“ หึ!!! เสน่ห์แรงไม่เบานี่ ”
ในขณะที่หนึ่งนั่งอยู่ในรถคันหรูสีดำเงาราคาห้าสิบล้านเตรียมจะขับออกไปอยู่นั้นก็มองไปเห็นสองสาวที่กำลังเดินมาที่รถโดยมีหนุ่มหล่อวิ่งตามหลังมาคาดว่าจะน่ามาขอเบอร์ไม่ใครก็คนนึง Big As ผับ 21:30 น. “ ไงมาช้านะมึง ” กันต์ทักขึ้นหลังจากที่ร่างสูงของหนึ่งนั่งลงที่โซฟาโต๊ะประจำเป็นโซน VIP ที่อยู่ชิดด้านขวาของเวทีมีโซฟายาวสองตัว และโซฟาเดี่ยวอีกสองตัวล้อมรอบโต๊ะหรู ส่วนโซนด้านซ้ายสุดจะเป็นมุมบาร์เครื่องดื่ม โซนกลางเดินลงบรรไดไปสี่ถึงห้าขั้นก็จะเป็นโซนปกติที่เหล่านักท่องราตรีส่ายสะโพกโยกย้ายกันอยู่ ผับแห่งนี้เป็นผับหรูเปิดใหม่เมื่อไม่นานมานี้ได้ยินข่าวว่ารุ่นพี่ที่จบไปแล้วเป็นเจ้าของผับแห่งนี้โดยร่วมหุ้นกันอยู่สองคนแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะพวกรุ่นพี่กลุ่มนั้นเขาไม่ค่อยสุงสิงกับใครหรือออกมาเปิดตัวกันซักเท่าไหร่ “ รถติด ” เป็นหนึ่งตอบสั้นๆ เพียงแค่นั้นก่อนจะนั่งที่โซฟาเดี่ยว กลายเป็นตอนนี้พวกเขาทั้งสี่คนนั่งโซฟากันคนละตัว จากนั้นเขาก็ยกมือกวักเรียกพนักงานเป็นสัญญาณให้มาชงเหล้าให้ อีกด้านของผับ โซนบาร์เครื่องดื่ม “หลินๆ ไปดูโซนVIPฝั่งนู้นให้พี่หน่อยสิวันนี้คนมาเยอะกว่าปกติพนักงานชงเหล้าสองโต๊ะกันไม่ทันน่ะครับ หลินไปบริการโต๊ะผู้ชายสี่คนที่อยู่มุมตรงนั้นนะครับ ” ผู้จัดการร้านเดินมาบอกขณะที่หลินกำลังจะนำถาดเปล่าไปเก็บเนื่องจากเธอเพิ่งไปเสิร์ฟที่โซนกลางเทวีมา “ได้ค่ะพี่ตี๋ ” เธอรับคำ ยิ้มค้อมหัวให้ผู้จัดการ ก่อนจะหุบยิ้มฉับหลังเดินพ้นมา เมื่อเดินมาถึงเธอก็ก้มหน้าลงก่อนจะเข้าไปชงเหล้าตามปกติเหมือนที่เคยทำ “ ขอโทษนะคะ ดิฉันขออนุญาตชงเหล้าให้นะคะ ” เธอเอ่ยขออนุญาตโดยไม่ได้มองหรือสบตากับใครบนโต๊ะเลยว่าเป็นใครอะไรยังไง เธอคิดแค่ว่ามาทำงานไม่ได้จำเป็นต้องพูดคุยหรืออะไรให้มากความ “ เอ้า!! น้องคนสวยที่ถามทางนี่ ” กึก!!เธอชะงักน้ำแข็งที่กำลังจะคีบใส่แก้วเหล้าทันที พร้อมกับคิด ‘ใครวะ’ ก่อนจะหันไปมองทางคนพูด “ อ้าว!! พี่นั่นเอง เอ่อ…สวัสดีค่ะเจอกันอีกแล้ว ” เธอยกมือไหว้พร้อมแสร้งยิ้มออกไปอย่างเป็นมิตร “ น้องทำงานที่นี่หรอครับ…พี่ชื่อกันต์นะ เรียนวิศวะยานยนต์ปีสองครับ ” กันได้ทีก็เอ่ยแนะนำตัวทันทีเพราะอยากทำความรู้จักกับสาวสวยน่ารักตรงหน้า “ อ่อค่ะ ” เธอพยักหน้ารับรู้ “ ส่วนนี่ไอ้ชื่อเป็นหนึ่งเรียนวิศวะยานยนต์เช่นกันครับ ไอ้คนที่นั่งโซฟายาวชื่อแดนดิน ไอ้นั่นชื่อขุนเขาพวกมันสองคนเรียนบริหารครับ ” กันต์พูดไปยิ้มไป อยากให้เธอรู้จักพวกเขามากขึ้น “ อ่อค่ะ ” เธอยังคงยิ้มให้ ประหยัดคำพูดเช่นเดิมทำเพียงแค่มองตามแต่ละคนที่พยักหน้าทำความรู้จักเท่านั้น “ เอ่อ…ว่าแต่น้องชื่อ? ” แม้ว่าเขาจะรู้ชื่อเธออยู่แล้วจากการแนะนำต้วเมื่อตอนเย็นที่รับน้องแต่ก็อยากถามอีกครั้ง “ หลินค่ะ เรียนวิศวะโยธาปีหนึ่ง ” เธอยิ้มบอกพร้อมนำเหล้าที่เพิ่งชงเสร็จมาวางไว้ตรงโต๊ะด้านหน้าของเป็นหนึ่ง และเผลอหันไปสบตากับเขาครู่หนึ่ง ซึ่งเขาก็มองเธออยู่ก่อนแล้วเช่นกัน แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็รีบยืดตัวขึ้นยืนตรงเช่นเดิมแล้วถอยห่างออกไปสองก้าวเพื่อเว้นระยะห่างจากลูกค้า “ เก่งจังนะครับพี่ไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักๆ อย่างน้องจะเรียนวิศวะเลย ” กันต์ยังคงพูดต่อโดยไม่ได้สนใจเพื่อนร่วมโต๊ะเลยซักนิด “ ค่ะ ” เธอตอบรับเพียงแค่นั้นเพราะไม่ค่อยชอบคุยกับคนที่ไม่สนิท “ พูดน้อยจังครับ พี่พูดไปตั้งเยอะแหนะ ” กันต์พูดขึ้นโดยที่สายตาไม่ได้ละไปจากร่างบางเลย “ หนูพูดไม่เก่งน่ะค่ะ ” เธอยิ้มรับ “จะเงียบได้ยัง…รำคาญ!!!” เป็นหนึ่งพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่านใจ หลินจึงหันไปมองเขานิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยขอโทษเขาออกไปตามมารยาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเธอก็ทำหน้าที่ชงเหล้าปกติ จนล่วงเลยเวลามาเที่ยงคืนคือเวลาเลิกงานของเธอเลยขอตัวออกมาแล้วให้พี่พนักงานประจำเข้าบริการแทน พอเปลี่ยนชุดเสร็จเธอก็กำลังจะเดินไปที่รถเก๋งคู่ใจ แต่เธอก็ต้องชะงักเมื่อเจอผู้ชายคนหนึ่งยืนพิงรถเธออยู่เขาคนนั้นก็คือ ผู้ชายที่ชื่อเป็นหนึ่งนั่นเอง “ พี่คะรบกวนหลบหน่อยได้ไหมคะหนูจะขึ้นรถค่ะ ” เธอพูดกับเขาอย่างสุภาพ “ นี่รถเธอ? ” เขาเลิกคิ้วถาม ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นรถเธอแต่ก็แค่อยากถามเพื่อไม่ให้เธอเห็นพิรุธจากเขาได้ “ ค่ะ ” เธอพยักหน้าตอบนิ่งๆ ทำแววตาใสซื่อเหมือนไม่รู้ว่าเขาตั้งใจมายืนตรงนี้เพราะที่ลานจอดรถของมหาลัยเธอก็เห็นเขาตอนที่กำลังจะเดินไปขึ้นรถเช่นกัน และเธอก็รู้ว่าเขาจอดมองเธออยู่ตอนนั้น “ เชิญ ” เขาผายมือพร้อมขยับออกนิดหน่อย “ ขอบคุณค่ะ ” เธอค้อมหัวตอบก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับแต่ทันใดนั้นก็... ปึกกกก พรึบบบบ!!! เสียงเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับพร้อมกับเป็นหนึ่งที่เข้าไปทิ้งตัวลงนั่งที่เบาะ ปิดประตูเสร็จสรรพ“หึ หึ หึ!!! เจ็บดีใช่ไหมล่ะ” เป็นหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบก่อนจะเดินไปหยิบแส้มาถือไว้ในมือ“แต่กูยังสนุกอยู่เลยว่ะ”เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะเสียงแส้ฟาดลงบนผิวของบอลดังไปหลายครั้งอย่างนับไม่ถ้วน“อ๊ากกกกก!!! พะ พอแล้ว ไม่กล้าแล้วกูจะไม่ยุ่งกับคนของมึงอีก อีเบลกูก็ไม่เอาแล้ว” บอลเอ่ยเสียงสั่นเครือด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส“ใครบอกว่ากูจะเอาผู้หญิงแพศยาพันนั้นคืน”เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!!!“ครั้งนี้ถือว่ากูเตือน ถ้ามึงยังไม่เลิกกวนตีนกู แล้วก็ยังไม่เลิกยุ่งกับหลิน ครั้งต่อไปแม้แต่ลมหายใจมึงก็จะไม่มี” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก ก่อนจะส่งแส้ให้ลูกน้องจัดการต่อ“จัดการมันแค่เบาะๆ ถ้ามันสลบก็ค่อยพอแล้วเอามันไปโยนไว้หน้าบ้านมัน”“ครับนายน้อย” ลูกน้องคนสนิททั้งสองรับคำพร้อมกัน#วันต่อมาที่มหาลัย King“โอ้โห!! ร้ายนะมึงรอยดูดเต็มคอมาเลย คนนี้สงสัยจะเด็ดสิท่า ปกติไม่เห็นเคยให้ใครทำรอย” กันต์เอ่ยแซวเป็นหนึ่งเมื่อเป็นหนึ่งเดินมานั่งลงที่โต๊ะประจำหน้าตึกวิศวะยานยนต์“เสือก” เป็นหนึ่งยกนิ้วกลางพร้อมเอ่ยด่าไปหนึ่งกรุบ ก่อนจะก้มลงกดโทรศัพท์แชทหาใครบางคนที่ตั้งแต่เมื่อวานก็เงียบหายไปเลยNoah : อยู่ไหน?
ช่วงหนึ่งทุ่ม ที่ โกดังท่าเรือของตะกูลวิลสันทันทีที่เป็นหนึ่งย่างก้าวเข้ามาเขาก็ได้ยินเสียงเอะอะโวบวายดังลั่นโกดัง“ปล่อยกู!!! กูบอกให้ปล่อยไงวะไอ้ขี้ข้า” เป็นเสียงของบอลที่ตะโกนโวยวายใส่ธัน และ ธีม ที่ยืนนิ่งไม่สะทกสะท้านใดๆ“ไง!!! ยังปากเก่งเหมือนเดิมนะมึง” เป็นหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาหยุดยืนเผชิญหน้ากับบอล“ไอสัส กูว่าแล้วต้องเป็นมึง แน่จริงมึงปล่อยกูดิวะ” เป็นหนึ่งไม่ตอบทำเพียงปลายตามองบอลที่โดนมัดล่ามโซ่ไว้ด้วยสายตาเหี้ยมจนลูกร้องที่ยืนอยู่นับสิบยังไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขาตั้งแต่เด็กเป็นหนึ่งถูกผู้เป็นพ่อฝึกมาอย่างหนัก ทั้งมวยไทย/สากล เทควันโด ยูโด บราซิลเลียนยิวยิตสู หรือแม้กระทั่งสุดยอดการต่อสู้ฉบับกองทัพอิสราเอลอย่าง คราฟมากา เขาก็ล้วนเคยผ่านมาแล้วทั้งนั้น เลยไม่มีใครสามารถล้มเขาได้ซักคนแม้กระทั่งครูฝึกประจำตระกูลที่สอนการต่อสู้ให้เขามาตั้งแต่เด็กยังต้องแพ้ให้กับเขาและสาเหตุนี้ที่ทำให้ลูกน้องทุกคนและคนทั่วไปที่รู้กิตติศัพท์ของเขาต่างไม่กล้าหือกับคนอย่างเขา ‘โนอาร์ วิลสัน’ ข่าวลือที่ว่าเขาโหดนั้นไม่เกินจริงเลยซักนิด“เมื่อคืนมึงคิดจะทำอะไรหลิน” ในที่สุดหลังจากยืนนิ่งเงียบมา
