Share

๓๓

last update Huling Na-update: 2025-05-04 20:34:33

ไท่จื่อเสด็จมาเร็วกว่าที่คิด ในเรือนรับรองแห่งนี้ ถ้าไม่นับจูจิ่วลี่ หลิวหงเถาก็คือคนที่มาถึงเป็นคนสุดท้าย นางถวายความเคารพไท่จื่อแล้วขอประทานอภัยในความล่าช้าของตนเอง

“ไม่ถือโทษคุณหนูหลิว เป็นเปิ่นไท่จื่อมาเร็วกว่าเวลาเอง”

ตรัสเสียงทุ้มอ่อนโยนพร้อมส่งรอยยิ้มมุมปากมาให้ว่าที่เช่อเฟย ทั้งคำพูด การกระทำ หรือไม่ว่าจะเป็นอุปนิสัยเฉพาะตัวของไท่จื่อล้วนผิดแผกไปหมดในความรู้สึกของขุนนางที่ประชุมในท้องพระโรงด้วยกันทุกวัน

“เป็นพระมหากรุณาเพคะ”

หลิวหงเถาก้มหน้าลงต่ำพร้อมย่อกายลงอย่างนอบน้อมก่อนที่จะเดินถอยมาหลบอยู่ข้างหลังบิดา ปล่อยให้ขุนนางทั้งหลายได้เสวนาหารือเรื่องเทศกาลการแข่งม้ากันต่อไป

ในจังหวะที่ไท่จื่อกำลังฟังคำรายงานการดำเนินงานกับเจ้ากรมพิธีการอยู่นั้น หลิวหย่งก็เอียงหน้าเล็กน้อยมาหาบุตรสาวพร้อมถาม

“คุณหนูจูล่ะ”

บิดากล่าวเสียงกระซิบมา นางจึงกระซิบตอบกลับไป

“ยังแต่งกายไม่เสร็จเจ้าค่ะท่านพ่อ ให้เถาเอ๋อร์ไปตามหรือไม่เจ้าคะ”

“ก็ดี ลอบออกไปอย่างเนียน ๆละ ประเดี๋ยวพ่อจะทูลเตี้ยนเซี่ยให้”

หลิวหงเถาพยักหน้าเข้าใจ แล้วลอบออกทางอีกฝั่งของห้องโถง นางคิดว่าตัวเองเดินออกไปอย่างแนบเนียนมากพอแล้ว แต่ม
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๓๔

    คำกล่าวที่ว่า ‘ผู้ร้ายมักจะตายตอนจบ’ เป็นอย่างไร หลิวหงเถาเพิ่งจะมาเห็นด้วยก็วันนี้ คนคุ้มกันของตระกูลหลิวตามไปถึงรังโจรก็จริง แต่กลายเป็นว่าไม่เหลือใครอยู่ที่นั่นแล้วนอกจากร่องรอยอันแสดงว่าเคยมีคนอยู่มาก่อนไหวตัวหนีไปอีกจนได้!“การที่เจ้าปักปิ่นไว้มากมายบนศีรษะก็เป็นผลดีเหมือนกันนะ”“ทำดีมากลูกแม่” คนที่คล้ายกับได้รับคำชมยกมือขึ้นลูบปิ่นปักผมบนศีรษะอย่างรักใคร่ แววตาปริ่มเปรมใจเหลือล้น “แต่คิดไปแล้วก็เสียดาย ปิ่นที่ข้าใช้แทงเจ้านั่นดันทู่ไปนิด ลองเปลี่ยนเป็นอันอื่นสิ ป่านนี้มันคงตายไปนานแล้ว”“เจ้าน่ากลัวนะ ขอโทษที่ข้าเริ่มสงสารตัวเองในอนาคตแล้ว เจ็บช้ำน้ำใจต่อกันเรื่องอันใดจงบอกกันตามตรงเล่า ปิ่นที่งดงามเช่นนี้ไม่คู่ควรกับเลือดของข้าหรอก”สองสาวหลิวหงเถากับจูจิ่วลี่พูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่ทำให้รอดชีวิตมาได้ หลิวหงเถาแสดงสีหน้าสยดสยองออกมาชัดเจนเมื่อจินตนาการว่าจูจิ่วลี่แทงปิ่นลงมายังเนื้อของนางจนเลือดสาด และที่น่ากลัวก็คือนางยังคงเก็บปิ่นที่ใช้เป็นอาวุธนั้นไว้โดยไม่ล้าง! “หึ! อย่าคิดลองดีกับข้าก็แล้วกัน”“กลัวแล้วแม่นาง ที่ร้องห่มร้องไห้เมื่อวานคือการแสดงสินะ ร่างจริงคือคนตรงหน้าข

