"รักษาผม จนกว่าผมจะหาย ทำให้ผมหลับนอนกับผู้หญิงได้เหมือนผู้ชายปกติ"
"เออ ก็จะรักษาอยู่เนี่ย" คุณหมอสาวคนสวยหน้าบอกบุญไม่รับ
" ผมไม่เรียกพี่หรือหมอนะ เรียกได้แค่สองอย่าง เมียหรือรักษา เลือกเอาจะให้เรียกแบบไหน"
ดูจากตัวเลือกคงเห็นว่าเธอมีตัวเลือกซะที่ไหน
"เรียกรักษาก็ได้" เธอกระแทกเสียงใส่
"ปริ้นส์ เรียกผมว่าปริ้นส์" คนที่เป็นคนไข้ยิ้มอย่างผู้ชนะ ..
‘รักษาผมไม่ปล่อยคุณแน่’
คุณหมอสาวมองหน้าคนไข้ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่เด็กหนุ่มอายุ
สิบเจ็ดปีแล้ว แต่เป็นชายหนุ่มเต็มตัว อีกทั้งยังมีเสน่ห์มากด้วย เสียแต่เพี้ยนไปหน่อย เหอะ ทำไงได้ ตอนนี้เขาต้องการให้เธอทำอะไรก็ต้องยอมไว้ก่อนถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง..เพราะหากมีคนรู้ว่าเธอซื้อบริการเด็กต่ำกว่าสิบแปดปีคงได้งามไส้กันแน่"ค่ะ ปริ้นส์" เสียงรับปากเบาๆ ของคุณหมอ หลังจากใช้เวลาคุยกันอีกไม่นาน คุณหมอและคนไข้ก็นัดตรวจซ้ำและดูอาการอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า ก่อนจะกลับคนไข้หนุ่มหันไปหาคุณหมอสาวสวย
"ขอเบอร์โทรหน่อย"
"ติดอยู่หน้าคลินิกไง"
"เอาเบอร์รักษา ไม่ใช่เบอร์คลินิก"
คนโดนขอเบอร์ถึงจะหน้างอ ก็ต้องยอมบอกเบอร์โทรไป ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาก็ขู่เธออีก..ดูเหมือนคนขู่จะสุขใจอยู่ไม่น้อย
ตกเย็นหลังจากที่ปิดคลินิกและแจ้งพนักงานให้จัดการต่อ
ให้เรียบร้อย คุณหมอสาวสวยก็เดินออกจากประตูคลินิกมาเจอคนยืนพิงรถยุโรปคันหรู ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนก็คนไข้เมื่อตอนบ่ายนั่นเองรักษาขมวดคิ้วเพราะเธอจำได้ว่านัดกับเขาอีกทีสัปดาห์หน้าไม่ใช่เย็นนี้
"ปริ้นส์ กลับมาทำไมอีกหรือว่าลืมอะไรไว้เหรอ" คุณหมอสาวถาม เผื่อว่าคนไข้ของเธอจะลืมของไว้ที่คลินิก
"ลืมเมียไว้"
"ไอ้เด็กบ้า"
"คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก ตอนนี้ไม่เด็กแล้วนะ เนี่ยอายุยี่สิบเจ็ดแล้ว"
"ก็เด็กกว่าฉันอยู่ดี"
"หึ ..สูงกว่าหลักกิโลนิดหนึ่ง.." คนที่มองหลักกิโลตาเป็นมัน เพิ่งรู้ว่าเขามีความอยากกอดหลักกิโลก็ตอนนี้แหละ
"นี่…หลักกิโลบ้านนายสิ จะหุ่นนางแบบขนาดนี้"
คนฟังไล่สายตาจากบนลงล่าง และจากล่างขึ้นบน อือ..หุ่นนางแบบ ..ถามว่าเซี้ยะไหม
ก็ถือว่าเด็ด...จากที่เคยลอง
"มองอะไรยะ"
"มองหุ่นนางแบบไง" คนหุ่นนางแบบได้ยินแค่นั้นก็หน้าร้อนขึ้นทันที
"ตกลงมาทำไม"
