ช่วงเย็นวันต่อมา
“ พวกมึงไปดูเด็กปีหนึ่งรับน้องปะ ปีนี้มีแต่แจ่มๆ กูไปส่องมาละ ” กันต์เอ่ยถามหลังจากลงมาจากตึกเรียนแล้วเจอเข้ากับกลุ่มเพื่อนของตน “ กูไป ” ขุนเขารีบยกมือขึ้นอย่างไวด้วยท่าทางกระตือรือร้น “ พวกมึงอะจะไปไหม ” กันต์เอ่ยถามแดนดินกับเป็นหนึ่ง “ อืม ” เพราะไม่รู้จะไปไหนเขาสองคนจึงตอบตกลงไป หลังจากตกลงกันได้แล้วสี่หนุ่มฮ็อตคณะวิศวะก็มุ่งหน้าไปยังลานเกียร์ ลานเกียร์วิศวะ วันนี้เป็นวันรับน้องวันแรกของนักศึกษาวิศวะปีหนึ่งรวมทุกสาขา ซึ่งปีนี้ทางมหาลัยได้ออกนโยบายให้จัดกิจกรรมนับน้องได้ไม่เกินสามวันทุกอย่างเลยเป็นการเร่งรีบและรวบรัดแบบง่ายๆ รุ่นพี่ปีสองปีสามใส่เสื้อช็อปประจำแต่ละคณะของตัวเองส่วนปีหนึ่งใส่เสื้อสีดำที่รุ่นพี่แจกจ่ายให้เพื่อเปลี่ยนใส่ในตอนเลิกเรียนก่อนมาทำกิจกรรมรับน้อง โดยสาขายานยนต์ใส่เสื้อช็อปสีแดงเลือดหมู สาขาโยธาใส่เสื้อช็อปสีเทา สาขาอื่นๆ ก็จะแตกต่างกันออกไป “ เห้ย!! นั่นน้องคนสวยที่ถามทางเมื่อวานนี่หว่า ” ขุนเขาเอ่ยขึ้นพร้อมชี้ไปที่หลินและเหมยลี่ที่นั่งอยู่ลานเกียร์ “ จริงด้วยว่ะ แม่ของลูกกูเลย ” กันต์เอ่ยสมทบดวงตาเต็มไปด้วยความชมชอบ จนเป็นหนึ่งตวัดสายตาไปมองเพื่อนอย่างไม่ชอบใจนักแต่ก็เก็บซ่อนอาการไว้อย่างมิดชิดภายใต้สายตาเรียบนิ่ง เฉยชาตามสไตล์เขา “ เอ้า!!น้องๆ พวกพี่ปีสามแนะนำตัวกันหมดแล้วทีนี้ก็ถึงทีพวกคุณแนะนำตัวกันบ้างนะครับ ” เสียงของประทานเฮดว๊ากวิศวะปีสามเอ่ยขึ้น “ แต่ถ้าจะให้แนะนำตัวแบบธรรมดามันคงจะไม่ใช่สไตล์วิศวะซักเท่าไหร่ ” รองประธานเฮดว๊ากเอ่ยขึ้นตามด้วยเสียงเนิบๆ “ แต่ว่า…ผมจะให้พวกคุณเต้น พร้อมเอ่ยแนะนำตัวทีละคนเป็นไงครับ ” “ โหววว / โอ๊ยพี่ ” เสียงปีหนึ่งต่างพากันร้องอิดออดยกใหญ่ “ เงียบบบบ ” ประธานเฮดว๊ากตะโกนลั่นลานเกียร์หยุดเสียงของรุ่นน้องปีหนึ่งได้อย่างดี หลังจากนั้นก็เป็นการแนะนำตัวตามสไตล์ของแต่ละคนต่างสร้างเสียงเฮฮาดังลั่นทั้งลานเกียร์จนมาถึงคิวของหลิน “ สวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะ หนูชื่อหลิน หนูชื่อหลิน มากับเหมยแล้วก็มากับภีม เรียนวิศวะสาขาโยธาค่ะ ” หลินทำท่าเต้นเบาๆ พร้อมชี้เข้าหาตัวแล้วชี้ไปที่เหมยลี่และภีมเพื่อนใหม่ที่พึ่งรู้จักกันด้วยรอยยิ้มอย่างน่ารัก น่าเอ็นดูจนเห็นลักยิ้มสองข้างทรงเสน่ห์ “ เย็ดโด้ววว อย่างน่ารักอะ / คนรึนางฟ้าวะนั่น / แม่งสเป็กเลยว่ะ ” หนุ่มๆ แถวนั้นต่างจ้องไปที่ร่างบางพร้อมเอ่ยราวกับละเมอจน