Share

บทที่ 4

last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-24 13:24:13

ห้องทำงานของคิน

ก๊อก ๆ !

“คุณราฟามาแล้วค่ะคุณคิน” เสียงเลขาบอกพร้อมกับเจ้าของชื่อเดินเข้ามา

“ดี” ผมทักทายอย่างคุ้นเคย ถึงจะเป็นเจ้าชาย แต่เพราะสนิทกันมาตั้งแต่ตอนเด็กทำให้ไม่ต้องมีพิธีอะไร

“เออ” ไร้ซึ่งมารยาทเหมือนเดิม

“มีธุระอะไร ไม่เคยอยู่ติดประเทศตัวเองบ้างเลยนะ” ราฟาทำท่ายักไหล่แบบไม่แคร์ในคำพูดของผมเลยสักนิด

“คุณหญิงพิมพาเชิญมางานวันเกิดน่ะ เลยแวะมาหามึงก่อนเลย พอดีว่ากูได้รู้ข่าวร้อนมาว่ามึงไปซื้อหุ้นของอาร์วีเค ไว้ในมือแล้วเหรอ” จมูกไวจังนะ

“อือ”

“เฮ้ย! ได้ไง บริษัทนั้นดูท่าไปได้สวย ไม่น่าเทขายหุ้นเยอะขนาดนั้น” ไอ้เจ้าชายดูตกใจมากที่ทุกอย่างเป็นความจริง

“ไม่ได้สนใจหุ้นนี่ สนใจคนมากกว่า” โซยู ถ้าคิดจะอยากได้เธอ ผมก็ลงทุนละนะ ลงทุนเยอะมากซะด้วยสิ

“มึงสนใจใคร อย่าบอกนะว่าสนใจผู้บริหารสาวสวยแห่งอาร์วีเค “

“ก็มีคนเดียวนั่นแหละ” ผมตอบกลับอย่างหงุดหงิด

“กูว่ามึงขายต่อมาให้กูดีกว่า จ่ายเพิ่มอีกเท่าตัวเลย” นั้นไงว่าแล้ว ไอ้นี่ต้องการกวนประสาทละสิ กว่าจะทำให้พี่เธอยอมขายหุ้นได้มันยากขนาดไหน

“เก็บเงินไว้อม”

“อะไรกัน ปกติมึงไม่เคยหวงอะไรกับกูเลยนะ แต่นี่เกิดอะไรขึ้น” ราฟามองอย่างจับผิด

“เออ เรื่องอื่นไม่หวง แต่เรื่องนี้อย่ายุ่งได้มั้ย” ราฟาทำหน้าขัดใจอยู่พอสมควร พอถามว่าทำไมถึงอยากได้หุ้นบริษัทนี้มันก็ไม่ยอมพูด มีเพื่อนตัวปัญหานี่มันน่าเบื่อจริง ๆ ช่างมันเหอะไอ้เจ้าชายนี่ อดทนรออีก 3 วันไม่ไหวแล้วสิ รอวันที่โซยูจะเข้ามาอยู่บ้านเดียวกับผมไม่ไหวแล้วจริง ๆ

โรงแรม อินยามา (งานวันเกิดคุณหญิงพิมพา)

ฉันอยู่ในชุดเกาะอกราตรียาวสีน้ำเงิน ส่วนอลิสอยู่ในชุดราตรียาวสายเดี่ยวสีครีม ตั้งแต่ก้าวขาเข้าในงานผู้คนต่างให้ความสนใจยายอลิสกันเป็นพิเศษ ฉันเลยโดนหางเลขไปด้วย สายตาผู้ชายที่จ้องกันมันกำลังทำให้อึดอัด และหงุดหงิด พวกหัวงู

ตอนนี้งานก็เริ่มขึ้นมาได้สักพักแล้ว แต่ละมุมก็มีแบ่งกันเป็นโซนอาหารนานาชาติ เรียกได้ว่ามีแทบจะทุกชาติเลยก็ว่าได้ อลิสขอตัวไปรับโทรศัพท์จากผู้จัดการส่วนตัว ทำให้ทุกสายตาจับจ้องมาที่ฉันเพียงคนเดียวแทน หรือเรื่องของพี่ฉันมันแพร่กระจายออกไปแล้วนะ น่าเบื่อจัง หาจังหวะออกไปเดินเล่นนอกระเบียงแก้เบื่อดีกว่า

