"โอ๊ย! ..." ออสการ์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อริมฝีปากของเขาถูกพริมโรสขบกัดจนเลือดซึมออกมา
"ฮึกฮื้อ! ... ออกัสคุณกำลังคิดจะทำอะไร คุณกลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่" พริมโรสร้องไห้โฮ พร้อมกับถามชายคนรักออกมา ตั้งแต่คบกันเธอเพิ่งเห็นธาตุแท้ของชายคนรักในวันนี้ สุภาพบุรุษที่เคยมี ได้กลายร่างเป็นซาตานเพียงเพราะต้องการสนองตัณหาให้กับตัวเอง
"ทำไมละพิมพ์ เรารักกันไม่ใช่เหรอ แค่นี้คุณให้ผมไม่ได้หรือไง แค่เป็นของผมคุณก็ทำให้ไม่ได้" ออสการ์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น ก่อนจะค่อยๆ เอามือลูบที่ริมฝีปากของตัวเอง เลือดที่ซึมได้ติดปลายนิ้วออกมา ทำให้เขามองมาที่พริมโรสด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา หญิงสาวถึงกับขนลุกซู่ในทันทีทันใด เมื่อออสการ์แสดงอีกด้านที่เธอไม่เคยเห็นออกมา
"ออกัสไว้วันหลังค่อยคุยกัน วันนี้พิมพ์ขอตัวกลับก่อน" พริมโรสพูดพร้อมกับขยับออกห่างชายร่างสูงใหญ่ ก่อนที่เธอจะสำรวจตัวเองค่อยๆ ดึงชายเสื้อให้เรียบร้อยเหมือนเดิม
"แน่ใจนะพิมพ์ คุณตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม" คำถามของชายหนุ่ม คำพูดที่ดูห่างเหิน พริมโรสไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงสิ่งใดกันแน่
"พิมพ์ต้องรีบกลับไปซักผ้าให้แม่ แล้วยังทำงานบ้านค้างอยู่ เราค่อยคุยกันนะออกัส" พริมโรสพยายามหาข้ออ้างขึ้นมา เพื่อออกไปจากห้องนี้
"ถ้าคุณก้าวออกไปจากห้องของผม เราจบกัน! " คำพูดที่เฉียบขาดกับน้ำเสียงที่ปนความแข็งกร้าวออกมา ทำให้พริมโรสรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย เพราะเธอคงทำใจไม่ได้ หากจะต้องสูญเสียออสการ์ไป ความผูกพันที่มีนั้น มันเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นจนกระทั่งเธอเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ และไม่เคยคบกับผู้ชายคนไหน ออสการ์ผู้ชายเพียงคนเดียวที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของเธอ
พริมโรสยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เธอไม่รู้ควรจะตัดสินใจยังไงดี ออสการ์คนเดิมหายไปไหน ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้ หรือว่าอาถรรพ์เจ็ดปี จะมีจริงดั่งที่แอนได้กล่าวเอาไว้ หญิงสาวถอนหายใจเข้าออกลึกๆ แล้วนึกถึงสิ่งที่เขาทำกับเธอเมื่อสักครู่
นาทีนี้หากทุกอย่างจะจบลง เพียงเพราะเธอนั้นสนองตัณหาให้เขาไม่ได้ แล้วจะมีประโยชน์อะไร เพราะดูจากสภาพของเขาแล้วเมามาก พริมโรสจึงตัดสินใจเปิดประตูเดินออกไป เธอคิดในใจเอาไว้ เมื่อไหร่ที่เขาหายเมาค่อยมาคุยกันก็ได้ แต่วันนี้ออสการ์คงคุยกับเธอไม่รู้เรื่องแน่
