“เจ้ว่าอะไรนะคะ!” เสียงหวานติดเหวี่ยงตามแบบนางร้ายสายแซ่บถามขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ
“เขาถอดเบลออกจากเรื่องนี้”
ถอดได้ยังไง ไหนสัญญากันแล้วว่าจะให้เธอเล่นเรื่องนี้ไง
“ถอดได้ยังไงคะ ไหนพี่บีบอกเบลว่าจะได้เล่นเรื่องนี้ไง” เบลหรือเบญญาถามเสียงแข็ง พี่บีรู้ว่างานนี้สำคัญกับเธออย่างไร ทำไมถึงยอมให้เธอถูกถอดออกง่าย ๆ
“พี่ก็ไม่ได้อยากจะให้เบลโดนถอด แต่เราก็รู้ว่าเรื่องนี้มีการเปลี่ยนนางเอกจากศิตามาเป็นนีนี่” ใช่ เธอรู้ว่าเรื่องนี้มีการเปลี่ยนนางเอก ตอนแรกนางเอกที่เธอต้องร่วมงานด้วยคือศศิตา[1] แต่เพราะนางเอกคนดังเกิดตั้งท้องกับแฟนหนุ่มเลยขอถอนตัว
“เป็นนังนีนี่แล้วทำไมคะ”
นีนี่ หรือรานี นางเอกดาวรุ่งของวงการ ความดังของเธอมาจากละครเรื่องล่าสุดที่เธอรับบทเจ้าหญิงแสนสวย ผู้มีจิตใจงดงามเหมือนกับใบหน้าเรียวสวยได้รูป ดวงตากลมโตชวนฝัน
นางเอกในเรื่องพบรักกับองครักษ์หนุ่ม บทบาทนี้ส่งให้รานีเป็นนางเอกดังชั่วข้ามคืน ทั้งยังมีข่าวออกมาเรื่อย ๆ ถึงความน่ารักนิสัยดีของนางเอกคนดัง ทำให้แฟนคลับเพิ่มขึ้นทวีคูณ
ภาพลักษณ์ของนางเอกที่มีจิตใจงดงาม ไม่ถือตัวกับนักแสดงตัวประกอบ ช่างแต่งหน้า และคนในกอง นางเอกที่ผู้กำกับทุกคนอยากร่วมงานด้วยเพราะการแสดงขั้นเทพ
จิตใจงดงามอย่างนั้นเหรอ ไม่ถือตัวอย่างนั้นเหรอ การแสดงขั้นเทพอย่างนั้นเหรอ...ฟังแล้วเบญญาอยากจะคว่ำปากใส่สักร้อยครั้ง คว่ำปากให้เหมือนนางร้ายชื่อดังในอดีต เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะนางเอกใสซื่อที่คนทั้งวงการและทั้งประเทศมองว่าเป็นคนดีนั้น ตัวตนที่แท้จริงยิ่งกว่านางร้ายในละคร
“เบลก็รู้ดีว่านีนี่เขาไม่ชอบทั้งพี่และเบล”
ไม่ชอบคนทั้งสองที่ชุบเด็กบ้านแตกคนหนึ่งให้กลายเป็นดาวประดับวงการเนี่ยนะ
อดีตน้องรักที่เธอและพี่บีเคยช่วยเหลือ
เวลาเปลี่ยน ทุกอย่างเปลี่ยน
ใจคนก็เปลี่ยน
ความดังทำให้คนเปลี่ยน
“ไม่ชอบเบล เบลไม่ว่าค่ะ แต่นี่พี่บีมีพระคุณกับนางท่วมหัวนะคะ นางผิดสัญญาแต่พี่บีไม่ฟ้องนี่ก็เป็นบุญหัวขนาดไหนแล้ว ยังมีสิทธิ์อะไรมาไม่ชอบพี่บี” เบญญาพูดอย่างโมโห
ค่าทำหน้าใหม่ที่เกาหลี พี่บีลงทุนจ่ายให้นังนีนี่ตั้งเท่าไร พอดังขึ้นมาหน่อยปีกกล้าขาแข็งทั้งแม่ทั้งลูก ฉีกสัญญาของพี่บีทิ้งไปเป็นนักแสดงอิสระ เท่านั้นไม่พอ ยังมาขัดแข้งขัดขาการทำงานของเธอกับพี่บีอีก
“เบล ช่างมันเถอะ เดี๋ยวพี่หางานใหม่ให้เบลนะ”
งานใหม่...เมื่อไรกัน เธอต้องการใช้เงินและต้องใช้มากด้วย นางร้ายอย่างเธองานแสดงก็ไม่มี อีเวนต์ไม่เคยได้ออก เกมโชว์เขาก็ไม่เชิญเพราะเธอพูดไม่เก่ง
พรีเซนเตอร์ไม่ต้องพูดถึง ลืมไปได้เลย ภาพลักษณ์เธอไม่ได้
ดีขนาดนั้น แค่นางร้ายกลางแถว ไม่ดัง แต่ก็ใช่ว่าคนจะไม่รู้จัก พอรู้จักบ้างจากข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ที่มือมืดพยายามโจมตียิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ เธออยากเอาคืนยายนางเอกนั่นเหลือเกิน อะไรคือจุดอ่อนของนังคนนี้ อะไรที่จะทำให้แม่นางเอกคนดีของคนทั้งประเทศดิ้นเร่าเหมือนไส้เดือนโดนน้ำร้อน
อะไรกันนะ...