ฉันเดินหลบออกมานอกระเบียงอย่างลำบาก เพราะพอจะก้าวเดินของมีท่านผู้หญิงคนนั้นคนนี้พาลูกชายมาแนะนำ อย่างบางคนเป็นนักเรียนนอก ดีกรีนักกีฬามหา’ลัย แต่ตัวเตี้ยกว่าฉันตอนถอดรองเท้าส้นสูงซะอีก ความรู้สึกเหมือนยืนคุยกับเด็กป.6 ซะมากกว่า ในที่สุดฉันก็สามารถเดินออกมาสู่ระเบียงได้สำเร็จ ลมตอนกลางคืนนี่สดชื่นดีเหมือนกันนะ ฉันสูดหายใจเขาลึก ๆ แล้วหมุนตัวไปทางซ้าย แต่ก็ต้องสะดุดกับภาพหนึ่ง

ผู้หญิงกับผู้ชาย2คนกำลังยืนจูบกันอย่างดูดดื่ม เอ๋! นี่มันยายแพรี่นี่ ยายเซเลบตัวเหวี่ยง ฉันไม่ค่อยถูกกับยายนี่สักเท่าไร ส่วนผู้ชายยืนหันหลังให้ฉันอยู่จึงทำให้ไม่เห็นว่าเป็นใคร แพรรี่นี่มีคู่หมั้นแล้ว และที่แน่ ๆ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คู่หมั้นของเธอ เพราะคู่หมั้นเธอตัวเตี้ยกว่าฉันอีก ฉันกำลังจะหันหลังกลับก็ไม่ทันซะแล้ว เพราะยายแพรี่ทำท่าทีตกใจขวัญเสียที่มีคนมาเห็นหล่อนกำลังวุ่นวายกับผู้ชายคนอื่น

“นั่นใครน่ะ มาแอบดูพวกเราทำไม” ยายแพรี่ตะโกนถามด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความสตอของเธออย่างล้นหลาม ก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับคล้องแขนผู้ชายคนนั้นมาด้วย จึงทำให้ฉันเห็นหน้าเขาชัด ๆ คนที่ฉันไม่อยากเจอบนโลกนี้มากที่สุด ภาคิน

“อ้าว โซยูเองเหรอ” น้ำเสียงของยายแพรี่ที่แสดงเหมือนตกใจที่เห็นฉัน

“ว่าไง” ฉันตอบกลับแบบหน้าตาย เขาก็เอาแต่จ้องหน้าฉันแล้วยิ้มมุมปาก ทำไมต้องมาเจอตอนนี้ด้วยเนี่ย

“เธออย่าบอกนักข่าวนะเรื่องเมื่อกี้อะ ฉันกลัวคุณภาคินเสียหาย” เธอนี่ไม่กลัวตัวเองเสียหายเลยสินะ ผู้หญิงอะไรเนี่ย

“ฉันคิดว่าเธออยากให้บอกนักข่าวซะอีก เพราะเธอจะได้ควงเขาเต็มที่ ดีกว่าควงคู่หมั้นเตี้ยม่อต้อของเธอใช่มั้ยล่ะ” เพราะฉันก็อยากให้เขามีข่าวว่าแย่งแฟนชาวบ้านเหมือนกัน

“ไม่จริงนะ นี่โซ ใครจะอยากมีข่าวเสียหาย ก็แค่การทักทายกันเท่านั้นเอง ฉันไม่เคยคิดจะจับคุณคินเลยนะ” ทำเป็นออดอ้อน รอบนี้ไม่แสดงกำพืดตัวเองออกมาเลยเหรอเนี่ย เมื่อก่อนเจอฉันละชอบจิกกัดก่อนประจำ แต่นี่สร้างภาพ