"หิว ไปหาอะไร กินกัน เถอะ" คนไข้หนุ่มชวนคุณหมอสาวสวยไปหาอะไรกินกัน ...แต่เธอคิดไปเองไหม ทำไมคำว่า หิว กับ กิน มันถึงได้ชัดเจนจนเธอหน้าร้อนผ่าว แค่เขามองเธอก็ทำหน้าเธอร้อนผ่าวขนาดนี้
"จะกินอะไรล่ะ"
"ขึ้นรถ เดี๋ยวพาไปกินอะไรอร่อยๆ"
"รักษาเอารถมานะปริ้นส์"
"ทิ้งไว้นี่แหละ เดี๋ยวให้คนมาขับกลับให้" พูดยังไม่ทันขาดคำ
ก็มีหนุ่มบอดี้การ์ดมาดเข้ม โค้งคำนับให้ทั้งเธอและเขา จากนั้นจึงขอกุญแจจากเธอไปเขาคงไม่ได้จะขโมยรถเธอใช่ไหม
"ผมไม่ขโมยรถคุณหรอก" คนรู้ทันเอ่ยขึ้นทันที ...ใช่สิ รถเธอเก่าและถูกกว่ารถที่เขาขับเกือบห้าเท่าตัว
"ง่วงแล้วไม่หิว" คุณหมอสาวปฏิเสธ
"งั้นก็ไปคอนโดฯ รักษา แต่ปริ้นส์ไม่รับปากนะว่าจะจบแค่
กินข้าวไหม""บ้า"
คุณหมอสาวไม่อยากจะยืนเถียงกับเขาให้ลูกน้องได้ยินจึง ยอมขึ้นรถไปกับเขาเพื่อตัดปัญหา แต่ก็อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงไม่เคยรู้สึกกลัวเขาเลย ทำไมถึงกล้าไปกับเขา ..คงเพราะดวงตาคู่นั้นที่เธอคุ้นเคยตั้งแต่เมื่อ สิบปีที่แล้ว
สิบปีที่แล้ว...ตอนนั้น....
ปริ้นส์นั่งมองผู้หญิงตรงหน้าเพราะไม่อยากเชื่อว่าเขายังจำเรื่องวันแรกที่เจอเธอได้ติดตาทั้ง ๆ ที่ผ่านมาเป็นสิบปี เรื่องราว
ในคืนนั้น เธอมานั่งดื่มที่บาร์ของโรงแรม ส่วนเขาเกิดพิเรนทร์ อยากลองเป็นบาร์เทนเดอร์ดูบ้าง กะไว้ว่าจะไปลองเล่น ๆ สักไม่กี่นาทีแต่ใครจะคิดว่าแขกที่มานั่งดื่มกลับเป็นรุ่นพี่สาวสวยแถมยังคุยถูกคอ จนเผลอเมาไปด้วยกันทั้งคู่"คืนนี้เลิกงานกี่ทุ่ม" เธอถามน้ำเสียงไหลรื่น
"อีกครึ่งชั่วโมงครับ"
"ไปต่อกันไหม ขายรึเปล่า" เด็กหนุ่มตกใจกับคำถามของเธอเล็กน้อย หน้าเหมือนเด็กขายน้ำหรือไงวะ…ในใจเขาคิด แต่ปากเจ้ากรรมตอบ
"อือ"
ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุสิบเจ็ดย่างสิบแปดปี ความอยากลองยังมีอยู่เต็มเปี่ยม หลังจากที่โลกสวยด้วยมือตัวเองมาหลายหน ดังนั้นพอครึ่งชั่วโมงผ่านไปเขาก็ตัดสินใจถามเธอว่าจะไปต่อที่ไหน เธอบอกข้างบน คำว่าข้างบนคือโรงแรมที่พวกเขานั่งดื่มกันอยู่
ครั้งแรกของผู้ชายคงไม่จำเป็นต้องทำกับคนที่รัก ...แต่
"เออ...เราไม่เคยนะ" หญิงสาวกระซิบเสียงเบา เขาฟังแล้ว
