หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ความโกรธบนใบหน้าของหลงหยวนก็ค่อยๆ หายไปเขาหัวเราะกะทันหัน เสียงหัวเราะนั้นชั่วร้ายมาก“หลินเฟิง นายเก่งจริงๆ นายกล้าทำให้ฉันอับอายแบบนี้”ในตอนนี้บนโต๊ะของหลงหยวนมีโทรศัพท์มือถือจอกว้างตั้งไว้อยู่และบนโทรศัพท์ กำลังเปิดข่าวประจำวันไว้อยู่ในวิดีโอที่ข่าวเผยแพร่ออกมาหลงซิ่วที่คลุ้มคลั่งถูกเซนเซอร์บังเอาไว้ กับถานหงราชินีนักร้องเมื่อฟังเสียงกรีดร้องอันแหลมสูงของถานหงในวิดีโอ หลงเยียนก็หันกลับมามองลูกน้องของเขาด้วยสายตาที่เย็นชา“ทันหงกับหลงซิ่วล่ะ ให้พวกเขามาพบฉัน!”"นี่......"ผู้คุ้มกันตระกูลหลงลังเลเล็กน้อย ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วพูดว่า:“เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป เราจึงส่งคนไปตามหาพวกเขา สุดท้ายก็พบพวกเขาในบาร์ใต้ดินที่คุณหลงซิ่วมักไปเยี่ยมเยียน”“รอให้พวกเราพบคุณหลงซิ่วและถานหง พวกเขาก็ตายไปแล้ว...”“......”เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มดุร้ายบนใบหน้าของหลงหยวนก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้น“หลินเฟิงนะหลินเฟิง นายประกาศสงครามกับฉันเหรอ? ฆ่าหลงอวี่และหลงเซี่ยว และทำให้ตระกูลหลงของฉันต้องอับอาย ฉันจะเก็บหนี้เลือดทั้งหมดนี้ไว้เป็นหลักฐาน!”"ไม่ช้าก็เร
"อ๊ะ!"จากนั้นหลี่ฮุ่ยหรานถึงนึกขึ้นได้ว่าอิ่นนั่วเจียก็อยู่ที่นี่ด้วย และใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นแต่เธอยังคงรีบลุกขึ้น ดึงอิ่นนั่วเจียไว้ และพูดว่า:“คุณอิ่น เอ่อ...คุณไปกับพวกเราด้วยได้ไหม? ถึงเวลาอาจจะแสดงอะไรนิดหน่อย เชิญคุณร้องเพลงหรืออะไรสักอย่าง...”ยิ่งหลี่ฮุ่ยหรานพูดมากเท่าไร เสียงของเธอก็ยิ่งเบาลง และใบหน้าของเธอก็ยิ่งแดงมากขึ้นเท่านั้นเธอรู้ดีอยู่แล้วว่าคำขอนี้ค่อนข้างจะมากเกินไปอิ่นนั่วเจียเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง หากเธอจะได้ร้องเพลงในงานแต่งงานเล็กๆ เช่นนั้น ค่าตัวเธออย่างน้อยหลายล้านบาทแต่พูดคุยเรื่องเงินกับเธอ หลี่ฮุ่ยหรานก็รู้สึกว่าดูห่างเหินเกินไปหลี่ฮุ่ยหรานจึงรู้สึกอายเล็กน้อย"นี่......"อิ่นนั่วเจียก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยนี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงิน เธอไม่ปฏิเสธคำขอของหลี่ฮุ่ยหรานอยู่แล้วแต่พูดตามตรง ไปร้องเพลงให้ฟรีในงานแต่งของคนแปลกหนา บรรยากาศมักจะแปลกๆ นิดหน่อยในตอนนี้ หลินเฟิงยืดตัวขึ้นอย่างขี้เกียจ“อิ่นนั่วเจีย เงินชดเชยที่ผมเอามาจากตานหงก่อนหน้านี้ ตอนนี้ยกให้คุณแล้ว เงินสองหมื่นห้าพันล้านบาทเป็นค่าตัวคุณ พอไหม?”หลินเฟิงไขว้แขนและจ้องม