    Huling Na-update : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๓๕

    ปากเป็นแผล คางแตก ข้อเท้าหัก คือสิ่งที่หลิวหงเถาได้เป็นที่ระลึกกลับไปฝากมารดาแน่นอนว่ามารดาของนางย่อมแว้ด ๆ เสียงดังเพราะตกใจที่บุตรสาวเจ็บตัวกลับมาอีกแล้ว เมื่อรู้ต้นสายปลายเหตุก็สั่งให้คนสนิทไปหยิบไม้เรียวมาฟาดก้นหลิวหลี่เฟยเสียหลายที แม้ทุกคนจะพยายามอธิบายให้ฟังแล้วว่าเพราะมีคนลอบปาเข็มยาสลบใส่ม้า ทว่าก็ยังไม่ทำให้จูม่านหลิงคลายโกรธ มิหนำซ้ำยังไม่อนุญาตให้หลิวหลี่เฟยเข้าร่วมการแข่งม้าวันเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า ผ่านวันแข่งม้า ผ่านวันถวายตัวเข้าตำหนักบูรพาของจูจิ่วลี่ ผ่านวันตายของใครหลายคนในเมืองหลวง แต่ทุกช่วงเวลาที่ผ่านมานี้หลิวหงเถามักจะได้รับบาดเจ็บอยู่เรื่อย ๆ อีกทั้งความรุนแรงยังเพิ่มระดับขึ้นทุกครั้งชนิดที่ว่ากะเอาให้ถึงแก่ชีวิต ทุกคนพยายามตามสืบว่าใครเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง แต่ก็ไม่สามารถตามหาผู้ร้ายที่แท้จริงได้สักที และเพราะว่าหลิวหงเถาป่วยบ่อยจึงได้ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างหนีการถวายตัวเข้าตำหนักบูรพามาได้หลายเดือนจนถึงตอนนี้ซึ่งเวลาปัจจุบันนี้ก็มีเรื่องน่ายินดีของเชื้อพระวงศ์ชายเกิดขึ้น เมื่อหมอหลวงตรวจพบสัญญาณชีพจรการถือกำเนิดบุคคลสำคัญของแคว้นชิงชิวได้ หวางเฟยแห่

    Huling Na-update : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๓๖

    หลิวหงเถาออกมาจากตำหนักของชินหวางเฟยด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนัก จังหวะการเดินที่ลงน้ำหนักเท้ามากกว่าปกติไม่รอดพ้นสายตาของลู่หลินและนางกำนัลขันทีประจำวังไปได้ แน่นอนว่าไท่จื่อที่รอกลับพร้อมนางอยู่แล้วก็จับสังเกตได้เช่นกัน“คุณหนูหลิว”หลิวหงเถาชะงักฝีเท้า หันไปมองต้นเสียงก็เห็นว่าร่างสูงของไท่จื่อยังคงยืนกอดอกหลังพิงม้าอยู่ เมื่อร่างบางเดินเข้าไปใกล้เขาถึงได้กลับมายืนด้วยท่วงท่าสง่างามเช่นเดิม“หม่อมฉันคิดว่าพระองค์เสด็จกลับไปนานแล้ว”“ที่จริงก็อยากกลับไปส่งคุณหนูหลิวที่จวนก่อน แต่เห็นสีหน้าคุณหนูตอนนี้แล้ว อยากจะพาไปสถานที่ที่ทำให้คุณหนูหลิวผ่อนคลายความเครียดแทน”หลิวหงเถาคิ้วกระตุก อยากจะตะโกนใส่หน้าบุรุษสูงศักดิ์ตรงหน้าว่า…พระองค์นั่นแหละที่เป็นส่วนหนึ่งในความเครียดของหม่อมฉัน!“ดูท่าเปิ่นไท่จื่อคงจะเป็นเจ้าก้อนความเครียดของคุณหนูด้วย เช่นนั้น เปิ่นไท่จื่อต้องรับผิดชอบ”หลิวหงเถาไม่ได้ปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่สาเหตุหนึ่ง ทั้งยังยอมรับในตัวเขาที่สามารถมองนางได้ทะลุปรุโปร่งสมกับเป็นไท่จื่อจริง ๆ “อย่างไรเพคะ”“เปิ่นไท่จื่ออยากชวนคุณหนูหลิวไปชมทุ่งบุปผางามที่นอกเมืองด้วยกัน สนใจหรือไม่”ไม่รอให้