ลมแทบจับกับผู้หญิงที่ต้องการซื้อผู้ชายนี่นะ แต่เธอดันไม่เคย ...ปัญหาคือเขาก็ไม่เคยเหมือนกันนี่สิ…ถ้าหากทุกคนต่างคิดว่าไม่อยากให้เด็กเกิดขึ้นมาในโลกใบนี้ ต่างคิดว่าโลกช่างโหดร้าย หากเราต่างคิดแบบนั้น อัตราการเกิดที่น้อยอยู่แล้วในทุกวันนี้จะยิ่งไม่น้อยลงไปอีกหรือ แล้ววันหนึ่งมนุษย์คงสูญพันธุ์ทุกอย่างเป็นสัจธรรม มีเกิดก็ย่อมมีตาย เราไม่มีทางรับรู้ว่าการเกิดการตายจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หากแต่ทุกเวลาที่เรายังมีชีวิตอยู่ ขอให้ทำทุกวันให้มีความสุข เมื่อเราได้จากโลกนี้ไปแล้ว เราจะไม่เสียดาย“มาเร็วมากเลย” ปลายฟ้าเองก็พึมพำ ก่อนหน้านี้เธอกับปุณณัฐใช้วิธีป้องการมาโดยตลอด เมื่อเขาขอให้เธอมีลูกด้วยกันสักคนสองคน เธอกับเขาก็เลิกป้องกันแล้วนี่ไม่กี่เดือนเองลูกก็มาแล้วน้ำตาอุ่นไหลรินลงสองข้างแก้มนวลอย่างไม่รู้ตัว นี่สินะที่เขาเรียกความดีใจ ความรักที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องเห็นหน้ามันเป็นอย่างนี้สินะ“ปลายร้องไห้ทำไม” คนตัวโตรวบร่างบางมาไว้บนตักเห็นเธอร้องไห้แล้วเขาไม่สบายใจเอาเสียเลย ไม่อยากให้เธอร้องไห้เลย“ดีใจ ขอบคุณนะที่รัก”เด็กชายปราชญ์คลอดในอีกแปดเดือนต่อมา ความน่ารักของเด็กชายตัวน้อยทำให้ปู่กับย่าต้องย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยเพื่อช่วยลูกชายลูกสาวเลี้ยงหลาน“คนเดียวพอนะคะ” นั่นคือสิ่งที่ปลายฟ้าบ
เพื่อนแพรผู้ได้ชื่อว่าเป็นคนงก คำนวณในใจแล้วถ้าดื่มละสามร้อยเจ็ดสิบ ร้อยดื่มตั้งสามหมื่นเจ็ด เรื่องอะไรเธอจะให้เงินของเธอไปเข้ากระเป๋าเจ้าของบาร์โฮสต์อย่างหมอไมค์ในขณะที่ภัทรขยิบตาให้เพื่อนแพรช่วยประมูลเขาหน่อย ตอนแรกภัทรไม่กลัวเพราะคิดว่าเมียรักต้องประมูลเขาเหมือนบุญรักษาประมูลปริญแต่เขาคงลืมไปว่าเมียรักของตัวเองขึ้นชื่อเรื่องความงก ความเค็ม“เมียไม่ประมูล ฮ่าฮ่า” ปุณณัฐที่ยืนรอคิวต่อจากท่านประธานภัทร เยาะเย้ยเพื่อนรักภัทรเห็นท่าทีไม่ดี ยายขี้เหร่ของเขาจะงกไปไหนเนี่ยตริ่ง!!!เสียงข้อความของเพื่อนแพรดังขึ้น‘ถ้าคุณปล่อยให้คนอื่นประมูลผมสำเร็จ ผมจะลดเงินเดือนคุณห้าสิบเปอร์เซ็นต์!’“สามร้อยดื่ม!!!” เสียงเพื่อนแพรดังขึ้น ร่างบางถลาไปหน้าเวที รีบเสนอหน้าให้สามีเห็นหน้าทันที“ปิดดีลที่สามร้อยดื่ม ทำสถิติสูงสุดของวันนี้” เมื่อเสียงพิธีกรพูดจบ ร่างสูงใหญ่ของภัทรก็เข้าล็อกคอคนที่กว่าจะยอมประมูลเขาถ้าไม่ขู่ด้วยเงินก็คงไม่ยอมประมูลเขาแน่“ทำไมจู่ ๆ เปลี่ยนใจประมูลวะแพร แล้วประมูลแบบไม่ให้ใครสู้เลย” บุญรักษาขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย“ที่รักเหนื่อยไหมคะ จะขึ้นไปเล่นข้างบนทำไมกันคะ เหนื่อยเปล่า ๆ