"ออกไปแล้วไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีกพริมโรส!" เสียงตะโกนดังก้องออกมาอย่างชัดเจน เมื่อตัดสินใจเปิดประตูเดินออกจากห้องออสการ์ เธอรีบวิ่งเข้าไปในลิฟต์ ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง เพราะเวลานี้น้ำตาของเธอได้ไหลนองเอ่อล้นจากดวงตาคู่สวย ไม่ต่างจากสายฝนพรำ ในช่วงของฤดูมรสุมโหมกระหน่ำ เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้กับเธอ
รถแท็กซี่แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ หญิงสาวเดินเข้าบ้านด้วยหัวใจที่ปวดร้าวไปถึงก้นบึ้งหัวใจ เมื่อเวลานี้พริมโรสกำลังสับสน เมื่อเธอกำลังคิดว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้นตัวเองก็มีส่วนผิด เพราะเรื่องบนเตียงในสังคมปัจจุบัน มันเป็นเรื่องปกติสำหรับคนเป็นแฟนกัน ก็มันจะกลายเป็นค่านิยมของทุกคนไปแล้ว ออสการ์จึงมองเธอเปลี่ยนไป ทั้งที่เธอนั้นไม่เคยวางหัวใจไว้ที่ผู้ชายคนใดเลย
หญิงสาวตัดสินใจโทรหาเพื่อนเพื่อขอคำปรึกษา แต่มายด์กับพิงค์ไม่ว่าง สองสาวได้เดินทางไปเที่ยวที่ต่างประเทศกับแฟน พริมโรสจึงตัดสินใจโทรหาแอน เพราะอย่างน้อยเวลานี้เพื่อน ก็คงให้คำปรึกษาเท่าใดบ้าง
"ฮัลโหล... อะไรนะพริมโรส แล้วเธอปล่อยให้ออสการ์อยู่คนเดียวแบบนั้นได้ยังไง คนเมาเกิดบ้าคิดทำอะไรโง่ ๆ ขึ้นมาจะทำยังไง" เมื่อพริมโรสเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แอนฟัง แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของเธอจะเป็นห่วงออสการ์มากกว่า
"แล้วแอนจะให้พิมพ์ทำยังไง ออกัสเมาขนาดนั้นคงเดินออกจากห้องไม่ไหวหรอกมั้ง"
"พิมพ์...แอนว่าพิมพ์กลับไปดูออสการ์ก่อนดีไหม ยังไงตอนนี้เขาก็ควรมีคนดูแล พิมพ์จะกลัวอะไรออสการ์แฟนพิมพ์นะ" คำพูดของเพื่อนที่ดังมาจากสมาร์ทโฟน ทำให้พริมโรสถึงกับถอนหายใจออกมา
"แต่พิมพ์ไม่ว่าง วันนี้มีงานบ้านต้องทำ ยังไม่ได้ซักผ้าให้แม่เลย ยังไงเราฝากแอนช่วยไปดูออกัสให้หน่อยได้ไหม"
"มันจะดีเหรอพิมพ์ เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดกันหมดหรอก ถ้าเกิดว่าสองคนนั่นรู้ว่าแอนเข้าไปหาออสการ์ถึงคอนโด มายด์กับพิงค์คงคิดว่าแอนกำลังคิดอะไรกับออสการ์แน่เลย แอนไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิด" พริมโรสจะรู้หรือไม่ ในขณะที่แอนพูดนั้นสายตาของเธอช่างเจ้าเล่ห์ เมื่อเพื่อนรักรอเวลานี้มานาน โอกาสที่จะอยู่ใกล้ๆ ออสการ์ตามลําพังแบบนี้
"มายด์กับพิงค์ไปเที่ยวต่างจังหวัด แอนก็รู้สองคนนั่นไม่อยู่ แอนคิดมากไปหรือเปล่าเนี่ย"