ตอนที่13 สั่งสอนให้หลาบจำ“อื้อออ อ๊ะ!!!” หลินรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเจ็ดโมงเช้ากับอาการระบมไปทั้งตัวกับปวดหน่วงท้องน้อยจนต้องเอามือกุมท้อง เธอหันไปมองคนข้างกายที่นอนหลับสนิทเอาแขนพาดมาที่หน้าท้องเธออยู่ ในใจเธอนึกอยากจะถีบเขาให้ตกเตียงนัก รู้ทั้งรู้ว่าเป็นครั้งแรกของเธอเขาก็ไม่มีออมแรงเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้ไปตายอดตายอยากมาจากไหน ส่วนร่างกายเธอก็ดันตอบสนองเขาไปทุกรอบอีกต่างหาก ‘ไอ้ร่างกายไม่รักดี’หลินค่อยๆ เอาแขนเขาออกจากตัวเธอแล้วลุกลงจากเตียงด้วยความเงียบที่สุด เพราะตอนนี้เธออารมณ์ไม่ดียังไม่อยากคุยกับเขาขอกลับไปตั้งสติก่อนจะดีกว่าหลินรีบเก็บเสื้อผ้ามาใส่ด้วยความรวดเร็วก่อนจะโทรบอกให้เหมยลี่มารับที่ข้างล่างคอนโดเป็นหนึ่ง “แต่ก่อนจะออกไป ขอทำอะไรซักอย่างก่อนเถอะ” หลินพูดกับตัวเองก่อนจะเดินไปข้างเตียงที่เป็นหนึ่งนอนอยู่.....ทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถเหมยลี่ถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปาก ตาเบิกกว้างทันที“คะ คุณหนูทำไมมีสภาพเป็นงี้อะ คุณโนอาร์เขาทำอะไรคุณหนูเนี่ย”“อย่าถามตอนนี้เลยรีบกลับห้องกันเถอะ” หลินตอบก่อนจะเอนหลังพิงกับเบาะที่ปรับลงนอนแล้วหลับตาลงเพื่อพักสายตา แต่ก็ต้องเด้งตัวขึ้นมาอีกค
ตอนที่12 (NC18+) รอบสุดท้ายไม่มีอยู่จริงหลังจากได้ปลดปล่อยน้ำแรกไป ก็สบายตัวขึ้นมากจากฤทธิ์ยา ทั้งสองก็นอนกอดกันหายใจหอบเหนื่อย“ชอบไหม?” เขาถามเธอขึ้นพร้อมกับจับมือเธอมาสัมผัสท่อนเอ็นใหญ่โตของเขาที่ยังไม่ยอมลง หลินเงยหน้าขึ้นมามองเขาก่อนจะเอ่ยถาม”ทำไมมันยังไม่ลงอีกล่ะ ยายังไม่หมดฤทธิ์หรอ?” ใช่ เธอไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าที่ร่างกายตัวเองเปลี่ยนไปเป็นเพราะอะไร และเพราะใคร“หมดแล้ว แต่แค่ฉันเห็นร่างกายเธอ มันก็ทำให้ฉันอยากขึ้นมาอีกแล้วน่ะสิ” ว่าจบก็ประกบจูบปากเธออีกครั้งพร้อมกับจับมือร่างบางชักนำให้เธอรูดท่อนเอ็นของเขาขึ้นลงจากช้าๆ ก็เริ่มไวขึ้นเรื่อยๆ จนแน่ใจว่าเธอเป็นงานและจับจังหวะได้แล้ว แล้วจึงปล่อยมือบางให้เธอได้รูดขึ้นลงเอง“จุ๊บบบจ๊วบบบ อ่าาาส์ ดี…ดีมาก”น้ำเสียงสุดเซ็กซี่ของเป็นหนึ่งเอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบพร่า ก่อนจะก้มหน้าลงดูดยอดบัวตูมคู่สวยของเธอบีบเคล้นหนักเบาสลับกันไป“อ่าาาส์ ซี๊ดดด เร็วๆ ใกล้แล้ว อืมมม โอ้วว จะไม่ไหวแล้ว พะ พอก่อน พอก่อน” เป็นหนึ่งจับมือบางให้หยุดก่อนที่เขาจะแตกพ่ายไปซะก่อน จากนั้นก็ขึ้นค่อมเธอจับขาเธอพาดบ่าข้างหนึ่ง“ฉันอยากเสร็จพร้อมกับเธอมากกว่า”