“แพรี่ รอบหน้าฉันแนะนำนะ ไปกินกันที่โรงแรมจะดีกว่า โอ๊ะ! ไม่สิ อย่างเธอม่านรูดก็น่าจะพอแล้วนะ เกรดอย่างเธอม่านรูดก็หรูแล้ว” ยายแพรี่ปล่อยมือที่คล้องแขนภาคินออกแล้วกำมือแน่น โมโหเหรอ เอาสิ ฉีกหน้าแกได้แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว

“โซยู” ยายแพรี่ที่ทำท่าจะกรี๊ดเพื่อเรียกร้องความสนใจและสงสารอย่างที่ผ่านมา แล้วก็จะล้มลงเพื่อทำเป็นว่ามีคนรังแกหล่อน

“อย่ากรี๊ดนะ ไม่ต้องเอามุกเดิมมาใช้ ถ้าลงไปดิ้นกับพื้นเมื่อไรฉันซ้ำจริง ๆ” ฉันชี้หน้ายายแพรี่อย่างเอาเรื่อง พออยู่ต่อหน้าหมอนี่แล้วเธอไม่กล้าแสดงตัวตนออกมาเลยหรือไงบ้าผู้ชาย

“โซ!” ยายแพรี่พูดพร้อมกับสะบัดหน้าใส่ฉันแล้วเดินเข้างานไป ทิ้งให้ฉันยืนอยู่กับภาคินแค่2คน เมื่อนึกขึ้นได้ฉันจึงรีบเดินเข้างานตามหลังยายแพรี่ทันที แต่ก็โดนมือหนาของเขาคว้าแขนแล้วดันตัวฉันเข้ามุมมืดอย่างรวดเร็ว

“จะทำอะไร ปล่อย” ฉันพยายามทั้งดิ้นทั้งดีดเพื่อหลุดออกพันธนาการของเขา

“เธอเข้ามาขัดจังหวะฉัน เธอต้องรับผิดชอบนะ” อะไร! รับผิดชอบอะไรอีก

“ปล่อย” ฉันยิ่งดิ้นมากเท่าไร เขาก็ยิ่งกอดแน่นมากเท่านั้น

เขาจัดการรวบมือทั้งข้างของฉันไว้ข้างหลังด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว และเบียดตัวประชิดเข้ามาทำให้หลังของฉันอยู่ติดชิดกำแพง มือที่เหลืออยู่ก็ค่อย ๆ ดึงเลื่อนชุดเกาะอกฉันลงจนเห็นเนินอกขาวสวยได้รูปโผล่พ้นขึ้นมาจากขอบชุด คนตัวสูงก้มหน้าลงเข้ามาใกล้ และไล่จูบลงบนเนินอกขาว เขาทำให้ฉันแทบจะหมดแรงขัดขืนขาอ่อนเพราะความตกใจ

“ผู้ชายมองเธอกันทั้งงาน เธอรู้ตัวหรือเปล่า” เขาเงยหน้าขึ้นสบตาฉันอย่างรอคำตอบ รู้สึก และเพราะรู้นี่แหละฉันถึงเดินออกมาข้างนอก แต่ใครจะมองมันก็ไม่เกี่ยวกับนายเลยนะ

“ใครจะมองฉันมันก็ไม่เกี่ยวกับนายเลย ฉันพอใจให้มอง แล้วก็ปะ อื้อ!” ปากที่กำลังด่าก็ถูกปากของเขาประกบปิดลงมาสนิท

มืออีกข้างที่ยังว่างของภาคินดันหลังของฉันให้ยิ่งชิดกับเขามากเข้าไปอีก ฉันพยายามดิ้น และหันหน้าหนี ปากของเขาก็ยิ่งไล่ต้อนตามมามากเท่านั้น ครั้งนี้ไม่เหมือนกับการจูบเมื่อเช้า ร่างกายฉันมันกำลังร้อน ตามรสจูบที่เขาเป็นคนมอบให้

ลิ้นร้อนเกี่ยวพันลิ้นของคนตัวเล็กอย่างชำนาญ ยิ่งเธอดิ้นมากเท่าไร เขาก็ยิ่งกดริมฝีปากลงหนักเท่านั้น ปากที่ชอบท้าทายของเธอ เขาคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์สั่งสอน เขาค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง เพราะดูเหมือนว่าคนตัวเล็กตรงหน้ากำลังจะขาดอากาศหายใจ