    Huling Na-update : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๓๗

    หลิวหงเถาหูอื้ออึงไปหมดแล้ว คำที่หลุดออกมาจากปากไท่จื่อไม่ได้ทำให้นางรู้สึกเขินอายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะว่านางรู้สึกหวั่นไหวให้กับบุรุษอีกผู้หนึ่งไปแล้วกลับกันหากนางไม่มีใครในใจมาก่อน นางก็คงเปิดใจรับไท่จื่อทั้งหัวใจ ซึ่งในอนาคตมันอาจจะทำให้นางต้องเจ็บปวดเอามาก ๆ ด้วยตำแหน่งของเขา ไม่สามารถจะมีสตรีเพียงผู้เดียวได้เฉกเช่นที่ท่านพ่อของนางมีท่านแม่เพียงคนเดียว “หม่อมฉันจะไม่บ่ายเบี่ยงอีกแล้วเพคะ”คำตอบของหลิวหงเถามันน่าพอใจมากพอที่จะมองข้ามคำว่า ‘บ่ายเบี่ยง’ เพราะไม่ว่าที่ผ่านมานางจะพยายามหนีเขามากเพียงใด แต่ในตอนนี้นางก็ตอบ ‘ตกลง’ แล้วอย่างไร “เป็นข่าวดีที่สุดตั้งแต่ที่เราได้ยินมาเลย” หลิวหงเถาเชื่อว่าเขารู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ ไท่จื่อยิ้มทั้งปากและตาแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่นางเคยได้เห็นเลยก็ว่าได้ตกเย็นไท่จื่อมาส่งหลิวหงเถาที่จวนพร้อมแง้มบอกเสนาบดีหลิวถึงเรื่องที่บุตรสาวของเขาเต็มใจเข้าวังบูรพาแล้ว สำหรับคนเป็นพ่อรู้สึกทั้งโล่งใจแล้วก็หนักใจไปพร้อม ๆ กัน“เถาเอ๋อร์แน่ใจแล้วหรือ หากลูกไม่มีความสุขอย่าได้ฝืนใจตัวเองเลย”เสนาบดีหลิวทนเห็นท่าทางเซื่องซึมของบุตรสาวไม่ไหวจึงได้โพล่งถามขึ้นมากลา

    Huling Na-update : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๓๘

    การรับเช่อเฟยตำแหน่งสุดท้ายเข้าวังคือสิ่งที่กำหนดไว้มาหลายเดือนแล้ว เหลือเพียงหลิวหงเถาตอบตกลงเท่านั้น ทุกอย่างก็พร้อมดำเนินการตามพิธีที่วางไว้ด้วยหลิวหงเถาเป็นเพียงพระชายารองเท่านั้น จึงไม่มีธรรมเนียมขึ้นเกี้ยวแปดคนหาม กราบไหว้ฟ้าดินรูปแบบเต็มพิธีการก็ไม่มี แต่พิธีการส่งตัวเจ้าสาวและงานจัดเลี้ยงใด ๆ ยังคงมีอยู่ “ถวายพระพรหลิวเช่อเฟยเพคะ”นางกำนัลทั้งหลายที่ไท่จื่อเฟยส่งมาดูแลตำหนักของหลิวหงเถาทำความเคารพอย่างนอบน้อมในระหว่างที่กำลังรอไท่จื่อเสด็จมาหาในคืนถวายตัวคืนแรก“อือ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน เราศึกษากฎของวังมาก่อนหน้านี้แล้ว ทำตามกฎที่มีมานานแล้วเช่นเดิม ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งใด ส่วนการปรนนิบัติเรา นางทั้งสองคนนี้จะเป็นคนทำเอง หานอิงและกุยต่าน”‘นางทั้งสอง’ ที่ว่าคือคนที่มารดาคัดส่งให้หลิวหงเถามาอย่างดี มีครบทั้งไหวพริบสติปัญญา สามารถช่วยเหลือหลิวหงเถาในยามลำบากได้ “น้อมรับสั่งเพคะหลิวเช่อเฟย”การโน้มตัวลงและตอบรับเสียงประสานกันทำให้หลิวหงเถาแอบขนลุกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ในใจคิดอยากจะเห็นสีหน้าของจูเช่อเฟยยามได้รับการปฏิบัติตัวดั่งเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง นานทีเจอกันครั้งหลิวหงเถาก็ว

    Huling Na-update : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๓๙

    หลังจากที่ผ่านมรสุมรักมาทั้งคืน หลิวหงเถาต้องขุดตัวเองขึ้นมาจากเตียงเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายก่อนที่จะไปถวายพระพรไท่จื่อเฟยตามกฎระเบียบที่ตั้งไว้ แม้ไท่จื่อจะบอกว่าไม่ต้องไปก็ได้ เดี๋ยวพระองค์จะพูดกับไท่จื่อเฟยให้เอง แต่หลิวหงเถาก็รั้นขอจะทำตามกฎของวังให้ได้ในระหว่างที่กำลังแช่น้ำอุ่่นอยู่นั้น น้ำเสียงเจือแววเป็นห่วงของนางกำนัลประจำกายก็ดังขึ้น“ทรงเป็นอย่างไรบ้างเพคะเช่อเฟย” นางกำนัลหานอิงเห็นร่องรอยบนผิวกายขาวผ่องเแล้วทนไม่ได้เอ่ยถามขึ้นมาในที่สุด หลิวหงเถาลืมตาขึ้น ใคร่ครวญความรู้สึกของตนเองในตอนนี้ “เป็นอย่างไรนะหรือ” พร้อมกับไล่สายตาดูรอยช้ำจากการโดนเคี่ยวกรำมาทั้งคืนก็ได้คำตอบว่า “ดุดันไม่เกรงใจใครจริง ๆ”กุยต่านยกนิ้วชี้ทาบไว้ที่ริมฝีปากของตนเอง ระดับวรยุทธ์ของนางสูงพอตัว จึงทราบว่ารอบตำหนักมีผู้แฝงกายอยู่เต็มไปหมด“ต่อจากนี้จะตรัสสิ่งใดต้องระวังนะเพคะเช่อเฟย หม่อมฉันจับพลังยุทธ์ได้ มีองครักษ์เงากระจายอยู่ทุกมุมของตำหนักเลยเพคะ”หลิวหงเถาหันมองรอบกายอย่างระแวดระวัง ในหัวภาวนาขอให้พวกเขามีคุณธรรมมากพอที่จะไม่แอบดูผู้อื่นเขาอาบน้ำกัน“ขอบคุณที่เตือนกันนะกุยต่าน ว่าแต่มียารักษารอย