“เฮ้ เฮ้ เฮ้ หนุ่มหล่อ ฉันขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหม?”เพิ่งจะลงจากรถ หลินเฟิงก็พบเจอกับกลุ่มหญิงสาวที่แต่งตัวสวยงาม พวกเขาเข้ามาใกล้และพากันหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อถ่ายรูป“พวกคุณถ่ายกันตามสบายได้เลย”หลินเฟิงไม่ได้โอ้อวดอะไรมาก ท่าทางที่เข้าถึงง่ายก็ทำให้หญิงสาวเหล่านั้นส่งเสียงกรีดร้องออกมา“หนุ่มหล่อ หนุ่มหล่อ คุณมีแฟนหรือยัง?”“ใช่แล้ว ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่เหรอ? ว่างหรือเปล่า เดี๋ยวพวกเราไปดื่มกันสักแก้วไหม?”เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหล่าหญิงสาวที่มีความกระตือรือร้นอยู่รอบ ๆตัวแล้ว หลินเฟิงก็ทำได้เพียงยิ้มอย่างสุภาพเท่านั้นเขาเดินตรงไปยังที่นั่งข้างคนขับ ก่อนจะยื่นมือไปเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารสาวสวยที่เย็นชาในชุดสีขาวที่มีออร่าแข็งแกร่ง แถมใบหน้ายังเย็นชาอย่างมากเดินออกมาจากที่นั่งฝั่งข้างคนขับเพียงแค่หลี่ฮุ่ยหรานปรากฏตัวเท่านั้นแขกทั้งหลายที่ผ่านไปผ่านมาก็จ้องมองไปที่หลี่อุ่ยหรานกันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่ละคนต่างก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้างแม้แต่ผู้ชายหลาย ๆคนก็ยังมองไปทางหลินเฟิงด้วยความอิจฉา“เชี่ยเอ้ย ที่เมืองหนิงโจวยังมีสาวสวยแบบนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ?”“ไม่มีมั้ง ทำไมฉันถึงไม่เ
จางกุ้ยหลานเหลือบมองหลินเฟิงถึงแม้ว่าแววตาจะมีความรู้สึกผิดอย่างอธิบายไม่ได้ แต่ก็เงยหน้าขึ้นและพูดว่า :“ถูกต้อง นี่คือลูกเขยของฉันเอง คุณไม่รู้เหรอว่าอะไรคือการโอ้อวด อะไรคือการทำตัวเรียบง่าย?”“ลูกเขยของฉันก็เป็นคนแบบนี้แหละ พวกคุณจะอิจฉาไม่ได้นะ”คำพูดนี้ของจางกุ้ยหลานไม่เพียงจะทำให้หลินเฟิงตะลึงงันเท่านั้นแม้แต่หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ด้านข้างก็ยังตกตะลึงด้วยเช่นกันเธอจ้องมองหลินเฟิงอย่างเหม่อลอย ก่อนจะได้สติกลับมา พร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มสดใสราวกับดอกไม้รอยยิ้มนี้ทำให้ชายหนุ่มที่อยู่โดยรอบต่างก็ตกตะลึงกันทั้งหมดในที่สุดจางกุ้ยหลานก็ยอมรับหลินเฟิงคนนี้เป็นลูกเขยแล้วถึงแม้จะไม่รู้ว่าที่จางกุ้ยหลานพูดแบบนี้ จะเป็นเพียงการรักษาหน้าตัวเองหรือแค่โอ้อวดก็ตามแต่เมื่อเทียบกับท่าทางที่ดูถูกหลินเฟิงก่อนหน้านี้แล้ว นี่ก็ถือว่าเป็นการก้าวหน้าครั้งใหญ่แล้ว ท่าทางในวันนี้ของจางกุ้ยหลานทำให้หลินเฟิงรับมือไม่ทันอยู่เล็กน้อยในความเป็นจริง เขาก็พร้อมที่จะถูกกลั่นแกล้งอยู่แล้วจู่ ๆหลินเฟิงก็รู้สึกแปลก ๆขึ้นมาในใจ“ฮ่าฮ่าฮ่า อะไรคือการโอ้อวด อะไรคือการทำตัวเรียบง่าย จางกุ้ยหลาน