เขาก้มหน้าลงขบเม้มตามเนินอกที่โผล่พ้นชุดขึ้นมาทีละจุด รอยแดงโผล่ขึ้นมาแสดงความเป็นเจ้าของ ตอนนี้เขาทำได้เพียงเท่านี้ เขาอยากจะถนอมเธอไปนาน ๆ และไม่ต้องการให้ใครมายุ่งกับคนของเขา หลังจากที่วุ่นวายกับการสร้างรอยตีตราเสร็จแล้วเขาก็ก้มหน้าลงมองใบหน้าคนตัวเล็กที่แดงก่ำด้วยความเขินอาย ต้องทำแบบนี้สินะเธอถึงจะสิ้นฤทธิ์

“อย่าให้ผู้ชายคนไหนมองเธออีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน แล้วชุดแบบนี้โยนทิ้งไปได้เลย มันโชว์เกินไป นี่เป็นคำสั่ง” คนตัวเล็กจ้องหน้ากลับอย่างโมโห แต่ถ้าทำอะไรไปก็จะมีแต่เสียเปรียบ เมื่อถูกปล่อยเธอก็เดินหนีเข้าไปในงานทันที

หลังกลับมาจากงานวันเกิดคุณหญิงพิมพา ฉันยังหาตัวอลิสไม่เจอเลย เมื่อคืนยายนั่นก็ปล่อยให้ฉันกลับคนเดียว ดีนะที่ขับรถไป แล้วไอ้รอยแดงนี่อีก หมอนั่นตั้งใจแกล้งฉันชัด ๆ จะให้ฉันเป็นบ้าหรือไง แล้วไอ้รอยนี่ทำยังไงก็ไม่จางลงเลย วันนี้ก็ต้องเซ็นสัญญาเรื่องหุ้นอีก ฉันนั่งคิดหาวิธีการเอาคืนเขาฆ่าเวลาแก้เซ็ง เสียงโทรศัพท์จากอลิสก็ดังขึ้น

ตี๊ด ตี๊ด ตื้อตื้ด~ ติ๊ด!

“ว่าไง หายหัวทิ้งฉันไปเลยเมื่อคืน ยายบ้า” กดรับสายปุ๊บฉันก็ใส่ยาว

(ขอโทษนะ มีปัญหานิดหน่อย)

“ปัญหาอะไร แล้วเป็นอะไรหรือเปล่าน่ะ”

(ฉันโอเคมาก แกไม่ต้องเป็นห่วง ฉันโทรมาเช็กแกเฉย ๆ ว่ายังอยู่รอดปลอดภัยดี)

“ไปงานวันเกิดนะ ไม่ได้ไปสงครามโลก”

(เออ! งั้นแค่นี้นะ ฉันง่วงแล้ว)

“ไปทำไรมาไม่ได้หลับไม่ได้นอน... เออ พักผ่อนไป บาย~”

เฮ้อ~โอเค ยายอลิสปลอดภัย ฉันก็หมดห่วง

จนป่านนี้แล้วฉันติดต่อพี่ชายไม่ได้สักที หมอนั่นไม่ได้เอาพี่ฉันไปโยนเป็นอาหารปลาแล้วเหรอ มีกันแค่สองคนก็มาหายหัวไปอีก ไหนจะหาวิธีจัดการหมอนั่น ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าจัดการเขายังไง ทำยังไงก็โดนกลับคืนมาหนักตลอด

ตื๊ด~

(คุณโซยูคะ คุณภาคินมาขอพบค่ะ)

เสียงจากพี่มุกเลขาของฉันผ่านโทรศัพท์โต๊ะทำงาน มาเร็วไปนะ นี่พึ่งจะ 10 โมงเช้า ฉันยังทำใจไม่ได้ แต่คนอย่างโซยู ต้องเลิศและเชิดเท่านั้น พร้อม!