เธอกำโทรศัพท์มือถือแน่นด้วยความโกรธขึ้ง พี่บี ศุภลัยวางสายไปแล้ว แต่หัวใจเธอยังเต้นรัว เงินในบัญชีไม่พอจ่ายถึงสองเดือนแน่ ๆ ไหนจะค่าคอนโด ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหาร ค่าส่วนกลาง และที่สำคัญ ค่าใช้จ่ายของพ่อ
พ่อ...พ่อที่ไม่สามารถพูดคุยกับเธอและแม่ได้มากว่าหนึ่งเดือนแล้ว ท่านล้มลงในเช้าวันหนึ่งเพราะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ตอนนี้ท่านยังอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤติ หรือห้องผู้ป่วยที่แพงที่สุดในโรงพยาบาล
ห้องไอซียู...ห้องที่ค่าใช้จ่ายคืนหนึ่งหลายหมื่น เธอไม่กล้าย้ายโรงพยาบาลให้พ่อ เพราะอดีตเคยเสียย่าไปแล้วจากการรักษาในโรงพยาบาลที่ไม่เอาใจใส่คนไข้ เธอไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นอีกกับคนที่เธอรักที่สุด
คนที่ให้กำเนิดเธอ
สายเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อมองหน้าจอมือถือก็ยิ่งคิดหนัก กลัวว่าแม่จะโทร.มาบอกเรื่องที่เธอไม่อยากฟัง
“ค่ะ แม่”
“เบล วันนี้พ่อสบายดีนะลูก ไม่ต้องเป็นห่วง” คำพูดของแม่เหมือนต่อพลังชีวิตให้เธอ พ่อแม่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด โรงพยาบาลต่างจังหวัดยังค่าใช้จ่ายสูงขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ คงไม่ต้องพูดถึงว่าจะแพงกว่าขนาดไหน
“ค่ะ แม่กินข้าวหรือยังคะ” น้ำเสียงสดใสกึ่งออดอ้อนถูกส่งไปหาปลายสาย เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อแม่ พวกท่านมีแค่เธอ และเธอเองก็มีแค่พวกท่านเท่านั้น
“กินแล้วลูก เบลล่ะกินหรือยัง แล้วอย่าอดข้าวมากนะลูก” คำพูดของแม่ทำน้ำตาเธอรื้นขึ้นทันที ครั้งสุดท้ายตอนไหนกันนะที่เธอกินข้าวอิ่มครบสามมื้อ
นานมาก...นานจนเธอจำไม่ได้แล้ว
[1] ศศิตา หรือศิตา นางเอกจากเรื่อง รักเรากี่ซีซี โดยกาแฟหอมกรุ่น
“ว่ายังไงคะ คุณลูกสาว มีอะไรปิดบังแม่” บี๋หันไปมองลูกสาวคนเล็ก เพราะคนในรูปที่ว่าเป็นนักศึกษาสาวคือลูกสาวคนเล็กของผมเอง“คือ...คือน้องใบ น้อง...พ่อช่วยน้องด้วย”“บี๋ ไม่มีอะไรหรอก”“ไม่มีอะไรก็บอกมา คอนโดนั่นก็ไม่ใช่คอนโดเรา ทำไมไปโผล่กันที่นั่น” เมียรักคาดคั้น ผมก็เริ่มเหงื่อตก มองหน้าลูกสาวคนเล็กอย่างชั่งใจ งานนี้ต้องสารภาพแล้ว ขืนสู้ต่อมีหวังซวยกับซวย“พี่ซื้อห้องให้น้องใบใหม่เองครับ”“ฮะ ซื้อทำไมอีก” บี๋มองหน้าผมกับลูก“ใบ...