ที่นี่คือที่ไหน?คนที่ได้รับเชิญไปงานแต่งงานต่างก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเก่าที่เรียนดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ไม่ต้องพูดถึงเสื้อสูทราคาหนึ่งหมื่นบาท หรือแม้แต่เสื้อสูทราคาหนึ่งแสน สวมใส่มาแล้วก็จะนำความอับอายมาให้ตัวเองและยังทำให้ผู้จัดงานอับอายขายหน้าด้วย“จิ๊ จิ๊ จิ๊ คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าลูกสาวของจางกุ้ยหลานจะมีเสน่ห์ขนาดนี้ ทำไมถึงได้หาผู้ชายที่ต่ำต้อยขนาดนี้ล่ะ?”“ใช่แล้ว ลูกสาวคนนั้นไม่ว่าจะมองยังไงก็โดดเด่นขนาดนั้น แต่ทำไมถึงเลือกที่จะแต่งงานกับแมงดาคนหนึ่งล่ะ?”เมื่อได้ยินการวิพากษ์วิจารณ์โดยรอบ ใบหน้าของจางกุ้ยหลานก็ซีดลงทันทีหลี่ฮุ่ยหรานก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปหาหลินเฟิงพร้อมกับเอ่ยถามเบา ๆว่า :“หลินเฟิง ฉันไม่ได้ให้คุณใส่เสื้อสูทที่พิเศษกว่านี้เหรอ? แม่ของฉันเป็นห่วงชื่อเสียงมาก ทำไมคุณถึง.....”เมื่อมองเห็นท่าทางที่ผิดหวังของหลี่ฮุ่ยหราน หลินเฟิงก็รู้สึกโกรธเล็กน้อยเช่นกันแน่นอนว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้จางกุ้ยหลานและหลี่ฮุ่ยหลานอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ เพราะอย่างนั้นเขาจึงไปที่ร้านเสื้อผ้าหรูหราขนาดใหญ่ที่มีเผิงกวงฉี่เป็นเจ้าของ เพื่อที่
“ฮ่าฮ่าฮ่าหลังจากที่หลินเฟิงอธิบายให้หลาย ๆคนฟัง จู่ ๆเมิ่งโหย่วฟางก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมา ก่อนที่เธอจะปรบมือแล้วพูดว่า : “ดี สมกับเป็นแมงดา คิดไม่ถึงว่าจะตอบสนองได้เร็วแบบนี้ ทั้งยังแต่งเรื่องราวโกหกออกมาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย”เมื่อได้ยินคำพูดนี้จางกุ้ยหลานกับหลี่ฮุ่ยหรานต่างก็ตกตะลึงไปชั่วครู่และในขณะนี้เอง ก็มีชายหนุ่มรูปงามที่ชโลมผมไปด้วยน้ำมันเดินเข้ามา เห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรกแล้วชายคนนี้จะต้องอยู่ในวงการธุรกิจมานานหลายปี ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเหมือนกับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเขาเพิ่งจะเดินออกมาจากฝูงชน แล้วก็ไปทำเสียงเย็นชาใส่หลินเฟิง ก่อนจะพูดขึ้นว่า :“เหอะ แมงดาอย่างคุณผมเจอมาเยอะแล้ว”“ก็แค่เอาเงินของคุณหลี่ฮุ่ยหรานไปทำเรื่องอื่นนะสิ แล้วก็ใช้เงินหนึ่งหมื่นบาทไปซื้อชุดที่เลียนแบบราคาถูก ๆ เพื่อที่จะเอาใจคุณหลี่ฮุ่ยหรานก็เท่านั้น”“คุณเป็นใคร?”เมื่อหลินเฟิงเห็นท่าทางที่เยาะเย้ยของชายคนนี้ ก็ขมวดคิ้วทันที“ผมชื่อไป๋ถง ตอนนี้เป็นรองผู้จัดการทั่วไปของเทียนฮ้าวกรุ๊ปที่เมืองหนิงโจว และจบการศึกษาปริญญาเอกด้านกฎหมายทางการเงินจากมหาวิทยาลัยสแตน