ตื๊ด~

“ให้เขาเข้ามาค่ะ” ฉันบอกกับพี่มุกพร้อมกับลุกขึ้นยืนเพื่อต้อนรับเขาตามมารยาท ถึงในใจจริง ๆ จะไล่ให้กลับไปมากกว่า

แอด!

“เชิญค่ะคุณภาคิน” เสียงของพี่มุก และเสียงเปิดประตูห้องทำงานฉันดังขึ้นพร้อมกับนายภาคินที่เดินเข้ามาในห้อง ด้านหลังของเขามีผู้หญิงคนหนึ่งตามหลังเข้ามา ดูแล้วน่าจะเป็นเลขาส่วนตัวของเขา

เขาเดินมานั่งลงที่โซฟารับแขกหน้าโต๊ะทำงานของฉัน และมีเลขาของเขานั่งอยู่ที่โซฟาด้านข้างอีกที วันนี้เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ เป็นสีประจำตัวเขาเลยแหละฉันว่า ดูเป็นผู้ชายมืดมนดี เหมือนจิตใจของเขา

“ขอโทษนะคะ...คุณภาคินจะรับเป็นกาแฟหรือชาดีคะ แล้วก็คุณเลขาด้วย” พี่มุกเลขาของฉันกระซิบถามเลขาของภาคินอย่างเบา ๆ ส่วนเขาก็เอาแต่จ้องหน้าฉันแล้วส่งยิ้มให้

“คุณคินขอเป็นกาแฟดำค่ะ ฉันขอน้ำเปล่าละกันค่ะ” แล้วพี่มุกก็รีบเดินออกไปจัดแจงให้ทันที

“จะยืนอย่างนั้นอีกนานมั้ยครับ” เขาถามฉันที่ยืนกอดอกมองหน้าเขา ส่วนเขาเองก็ยิ้มเยาะกวนประสาทฉันเหมือนกัน

“ขอบคุณที่วุ่นวายกับฉันค่ะ” ฉันตอกกลับอย่างหมั่นไส้

“นั่งลงเหอะ ขาก็ใหญ่มองแล้วไม่เจริญตาเลย”

“นี่...!” อยากจะด่าก็ต้องทนเอาไว้ ฉันได้แต่เดินไปนั่งลงตรงข้ามเขาอย่างหงุดหงิด จังหวะเดียวกันพี่มุกก็เดินเข้ามาพร้อมกับเครื่องดื่มพอดี

“มาทำธุระของเราให้เสร็จดีกว่า” เสียงทุ้มพูดพร้อมกับที่เลขาของเขาหยิบแฟ้มเอกสารออกมากางตรงหน้าฉัน

“นี่เป็นเอกสารการขายหุ้นนะคะคุณโซยู รบกวนอ่านรายละเอียด และเซ็นตรงนี้ด้วยค่ะ” ฉันรับเอกสารจากเลขาของภาคินมาไล่อ่านทีละส่วน บริษัทนี้เป็นบริษัทที่พ่อกับแม่ฉันสร้างมากับมือ พี่นะพี่ อย่าให้เจอตัว

เมื่ออ่านรายละเอียดเรียบร้อยแล้วฉันก็เซ็นลงบนเอกสารอย่างจำใจ ในช่องข้าง ๆ มีลายเซ็นพี่อยู่ก่อนแล้ว นี่คงเซ็นไว้ก่อนจะไปสินะเนี่ย หลังจากเซ็นเสร็จเรียบร้อยแล้วเลขาของเขาก็เก็บแฟ้มเอกสารคืน ก่อนที่เขาจะบอกให้เธอลงไปรอที่รถ เพื่อจะขอคุยธุระกับฉันก่อน ตอนนี้ในห้องจึงเหลือแค่เราสองคนเท่านั้น

“มีธุระอะไร”

“ลืมเรื่องที่ฉันบอกเธอไปหรือยัง”

“เรื่องอะไร เรื่องในชีวิตฉันมันเยอะมากพอละ เรื่องไร้สาระไม่จำหรอก” ฉันพูดพร้อมกับลุกขึ้น และหันหลังเพื่อที่จะเดินไปที่โต๊ะทำงาน นั่งมองหน้าเขานาน ๆ มันทำให้ฉันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนขึ้นมา