    Huling Na-update : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๐

    ไท่จื่อพาหลิวหงเถามาส่งที่ตำหนักของนางโดยสั่งให้นางกำนัลไปเตรียมน้ำอุ่นมาชำระล้างกายเช่อเฟยให้สะอาด โดยระหว่างที่รอหลิวหงเถาอาบน้ำอยู่นั้น เขาก็กลับตำหนักใหญ่แล้วเรียกองครักษ์เงาที่สั่งให้จับตาดูเรื่องราวภายในวังมาซักถามอย่างละเอียด“วัตถุสีดำเช่นนั้นหรือ”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่เคยเห็นอาวุธเช่นนี้มาก่อนเลย หลังจากที่ตกลงไปในน้ำก็ระเบิดกระจุยทั้งปลาทั้งดอกบัวลอยขึ้นเหนือน้ำกันหมด หากโดนคนหรือสิ่งของเข้า อันตรายยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแน่น ในหัวคาดเดาถึงความเป็นไปได้อยู่หลายทาง “ลองหาเบาะแสดู เห็นอะไรที่ผิดสังเกตแม้แต่นิดเดียวให้รีบรายงานเปิ่นไท่จื่อ”“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อองครักษ์เงาจากไป ร่างแกร่งก็ถือโอกาสเปลี่ยนชุดใหม่แล้ววกกลับมาหาหลิวหงเถาที่ตำหนักอีกครั้ง จังหวะนั้นเจอหมอหลวงกำลังออกมาจากตำหนักพอดีจึงได้เอ่ยถามอาการของนาง“หลิวเช่อเฟยเป็นอย่างไรบ้าง”“ทูลเตี้ยนเซี่ย หลิวเช่อเฟยทรงสำลักน้ำ เกรงว่าจะเป็นหวัดเข้า กระหม่อมจึงเขียนเทียบยาแก้หวัดไว้ให้พ่ะย่ะค่ะ วรกายส่วนอื่นไม่ได้บาดเจ็บพ่ะย่ะค่ะ”เขาผ่อนลำหายใจออกอย่างโล่งใจ จากนั้นก็เดินเข้าตำหนักไป “เถาเอ๋อร์ไม่

    Huling Na-update : 2025-05-04
  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๑

    ราตรีมาเยือนเมื่อยามที่หลิวหงเถาเข้าสู่ห้วงนิทรา ภายใต้กลุ่มควันสีดำมืด หลิวหงเถาเห็นตัวเองกลับมาที่นี่อีกแล้ว‘พี่เถาเถ่า พี่เถาเถ่า’ดวงตากวาดมองโดยรอบเมื่อได้ยินเสียงเรียกอันคุ้นเคยดังขึ้ ‘หมินมิ่น นั่นเจ้าหรือ’เสียงนั้นเงียบหายไป ไม่ตอบอะไรกลับมา นางจึงได้แต่ยืนเคว้งคว้าง ไม่ก้าวเท้าไปไหนนอกจากยืนยิ่งอยู่ในจุดที่มีแสงไฟส่องลอดลงมาเพียงจุดเดียว จนกระทั่งเสียงเรียกนั้นดังขึ้นอีกครั้ง‘พี่เถาเถ่า หมินมิ่นอยากพบท่านเหลือเกิน พี่เถาเถ่า’‘หมินมิ่น หากเจ้าอยากมาพบพี่ เหตุใดจึงไม่มา กลับมาสิ นะ กลับมา’หลิวหงเถาร้องไห้ เนื้อตัวสั่นเทิ้มเมื่อคนที่นางเรียกหา ในที่สุดก็ยอมออกมาให้นางเห็นหน้าเสียที ไม่ใช่ออกมาแค่เสียงอย่างที่เป็นมา‘พี่เถาเถ่า’แต่ภาพที่เห็นกลับทำให้นางตกใจมาก เมื่อชิงหมินนั้นผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ร่างกายถูกล่ามด้วบหนามยักษ์ มือเท้าถูกคล้องด้วยโซ่ตรวน‘หมินมิ่น เหตุใด เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ ฮึก ใครทำกับเจ้าแบบนี้ พี่ พี่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้บ้าง’‘พี่เถาเถ่า หมินมิ่นต้องไปแล้ว ขอแค่พี่ไม่ลืมหมินมิ่น นั่นก็คือความสุขใจที่สุดแล้ว…’สิ้นคำร่างสูงของชิงหมินก็หายลับไปจากตรงหน้านาง

    Huling Na-update : 2025-05-04

Pinakabagong kabanata

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 3 (จบบริบูรณ์)

    ตอนพิเศษที่ : 3เริ่มต้นชีวิตคู่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยณ ห้องหอของบ่าวสาวคู่ใหม่ในวังปีศาจ สองบ่าวสาวคล้องแขนกันดื่มสุรามงคลที่เถาฮวาเฉินเป็นผู้ทำขึ้นมาเอง แน่นอนว่ารสชาติที่ได้ย่อมต่างจากสุราทั่วไปที่นางให้ผู้อื่น“รู้หรือไม่ว่าสุราที่เราให้ฉางฉ่างดื่มจะทำให้ฉางฉ่างไม่สามารถไปดื่มสุราที่ใดได้อีก”“ข้ารู้”เถาฮวาเฉินเลิกคิ้วขึ้นสงสัย “เหตุใดถึงไม่แปลกใจหรือไม่สงสัยอันใดเลย ไม่คิดบ้างหรือว่าเราอาจจะวางยาอะไรใส่ให้ฉางฉ่างดื่มกินก็ได้”หยิ่นฉางยกยิ้ม ทั้งยังเทสุราใส่จอกแล้วยกดื่มให้นางดูอีกสามครั้ง เป็นการบอกว่าเขาไม่ได้สงสัยในสิ่งนี้ ช่างขยันในการพิสูจน์ด้านการกระทำสำคัญกว่าคำพูดจริง ๆ“ท่านรู้สึกแย่หรือไม่ ที่ข้าไม่ได้บอกท่านก่อนเรื่องที่ให้ท่านพ่อเตรียมงานแต่งงานของเราไว้”ท่าทางของเถาฮวาเฉินไม่แสดงออกว่าโกรธหรือไม่ แต่เขาก็ยังอยากรู้ความรู้สึกลึก ๆ ของนาง“อือ” นางทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่คนที่เฝ้ารอคำตอบกลับแอบกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว “อาจจะตกใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรนะ ฉางฉ่างก็อย่าคิดมาก เราเป็นคนตรง ๆ อยู่แล้ว คิดอย่างไรรู้สึกอย่างไรไม่เก็บมาคิดคนเดียวหรอก”“จริงหรือ”“จริงสิ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 2

    ตอนพิเศษที่ : 2องค์ชายเล็กของแดนปีศาจ“ว้าว~นี่เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่เราได้มาเยือนพระราชวังของแดนปีศาจ ใหญ่โตดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบเหมือนกันนะฉางฉ่าง”หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแนบชิดกันมาสามวัน คำเรียกของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปแล้ว จาก ‘หยิ่นฉาง’ ก็เป็น ‘ฉางฉ่าง’ และจากเถาฮวาก็เป็น ‘เถาเถ่า’“ต่อไปที่นี่ก็คือบ้านของเถาเถ่า ท่านพ่อต้องชอบท่านแน่ ไม่ต้องกังวลนะ เขาจะดีต่อท่าน”เถาฮวาเฉินพยักหน้ารับพร้อมสูดหายใจเข้าลึก ในใจคิดเหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าเพิ่งผ่านช่วงแต่งงานแล้วก็กลับมาเยี่ยมบ้านเจ้าสาวกันนะ ว่าแต่…“จอมปีศาจจะชอบสุราของเราหรือไม่ สุราหมื่นปีแบบนี้แม้จะเป็นของหายาก แต่ไม่ได้มีใครที่จะได้ดื่มกินบ่อย ๆ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่คุ้นลิ้น อย่างช่วงงานฉลองราชย์ขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เราเคยเอาสุราหมื่นปีถวายเช่นกัน แต่พระองค์มิใคร่พอใจนัก ช่างเอาใจยากจริง ๆ”หยิ่นฉางหัวเราะในลำคอเบา ๆ หากบิดาของเขาได้ยินคำบ่นนี้ของนางไม่วายหัวเราะชอบใจที่นางเอ่ยนินทาประมุขของเผ่าสรรค์เช่นนี้“ทุกคนรอเราอยู่ที่ท้องพระโรงใหญ่”“หือ ท้องพระโรงหรือ”เถาฮวาเฉินรู้สึกเอะใจกับคำพูดนี้ของเขามาก จนกระทั่งเขาพานางเดินมาถึงจ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ตอนพิเศษที่ 1