เดิมทีคิดว่าคราวนี้เป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้คืนดีกันแต่คิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้“ไอ้หนุ่ม ดูสิ แม่ยายของนายพูดขนาดนี้แล้ว นายก็ควรจะรีบไปนะ จะได้ไม่ต้องอับอายที่นี่”ไป๋ถงยิ้มอย่างดูถูกหลินเฟิงจากนั้น เขาก็มองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานอีกครั้งด้วยแววตาที่หลงใหล ก่อนจะโน้มน้าวว่า :“คุณหลี่ฮุ่ยหราน คุณทั้งสวยและยอดเยี่ยมขนาดนี้ แล้วยังบริหารบริษัทใหญ่อย่างหลี่ซื่อกรุ๊ปอีก จะหาผู้ชายแบบไหนไม่ได้บ้าง?”“ทำไมถึงต้องไปหาคนขี้ขลาดแบบนี้ด้วย?”“หาผู้ชายแบบนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้ตัวเองเสียหน้าเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการพัฒนาและภาพลักษณ์ของหลี่ซื่อกรุ๊ปทั้งหมดอีกด้วย ผมแนะนำให้คุณวางแผนไว้ล่วงหน้า” เมื่อพูดจบ เขาก็หยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋าเสื้อของตัวเอง แล้วเอาไปใส่ไว้ในมือของหลี่ฮุ่ยหราน ก่อนจะพูดพร้อมกับยิ้มอย่างสุภาพบุรุษว่า :“คุณหลี่ฮุ่ยหราน หากคุณต้องการอะไร สามารถติดต่อผมได้ตลอดเวลา สำหรับหญิงสาวที่มีความสามารถและทักษะอย่างคุณ การที่ผมจะย้ายไปที่หลี่ซื่อกรุ๊ปก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”พูดจบเขากับแม่ของเขาเมิ่งโหย่วฟาง ก็จากไปด้วยท่าทางของผู้ชนะเหลือเพียงแค่หลี่ฮุ
ชายคนนี้รีบสลัดแขกทั้งหมดที่มารวมตัวกันอยู่รอบตัวเขาทิ้งทันที แม้แต่หุ้นส่วนทางธุรกิจ นักธุรกิจและคนดังของตระกูลเฝิงอีกมากมายเฝิงอวี้อู่ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรต่อพวกเขา แล้วปล่อยพวกเขาเอาไว้โดยที่ไม่ได้สนใจเขารีบก้าวเข้าไปหาหลินเฟิงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคุกเข่าลงข้างหนึ่ง แล้วพูดว่า :“อาจารย์ คุณมาที่เมืองหนิงโจวได้ยังไง? คุณมาเมืองหนิงโจวแล้ว ทำไมไม่บอกผมสักคำล่ะ?”ชายคนนี้ที่เรียกอาจารย์หลินเฟิงก็คือเฝิงอวี้อู่ คุณชายใหญ่ของตระกูลเฝิงแห่งเมืองหนิงโจว ที่เพิ่งฟื้นจากอาการป่วยหนักแถมยังเป็นเฝิงอวี้อู่ที่หยิ่งยโสอีกด้วยคาดไม่ถึงว่าจะคุกเข่าลงตรงหน้าชายที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรด้วยความจริงใจแบบนี้ ทำให้เหล่าคนดังจากทุกวงการที่เข้ามาอยู่รอบ ๆเฝิงอวี้อู่ ต่างก็ค่อย ๆพากันหยุดและตื่นตะลึง ต้องรู้ว่า เฝิงอวี้อู่ที่ได้มาเป็นลูกศิษย์ของหลินเฟิงนั้น เรื่องนี้ตระกูลเฝิงไม่ได้เผยแพร่ออกไป และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าเฝิงอวี้อู่เรียกชายหนุ่มคนนี้ว่าอาจารย์ จู่ ๆผู้คนทั้งหมดก็ตกอยูในตะลึงไม่เพียงแค่นี้เฝิงไฉ่เซวียนและเฝิงไฉ่อิ๋ง สองสาวที่ติดตามเ
อย่างไรก็ตามขณะที่จางกุ้ยหลานกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็มีหญิงวัยกลางคนหลาย ๆคนที่อยู่ไกล ๆเอ่ยเรียกชื่อของสวี่เจี๋ยขึ้นมา“พี่จาง คุณไม่ต้องรีบร้อน ฉันจะมาเดี๋ยวนี้”หลังจากที่ทักทายกันแล้ว สวี่เจี๋ยก็พยักหน้าและยิ้มให้กับจางกุ้ยหลานและลูกสาวพร้อมกับพูดว่า :“สาวสวยทั้งสอง ต้องขอโทษด้วยที่ฉันต้องขอตัวก่อน”และสุดท้ายก่อนที่แยกจากไป เขาก็ยังไม่ลืมที่จะเป่าผิวปากไปทางหลี่ฮุ่ยหราน“หึหึ สวี่เฉิงเฮ่าคุณช่างมีลูกชายที่ดีจริง