เมื่อฉันลุกขึ้นยืนและกำลังจะก้าวขาเดินไปที่โต๊ะทำงาน ก็โดนมือหนาของภาคินกระชากแขนฉันไปด้านหลัง ทำให้เซนั่งลงบนตักของเขาพอดี มือของภาคินกอดรัดฉันจากด้านหลัง และจับแขนทั้งสองข้างไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นหนี

“ปล่อย” ฉันพยายามดิ้นทั้ง ๆ ที่นั่งอยู่บนตักเขา

“อย่าดิ้นสิ ยิ่งดิ้นเธอก็ยิ่งถูอะไรต่อมิอะไรของฉันนะ” คำพูดของเขาทำให้ฉันนั่งนิ่งอย่างเชื่อฟัง อี๋! มันไปถูอะไร ๆ ของนายบ้างเนี่ย

“ต้องการอะไรอีก หมดธุระแล้วก็เชิญ”

“ถ้าเธอเอ่ยปากไล่ฉันอีกทีนะ ฉันจูบจริง ๆ ด้วย รอยแดงเมื่อคืนมันหายแล้วหรือไง ถึงกลับมาปากเก่งได้อีก” พูดถึงทำไมเนี่ย!

“มีธุระอะไรก็บอกมาสิ แล้วเอาหน้าออกไปจากคอฉันได้มั้ย มันขนลุก” ลมหายใจร้อนของเขาที่เป่ารดต้นคอกำลังทำให้ฉันจั๊กจี้

“ฉันถามว่าเธอลืมเรื่องที่ฉันบอกไปหรือยัง” ถามจบเขาก็ค่อย ๆ ไล่จูบตามหัวไหล่และต้นคอฉัน เหมือนกำลังเร่งให้ฉันคิดคำตอบ ยิ่งทำแบบนี้ใครจะไปคิดออกกัน

“เรื่องอะไร มันมีหลายเรื่องที่บอกฉันนี่ อย่านะ เอามือออกไป” มือหนาพยายามจะดึงสายเดี่ยวชุดทำงานออก แต่ก็โดนมือเล็กที่ดิ้นหลุดออกมาจับไว้ก่อนที่มันจะหลุดติดมือเขาไป

“ฉันให้เธอคิดอีกที ก่อนที่ฉันจะถอดไอ้ชุดบ้านี่ออก” น้ำเสียงที่เริ่มแสดงอาการหงุดหงิดออกมาอย่างชัดเจน ชุดบ้างั้นเหรอ

“ฉันนึกออกแล้ว แต่นายต้องปล่อยฉันก่อน” ตอนนี้ต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้ก่อนอันดับแรก

“เธอคิดว่าเธอกำลังสั่งใคร ถ้าเธอยังไม่ยอมบอก ฉันจะถอดชุดนี้ออกมันตรงนี้จริง ๆ” ปากไม่พูดเปล่า แต่มือของเขาก็กำลังจะดึงมันออก

“นายบอกว่าให้ฉันเอาชุดที่มันโชว์เกินไป...ไปโยนทิ้ง เรื่องนี้ใช่มั้ย” ฉันรีบพูดไปก่อนที่ตัวเองจะอยู่ในสภาพโป๊

“ใช่ แล้วนี่อะไร ชุดสายเดี่ยว ของของฉัน ฉันไม่ชอบให้ใครมอง” พูดอะไรน่ะ

“ฉันมีเสื้อคลุม นายไม่ต้องมาสั่งฉัน ไม่ใช่พ่อสักหน่อย” ฉันพูดพร้อมกับชี้ไปที่เสื้อคลุมสีแดงที่พาดอยู่บนเก้าอี้ทำงานของฉัน

“ไม่ใช่พ่อหรอก แต่เถียงมาก ๆ เข้าระหว่างจะได้สามีนะ หรือว่าอยากได้ฉันอยู่แล้วเลยทำเป็นเล่นตัว เธอไม่ต้องเล่นไปมากกว่านี้ก็ได้นะ ฉันจ่ายส่วนต่างให้พี่เธอไปเยอะพอสมควรเลย”

พลั่ก!