ใบอยากได้ห้องที่นั่นค่ะแม่” ลูกสาวตัวน้อยผละจากแขนผมไปเกาะแขนแม่ของตัวเองแทน เพราะเป็นลูกคนเล็ก ทุกคนเลยตามใจทุกครั้ง และครั้งนี้ผมก็อดตามใจลูกไม่ได้สักที“ทำไมถึงอยากได้ที่นั่น เรามีคอนโดไม่รู้กี่ที่แล้วนะ” ลูกสาวคนเล็กของผมเป็นคนที่อายุน้อยสุด แต่มีคอนโดเยอะที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งสามคน“ก็ทำเลดี อีกอย่างคนเช่าก็เป็นกลุ่มคนต่างชาติ ราคาไม่แรงมาก ปล่อยขายก็ได้ราคาอยู่นะคะแม่” นี่แหละ ลูกคนเล็กของผมชีวิตติดลงทุน“เฮ้อ! พอแล้วนะ ห้องสุดท้ายแล้ว” เพราะลูกสาวคนเล็กอายุยังไม่ถึงยี่สิบ ทำให้ซื้อขายอะไรก็ต้องให้ผมหรือพี่ ๆ ช่วย ส่วนบี๋ไม่อยากให้ลูกต้องเครียด อยากให้
ตอนพิเศษ 5 ครอบครัวของเราและแล้ววันเกิดบี๋ก็มาถึง ผมทั้งตื่นเต้นทั้งนอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าของขวัญที่ผมเตรียมให้บี๋จะถูกใจไหม ทำไปทำมาได้ผ้าห่มออกมาหลายผืน พ่อแม่ผมแอบให้ตั้งแต่วันก่อนแล้ว ส่วนแม่บี๋เองผมก็ขับรถเอาไปให้ถึงบ้าน ผ้าห่มของพวกท่านอาจไม่สวยมากเพราะตอนนี้ผมยังฝีมือไม่ดีแต่หลังจากนั้นฝีมือผมดีขึ้น รับรองว่าบี๋ของผมชอบแน่นอน และนอกจากทำให้บี๋แล้ว ผมยังทำให้ลูกของเราทั้งสองคนด้วย ถึงอีกคนจะยังอยู่ในท้อง ผมก็เย็บเบาะขึ้นมาด้วยงานวันเกิดของบี๋วันนี้มีเพียงเพื่อน ๆ กลุ่มผมกับกลุ่มของบี๋ วันนี้ศิตาเพื่อนรักนักแสดงของบี๋มากับลูก ๆ ด้วย เด็ก ๆ เดี๋ยวเล่นกัน เดี๋ยวตีกันวุ่นวายไปหมด แต่คนที่ดูมีความสุขที่สุดน่าเป็นพ่อกับแม่ เพราะนาน ๆ ทีถึงจะมีแขกมาบ้านเยอะแบบวันนี้ถือว่าเป็นการจัดงานเลี้ยงวันเกิดและเป็นการรวมญาติได้เลย หลังจากงานวันเกิดเสร็จเรียบร้อย ผมก็พาเมียรักมานอน พยุงคนท้องแก่ขึ้นบนเตียง ส่วนน้องภูมิวันนี้ให้นอนห้องคุณปู่คุณย่า“บี๋ วันนี้สนุกไหมครับ”“สนุกมากค่ะ ไหนของขวัญเบล”“โห ทวงใหญ่เลย”“ไม่ทวงได้ไง กลัวไม่ได้ หรือเดี๋ยวนี้หมดโปร พี่ภาสไม่มีให้เบลแล้ว” ดูเมียรักผมคิดสิ