เพื่อนนี่ก็ฉลาดเหลือเกินหาเงินจากความชอบของตัวเอง หลังจากให้เงินโฮสต์จนแทบจะหมดตัว หมอไมค์ก็คิดได้ว่าคงต้องหาเงินจากโฮสต์บ้างแล้วเพิ่งจะฉลาด!!!“รักษา แพร” ปลายฟ้าเรียกเพื่อนที่ตากำลังเยิ้มกับเหล่าหนุ่มหล่อ อายุของเด็กบาร์โฮสต์นี่ประมาณยี่สิบต้น ๆ อืมวัยที่ทำเอาพวกเธอหัวใจแอบกระตุกดีที่ว่าผัวที่บ้านเบ้าหน้าหล่อกว่าหนุ่มที่ยืนพวกนี้เสียอีก“เช็ดน้ำลายหน่อยเพื่อน” ปลายฟ้าแซวเพื่อนรักทั้งสอง“หืมพวกฉันไม่ได้อะไรขนาดนั้น” เพื่อนแพรว่าทั้งยังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ท่านประธานภัทรของเธองานดีกว่านี้อีก กล้ามงี้เป็นมัด ๆ ว่าแล้วก็คิดถึงผัว“ใช่ เราแค่มาให้กำลังใจหมอไมค์เท่านั้นแหละ” บุญรักษาแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ แต่จริง ๆ แล้วเธอก็อยากมาดูให้เป็นบุญตาเหมือนกัน ช่วงนี้เขานิยมกันเรื่องบาร์โฮสต์“มากันแล้วเหรอที่รัก” เสียงคุณหมอสุดหล่อเจ้าของบาร์โฮสต์เอ่ยทักทายเพื่อนสาวทั้งสามสวมกอดกันอย่างที่เคยทำ หมอไมค์ยิ้มอย่างมีความสุข วันนี้เตรียมความสุขไว้ให้เพื่อนรักทั้งสามคนด้วย“คนเยอะมาก ปัง ๆ กิจการรุ่งเรืองนะคะ” ปลายฟ้าสวมกอดเพื่อนอีกครั้ง“รับสักคนไหม” เจ้าของบาร์เอ่ยแซว“ไม่เอา มีผัวแล้วน่ะ” ปลายฟ้าปฏิเส
“กูเป็นบอดีการ์ด กูช่วยเหลือตัวเองได้ไอ้ณัฐ” ธาดาว่า“เออ มึงเก่ง กูแค่ถามไหมวะ ถ้าไม่มีมึงแม่กูคง...” เพราะต่างคนต่างเคยช่วยเหลือกันไว้“คุณปลายครับ ผมสนใจนะครับ” ธาดาตัดบท จะมาทำซึ้งอะไรเวลานี้“ได้ค่ะได้ เดี๋ยวปลายนัดให้เจอกันนะคะ” เพื่อนที่ปลายฟ้าว่าจริง ๆ คือคนไข้ของเธอเอง นางเอกสาวมีปัญหาเรื่องความเครียดจึงมารับบริการที่คลินิกของเธอสิ่งที่ทำให้เธอเครียดเพราะรอบตัวมีแต่คนที่ไม่น่าไว้ใจ อยากจะจ้างบอดีการ์ดอยู่พอดีทุกอย่างช่างลงตัวยิ่งกว่าความบังเอิญเสียอีก เรื่องที่ธาดาอยากลาออกเธอแอบได้ยินปุณณัฐคุยกับคิมซูฮยอนด้วยเช่นกัน“วิดีโอได้หรือยังคะ” ที่ปลายฟ้าเข้ามารับแฟนหนุ่มวันนี้ส่วนหนึ่งเพราะอยากมาดูวิดีโอที่จะใช้เปิดในงานแต่งงาน“เค้าให้แก้อีกรอบ” คนให้แก้ตอบเสียงอ่อย ใช้มือลูบท้ายทอยอย่างเขิน ๆ กับความเรื่องมากของตัวเอง“คุณคิมกับคุณเถื่อนคิดว่าต้องแก้ไหมคะ”“ไม่ครับ/ไม่ครับ” เพื่อนเจ้าบ่าวประสานเสียงตอบอย่างพร้อมเพรียง ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้เพื่อนชั่ว“งั้นไม่ต้องแก้ค่ะ ปลายโอเค ฝากบอกทีมงานด้วยนะคะ”ธาดายิ้มจนยาหยี สิ่งที่ปลายฟ้าบอกเหมือนนางฟ้ามาโปรด‘ไม่ต้องแก้แล้ว ไม่ต้องแก้แ
