เวลา18:47นาที
ณ.คาเฟ่แห่งหนึ่ง
พิร์ภูณกรที่ในชุดลำลองกำลังนั่งขีดเขียนรูปภาพในไอแพดที่ตัวเองพกมาด้วยจำต้องเงยหน้าขึ้นมองเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ที่อยู่ๆก็มีชายหนุ่มใบหน้าคมในชุดนักศึกษาเดินมานั่งลง
คิ้วสวยทั้งสองข้างของเซทท์ขมวดเข้าหากันอย่างงงงวย ดวงตาใสใต้กรอบแว่นจ้องมองไปยังหนุ่มน้อยหน้ามนที่นั่งยิ้มส่งสายตาหยอกเย้ามาให้เขาอย่างไม่เข้าใจ
"น้องมีอะไรหรือเปล่าครับ"
เสียงทุ้มใสเอ่ยถามหนุ่มน้อยที่ถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะกับเขาอย่างไม่ได้รับอนุญาตด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ นัยน์ตาคมใต้กรอบแว่นก็ยังคงจ้องมองใบหน้าหนุ่มน้อยด้วยสายตาไม่พอใจ
"น้องเนิงอะไรกัน ผมว่าเราน่าจะอายุพอๆกันดีไม่ดีผมอาจจะอายุกว่าคุณด้วยซ้ำ เออจริงสิ ผมชื่อบิ๊กนะอยู่ปี4เรียนที่มหาวิทยาลัยใกล้ๆคาเฟ่นี้นายชื่ออะไรอ่ะแล้วเรียนที่มหาลัยไหนหรอ"
หนุ่มน้อยหน้าคมยังเอ่ยพูดขึ้นอย่างยิ้มๆพร้อมกับแนะนำตัวเองให้ร่างบางตรงหน้าได้รู้จักตัวเองก่อนที่จะเอ่ยถามชื่อและข้อมูลของเจ้าของโต๊ะที่ตัวเขาถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะด้วยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ
"แล้วทำไมผมต้องบอกคุณ"เซทท์เอ่ยขึ้นอย่างรำคาญ ในใจก็พลางคิดไปด้วยว่า
ไอ้เด็กไม่มีมารยาทคนเขาอุสาหลบมานั่งทำงานที่มุมเงียบๆ ยังจะมารบกวนอีก แล้วนี่อะไรมานั่งร่วมโต๊ะทั้งๆที่ไม่เอ่ยปากขออนุญาตจากเจ้าของโต๊ะสักคำ
เดี๋ยวพ่อป่ะโดดเตะก้านคอให้หักแม่งเลยนิ่
"ไม่เอาหน่าน้อง พี่ว่าเรามาทำความรู้จักกันไว้ดีกว่านะครับ"เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างยิ้มๆพร้อมกับยื่นมือถือมาตรงหน้าของเซทท์เพื่อขอช่องทางติดต่อ
น้องพ่อมึงสิกูอายุตั้ง31แล้ว
ร่างโปร่งบางได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ เมื่อโดนเด็กเข้ามาจีบและเข้าใจผิดว่าเขาเด็กกว่าอีกแล้ว! ใช่!นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เขานั้นเผชิญเหตุการณ์ที่มีคนเข้าใจผิดคิดว่าเขานั้นเด็กกว่าอยู่บ่อยครั้ง คงเพราะเขาดูแลผิวหน้าดี ดีจนเกินไปด้วยจนทำให้ใบหน้าของเขานั้นดูจะเด็กกว่าอายุอยู่มากโข บางคนเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นแค่นักศึกษาปี1ด้วยซ้ำ รวมถึงไอ้หมอนี้ด้วย
"ขอโทษนะน้องบิ๊กพี่เข้าใจว่าหน้าพี่เด็กมาก แต่อายุจริงๆของพี่เป็นน้องชายของพ่อน้องบิ๊กได้เลยล่ะ เพราะฉะนั้นพี่คงไม่กินเด็กรุ่นราวคราวหลานหรอก พี่ขอเวลาส่วนตัวด้วยนะครับพี่ต้องทำงานส่งลูกค้า เชิญครับน้องบิ๊ก"