"อืม... ใช่ แอนคิดมากจนลืมไป ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวแอนจะเข้าไปดูออสการ์ให้นะพิมพ์ แล้ววันนี้พิมพ์จะเข้าไปหาออสการ์อีกหรือเปล่า" แอนเอ่ยถามออกมาเพื่อความมั่นใจ เพราะเธอเองก็ไม่ปรารถนาจะให้พริมโรสกลับไปหาออสการ์อีก
"พิมพ์คงไม่ได้เข้าไปหรอกแอน แล้วแอนอย่าลืมหาข้าวหาน้ำให้ออกัสทานด้วยล่ะ เอาไว้รอให้ออกัสใจเย็นเมื่อไหร่พิมพ์ถึงจะเข้าไปคุยกับเขา แค่นี้นะขอบใจมากนะแอนที่ช่วยเป็นธุระให้กับพิมม์"
"จ้า... พิมพ์ไม่ต้องห่วงหรอก เราจะหาอาหารให้ออสการ์ทานทั้งเนื้อนมไข่บำรุงเป็นอย่างดี แล้วเจอกันจ้ะบ๊ายบาย"
พอวางสายจากเพื่อน พริมโรสได้เดินไปนั่งที่ใต้ร่มไม้ ตรงสนามหน้าบ้าน เธอรู้สึกดีขึ้นที่เวลานี้อย่างน้อยหญิงสาวก็คลายความกังวลเรื่องออสการ์ลงไปได้บ้าง ที่มีคนไปดูแลเขาในยามที่เมาแบบนั้น เมื่อเธอไว้ใจแอนเพื่อนคงจะทำหน้าที่แทนได้เป็นอย่างดี
"อาบด้วยกัน" "ว้าย! คุณนิค!" พริมโรสร้องเรียกชื่อสามีออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเขานั้นอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว จนเธอนั้นต้องรีบเอาแขนคล้องไปที่ลำคอแกร่งของเขาไว้แน่นด้วยความตกใจ ในขณะที่ทรวงอกนุ่มนิ่มของเธอนั้น ได้ปะทะเข้ากับอกของเขาอย่างจัง จนสัมผัสได้ถึงซิกซ์แพ็กแน่นๆ เมื่อเวลานี้เต้าคู่งามถูกสามีหนุ่มเปลือยออก ร่างกายของเธอมีเพียงแค่กางเกงในตัวจิ๋วห่อหุ้มเอาไว้แทบไม่มิด อีกไม่นานเขาคงจะพิชิตปลดเปลื้องออกจนหมดสิ้นอย่างไม่รีรอ"เมียผม เซ็กซี่จัง มองกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกเบื่อ ต่อให้ผมต้องตกเป็นทาสของคุณตลอดชีวิต ผมก็ยอมพริมโรส!" ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ในขณะที่ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของหญิงสาว ก่อนจะดันร่างอรชรให้ชิดติดกับผนังเซรามิก มือหนาค่อยๆ ปัดเส้นผมของเธอออกจากพวงแก้มเนียน เวลานี้ภรรยาสาวของเขาแลดูเซ็กซี่ไม่เบา "ทำไมสามีของพิมพ์ถึงเสน่ห์แรงจัง สายตาคู่นี้ คุณมีไว้สำหรับมองพิมพ์คนเดียวรู้หรือเปล่า" พูดจบประโยคพริมโรสได้โน้มใบหน้าอันหล่อเหลาของสา
"ณิชาเพิ่งรู้ว่าเลขาจะต้องทำงานตัวติดกันกับท่านประธานตลอดเวลา น่าอิจฉาคุณพริมโรสจังเลยนะคะ ขนาดเลิกงานแล้วยังอุตส่าห์ตามท่านประธานต้อยๆ เป็นเงาได้แบบนี้" "ผมว่าเรามาเริ่มคุยเรื่องงานกันเถอะครับผมอยากกลับบ้านพักผ่อนเต็มที่แล้ว" นิโคลัสตัดสินใจพูดขึ้นมา เพราะไม่อยากให้ทุกอย่างมันบานปลายมากไปกว่านี้ และเขาก็รู้ดีว่าพริมโรสกำลังพยายามเก็บอาการ แต่เธอก็คงไม่สามารถที่จะระงับอารมณ์ความหึงหวงเขาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เฉกเช่นเขาที่เวลาลูกค้าหนุ่มๆ สนใจเลขาสาว เขาก็มักจะเก็บอาการไม่อยู่เหมือนกัน เพราะหึงหวงภรรยาจนออกนอกหน้าหลายครั้งหลายครา จนต้องเสียลูกค้าหนุ่มๆ ไปหลายราย แต่เขาก็ไม่แคร์ เมื่อชายหนุ่มพวกนั้นมักจะทำตัวรุ่มร่ามเจ้าชู้ใส่ภรรยาของเขา"ก็ได้ค่ะ เห็นแก่คุณนิคนะคะ ณิชาสนใจ ลำไยอบแห้งเป็นพิเศษ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เรา กำลังจะได้ทำธุรกิจร่วมกัน หวังว่าคุณนิคคงไม่ว่าอะไรนะคะ ถ้าหากณิชาจะเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนที่คุณอุตส่าห์มาเซ็นสัญญาถึงที่นี่ในวันนี้" ในขณะที่พูดสายตาของณิชานั้น ช่างเย้ายวนชวนให้ชายหนุ่มหลายคนหลงใหล อยากจะเข้าใกล้
"มันคือวันไนท์สแตนด์ ที่ผมนั้นไม่เคยลืม ใครต่างก็คิดว่าความสัมพันธ์แค่ชั่วข้ามคืนจบแล้วต้องแยกทาง แต่สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่ เพราะค่ำคืนนั้นมันยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของผมตลอดเวลา ตั้งแต่วันนั้นจวบจนวันนี้ ผมก็ยังไม่เคยลืมผู้หญิงที่ชื่อพริมโรส เพราะคุณคือลมหายใจของผม" สิ้นเสียงพูดของชายหนุ่ม เขาได้ทาบริมฝีปากลงไปที่เรียวปากอิ่มได้รูปอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน จุดเริ่มต้นของวันไนท์สแตนด์ ได้กลับกลายเป็นชีวิตคู่ที่ยั่งยืน เมื่อคนทั้งสองยังคงยึดมั่น และซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง ในที่สุดพวกเขาก็ได้มาบรรจบและพบกันอีกครั้ง และคนได้ครองรักกันตราบชั่วฟ้าดินสลายสองปีผ่านไปไวเหมือนโกหก เมื่อพริมโรสให้กำเนิดทายาทคนที่สอง ชื่อว่าน้องวิคกี้ที่น่ารักน่าชัง เวลานี้ทุกคนในบ้านต่างก็หลงรักและเอ็นดูลูกทั้งสองของเธอ โดยเฉพาะคุณตากับคุณยายซึ่งเวลานี้ได้มีหน้าที่หลักดูแลหลานๆ ทั้งสองไปโดยปริยาย เมื่อพริมโรสนั้นเธอยังคงทำงานในตำแหน่งเลขาให้กับท่านประธานหนุ่มอย่างนิโคลัสสามีของเธอเหมือนเดิม เพราะหน้าที่นี้คงไม่มีใครทำได้ดีเท่ากับภรรยาของเขา และที่สำค
ความร้อนแรงกำลังจะทำให้คนทั้งสองได้ออกไปแตะขอบฟ้า เมื่อความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งครั้งนี้ได้ปลดปล่อยอารมณ์พิศวาสในกายออกมา "อืม...โอทิส เร็วหน่อย อ๊ะอ๊าย! " เสียงแหลมร้องครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับโก่งตัวงอเกร็งกระตุก สะโพกมนแอ่นขึ้นรับกับจังหวะที่โอทิสกระแทกเข้าออกได้อย่างลงตัว ใบหน้าของเธอเริ่มเหยเกเพราะความเสียว ตาคู่สวยค่อยๆ หลับพริ้มลง โอทิสจ้องมองไปที่ใบหน้าของภรรยาซึ่งเวลานี้นางดูเซ็กซี่ และเร้าอารมณ์เขาเป็นอย่างมาก "อืม...อ๊า แน่นมาก เสียวจัง โอ้ว! ผมจะแตกแล้วรสริน อืม....อ๊า" เสียงทุ้มพูดออกมาพร้อมกับจังหวะกระแทกที่หนักหน่วง ท่อนเอ็นร้อนลำใหญ่มุดเข้าออก เสียดสีกับช่องแคบ จนชายร่างกำยำรู้สึกว่ามันพร้อมที่จะระเบิดออกมา และในที่สุดความปรารถนาในตัวของชายวัยกลางคนก็บรรลุถึงวัตถุประสงค์จนได้ นับจากวินาทีนี้ต่อไป เขาคงจะไม่มีวันทำให้รสรินต้องเสียใจ เมื่อเขาพร้อมจะหยุดหัวใจไว้ที่เธอ หลายวันผ่านไป ความสัมพันธ์ของโอทิสและรสรินดีขึ้นผิดหูผิดตา จนพริมโรสแอบสงสัยเมื่อเห็นบิดาและมารดาแอบป้อนผล