ๆ”จางกุ้ยหลานมองไปทางซู่เจี่ยที่แยกจากไป โดยไม่ลืมที่จะหยอกล้อสวี่เฉิงเฮ่า“หึหึ ไอ้หนุ่มหน้าโง่นั่น ไม่มีความสามารถอย่างอื่นเลย เก่งแต่เรื่องใช้ปากพูดนั้นแหละ”หลังจากที่พูดจบ สวี่เฉิงเฮ่าก็มองไปทางหลี่ฮุ่ยหราน แล้วถามหยั่งเชิงว่า :“เป็นอย่างไรบ้างล่ะฮุ่ยหราน ไม่ว่าจะพูดยังไงลูกชายของผมก็เป็นถึงผู้จัดการระดับภูมิภาคเลยนะ”“ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ความสัมพันธ์ของอดีตสามีของคุณกับคุณก็ตาม แต่จากที่ผมได้ยินสิ่งที่แม่คุณบอกมา ก็รู้สึกว่าอดีตสามีคนนี้ของคุณดูไม่น่าเชื่อถือเลยนะ”“ใช่แล้วฮุ่ยหราน ลูกดูสิว่าสวี่เจี๋ยพูดเก่งแค่ไหน ไม่เหมือนกับหลินเฟิง ที่จะหาเรื่องแม่เท
“เฮ้ เฮ้ เฮ้ พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว เข้าใจผิดแล้ว!”สวี่เฉิงเฮ่ารีบโบกมือไปมา พร้อมกับพูดว่า :“ผมกำลังพูดลูกชายของผม ลูกชายของผมตอนนี้อายุก็น่าจะใกล้เคียงกับฮุ่ยหราน แถมยังทำงานอยู่ในบริษัทใหญ่อีกด้วย อนาคตไร้ขีดจำกัด”ในขณะที่พูดแบบนี้ออกมา สวี่เฉิงเฮ่าก็ถอนหายใจออกมาอย่างเสียดายเงียบ ๆถ้าการคัดค้านของแม่ลูกคู่นี้ ไม่ได้รุนแรงขนาดนี้เขาก็อยากลองดูสักตั้งในเมื่อหลี่ฮุ่ยหรานก็เติบโตมาสวยจริง ๆเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สวยที่สุดในประเทศมังกรและเพราะว่าอยู่ในตำแหน่งสูง บรรยากาศรอบตัวก็เลยทั้งเย็นชาและมืดมนผู้ชายแทบจะทุกคน ต่างก็ต้องการที่จะเอาชนะหญิงสาวผู้เย็นชาแบบนี้จากใจจริงแม้ว่าอายุจะแตกต่างกันมากก็ตามไอ้แก่คนนี้ก็มีความคิดอย่างอื่นเหมือนกันหลังจากได้ยินสวี่เฉิงเฮ่าอธิบาย ท่าทางของจางกุ้ยหลานก็ดีขึ้นไม่น้อย ในตอนที่จางกุ้ยหลานกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง หลี่ฮุ่ยหรานก็ปฏิเสธขึ้นมาทันที“ลุงเฉิงเฮ่า ขอบคุณสำหรับความหวังดี แต่ถึงแม้ฉันกับหลินเฟิงจะหย่ากันแล้ว แต่ความสัมพันธ์ของพวกเราก็ยังดีกันมาก และพวกเราก็จะแต่งงานกันใหม่เร็ว ๆนี้อีกครั้ง”เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ฮุ่ยหราน สวี่เ
เขาถอดเสื้อคลุมออกแล้วสวมเพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวเท่านั้น และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเฝิงอวี้อู่ก็พอจะเข้าใจ ดังนั้นจึงพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า :“งั้นอาจารย์ ผมขอเข้าไปก่อน หากตระกูลชางยังกล้าห้ามคุณอีก คุณเรียกผมได้เลยนะ”“ได้”หลังจากที่มองส่งเฝิงอวี้อู่เข้าไปในหอประชุม รวมถึงคนสำคัญและคนดังมากมายจากทั้งเมืองหนิงโจว ที่รวมตัวกันอยู่รอบตัวเขาแยกจากไป หลินเฟิงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีคนที่สนใจตัวเองน้อยลงแล้วเพราะอย่างนั้นเขาจึงเดินไปหยิบอาหารจากโต๊ะบุพเฟ่ต์ที่ด้านนอกของหอประชุมมานั่งกินคนเดียวในมุมหนึ่งแล้วตอนนี้ก็รอแค่จ้าวเทียนหวาและเสื้อสูทตัวใหม่ของตัวเองมาเท่านั้นและภายในหอประชุมภายในหอประชุมขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยตระกูลร่ำรวยและนักธุรกิจที่มาจากทั่วเมืองหนิงโจวพิธีแต่งงานยังไม่ได้เริ่มอย่างเป็นทางการ เพราะอย่างนั้นคนเหล่านี้จึงรวมตัวกันเป็นกลุ่มสองสามคนเพื่อที่จะสนทนาด้วยกัน“ชุดนี้สวยมาก ฮุ่ยหรานสวมแล้วดูเหมาะสมอย่างมาก!”