“ห้องนี้ไม่ค่อยใหญ่เหมือนคราวที่แล้วนะ” เจ้เมย์ว่า เพราะก่อนหน้านี้เคยมากินข้าวที่บ้านนี้ ห้องอาหารใหญ่ของที่นี่นั่งได้เกือบยี่สิบกว่าคน ซึ่งจะเปิดใช้งานเวลามีแขกมาเยอะ ๆ แต่วันนี้มีแค่พวกเราเท่านั้น“เบล แกท้องแล้วยิ่งสวยขึ้นนะ คุณภาสหวงแย่ละสิ” พิซซี่จับคางฉันหมุนไปหมุนมา“ก็หวงตลอดไหม” เจ้เมย์พูดเหมือนชินกับความขี้หวงของคุณสามีของนางร้าย ซึ่งตอนนี้ทุกคนคุ้นชินกันหมดแล้ว“เออนั่นสิ หวงตลอด เบื่อคนผัวรักผัวหลง” พิซซี่เบะปากให้ฉัน ภาพนั้นเหมือนตอนที่เพื่อนเล่นบทนางร้ายในทีวี ยิ่งทำให้ฉันขำพิซซี่เข้าไปใหญ่“แม่ ดูมันสิ ใบหน้าสวย ๆ ที่ยิ้ม ๆ ของไอ้เบล มันกำลังแอบดูถูกพิซซี่ว่าผัวไม่รัก”“อ้าว มีผัวแล้วเหรอ ก็ไหนบอกว่าโสด” ทีเจได้ทีแขวะพิซซี่ทันที พวกเรานี่ไม่ควรเลิกคบกันเพราะศีลเสมอกันเกิน“เออ เพิ่งโสดสนิท ก่อนหน้านี้ก็โสดบ้างเป็นบางวัน” พิซซี่หน้างอยิ่งกว่าเดิม“แม่!” เสียงของเด็กชายตัวอ้วนเดินคล่องบ้างล้มบ้าง กำลังเดินมาพร้อมกับพี่ภาสสามีสุดหล่อของฉันเอง“สุดหล่อ มาให้น้าพิซซี่อุ้มหน่อย” พิซซี่รีบวิ่งออกไปรับเด็กอ้วน แต่ยังไม่ทันจะรับลูกชายของฉันขึ้นมาอุ้ม ชายหนุ่มที่พวกเราเพิ่งพูดถึ
“อะไรครับบอส” เจมส์คงตกใจที่จู่ ๆ ผมก็พูดขึ้นมา “กูจะเย็บผ้าห่มให้เมียกับลูก”“เอ่อ บอสครับ ผ้าห่มที่บอสใช้อยู่ตอนนี้ผืนละสองล้านนะครับ”“แล้วไง ที่กูเย็บให้ต้องดีกว่าไอ้ผ้าห่มขนเป็ดนั่น” ขนเป็ดที่ว่าเป็นขนเป็ดที่เป็นสัตว์สงวนและผลิตผ้าห่มได้ปีละไม่กี่ผืน ต้องจองกันข้ามปีกว่าจะได้สักผืน แต่แล้วไง ผ้าห่มที่ผัวแสนดีเย็บให้น่ะ รับรองบี๋ต้องชอบกว่าผ้าห่มขนเป็ดราคาสองล้านแน่นอน“บอสจะให้หาที่สอนไหมครับ”“ติดต่อให้หน่อย เอาที่สอนทำจนเสร็จ มีอุปกรณ์พร้อม แล้วเลือกเนื้อผ้าที่ดีที่สุดเลยนะ กูจะเย็บให้เมีย” หลังจากเย็บเมียมานาน ตอนนี้จะได้เย็บผ้าห่มให้เมียแล้ว เมียต้องดีใจแน่นอนตอนพิเศษ 4 แม่เบลคนสวยฉันเปิดบ้านนี้ต้อนรับรายการของนางร้ายคนสวยอย่างพิซซี่ที่ผันตัวเองมาทำงานอิสระอย่างเต็มตัว และมีช่องของตัวเองในแพลตฟอร์มต่าง ๆ มากมายในเรื่องหน้าที่การงานดูเธอจะทำได้ดีตลอด แต่ในเรื่องของความรัก เพื่อนฉันคนนี้เหมือนคนโง่ที่เพื่อนด่าเท่าไร นางไม่คิดจะแก้ไข“ใช้ได้ใช่ไหม” ฉันเอ่ยถามในตอนที่พิซซี่เช็กความเรียบร้อยของการถ่ายทำ“ใช่ ๆ ไหนดูซิ ท้องโตแค่ไหนแล้วเนี่ย ดีใจด้วย มีลูกเร็วทันใช้เลยนะ”“อืม แ