พิร์ภูณกรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใสแต่ใบหน้าและสายตาที่จ้องมองชายหนุ่มตรงข้ามนั้นสวนทางกับน้ำเสียงตอนนี้ซะเหลือเกิน จนทำให้บิ๊กผู้ที่ถูกจ้องมองด้วยสายตาคาดจะเดาได้นั้นรู้สึกเสียวสันหลังและหวาดกลัวกับสายตาคู่นั้นอย่างไม่เข้าใจ จนต้องจำใจรีบลุกออกจากโต๊ะของเซทท์แล้วกลับไปที่โต๊ะของตัวเองที่มีเพื่อนๆนั่งรออยู่สองสามคนอย่างห้ามไม่ได้
แม่งคนยิ่งรีบๆอยู่ถ้าไม่เพราะลาเต้ปั่นร้านนี้อร่อยนะกูไม่ออกมาจากห้องหรอก
ร่างบางคิดในใจพลันก้มหน้าก้มตาวาดงานต่อ เพราะงานนี้ต้องส่งลูกค้าในวันพรุ่งนี้ ต้องรีบทำให้เสร็จ
อีกด้าน
"ใช้คนนี้มั้ยพี่"เสียงของชายชุดดำที่นั่งอยู่ในรถเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง ทั้งสองจ้องมองชายผิวขาวร่างโปร่งใส่แว่นที่นั่งก้มหน้าก้มตากับไอแพดอยู่ภายในร้านอย่างไม่วางตา
"ไม่แน่ใจวะ ถ่ายรูปส่งไปถามบอสดูว่าใช่มั้ย ถ้าใช้จะได้ลงมือเลย"
ชายชุดดำที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่จะลงมือพยายามถ่ายรูปภาพของชายร่างโปร่งที่นั่งอยู่ในร้านให้ชัดที่สุดเท่าที่จะชัดได้ แล้วส่งให้ผู้เป็นนายยืนยันว่าใช้เป้าหมายที่พวกเขากำลังตามหาหรือไม่
รอข้อความตอบกลับจากผู้เป็นนายไม่นานพวกเขาทั้งสองก็ต้องคลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจ เมื่อผู้เป็นนายตอบมาว่าบุคคลที่พวกเขากำลังตามอยู่ในตอนนี้คือคนเดียวกันกับผู้เป็นนายสั่งให้ตามหาและจับตัวไปให้เขา
"ส่งสัญญาณให้ทุกคนรู้ว่าเป้าหมายของเราคือคนคนนี้"
สิ้นเสียงของหัวหน้าทีมการ์ดชายที่อยู่หลังพวงมาลัยรถก็กดมือถือเพื่อติดต่อบอกลูกทีมทุกคนที่กำลังซุ่มอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
.
.
.
ด้านพิร์ภูณกรที่เร่งวาดรูปที่ลูกค้าสั่งทางออนไลน์จนเสร็จก่อนเวลาที่ตั้งไว้ ก็ทำการทักหาลูกค้าส่งรูปให้ดูเพื่อพูดคุยและไถ่ถามว่าลูกค้าจะให้เขาแก้งานตรงไหนไหม พอตกลงกันเรียบร้อยว่าไม่แก้ตรงไหนก็ทำการส่งไฟล์งานให้ลูกค้าทางเมล์ ก่อนที่ร่างโปร่งจะเก็บของเข้ากระเป๋าพายข้างใบใหญ่และลุกออกจากร้าน
เซทท์ที่กำลังเดินตามทางฟุตบาทเพื่อกลับห้องเป็นต้องล้วงมือถือจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดโทรออกหาองศาทันทีเมื่อรู้สึกถึงสิ่งปกติ เหมือนว่าจะมีคนเดินตามเขา
/ฮะ...ฮัลโหลมีอะไรเซทท์ อะ!อย่ารัดแน่น ผมกำลังคุยกับเพื่อนอยู่/
ไอ้เหี้ย!!!ทำกิจกรรมเข้าจังหวะได้ถูกเวลาจริงๆ
"ไอ้สัตว์รีบเสร็จแล้วมาช่วยกูเดี๋ยวนี้!"
ร่างโปร่งเอ่ยพูดกับปลายสายเสียงเบา สองขาเรียวก้าวเดินเร็วขึ้นก่อนจะแปลเปลี่ยนเป็นวิ่งเมื่อรู้สึกถึงกลุ่มคนที่โผล่มายามเขาเริ่มเดิมเข้าที่มืดและลับตาคน
/เกิดอะไรขึ้นเซทท์!/
องศาแทบจะถอดแกนกายออกจากร่องสวยที่เขากำลังโยกสะโพกใส่ในทันทีที่รู้ว่าเพื่อนของตัวเองกำลังเกิดเรื่อง
"แฮ่ก...มีคนวิ่งไล่ตามกู แฮ่ก..."