“ใช่ ใช่ ถ้าลูกสาวของฉันสวยอย่างนี้ก็ดีแล้ว”ในตอนนี้หลี่ฮุ่ยหรานกำลังถือแก้วไวน์พร้อมกับมองตรง
“นี่...คุณชายเฝิง นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราพูด แต่เป็นคำพูดของคุณชายชาง เขา...”“เพียะ!”ไม่รอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอธิบายจบ เฝิงอวี้อู่ก็ตบไปที่หน้าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นเฝิงอวี้อู่ตบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้นอย่างแรงจนริมฝีปากแตกมีเลือดออก และทรุดลงไปนั่งที่พื้น“ไอ้สารเลว!”เฝิงอวี้อู่กำหมัดแน่น แล้วตวาดด่าทอว่า :“ที่อาจารย์ของฉันมา ก็เพราะให้เกียรติพวกคุณ!”“ไอ้พวกสารเลวที่ดูถูกคนอื่น ไม่รู้หรือไงว่าฐานะอาจารย์ของฉันคืออะไร? ในสายตาของอาจารย์ของฉัน ตระกูลชางของพวกคุณก็ไม่นับว่าเป็นอะไรทั้งนั้น!“แล้วพวกคุณยังจะมาจับอาจารย์ของฉันไปอีกงั้นเหรอ?”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เฝิงอวี้อู่ก็โกรธจนหัวเราะออกมา“ เชื่อไหมว่า วันนี้ตระกูลเฝิงของฉันก็จะส่งคนมาที่จัดการตระกูลชางของพวกคุณเหมือนกัน?!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ไม่เพียงแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเท่านั้นเหล่าคนดัง นักธุรกิจและลูกหลานเศรษฐีจากตระกูลใหญ่ในเมืองหนิงโจวต่างก็พากันตกตะลึงกันหมดพวกเขาอดไม่ได้ที่จะใช้สายตาของตัวเองมองไปทางหลินเฟิงคน ๆนี้มีเบื้องหลังอย่างไรกันแน่?สามารถทำให้ตระกูลเฝิงฆ่า
คำนับหลินเฟิงสามครั้งต่อหน้าคนทั้งหมด แล้วก็กลืนเม็ดยาสีเขียวสดด้วยสีหน้าขอบคุณเม็ดยาสีเขียวสดเพิ่งจะเข้าปาก มันก็เปลี่ยนเป็นลมหายใจสีเขียวบริสุทธิ์ แล้วไหลลงลำคอของเฝิงอวี้อู่“โผละ!”รูม่านตาของเฝิงอวี้อู่หดตัวลงทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจมหาศาลที่อยู่ในยาเม็ดนี้ได้ทันที ไม่รอให้เขาได้กลั่นมัน ก็ได้ยินเสียงแตกดังมาจากทุกส่วนของร่างกายของตัวเองเมื่อได้ยินเสียงนี้ เฝิงอวี้อู่ไม่เพียงแต่จะไม่ตื่นตระหนก แต่กลับดีใจอย่างมากเพราะว่านี่คือเสียงที่สร้างกระดูกใหม่ และตันเถียนที่ซ่อมแซมจนขยายตัวออกแล้วท่ามกลางเสียงน้ำไหลที่มีเพียงเฝิงอวี้อู่เท่านั้นที่ได้ยิน ทันใดนั้นเขาก็พบว่าตันเถียนหดตัวของตัวเองนั้น ตอนนี้เต็มไปด้วยพลังชี่แท้จำนวนมากแถมพลังชี่แท้พวกนี้ยังเป็นของเหลวที่ไหลเวียนผ่านเส้นลมปราณไปทั่วร่างกายของเขา เพื่อชดเชยอวัยวะและร่างกายที่สูญเสียไป“นี่...ยาเม็ดนี้ ...จริง ๆแล้วยาเม็ดนี้ก็คือ.....”เฝิงอวี้อู่ตกตะลึงเมื่อกี้ยังรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นพิเศษอยู่เลย สีหน้าก็ขาวซีดเล็กน้อย แต่ตอนนี้กลับมีสีชมพู แถมทั้งร่างกายก็รู้สึกเบาผิดปกติ จนแทบอยากจะกระโดดสูงหลาย ๆเมตร