“อื้อ อย่าแกล้ง”“ไม่ได้แกล้ง เยิ้มขนาดนี้ ใครแกล้งใครกันแน่” นั่นสิ ใครแกล้งกันแน่ เธอต่างหากที่แกล้งผม รัดกันขนาดนี้ ผมจะขาดเอาได้ เสียงเนื้อกระทบเนื้อถึงจะไม่ดังมาก แต่ความเสียวรับรองว่าฟินจนผมต้องหลับตากลั้นเสียงคำรามของตัวเอง“จะแตก” บี๋พึมพำบอกผมทั้ง ๆ ที่เธอแตกไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง“พร้อมกัน” ผมกระชับเอวเธอไว้แน่น หมุนวนทั้งคลึงเคล้าและกระแทกในบางจังหวะ เพียงไม่นานเราสองคนก็เหยียบดินแดนแห่งปุยนุ่น ความสุขของเราสองล้นเอ่อหากันและกันPASS295 BAR เวลา 22.00 น. “โอ้โฮ วันนี้ท่าทางเราจะโชคดีนะพี่ไนท์ เจอเจ้าของผับด้วย” ผมหันไปมองหน้าไอ้หมอ ไม่ใช่หมอสองคน แต่เป็นไอ้เต หรือที่ใครเรียกมันว่าหมอเตชิน[1] เป็นหมอนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่สี่ มันควรวุ่นวายกับการอ่านหนังสือ แต่มันดันมาโผล่อะไรที่นี่ส่วนอีกคนก็ไอ้เชฟหน้าหล่อ เชฟไนท์[2]เป็นทันตแพทย์โดยอาชีพหลัก อาชีพเสริมเป็นเชฟขนมหวาน มีลูกติดหนึ่งตัว ชื่อน้องสลิด หยอก ๆ มันเลี้ยงแมว แล้วชอบส่งรูปแมวน่ารัก ๆ ของมันมายั่วเมียผมตลอด ไอ้คนชั่วว่าแต่ไอ้คนชั่วสองตัวมาทำอะไรที่นี่“มึงมาทำไม”“โห เฮียภาสถามลูกค้าแบบนี้ได้ไงครับ” ไอ้เตรีบเข้ามาเกาะแข
“ไปรอพี่ที่ห้องแต่งตัว” นั่นไง ไม่ค่อยจะเชื่อฟังหรอก ถ้าอยากต้องได้กิน จะอดทำไม ไม่ได้ทำให้อ้วนไม่ได้ทำให้อ้วนค่ะ แต่ทำให้เมื่อย“อ๊า!” เมื่อยทั้งเสียง เมื่อยทั้งตัว หน้าท้องฉันขมวดเกร็งเพราะแรงเร่งเร้าจากปลายลิ้น กลีบสาวถูกไล้เลียด้วยปลายลิ้นสาก หยอกล้อให้ฉันหลงใหลและเผลอส่งเสียงครางออกมาไม่หยุด“อื้อ” นิ้วมือเรียวยาวแทรกผ่านร่องร้อนชื้นและลื่น เขาพึมพำว่าฉันตอดแรง ฉันไม่รู้หรอกว่าตอดแรงหรือตอดเบา รู้แต่ว่าตอนนี้อึดอัดกับส่วนนั้น ทุกจังหวะที่เขารูดเข้าออกทำให้ฉันหายใจไม่ทั่วท้องฉันระบายออกจากความเสียดเสียวนี้ด้วยการจิกผมเขา กดหัวเขาให้ปรนเปรอฉันมากกว่านี้ ทำให้ฉันถึงจุดหมายโดยเร็ว ความทรมานจากความเสียวกำลังจะทำให้ฉันหายใจติดขัด“อา...” ฉันครางเมื่อร่างกายปลดปล่อยออกมา ฉันหลับตาลงซึมซับความเสียวซ่านที่ยังอยู่ในกาย ร่างกระตุกเกร็งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องแต่งตัว นิ้วมือร้ายกาจยังคงวนอยู่ในร่องหลืบแห่งความรัญจวน เขากดนวดจุดนั้นในกายฉัน เพียงไม่นานฉันก็ร้องครางปลดปล่อยให้เขาได้ลิ้มชิมรสอีกครั้ง“อ๊ะ อย่าดูด” เขากลืนทั้งหมดไปแล้วยังไม่หนำใจ ดูดแรง ๆ ตรงปลายแหลมของดอกไม้กลางกาย เขาอยากเคล้