ตอนที่11 (NC18+) ฉันกินจุนะเธอไหวหรอคอนโดเป็นหนึ่งแกร็กกกก!! ตุบบบ!! ปังงง!!ทันทีที่เปิดประตูย่างเท้าก้าวเข้ามาภายในห้อง หลินก็ดันเป็นหนึ่งชิดประตูแล้วประกบจูบปากเขาทันทีโดยที่เป็นหนึ่งไม่ทันได้ตั้งตัว ตอนนี้เธอควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เลย ซึ่งเขาก็กระหายและต้องการเธอเช่นกัน แต่ก็ต้องฝืนความรู้สึกและดันเธอออกเพื่อตกลงกันก่อน“ เดี๋ยวๆ สาวน้อยเธอแน่ใจแล้วใช่ไหม...จะไม่เสียใจภายหลังแน่นะ ”เป็นหนึ่งโอบกอดร่างบางไว้แล้วก้มกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของหลินอย่างยั่วยวน แต่ถึงเธอจะปฏิเสธงานนี้เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไปหรอก ก็แค่ถามไปอย่างนั้นเองหลินพยักหน้าหงึกๆ แล้วโอบรอบคอเขาส่งสายตายั่วยวนกลับก่อนจะกัดเข้าที่ต้นคอเขาอย่างแรง“ ซี๊ดดด!!! ชอบรุนแรงสินะ ”เขาร้องซี๊ดเบาๆ ไม่ได้เจ็บมากมายอะไร แต่ตรงกันข้ามมันยิ่งไปปลุกความร้อนในกายเขาให้ลุกโชนมากขึ้นไปอีก“ผ่านคืนนี้ไปจะไม่มีการผูกมัดใดๆ เธอจะไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวฉัน เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกนอกจากเรื่องงาน...เข้าใจนะสาวน้อย”เขาเชยคางเธอขึ้นโน้มใบหน้าไปใกล้ พูดชิดริมฝีปากบาง“แน่นอน”ทันทีที่เธอเอ่ยแบบนั้นเขาก็จัดการอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวเข้าห้
ตอนที่10 กินเลี้ยงสายรหัสBig ASผับสาวสวยสองคนเดินย่างกายเข้ามาภายในร้านจนผู้คนต่างหันมอง หลินปล่อยผมตรงยาวสลวย เธอใส่เป็นเสื้อสายเดียวด้านในสีดำเอวลอยโชว์สะดือคลุมทับด้วยคาดิแกนแขนยาวสีขาวคู่กับกางเกงยีนส์ขายาวดูเรียบร้อยแต่แอบซ่อนเปรี้ยวอวดหุ่นทรงนาฬิกาทรายได้เป็นอย่างดีด้านล่างสวมเพียงรองเท้าผ้าใบแสนธรรมดา แต่ถ้าสังเกตดีๆ หน่อย ราคามันไม่ธรรมดาเลยสำหรับรุ่นลิมิเต็ดของแบรนด์อเมริกาต้องพรีออเดอร์เท่านั้นส่วนเหมยใส่เกาะอกสีขาวคู่กับกระโปรงหนังสั้นสีดำรองเท้าสูงสี่นิ้วผมม้วนลวนปล่อยเต็มแผ่นหลังถึงแม้สองสาวจะไม่ได้แต่งตัวโดดเด่นอะไรมากแต่ด้วยหน้าตาลูกครึ่งที่สวยหยดย้อยของทั้งคู่ก็ทำให้หนุ่มๆ พากันละสายตาไม่ได้“ สวัสดีค่ะพี่เบล ” หลินยกมือสวัสดีพี่รหัสของตัวเองซึ่งมีหนุ่มหล่อนั่งข้างกายโอบเอวอยู่คลอเคลียกันอยู่“ อ้าวมาแล้วหรอ มาๆ นั่งก่อนเดี๋ยวพี่จะแนะนำแต่คนให้ได้รู้จักกันเอาไว้ ”จากนั้นเบลก็ทำการแนะนำพี่ในสายรหัสแต่ละคนให้หลินได้รู้จักและก็ได้รู้ว่าผู้ชายที่โอบโอวเบลอยู่นั้นคือแฟนของเธอเองและยังเป็นปู่รหัสของหลิน ส่วนเหมยลี่ก็แยกตัวออกไปนั่งกับภีมที่ได้นัดกันไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว แ