ฉันกระแทกส้นสูงลงบนเท้าของเขาอย่างจัง ทำให้เขาปล่อยมือออกมาจากการกอดฉันอย่างลืมตัว เมื่อได้โอกาสจึงรีบลุกออกห่างจากตัวเขาอย่างรวดเร็ว พี่ฉันติดหนี้นายก็จริง แต่พูดดูถูกยังกับว่าพี่ฉันเห็นแก่เงินแล้วกล้าขายฉันให้กับนายอย่างนั้นแหละ

“อย่ามาพูดดูถูกพี่ฉันเหมือนกับว่าพี่ขายฉันให้กับนายนะ ฉันยอมรับว่าพี่ฉันพลาดที่ไปติดหนี้นาย แต่นายก็ไม่มีสิทธิ์มาดูถูกพี่ฉัน และอีกอย่างอย่าคิดว่าผู้หญิงทุกคนมันจะอยากได้นายทำพันธุ์ไปซะหมดทุกคน จำเอาไว้” เมื่อตั้งหลักได้ฉันก็สวดยาวอย่างโมโห เขาลุกขึ้นจากโซฟา และจ้องหน้าฉันด้วยสายตาที่เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที

“งั้นฉันจะบอกอะไรให้ก็แล้วกัน ว่าพี่เธอนั่นแหละที่เป็นคนขายเธอให้กับฉัน พี่เธอขายทั้งหุ้นบริษัท และขายเธอเพื่อแลกกับเงิน ในเมื่อฉันซื้อเธอมาแพง ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์มามอง” ไม่จริง!

“พี่ฉันไม่มีทางเห็นแก่เงินแล้วกล้าขายน้องตัวเองแน่”

“แต่พี่เธอทำไปแล้ว ยอมรับความจริงซะ ต่อจากนี้เธอก็แค่ยอมทำตามที่ฉันสั่งก็พอ”

“ฉันจะให้ใครมอง หรือให้ใครจับตรงไหนมันก็สิทธิ์ของฉัน นายจ่ายเงินให้พี่ นายก็ไปเอาตัวพี่มาอยู่กับนายสิ มันไม่เกี่ยวกับฉันเลยสักนิด”

พึ่บ! เขาพุ่งเขามากระชากแขนฉันเข้าหาตัวเขาอย่างแรง

“เธอคิดว่าสถานะตอนนี้มีสิทธิ์มาเถียงฉันหรือไง พี่เธอก็อยู่กับฉัน และตัวเธอก็กำลังจะเป็นของฉัน”

“ฉันเกลียดนาย” ขอบตาที่เริ่มร้อนกำลังจะกลั้นน้ำตาของฉันไว้ไม่อยู่ ฉันโดนทิ้งให้อยู่คนเดียวมันก็แย่พออยู่แล้ว แต่นี่ยังต้องมาเจอความจริงที่พี่ขายฉันเพื่อแลกกับเงินอีก

“โซ...”

“ฉันเกลียดนายได้ยินมั้ย ให้ตายยังไงฉันก็ไม่มีทางเปลี่ยนความรู้สึกตัวเองได้ นายจะทำอะไรฉันไม่รู้ แต่ฉันจะอยู่เกลียดนายไปอย่างนี้ตลอด แล้วอย่าหวังว่าฉันจะให้อภัย” น้ำตาของความอ่อนแอกำลังไหลอาบแก้ม มันน่าอายที่ฉันแสดงมันออกมาต่อหน้าฉันคนที่ฉันเกลียด แต่ฉันไม่ไหวแล้วกับความจริงที่พี่ทรยศฉัน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เสน่ห์ร้าย สยบซาตาน   บทที่ 260

    แสงสว่างจากแสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างห้องนอนเข้ากระทบใบหน้าของหญิงสาวที่หลับสนิทอยู่บนเตียง เธอบิดตัวแล้วเอื้อมมือไปกลางที่นอนควานหาอะไรบางอย่างที่ตอนนี้พบเจอแต่ความว่างเปล่าพึ่บ! เธอลืมตาตื่น และมองไปยังข้างกาย“หายไปไหน” สายตากวาดมองไปรอบห้องที่มีเพียงเธอเท่านั้นฮ่า ฮ่า ฮ่าเสียงหัวเราะคุ้นหู