    ตอนพิเศษที่: 1กิจกรรมที่คนคบกันเขาทำกัน ณ พระราชวังแคว้นชิงชิว “ท่านว่าเรามองนางอยู่เช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว”“ไม่รู้สิ หนึ่งชั่วยามได้แล้วหรือไม่ ถ้าท่านรู้สึกว่าเสียเวลาก็ไปทำงานที่คั่งค้างไว้ก่อนได้เลย ข้าขอดูนางต่ออีกหน่อย”หยิ่นฉางส่ายหน้าเบาๆ “ได้ใช้เวลาอยู่กับท่าน เช่นนี้ไม่เรียกว่าเสียเวลาหรอก แล้วอีกอย่างข้าก็ว่างมากด้วย”ตอนนี้เถาฮวาเฉินและหยิ่นฉางได้ลงมาโลกมนุษย์อีกครั้งเพื่อทำกิจกรรมที่คู่รักเขาทำกัน นั่นคือการทำอะไรก็ได้ให้ใช้เวลาร่วมกันมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่เถาฮวาเฉินเสนอมาก็คือการนั่งมององค์หญิงสาม บุตรสาวของหลิวหงเถาที่กำลังนั่งอ่านตำราอยู่เถาฮวาเฉินละสายตาจากองค์หญิงสามเพื่อหันกลับมาจ้องมองหยิ่นฉาง “ใช้คำพูดรุกเราให้ใจเต้นรัวอีกแล้วนะ” จากนั้นก็จูงมือเขาออกจากศาลาที่องค์หญิงสามนั่งอยู่ ทั้งคู่พรางกายเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีมนุษย์ผู้ใดสามารถมองเห็นได้“ช่วงข้าวใหม่ปลามันจะให้แผ่วได้อย่างไร”ไม่เพียงแต่พูดเท่านั้น แขนยาวยังเอื้อมไปโอบไหล่นางพร้อมซบหน้าลงหัวไหล่ด้วย เถาฮวาเฉินไม่ได้ขัดขืนทั้งยังยกมือขึ้นลูบศีรษะเขาตอบ ทั้งคู่จับมือกันเดินผ่านสวนงดงามของวังหลวงและพูด

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๓

    เถาฮวาเฉินพูด :“อื้อ~สบายจัง”ข้าบิดขี้เกียจพร้อมกล่าวเสียงอู้อี้ออกมาขณะที่ดวงตายังคงปิดสนิทอยู่ ข้ารู้สึกที่นอนนั้นช่างหนานุ่ม สามารถดูดวิญญาณของข้าให้อยู่บนนี้ได้ทั้งวัน แต่เดี๋ยวก่อนนะ…“ข้ามีเตียงแบบนี้ด้วยหรือ”“...จากที่ข้าลอบเข้าไปดูที่แดนดอกท้อ ไม่มีนะท่าน”เฮือก!เพียงแค่ได้ยินเสียงของเขาเท่านั้นข้าก็เด้งตัวขึ้นมานั่ง จากที่ไม่อยากลืมตาสู้แสง ดวงตากลับแจ่มชัดไร้ความพร่ามัว“นี่ท่าน…”กำลังจะตั้งคำถามว่า ‘นี่ท่านมาอยู่ห้องของเราได้อย่างไร’ แต่สุดท้ายก็เงียบไป เพราะคิดได้ว่าตนเองต่างหากที่มาอยู่ในดินแดนของผู้อื่น“ว่าต่อสิ หรือกำลังคิดอยู่ว่าข้าได้ทำอะไรท่านหรือไม่”หยิ่นฉางถามขึ้นยิ้ม ๆ ทั้งยังถอยห่างออกจากข้าดั่งกับว่าเขาอยากให้ข้ารู้สึกปลอดภัย ไม่โดนคุกคามอยู่ นั่นจึงทำให้ข้ารู้สึกดีต่อการกระทำนี้ของเขามาก“เราเปล่าคิดเช่นนั้นสักหน่อย ว่าแต่ท่าน…”ข้าไล่สำรวจเขาทั้งร่าง ตอนแรกก็แค่รู้สึกว่าเขามีอะไรเปลี่ยนไปสักอย่าง พอสำรวจอย่างละเอียดอีกที ที่แท้เป็นเพราะชุดสีขาว“ข้าดูแปลกตาไปใช่หรือไม่ ท่านจึงได้จ้องตาไม่กะพริบถึงเพียงนี้”หยิ่นฉางถามด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ก่อนที่จะยื่นมือม