สร้างความไม่พึงพอใจให้กับเป็นหนึ่งเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องข่มกั้นความรู้สึกโดยการกำมือแน่นแต่หารู้ไม่ว่าทุกอากัปกริยาของเขาได้ตกอยู่ในสายตาของแดนดินผู้ที่เป็นอินโทรเวิร์ตแต่สายตาเก็บรายละเอียดได้ทุกอย่างเป็นอย่างดี “ ชอบ? ” แดนดินเตะขาเป็นหนึ่งใต้โต๊ะเบาๆ พรางเลิกคิ้วเป็นการถาม “ ชอบเหี้ยไร ลำคานเสียงดัง ” หนึ่งชักสีหน้าใส่เพื่อนทันทีที่ถามอะไรไร้สาระ “ หึ!! ” แดนดินยกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ กูว่ากูเจอแม่ของลูกแล้วว่ะไอ้ขุน ” กันต์ยกแขนขึ้นมาพาดคอขุนเขา ที่นั่งอยู่ข้างกันพร้อมเอื้อนเอ่ยออกไปราวกับคนถูกมนต์สะกด “ กูก็เห็นมึงพูดแบบนี้ทุกราย ” ขุนเขาทำหน้าเอือมๆ แล้วยกแขนเพื่อนออก “ แต่คนนี้กูจริงจังนะเว้ย ” กันต์พูดออกไปโดยไม่ได้มองสายตาเพื่อนที่นั่งตรงข้ามกันเลยสักนิดเพราะสายตามัวแต่จับจ้องร่างบางของหลินอยู่ไม่วางตา จนเวลารับน้องล่วงเลยไปถึงเวลาเลิกการรับน้องของวันนี้ รุ่นพี่ปีสามจึงได้สั่งแยกย้ายกลับบ้านได้ “ เอาล่ะครับวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนเอาพอหอมปากหอมคอพอวันนี้ พรุ่งนี้เราจะมาจับฉลากคำใบ้พี่รหัสกัน…จะได้ตื่นเต้นกว่านี้แน่ๆ วันนี้เชิญแยกย้ายครับ ” หลังจากจบเสียงพี่ปีสามปีหนึ่งก็แยกย้ายกันทันทีเพราะเหนื่อยล้าเต็มทีทั้งเรียนทั้งรับน้องติดต่อกันหลายชั่วโมง “ กลับห้องเลยไหมคุณ…” เสียงของเหมยลี่หายไปแค่นั้นเพราะโดนสายตาของหลินจ้องมองเขม็ง แต่แค่แวบเดียวเท่านั้นจนไม่ทันได้มีใครสังเกตเห็นก็ปรับสีหน้าปกติ " บอกให้เรียกว่าไง " เสียงหลินเอ่ยนิ่งๆ เบาจนแทบจะไม่ได้ยินแต่ถึงอย่างนั้นเหมยลี่ก็ได้ยินชัดแจ๋ว “ เอ่อ…หลิน ” เหมยลี่มีสีหน้าสลดลงนิดหน่อยก่อนจะทำตัวให้เป็นปกติดังเดิม “ อืม ” หลินตอบรับในลำคอประมาณว่า ‘จำได้ก็ดี’ “ วันนี้จะไปทำงานที่ผับ จะไปด้วยกันอีกปะ ” หลินเลิกคิ้วถามเหมยลี่ขณะที่กำลังเดินไปที่รถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่ไม่ได้ทรุดโทรมอะไรแต่ก็ไม่ได้มียี่ห้อที่หรูหราเหมือนคนอื่นๆ ที่เรียนที่มหาลัยแห่งนี้ “ ไปสิหลินไปไหนเหมยก็ไปที่นั่น ” เหมยตอบกลับทันทีโดยไม่ต้องคิด “ ไม่ต้องตามติดหลินขนาดนี้ก็ได้นะเหมย ไปใช้ชีวิตของตัวเองบ้างงง ” หลิ่นเอ่ยบอกอย่างอ่อนอก อ่อนใจที่เหมยตามติดเธอไปซะทุกที่ตั้งแต่มาถึงไทย “ ถ้าทำแบบนั้น แม่ก็ได้ดุเหมยน่ะสิแล้วที่สำคัญ หลินเพิ่งจะมาใช้ชีวิตคนเดียวแบบนี้จะไม่ให้เหมยห่วงได้ไง ” เหมยมีสีหน้าจริงจัง “ เอาน่าเหมยก็รู้ว่าหลินเก่งจะตายเอาตัวรอดได้น่าาา ” หลินยกมือขึ้นไปจับมือของเหมยลูบเบาๆ ให้วางใจ “ เอางั้นก็ได้…แต่ถ้ามีอะไรหลินรีบโทรหาเหมยทันทีเลยนะเข้าใจไหม ” จากนั้นหลินก็ยิ้มให้พร้อมพยักหน้าเบาๆ “ หลิน…เหมย รอก่อนๆ ” เป็นภีมที่วิ่งตามมาที่ลานจอดรถ “ หืมมม!! ” ทั้งสองสาวชงักฝีเท้าแล้วหันหลังไปมอง พรางเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม “ เราลืมแลกคอนแทรกกับพวกเธอสองคนไว้น่ะ ไหนๆ เราก็เรียนคณะสาขาเดียวกัน ห้องเดียวกันแล้วนี่ ” ภีมยิ้มให้สองสาวจนตาหยี “ อ่อ อื้มเอาโทรศัพท์มาสิ ” เหมยแบมือขอโทรศัพท์จากภีมแล้วก็ให้ไลน์กับไอจีทั้งของตัวเองและหลินให้กับภีมไป เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับโดยที่เหมยลี่กลับกับหลินเพราะพักคอนโดเดียวกันแต่คนละห้อง อีกด้านหนึ่งของลานจอดรถในมหาลัย “ หึ!!! เสน่ห์แรงไม่เบานี่ ” ในขณะที่หนึ่งนั่งอยู่ในรถคันหรูสีดำเงาราคาห้าสิบล้านเตรียมจะขับออกไปอยู่นั้นก็มองไปเห็นสองสาวที่กำลังเดินมาที่รถโดยมีหนุ่มหล่อวิ่งตามหลังมาคาดว่าจะน่ามาขอเบอร์ไม่ใครก็คนนึง“หึ หึ หึ!!! เจ็บดีใช่ไหมล่ะ” เป็นหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบก่อนจะเดินไปหยิบแส้มาถือไว้ในมือ“แต่กูยังสนุกอยู่เลยว่ะ”เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะเสียงแส้ฟาดลงบนผิวของบอลดังไปหลายครั้งอย่างนับไม่ถ้วน“อ๊ากกกกก!!! พะ พอแล้ว ไม่กล้าแล้วกูจะไม่ยุ่งกับคนของมึงอีก อีเบลกูก็ไม่เอาแล้ว” บอลเอ่ยเสียงสั่นเครือด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส“ใครบอกว่ากูจะเอาผู้หญิงแพศยาพันนั้นคืน”เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!!!“ครั้งนี้ถือว่ากูเตือน ถ้ามึงยังไม่เลิกกวนตีนกู แล้วก็ยังไม่เลิกยุ่งกับหลิน ครั้งต่อไปแม้แต่ลมหายใจมึงก็จะไม่มี” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก ก่อนจะส่งแส้ให้ลูกน้องจัดการต่อ“จัดการมันแค่เบาะๆ ถ้ามันสลบก็ค่อยพอแล้วเอามันไปโยนไว้หน้าบ้านมัน”“ครับนายน้อย” ลูกน้องคนสนิททั้งสองรับคำพร้อมกัน#วันต่อมาที่มหาลัย King“โอ้โห!! ร้ายนะมึงรอยดูดเต็มคอมาเลย คนนี้สงสัยจะเด็ดสิท่า ปกติไม่เห็นเคยให้ใครทำรอย” กันต์เอ่ยแซวเป็นหนึ่งเมื่อเป็นหนึ่งเดินมานั่งลงที่โต๊ะประจำหน้าตึกวิศวะยานยนต์“เสือก” เป็นหนึ่งยกนิ้วกลางพร้อมเอ่ยด่าไปหนึ่งกรุบ ก่อนจะก้มลงกดโทรศัพท์แชทหาใครบางคนที่ตั้งแต่เมื่อวานก็เงียบหายไปเลยNoah : อยู่ไหน?
ช่วงหนึ่งทุ่ม ที่ โกดังท่าเรือของตะกูลวิลสันทันทีที่เป็นหนึ่งย่างก้าวเข้ามาเขาก็ได้ยินเสียงเอะอะโวบวายดังลั่นโกดัง“ปล่อยกู!!! กูบอกให้ปล่อยไงวะไอ้ขี้ข้า” เป็นเสียงของบอลที่ตะโกนโวยวายใส่ธัน และ ธีม ที่ยืนนิ่งไม่สะทกสะท้านใดๆ“ไง!!! ยังปากเก่งเหมือนเดิมนะมึง” เป็นหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาหยุดยืนเผชิญหน้ากับบอล“ไอสัส กูว่าแล้วต้องเป็นมึง แน่จริงมึงปล่อยกูดิวะ” เป็นหนึ่งไม่ตอบทำเพียงปลายตามองบอลที่โดนมัดล่ามโซ่ไว้ด้วยสายตาเหี้ยมจนลูกร้องที่ยืนอยู่นับสิบยังไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขาตั้งแต่เด็กเป็นหนึ่งถูกผู้เป็นพ่อฝึกมาอย่างหนัก ทั้งมวยไทย/สากล เทควันโด ยูโด บราซิลเลียนยิวยิตสู หรือแม้กระทั่งสุดยอดการต่อสู้ฉบับกองทัพอิสราเอลอย่าง คราฟมากา เขาก็ล้วนเคยผ่านมาแล้วทั้งนั้น เลยไม่มีใครสามารถล้มเขาได้ซักคนแม้กระทั่งครูฝึกประจำตระกูลที่สอนการต่อสู้ให้เขามาตั้งแต่เด็กยังต้องแพ้ให้กับเขาและสาเหตุนี้ที่ทำให้ลูกน้องทุกคนและคนทั่วไปที่รู้กิตติศัพท์ของเขาต่างไม่กล้าหือกับคนอย่างเขา ‘โนอาร์ วิลสัน’ ข่าวลือที่ว่าเขาโหดนั้นไม่เกินจริงเลยซักนิด“เมื่อคืนมึงคิดจะทำอะไรหลิน” ในที่สุดหลังจากยืนนิ่งเงียบมา
ตอนที่13 สั่งสอนให้หลาบจำ“อื้อออ อ๊ะ!!!” หลินรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเจ็ดโมงเช้ากับอาการระบมไปทั้งตัวกับปวดหน่วงท้องน้อยจนต้องเอามือกุมท้อง เธอหันไปมองคนข้างกายที่นอนหลับสนิทเอาแขนพาดมาที่หน้าท้องเธออยู่ ในใจเธอนึกอยากจะถีบเขาให้ตกเตียงนัก รู้ทั้งรู้ว่าเป็นครั้งแรกของเธอเขาก็ไม่มีออมแรงเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้ไปตายอดตายอยากมาจากไหน ส่วนร่างกายเธอก็ดันตอบสนองเขาไปทุกรอบอีกต่างหาก ‘ไอ้ร่างกายไม่รักดี’หลินค่อยๆ เอาแขนเขาออกจากตัวเธอแล้วลุกลงจากเตียงด้วยความเงียบที่สุด เพราะตอนนี้เธออารมณ์ไม่ดียังไม่อยากคุยกับเขาขอกลับไปตั้งสติก่อนจะดีกว่าหลินรีบเก็บเสื้อผ้ามาใส่ด้วยความรวดเร็วก่อนจะโทรบอกให้เหมยลี่มารับที่ข้างล่างคอนโดเป็นหนึ่ง “แต่ก่อนจะออกไป ขอทำอะไรซักอย่างก่อนเถอะ” หลินพูดกับตัวเองก่อนจะเดินไปข้างเตียงที่เป็นหนึ่งนอนอยู่.....ทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถเหมยลี่ถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปาก ตาเบิกกว้างทันที“คะ คุณหนูทำไมมีสภาพเป็นงี้อะ คุณโนอาร์เขาทำอะไรคุณหนูเนี่ย”“อย่าถามตอนนี้เลยรีบกลับห้องกันเถอะ” หลินตอบก่อนจะเอนหลังพิงกับเบาะที่ปรับลงนอนแล้วหลับตาลงเพื่อพักสายตา แต่ก็ต้องเด้งตัวขึ้นมาอีกค
ตอนที่12 (NC18+) รอบสุดท้ายไม่มีอยู่จริงหลังจากได้ปลดปล่อยน้ำแรกไป ก็สบายตัวขึ้นมากจากฤทธิ์ยา ทั้งสองก็นอนกอดกันหายใจหอบเหนื่อย“ชอบไหม?” เขาถามเธอขึ้นพร้อมกับจับมือเธอมาสัมผัสท่อนเอ็นใหญ่โตของเขาที่ยังไม่ยอมลง หลินเงยหน้าขึ้นมามองเขาก่อนจะเอ่ยถาม”ทำไมมันยังไม่ลงอีกล่ะ ยายังไม่หมดฤทธิ์หรอ?” ใช่ เธอไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าที่ร่างกายตัวเองเปลี่ยนไปเป็นเพราะอะไร และเพราะใคร“หมดแล้ว แต่แค่ฉันเห็นร่างกายเธอ มันก็ทำให้ฉันอยากขึ้นมาอีกแล้วน่ะสิ” ว่าจบก็ประกบจูบปากเธออีกครั้งพร้อมกับจับมือร่างบางชักนำให้เธอรูดท่อนเอ็นของเขาขึ้นลงจากช้าๆ ก็เริ่มไวขึ้นเรื่อยๆ จนแน่ใจว่าเธอเป็นงานและจับจังหวะได้แล้ว แล้วจึงปล่อยมือบางให้เธอได้รูดขึ้นลงเอง“จุ๊บบบจ๊วบบบ อ่าาาส์ ดี…ดีมาก”น้ำเสียงสุดเซ็กซี่ของเป็นหนึ่งเอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบพร่า ก่อนจะก้มหน้าลงดูดยอดบัวตูมคู่สวยของเธอบีบเคล้นหนักเบาสลับกันไป“อ่าาาส์ ซี๊ดดด เร็วๆ ใกล้แล้ว อืมมม โอ้วว จะไม่ไหวแล้ว พะ พอก่อน พอก่อน” เป็นหนึ่งจับมือบางให้หยุดก่อนที่เขาจะแตกพ่ายไปซะก่อน จากนั้นก็ขึ้นค่อมเธอจับขาเธอพาดบ่าข้างหนึ่ง“ฉันอยากเสร็จพร้อมกับเธอมากกว่า”
ตอนที่11 (NC18+) ฉันกินจุนะเธอไหวหรอคอนโดเป็นหนึ่งแกร็กกกก!! ตุบบบ!! ปังงง!!ทันทีที่เปิดประตูย่างเท้าก้าวเข้ามาภายในห้อง หลินก็ดันเป็นหนึ่งชิดประตูแล้วประกบจูบปากเขาทันทีโดยที่เป็นหนึ่งไม่ทันได้ตั้งตัว ตอนนี้เธอควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เลย ซึ่งเขาก็กระหายและต้องการเธอเช่นกัน แต่ก็ต้องฝืนความรู้สึกและดันเธอออกเพื่อตกลงกันก่อน“ เดี๋ยวๆ สาวน้อยเธอแน่ใจแล้วใช่ไหม...