้าไปเซ็นเอกสาร ที่บริษัทฯ ไม่อยากไปแต่ต้องไปเพราะเป็นงานของตัวเอง เขาติดปัทมาเหลือเกิน ไม่อยากห่างเลยแม้วินาทีเดียว “พี่โยธินจะเข้ากรุงเทพฯวันไหนครับ ภาษว่าจะติดรถไปด้วย ต้องไปมหาวิทยาลัยจัดการเรื่องเอกสารนิดหน่อยครับ อาจพักหนึ่งหรือสองคืน” “ไปกับพี่ก็ได้นะ พี่ก็ว่าจะอยู่สักสองคืน “ “เราออกเช้าวันจันทร์ดีไหม จะได้รีบไปรีบกลับ” “ได้ครับพี่โยธิน ภาษไม่อยากทิ้งผู้หญิงอยู่บ้านตามลำพังหลายวัน” “ปัทมาอย่าวางโทรศัพท์ไว้ห่างตัวนะครับ “ “ทราบแล้วค่ะ พี่โยธินกับภาษรีบไปทำธุระเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ ปัทไม่ออกไปไหนหรอกค่ะ กล้องวงจรปิดก็มี ภาษเปิดดูได้ตลอดเวลา บ้านเราก็รั้วรอบขอบชิด คนงานก็อยู่เต็มเลย” โยธินมารับประภาษแต่เช้า ย่ากับแม่ทำก
โยธินกำลังขับรถเขาแวะที่ร้านวัสดุก่อสร้างของที่บ้าน เพื่อสั่งของบางอย่างเข้าร้านให้พี่สาว เยาวภางานยุ่งทั้งที่ร้านขายผ้า และที่ร้านสังฆภันฑ์ เขาต้องเข้ามาช่วยดูที่วัสดุก่อสร้าง แปลกใจที่อยู่ๆ ปัทมาโทรหา “ครับ ปัทมามีอะไรหรือเปล่า” “พี่โยธินถึงบ้านหรือยังคะ” “ยังครับพี่แวะมาที่ร้านวัสดุก่อสร้าง” “อ่อ....ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ เย็นนี้พี่จะเข้ามาบ้านปัทกี่โมงคะ” “เดี๋ยวพี่เสร็จจากที่ร้านนี่แล้วก็จะแวะหาพี่ภา จะอาบน้ำสักหน่อยแล้วก็จะกลับไปลองเสื้อครับ” “อ่อ...ค่ะเข้าใจแล้ว ขับรถระมัดระวังนะคะ งั้นแค่นี้นะคะ เย็นเจอกันค่ะ” “ครับ ขอบใจนะปัทมา” โยธินวางสาย หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มตลอด ยิ้มจนลูกน้องบางคนที่แอบสังเกตยิ้มตามไปด้วย เสร็จจากร้านวัสดุก่อสร้าง เขาแวะไปหาพี่สาวที่ร้ายขายผ้า อาการของน้องชาย เยาวภาเดาเอาว่าต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่ๆ “พี่ภา ทำไมช่วงนี้ผ้าขายดีจังเลยครับ” “พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ น้องปัทโทรมาสั่งผ้าเยอะมาก เห็นบอกว่ามีออเดอร์เข้ามา ตั้งแต่กลับจากกรุงเทพฯ พอเปิดรับงานปุ๊ป งานก็เข้าเพียบเลย” “ดีเหมือนกันนะครับ ปัทมาจะได้ทำงานอยู่กับที่ไม
ตีห้าเสียงโทรศัพท์ของย่ากุลดังรัวๆ หลายสาย ปลุกคนทั้งบ้านให้ตื่น มารวมกันที่ห้องของย่า"หนูปัท หรือภาษดูให้ย่าหน่อยลูก ใครโทรมา หลายสายมากเลย ""ครับย่า นี่ป้าช้อยโทรมาครับ""สวัสดีแม่ช้อย มีอะไรกัน ทำไมแม่ค้าที่ตลาดโทรหาฉัน ตั้งแต่เช้าหลายสายมากเลย ""ป้ากุล เกิดเรื่องแล้ว ไม่รู้ใครเอาป้ายงานแต่งหนูปัทกับผู้ชายชื่อราวี ติดไว้หน้าร้านขนม แถมแม่ค้าเกือบทุกคน ได้รับการ์ดงานแต่งของหนูปัทด้วย เนี้ยเดี๋ยวฉันส่งรูปให้ดู วางสายก่อนนะป้ากุล""อะไรนะคะย่า ไหนขอปัทดูหน่อยค่ะ "ภาพและวีดีโอที่ป้าช้อย และแม่ค้าในตลาดส่งมาให้ย่ากุลดูคือ ป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ติดอยู่หน้าร้านขนมไทย เป็นรูปของเธอใส่ชุดเจ้าสาวสีขาว และข้างๆ กันราวีอยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีน้ำเงิน ป้ายเขียนไว้ว่า ขอเชิญร่วมงานแต่งงาน วัน เวลา และสถานที่ชัดเจน ปัทมาใจเต้นแรง ทั้งโกรธ โทั้งโมโห และอาย ภาพข้างล่าง เป็นการ์ดแต่งงานสีชมพูหวานเชียว หญิงสาวโยนโทรศัพท์ออกไปไกลตัว โมโหจนตัวสั่นทุกคนต่างรุมดูวีดีโอและภาพที่ป้าช้อยส่งมาให้ เสียงพูดคุยของแม่ค้าในตลาดดังแทรกเข้ามาในวีดีโอ ได้ยินว่าปัทมาโดนคนโรคจิต เอารูปไปทำการ์ดแต่งงาน "ใจเย็นๆ นะลูก ไม่ต