ธาดาถอนหายใจรอบที่ล้าน เมื่อสิ่งที่เขาคิดก็เป็นจริง คนที่เรื่องมากสุด ๆ อย่างปุณณัฐไม่มีทางพอใจกับวิดีโอที่จะฉายในงานแต่งงานแน่นอนถ้าเป็นตัวธาดาเองเขาคงไม่พอใจมากถึงมากที่สุด“ภาพสวย วิวสุดยอด เจ้าสาวสวยเจ้าบ่าวหล่อทุกรูปแล้วอะไรอีกที่มึงจึงไม่พอใจ” ธาดาบ่นทันทีที่ทีมงานตัดต่อกลับไปแล้ว“ภาพกูตอนที่กูคุกเข่าแสงมันน้อยไปนิดอยากให้เขาเพิ่มแสงอีกหน่อยเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันทำได้นี่”คนเรื่องมากก็ยังคงเรื่องมาก“ณัฐมึงฟังกูนะ ถ้ามึงไม่รีบสรุปวิดีโอมันจะไม่ทันวันงานในอีกสองวันนะ” พอเจ้าสาวตอบตกลง เจ้านายตัวดีของธาดาก็อยากแต่งเสียเวลานั้นงานบอดีการ์ดของเขาต้องหมดไปกับการเลือกการ์ด เลือกทีมงาน เลือกห่าเหวอะไร ถ้าแต่งงานแล้วมันต้องลำบากขนาดนี้ ธาดาแนะนำว่าให้ไอ้เพื่อนเขามันโสดตลอดชีวิตอย่าได้ไปสร้างความลำบากให้ใครเลย“มึงเป็นเมนส์เปล่าเนี่ยเถื่อน อะไรนิดหน่อยก็อารมณ์เสีย” ปุณณัฐเหล่ตามองเพื่อนอย่างสงสัย เขาแค่ต้องการเพิ่มแสงนิดหน่อย รอบที่แล้วก็แก้ภาพนิดหนึ่ง รอบก่อนหน้านั้นก็แค่แก้คำบรรยาย รอบของรอบก่อนหน้านั้น ก็แค่สลับฉากกันเท่านั้นเองปุณณัฐไม่เห็นว่าจะเป็นอะไรเลย เขาต้องการความเพอร์เฟก
บางเรื่องหรือบางครั้งไม่จำเป็นต้องมีคนถูกคนผิดอาจจะถูกทั้งสองฝ่ายหรือผิดทั้งสองฝ่ายก็ได้ มนุษย์เรามีสิทธิ์เสรีในความคิด เห็นต่างใช่ว่าต้องแตกแยกเราสามารถอยู่ด้วยกันได้ในความเห็นต่างเสียงตบมือดังกระหึ่มเมื่อเหล่านักเตะเริ่มเดินลงสนาม ปลายฟ้าชอบภาพตอนนี้เป็นที่สุด ภาพที่นักเตะทุกคนจะจับมือเด็กเดินเข้ามาในสนามพร้อมกันนี่เป็นจิตวิทยาที่แยบยลที่จะปลูกฝังให้เยาวชนรักในกีฬาและมีส่วนร่วมกับการแข่งขัน เด็กหนึ่งคนมักจะเป็นที่รักของคนมากกว่าสี่ห้าคนอย่างน้อยเวลานี้ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา คุณครู เพื่อนในโรงเรียนอาจจะรอเวลาที่พวกเขาเดินเข้ามาในสนามพร้อมกับนักเตะ ไม่ใช่แค่เด็กที่ภูมิใจ คนรอบข้างของเด็กก็ภูมิใจเช่นเดียวกันพวกเขาจะรับ FA cub และสิ่งนี้จะอยู่ในใจของพวกเขาตลอดไป“ณัฐรักปลายนะ”“ปลายก็รักณัฐ”เสียงนกหวีดดังขึ้นบอกสัญญาณว่าการแข่งขันได้เริ่มแล้ว และเสียงนี้เหมือนเป็นพยานแห่งรักของทั้งคู่ ว่าเวลานี้เขาและเธอได้เริ่มต้นความสัมพันธ์บทใหม่แล้ว“เราจะทำครอบครัวของเราให้เต็มไปด้วยรัก”“ค่ะ เราจะเริ่มต้นไปด้วยกัน ครอบครัวของเรา”ไม่ว่าผลการแข่งขันวันนี้จะเป็นอย่างไร สำหรับเขากับเธอพวกเขา