  • เสน่ห์ร้าย สยบซาตาน   บทที่ 259

    “ไม่มีทาง” นั่นไง เมื่อโดนฉันดุเรื่องนี้เขาก็จะพูดคำนี้ตลอด“ให้มันน้อย ๆ ลงหน่อยก็ดี ล่าสุดรู้มานะว่าจะสั่งให้คนมาติดอุโมงค์สไลด์เดอร์ให้ลูกในบ้าน” นี่ก็อีกอัน มันไม่ใช่ของเล็ก ๆ เลยนะ ต้องเอาราวบันไดออกด้านหนึ่งเพื่อติดตั้ง สไลด์เดอร์จากชั้น2ลงมาชั้นล่างของบ้าน“แค่นี้เอง กลัวลูกเมื่อยเดินขึ้นลง”

  • เสน่ห์ร้าย สยบซาตาน   บทที่ 258

    “มึงมันคนใจร้าย ไอ้มารหัวใจ” พี่กราฟเล่นใหญ่เล่นโตลงไปนั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียง“คุณคินขา~ ช่วงนี้โซคงไม่ว่างดูแล เหงา ๆ ก็มาหาลิลินได้นะคะ” เพื่อนสาวสองของฉันเกาะแขนของคินไว้แน่น ซึ่งคินเองก็เล่นตามน้ำจับมือลิลินมาจูบหลังฝ่ามือ จนยายเพื่อนสาวของฉันเขินจนตัวบิดตัวเบี้ยว“สามีเพื่อนลิลิน” ฉันยิ้มหวานใ

  • เสน่ห์ร้าย สยบซาตาน   บทที่ 257

    “ไม่มีนะ จะไปไหนเหรอ”“ไม่ไป ฉันจะอยู่กับเธอ” คินยังคงนั่งอยู่ที่พื้นแล้วนวดเท้าให้ฉัน“อยู่ทะเลาะกับพี่คิมมากกว่า” คินอดส่ายหัวเมื่อพูดถึงพี่สาวของตัวเองไม่ได้“ทำใจให้ชินเถอะนะ พี่ฉันบ้า แต่เวลาจริงจังก็ช่วยได้ทุกเรื่อง”“ไม่มีใครเขามองพี่คิมบ้านอกจากนายหรอกนะ” เขายักไหล่อย่างไม่สนใจ แล้วนวดเท้าให

  • เสน่ห์ร้าย สยบซาตาน   บทที่ 256

    ณ บ้านของคิน“คิมภัทรชาเสนอหน้ามาทำไม” ประโยคแรกที่คินถามพี่สาวตัวเองเมื่อก้าวเข้ามาในบ้าน“คิดถึงน้องสะใภ้ แกจะไปไหนก็ไปไกล ๆ” พี่คิมตรงเข้ามากอดฉัน และผลักคินให้ถอยห่าง“อย่ามาโดนตัวโซนะ พี่สกปรก” แล้วคินก็มาดึงฉันเข้าไปกอดไว้“แกนั่นแหละสกปรกไอ้น้องเลว” พี่คิมใช่ว่าจะยอมง่าย ๆ เธอก็มาดึงฉันไปกอดไ

  • เสน่ห์ร้าย สยบซาตาน   บทที่ 255

    “อะไรกันเนี่ย!”เวลา 21.00 น.“จะไม่ปวดหลังเหรอ” ฉันนอนตะแคงถามคนที่นอนอยู่ที่พื้น“ปวด แต่จะอดทน” คินตอบกลับมาพร้อมกับหันมามองทางฉันอาการแพ้ท้องแทนเมียของคินเป็นหนักขึ้น ไม่ใช่แค่ได้กลิ่นน้ำหอมแล้วจะอ้วก แต่ได้กลิ่นฉันด้วย ฉันก็ไม่รู้ว่ากลิ่นฉันมันเป็นยังไง แต่ถ้าเขาเข้ามาใกล้ก็จะมีอาการทันที แต่ถ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status