ชายคนนี้รีบสลัดแขกทั้งหมดที่มารวมตัวกันอยู่รอบตัวเขาทิ้งทันที แม้แต่หุ้นส่วนทางธุรกิจ นักธุรกิจและคนดังของตระกูลเฝิงอีกมากมายเฝิงอวี้อู่ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรต่อพวกเขา แล้วปล่อยพวกเขาเอาไว้โดยที่ไม่ได้สนใจเขารีบก้าวเข้าไปหาหลินเฟิงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคุกเข่าลงข้างหนึ่ง แล้วพูดว่า :“อาจารย์ คุณมาที่เมืองหนิงโจวได้ยังไง? คุณมาเมืองหนิงโจวแล้ว ทำไมไม่บอกผมสักคำล่ะ?”ชายคนนี้ที่เรียกอาจารย์หลินเฟิงก็คือเฝิงอวี้อู่ คุณชายใหญ่ของตระกูลเฝิงแห่งเมืองหนิงโจว ที่เพิ่งฟื้นจากอาการป่วยหนักแถมยังเป็นเฝิงอวี้อู่ที่หยิ่งยโสอีกด้วยคาดไม่ถึงว่าจะคุกเข่าลงตรงหน้าชายที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรด้วยความจริงใจแบบนี้ ทำให้เหล่าคนดังจากทุกวงการที่เข้ามาอยู่รอบ ๆเฝิงอวี้อู่ ต่างก็ค่อย ๆพากันหยุดและตื่นตะลึง ต้องรู้ว่า เฝิงอวี้อู่ที่ได้มาเป็นลูกศิษย์ของหลินเฟิงนั้น เรื่องนี้ตระกูลเฝิงไม่ได้เผยแพร่ออกไป และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าเฝิงอวี้อู่เรียกชายหนุ่มคนนี้ว่าอาจารย์ จู่ ๆผู้คนทั้งหมดก็ตกอยูในตะลึงไม่เพียงแค่นี้เฝิงไฉ่เซวียนและเฝิงไฉ่อิ๋ง สองสาวที่ติดตามเ
เดิมทีคิดว่าคราวนี้เป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้คืนดีกันแต่คิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้“ไอ้หนุ่ม ดูสิ แม่ยายของนายพูดขนาดนี้แล้ว นายก็ควรจะรีบไปนะ จะได้ไม่ต้องอับอายที่นี่”ไป๋ถงยิ้มอย่างดูถูกหลินเฟิงจากนั้น เขาก็มองไปทางหลี่ฮุ่ยหรานอีกครั้งด้วยแววตาที่หลงใหล ก่อนจะโน้มน้าวว่า :“คุณหลี่ฮุ่ยหราน คุณทั้งสวยและยอดเยี่ยมขนาดนี้ แล้วยังบริหารบริษัทใหญ่อย่างหลี่ซื่อกรุ๊ปอีก จะหาผู้ชายแบบไหนไม่ได้บ้าง?”“ทำไมถึงต้องไปหาคนขี้ขลาดแบบนี้ด้วย?”“หาผู้ชายแบบนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้ตัวเองเสียหน้าเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการพัฒนาและภาพลักษณ์ของหลี่ซื่อกรุ๊ปทั้งหมดอีกด้วย ผมแนะนำให้คุณวางแผนไว้ล่วงหน้า” เมื่อพูดจบ เขาก็หยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋าเสื้อของตัวเอง แล้วเอาไปใส่ไว้ในมือของหลี่ฮุ่ยหราน ก่อนจะพูดพร้อมกับยิ้มอย่างสุภาพบุรุษว่า :“คุณหลี่ฮุ่ยหราน หากคุณต้องการอะไร สามารถติดต่อผมได้ตลอดเวลา สำหรับหญิงสาวที่มีความสามารถและทักษะอย่างคุณ การที่ผมจะย้ายไปที่หลี่ซื่อกรุ๊ปก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”พูดจบเขากับแม่ของเขาเมิ่งโหย่วฟาง ก็จากไปด้วยท่าทางของผู้ชนะเหลือเพียงแค่หลี่ฮุ