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๒

    สิ้นคำที่หยิ่นฉางปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ ‘สุภาพชน’ เขาก็แสดงอาการตรงข้ามกับคำพูดนี้ทันทีโดยการอุ้มร่างบางเข้าสู่อ้อมแขนแล้วหายวับกลับถิ่น ณ ดินแดนปีศาจในทันทีตุบ!“โอ๊ย!”หยิ่นฉางวางเถาฮวาเฉินลงบนเตียงอย่างแรงจนร่างบางรู้สึกเจ็บจนต้องร้องออกมา ใบหน้างามชักสีหน้าใส่เขา แต่หยิ่นฉางหรือจะสน ร่ายมนตร์สร้างอาณาเขตไว้เพื่อไม่ให้เถาฮวาเฉินใช้พลังหนีออกจากที่นี่ไปได้จนกว่าจะสนทนากันให้รู้เรื่อง“ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ ข้าก็นับว่าเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดตนหนึ่งในแดนปีศาจ มีทั้งประสบการณ์ด้านการต่อสู้ ไม่ว่าจะทั้งสัตว์อสูรร้ายหรือแม้กระทั่งเทพเซียนที่แข็งแกร่ง ข้าก็ผ่านมาแล้ว สำหรับท่านที่วัน ๆ หมักแต่สุรา...”พูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป อีกทั้งยังส่ายหน้าน้อย ๆ สองครั้ง ทำเอาคนถูกสบประมาทเดาคำว่า ‘สำหรับข้าไม่นับว่าเป็นอะไร จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด’ จากท่าทางของหยิ่นฉางได้แล้ว“เมื่อก่อนท่านไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่เหตุใดถึงได้เปลี่ยนมาเป็นเช่นนี้”หยิ่นฉางเลิกคิ้ว “ก็ไม่ใช่ว่าท่านบอกให้ข้าลืมเลือนเรื่องในอดีตหรอกหรือ นี่อย่างไร ข้าก็ลืมความอ่อนโยนที่เคยมีให้แล้วแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาแล้ว ตกลงจะเอาอย่าง

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๑

    “หึ! โดนเสด็จพ่อของพวกเจ้าลงโทษเรื่องใดมาเล่า ถึงได้มากวาดลานวัดเช่นนี้”“ท่านน้า”องค์ชายแฝดทั้งสองทิ้งไม้กวาดแล้ววิ่งเข้าไปหา ‘ท่านน้าหยิ่นฉาง’ ผู้ที่เวลาไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย เมื่อก่อนมีรูปลักษณ์เช่นไรตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยน“พวกเจ้านี่นะ โตจนป่านนี้แล้วยังทำตัวเหมือนกับลูกลิงอยู่ได้ รักษาภาพลักษณ์องค์ชายแห่งแคว้นบ้างเถิด”องค์ชายใหญ่พ่นลมหายใจออกจากจมูกอย่างแรง ก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ท่านน้า ภาพลักษณ์ของพวกเราไม่เหลือตั้งแต่ที่เสด็จพ่อให้มากวาดลานวัดเช่นนี้แล้วขอรับ”“แต่ข้าว่าไม่เหลือตั้งแต่ไปก๊งเหล้าที่ร้านนั้นแล้วละ”อ๋องน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนที่จะเดินเข้ามารวมกลุ่มด้วย ที่จริงเขาไม่ได้โดนลงโทษให้มากวาดลานวัดเช่นนี้ แต่มีหรือที่องค์ชายแฝดจะปล่อยให้เขารอดไปได้ ทั้งยังกล่าวว่า…‘มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ก็ต้องร่วมฝ่าฝันไปด้วยกัน’“หือ” หยิ่นฉางเลิกคิ้วถาม “ร้านใดกันที่ทำให้ท่านอ๋องน้อยแห่งตำหนักชินอ๋องถึงขั้นไปลิ้มลองได้”องค์ชายรองเป็นคนอธิบายคำถามนี้ “เป็นร้านสุราดอกท้อข้างทางเล็ก ๆ ร้านหนึ่งขอรับท่านน้า คนขายเป็นพ่อค้าหน้าหยก รสชาติสุราเป็นร

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๕๐

    “ต้าเกอ วันนี้กระบวนท่าไม่เลวเลย ฝีมือท่านพัฒนาขึ้นมาก”“เป็นเอ้อร์ตี้ออมมือให้ต่างหาก มิเช่นนั้นเราคงไม่เสมอกันเช่นนี้ เอาเป็นว่าขอบคุณที่ทำให้ต้าเกอไม่เสียหน้าก็แล้วกัน ไม่สิ! ต่อให้แพ้ แต่แพ้เอ้อร์ตี้ ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอายอะไร”“ต้าเกอก็ชมข้าเกินไปแล้ว มา! เอ้อร์ตี้คารวะให้ท่านหนึ่งจอก”“ได้เลย”สองบุรุษหน้าตาคล้ายกันเกือบสิบส่วนเอื้อนวาจาเยินยอกันเองก่อนที่จะยกจอกสุราชนกัน ทั้งสองคนที่ว่าก็คือองค์ชายใหญ่และองค์ชายรองของแคว้นชิงชิวนั่นเอง ก่อนทั้งสองกลับวังตนเองทั้งคู่ได้ชวนกันมาร่ำสุราที่ร้านข้างทางเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง“อือ สุราดี”รสชาติของสุราทำให้ทั้งสองพอใจเป็นอย่างมาก ขนาดที่ทั้งคู่หันไปชมเถ้าแก่ร้านหน้าละอ่อนไม่หยุด“เถ้าแก่ สุราดอกท้อของท่านรสชาติดียิ่ง ท่านทำเองหรือว่ารับมาขาย”เถ้าแก่ร่างบางตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะแย้มยิ้มรับคำชมนั้นอย่างภูมิใจ“แน่นอนว่าข้าย่อมหมักเอง คุณชายทั้งสองสนใจซื้อในปริมาณมากหรือไม่ ข้าน้อยจะคิดราคาให้เป็นพิเศษเลย”“โอ้ เช่นนั้นข้าขอสั่งสักสิบไหได้หรือไม่ เถ้าแก่เชิญคิดราคามาได้เลย”“สิบไหเป็นห้าตำลึงเงินก็แล้วกัน ราคากันเอง”ไม่เพียงองค์ชายทั้