จะไม่เสียใจภายหลังแน่นะ ”เป็นหนึ่งโอบกอดร่างบางไว้แล้วก้มกระซิบเสียงแหบพร่าข้างใบหูของหลินอย่างยั่วยวน แต่ถึงเธอจะปฏิเสธงานนี้เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไปหรอก ก็แค่ถามไปอย่างนั้นเองหลินพยักหน้าหงึกๆ แล้วโอบรอบคอเขาส่งสายตายั่วยวนกลับก่อนจะกัดเข้าที่ต้นคอเขาอย่างแรง“ ซี๊ดดด!!! ชอบรุนแรงสินะ ”เขาร้องซี๊ดเบาๆ ไม่ได้เจ็บมากมายอะไร แต่ตรงกันข้ามมันยิ่งไปปลุกความร้อนในกายเขาให้ลุกโชนมากขึ้นไปอีก“ผ่านคืนนี้ไปจะไม่มีการผูกมัดใดๆ เธอจะไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวฉัน เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกนอกจากเรื่องงาน...เข้าใจนะสาวน้อย”เขาเชยคางเธอขึ้นโน้มใบหน้าไปใกล้ พูดชิดริมฝีปากบาง“แน่นอน”ทันทีที่เธอเอ่ยแบบนั้นเขาก็จัดการอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวเข้าห้
ตอนที่10 กินเลี้ยงสายรหัสBig ASผับสาวสวยสองคนเดินย่างกายเข้ามาภายในร้านจนผู้คนต่างหันมอง หลินปล่อยผมตรงยาวสลวย เธอใส่เป็นเสื้อสายเดียวด้านในสีดำเอวลอยโชว์สะดือคลุมทับด้วยคาดิแกนแขนยาวสีขาวคู่กับกางเกงยีนส์ขายาวดูเรียบร้อยแต่แอบซ่อนเปรี้ยวอวดหุ่นทรงนาฬิกาทรายได้เป็นอย่างดีด้านล่างสวมเพียงรองเท้าผ้าใบแสนธรรมดา แต่ถ้าสังเกตดีๆ หน่อย ราคามันไม่ธรรมดาเลยสำหรับรุ่นลิมิเต็ดของแบรนด์อเมริกาต้องพรีออเดอร์เท่านั้นส่วนเหมยใส่เกาะอกสีขาวคู่กับกระโปรงหนังสั้นสีดำรองเท้าสูงสี่นิ้วผมม้วนลวนปล่อยเต็มแผ่นหลังถึงแม้สองสาวจะไม่ได้แต่งตัวโดดเด่นอะไรมากแต่ด้วยหน้าตาลูกครึ่งที่สวยหยดย้อยของทั้งคู่ก็ทำให้หนุ่มๆ พากันละสายตาไม่ได้“ สวัสดีค่ะพี่เบล ” หลินยกมือสวัสดีพี่รหัสของตัวเองซึ่งมีหนุ่มหล่อนั่งข้างกายโอบเอวอยู่คลอเคลียกันอยู่“ อ้าวมาแล้วหรอ มาๆ นั่งก่อนเดี๋ยวพี่จะแนะนำแต่คนให้ได้รู้จักกันเอาไว้ ”จากนั้นเบลก็ทำการแนะนำพี่ในสายรหัสแต่ละคนให้หลินได้รู้จักและก็ได้รู้ว่าผู้ชายที่โอบโอวเบลอยู่นั้นคือแฟนของเธอเองและยังเป็นปู่รหัสของหลิน ส่วนเหมยลี่ก็แยกตัวออกไปนั่งกับภีมที่ได้นัดกันไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว แ