“ฮ่าฮ่าฮ่าหลังจากที่หลินเฟิงอธิบายให้หลาย ๆคนฟัง จู่ ๆเมิ่งโหย่วฟางก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมา ก่อนที่เธอจะปรบมือแล้วพูดว่า : “ดี สมกับเป็นแมงดา คิดไม่ถึงว่าจะตอบสนองได้เร็วแบบนี้ ทั้งยังแต่งเรื่องราวโกหกออกมาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย”เมื่อได้ยินคำพูดนี้จางกุ้ยหลานกับหลี่ฮุ่ยหรานต่างก็ตกตะลึงไปชั่วครู่และในขณะนี้เอง ก็มีชายหนุ่มรูปงามที่ชโลมผมไปด้วยน้ำมันเดินเข้ามา เห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรกแล้วชายคนนี้จะต้องอยู่ในวงการธุรกิจมานานหลายปี ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเหมือนกับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเขาเพิ่งจะเดินออกมาจากฝูงชน แล้วก็ไปทำเสียงเย็นชาใส่หลินเฟิง ก่อนจะพูดขึ้นว่า :“เหอะ แมงดาอย่างคุณผมเจอมาเยอะแล้ว”“ก็แค่เอาเงินของคุณหลี่ฮุ่ยหรานไปทำเรื่องอื่นนะสิ แล้วก็ใช้เงินหนึ่งหมื่นบาทไปซื้อชุดที่เลียนแบบราคาถูก ๆ เพื่อที่จะเอาใจคุณหลี่ฮุ่ยหรานก็เท่านั้น”“คุณเป็นใคร?”เมื่อหลินเฟิงเห็นท่าทางที่เยาะเย้ยของชายคนนี้ ก็ขมวดคิ้วทันที“ผมชื่อไป๋ถง ตอนนี้เป็นรองผู้จัดการทั่วไปของเทียนฮ้าวกรุ๊ปที่เมืองหนิงโจว และจบการศึกษาปริญญาเอกด้านกฎหมายทางการเงินจากมหาวิทยาลัยสแตน
ที่นี่คือที่ไหน?คนที่ได้รับเชิญไปงานแต่งงานต่างก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเก่าที่เรียนดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ไม่ต้องพูดถึงเสื้อสูทราคาหนึ่งหมื่นบาท หรือแม้แต่เสื้อสูทราคาหนึ่งแสน สวมใส่มาแล้วก็จะนำความอับอายมาให้ตัวเองและยังทำให้ผู้จัดงานอับอายขายหน้าด้วย“จิ๊ จิ๊ จิ๊ คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าลูกสาวของจางกุ้ยหลานจะมีเสน่ห์ขนาดนี้ ทำไมถึงได้หาผู้ชายที่ต่ำต้อยขนาดนี้ล่ะ?”“ใช่แล้ว ลูกสาวคนนั้นไม่ว่าจะมองยังไงก็โดดเด่นขนาดนั้น แต่ทำไมถึงเลือกที่จะแต่งงานกับแมงดาคนหนึ่งล่ะ?”เมื่อได้ยินการวิพากษ์วิจารณ์โดยรอบ ใบหน้าของจางกุ้ยหลานก็ซีดลงทันทีหลี่ฮุ่ยหรานก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปหาหลินเฟิงพร้อมกับเอ่ยถามเบา ๆว่า :“หลินเฟิง ฉันไม่ได้ให้คุณใส่เสื้อสูทที่พิเศษกว่านี้เหรอ? แม่ของฉันเป็นห่วงชื่อเสียงมาก ทำไมคุณถึง.....”เมื่อมองเห็นท่าทางที่ผิดหวังของหลี่ฮุ่ยหราน หลินเฟิงก็รู้สึกโกรธเล็กน้อยเช่นกันแน่นอนว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้จางกุ้ยหลานและหลี่ฮุ่ยหลานอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ เพราะอย่างนั้นเขาจึงไปที่ร้านเสื้อผ้าหรูหราขนาดใหญ่ที่มีเผิงกวงฉี่เป็นเจ้าของ เพื่อที่