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๙

    หลิวหงเถาพูด:เวลาของโลกมนุษย์และดินเแดนเบื้องบนต่างกัน หนึ่งวันของแดนสวรรค์เท่ากับหนึ่งปีของโลกมนุษย์ ระยะเวลารวมที่ข้าเซียนจากแดนแห่งการชำระล้างจากไปเป็น 40 วัน ของแดนสวรรค์ ในเมืองมนุษย์ก็เท่ากับ 40 ปีใช่! ตอนนี้ข้าตายจากการเป็นมนุษย์และได้กลับมายังดินแดนชำระล้างแล้ว พลังบริสุทธิ์ที่คุ้นเคยทำให้ข้ารู้สึกร่างกายคล้ายกับได้รับการเยียวยา พลังวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก …ที่แท้ความรู้สึกของการเลื่อนขั้นเป็นเช่นนี้ข้าเดินเข้าไปที่ห้องโถงใหญ่อันมีดอกไม้นานาชนิดประดับตกแต่งไว้ ทั้งการจัดโต๊ะ ทั้งบรรยากาศโดยรอบให้ความรู้สึกถึงงานเลี้ยงฉลองไม่มีผิด ทันใดนั้นข้าก็ได้ยินเสียงของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น“ยินดีต้อนรับเซียนเถาฮวา ไม่ใช่สิ! ยินดีต้อนรับเทพเถาฮวากลับสู่แดนชำระล้าง ทั้งหมดนี้คืองานฉลองการต้อนรับกลับบ้าน”คนแรกที่ข้าเห็นยามเดินเข้ามาในห้องโถงคือท่านหัวหน้าดินแดน สิ้นประโยคของนางก็เกิดคลื่นพลังมากมายหลากสีขึ้นมาในห้องโถง พร้อมกับการปรากฏตัวของเทพเซียนองค์อื่น ๆ“ยินดีต้อนรับเถาฮวาเฉิน” พวกนางกล่าวต้อนรับข้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ข้าจึงมอบรอยยิ้มจริงใจส่งกลับไปให้ทุกคนเช่นกัน“ขอบคุณ

  • ข้ามันสตรีขี้อิจฉา   ๔๘

    เมื่อยามที่ก้าวเท้าเดินเข้าไปในตำหนักแล้วได้ยินเสียงอ้อแอ้ของเด็กหญิง เสียงพูดไม่ชัดของเด็กชาย เสียงใสของสตรีอันเป็นที่รัก มันทำให้ข้ารู้สึกถึงคำว่า ‘ครอบครัว’นึกอยากขอบคุณเสด็จอาในวันนั้นที่บอกให้เขาอย่าได้สัญญาว่าจะไม่แตะต้องนาง มิเช่นนั้นคืนวันเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้นในชีวิตเขา“เสด็จพ่อ”‘อีเกอ’ พระโอรสองค์แรกของเขาวิ่งเข้ามาเกาะขา ร่างสูงก้มตัวลงแล้วอุ้มบุตรชายขึ้นแนบอก กดจมูกหอมแก้มซาลาเปาอย่างหมั่นเขี้ยว การที่มีคนหน้าตาคลายคลึงนางเพิ่มมาถึงสามช่างดีจริง ๆ“ฝ่าบาท…”ฮองเฮาคู่บัลลังก์ของเขาเพียงแค่ส่งยิ้มมอบให้เท่านั้น ไม่ได้ลุกขึ้นทำความเคารพ เพราะเขาเคยห้ามไว้ไม่ให้นางทำในเวลาส่วนตัวเช่นนี้“เป็นอย่างไรบ้าง ตำหนักใหม่ถูกใจฮองเฮาหรือไม่”ฮ่องเต้หนุ่มถามนางขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงความนุ่มนวลไว้หลายส่วน นางพยักหน้ารับเบา ๆ แล้วส่งบุตรีคนที่สามมาให้เขาอุ้ม ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มเมื่อเห็นเหงือกสีชมพูอ่อนไร้ฟันแย้มยิ้มดีใจที่เขาจะอุ้มนาง“เสี่ยวเม่ยของพ่อ”ไทเฮาโปรดหลานสาวคนนี้มากกว่าใคร ฮ่องเต้หนุ่มทราบว่าพระมารดาอยากมีองค์หญิงน้อยมาตลอด แต่ว่าสภาพร่างกายไม่เอื้อต่อการมีบุต

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status