"ปล่อย! ฉันจะออกไปนอนข้างนอก" รสรินพูดออกมาพร้อมกับพยายามดันตัวเองลุกขึ้น แต่ก็สู้แรงของโอทิสไม่ได้ เมื่ออ้อมแขนของเขานั้นกระชับร่างอรชรของหญิงวัยกลางคนเข้าหา เวลานี้ใบหน้าของคนทั้งคู่ห่างกันแค่เพียงคืบ โอทิสจะรู้หรือเปล่าว่าการกระทำของเขานั้นกำลังทำให้นางรู้สึกสับสน เมื่อเวลานี้สมองกับหัวใจมันกำลังขัดแย้งกัน รสรินพยายามหาเหตุผลที่จะผลักไสเขาออกไปให้ไกล แต่หัวใจกลับเรียกร้องให้เขาเข้าใกล้ อยากมีเขาอยู่ข้างแบบนี้ตลอดไป จากนั้นน้ำตาใสๆ ได้ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยของเธอ สุดที่จะกลั้นความรู้สึกที่อยากอธิบายนี้เอาไว้อีกต่อไปได้ "ร้องไห้ทำไมรสริน ผมไม่อยากเห็นน้ำตาของคุณอีกแล้ว หยุดร้องไห้ได้แล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่นะครับคุณรสริน" น้ำเสียงที่ดูจริงจังกับแววตาที่ดูจริงใจ กำลังทำให้รสรินรู้สึกหวั่นไหว เมื่อความรักมันกำลังจะเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ในช่วงระยะเวลาที่เธอนั้นได้ดูแลเขาอย่างใกล้ชิด "ฉันแก่ปูนนี้แล้ว คงเริ่มต้นใหม่กับใครไม่ได้ อย่าคิดพยายามจะเข้าใกล้ฉันอีก ปล่อย...ถอยไป" น้ำเสียง
ในขณะที่มิเชลนั้นตั้งครรภ์ได้เดือนกว่าแล้ว ความจริงเธอกับก้องภพตั้งใจจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด ก่อนที่ท้องของมิเชลจะโตขึ้นมามากกว่านี้ แต่แล้วคงต้องยุติเรื่องแต่งงานเอาไว้ก่อน เมื่อบิดาของเธอนั้นกำลังเจ็บหนัก และที่สำคัญมิเชลคงไม่มีอารมณ์จัดงานมงคล เมื่อมารดาของเธอกำลังจะหย่าขาดกับโอทิส หลังจากที่บิดาออกจากโรงพยาบาลในทันที เช้าวันใหม่ที่อากาศสดใส พริมโรสอยากให้มันเป็นเพียงแค่ฝันร้าย แต่เวลานี้เธอต้องรับกับสภาพความเป็นจริงให้ได้ เมื่อหญิงสาว ค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปภายในห้องพิเศษ พี่คุณหมอได้ย้ายบิดาของเธอนั้นเข้ามาพักฟื้นในห้องนี้ พริมโรสจ้องมองไปภายในห้องด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ในขณะที่โอทิสนอนอยู่บนเตียงคนไข้โดยมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด ขาทั้งสองข้างเข้าเฝือกเอาไว้ ดูจากสภาพของเขาแล้วน่าจะบอบช้ำมาก"ผมขอตัวเข้าไปบริษัทก่อนนะพิมพ์ แล้วจะแวะมารับ คุณอยู่กับมิเชลได้ใช่ไหม" นิโคลัสเอ่ยถามภรรยาออกมา เมื่อเขานั้นอยากให้เธอได้อยู่กับบิดา และน้องสาวเพื่อให้ความสัมพันธ์นั้นดีขึ้น "อยู่ได้ค