พิร์ภูณการเอ่ยตอบเพื่อนสนิทพร้อมเสียงหอบหายใจเหนื่อย สองเท้าเล็กยังคงวิ่งหนีกลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดดำที่คอยวิ่งไล่ล่าอยู่ด้านหลังอย่างไม่ลดละ
/เห๊ยใครวะ/
ทันทีที่องศาได้ยินว่ามีคนไล่ล่าเพื่อนก็ถอดถอนแท่งเอ็นออกจากร่องสวยทันทีและรีบลุกขึ้นไปแต่งตัวอย่างลวกๆก่อนที่จะว่างเงินให้หญิงสาวตามที่ตกลงกันไว้แล้วรีบวิ่งออกมาจากห้องตรงไปขึ้นรถของตอนเอง
"มึงอย่าพึ่งถามมากไอ้สัตว์ ตามจีพีเอสมาช่วยกูก่อน....ไอ้เหี้ยยยยพวกมันล้อมกูแล้ว"
ตุ๊ดดดดด
ร่างโปร่งที่กดตัดสายขององศาก็เก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะหันมาเผชิญหน้ากับเหล่าชายชุดดำที่ยืนดักหน้าดักหลังเขาอยู่"พวกคุณเป็นใคร"เสียงทุ้มใสเอ่ยถามพวกชายชุดดำตรงหน้าขึ้นอย่างนิ่งๆ มือบางกำกระชับสายกระเป๋าที่สะพายไว้แน่น สายตาใต้กรอบแว่นก็รอบมองหาช่องว่างที่จะหนีห้าคน ไม่สิ! มีอีกคนนั่งอยู่บนรถพิร์ภูณกรมองสำรวจและคิดในใจ คนตัวเล็กไล่นับชายชุดดำที่ล้อมหน้าล้อมหลังก่อนที่สายตาจะไปปะทะกับชายตัวอีกคนที่นั่งจ้องมองสถานการณ์อยู่บนรถไม่ไกลเอาไงดีวะ ด้านหน้ามีสามคนด้านหลังอีกสองบนรถอีกหนึ่ง มันพกปืนกันทุกคนด้วยสิ คิดสิเซทท์ คิดสิเอาเป็นว่าถ่วงเวลาไว้ให้ได้นานที่สุด สักสิบนาทีก็ยังดี สิบนาทีคงพอสำหรับรอให้องศามาช่วยเซทท์ที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นจำต้องหลุดจากภวังค์ความคิดแล้วเบี่ยงตัวหลบจากชายชุดดำคนหนึ่งที่อยู่ๆก็พุ่งมาที่ตัวเขา ก่อนที่เท้าสวยจะยกขึ้นถีบเต็มแรงเข้าที่สีข้างของชายชุดดำคนนั้น จนทำให้มันลงไปนอนกองกับพื้นเพราะความจุกไปสักพักนอกจากจะไม่ได้คำตอบอะไรจากกลุ่มชายชุดดำตรงหน้าแล้ว คนพวกนั้นยังเล่นเขาที่เผลอด้วย"ใครส่งพวกมึงมา!"พิร์ภูณกรเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนิ
เพล้ง!!!"ไร้ประโยชน์!!!"เสียงทุ้มทรงอำนาจตวาดขึ้นอย่างคนอารมณ์เสียพร้อมกับเสียงแจกันที่กระแทกฟาดฝาผนังจนแตกด้วยน้ำมือของผู้เป็นนายที่ขว้างมันเฉียดผ่านหัวลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนเรียกหน้ากระดานกันอยู่ห้าคน"ขอโทษครับบอสผมผิดพลาดเอง"เมทีลูกน้องคนสนิทก้มหน้าเอ่ยรับความผิดพลาดในครั้งนี้ เพราะเขานั้นดันคาดการณ์ผิดเองไม่คิดว่าผู้ชายคนที่นายสั่งให้ไปจับตัวจะมีฝีมือในการต่อสู้ขนาดนี้ จึงเอาคนไปแค่ห้าคน จนทำให้งานที่นายสั่งในครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่าอชิตพล หันมามองลูกน้องคนสนิทด้วยแววตานิ่งๆก่อนที่นัยน์ตาคมจะหันกลับมาไล่สังเกตสภาพลูกน้องแต่ละคนที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้สักคน รวมทั้งเมทีที่เป็นลูกน้องฝีมือดีของเขาด้วย"เฮ่ออออ...ออกไปให้หมด!"ผู้เป็นนายถอนหายใจพลางทิ้งตัวลงนั่งยังเก้าอี้ทำงานดังเดิมแล้วเอ่ยถามถึงเรื่องงานอีกอย่างที่เขาสั่งกับเมที"งานอีกอย่างที่สั่งถึงไหนแล้ว"มังกรเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขึ้นทันทีที่ลูกน้องทั้งห้าคนออกจากห้องไป คนตัวสูงเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสารสำคัญบนโต๊ะก่อนที่จะรับปากกาที่เมทีส่งให้มาเซ็น"นักฆ่าคาร์ลตอบมาแล้วครับบอส"ร่างสูงชะงักมือที่กำลังเซ็นเอกสารอยู่ทัน
สถานที่งานประมูลภาพ/ดาร์บี้ได้ยินมั้ย/เสียงหูฟังบลูทูธรูปแบบคล้ายตู้มหูที่ร่างโปร่งสวมใส่อยู่ที่ใบหูเล็กดังขึ้น ร่างโปร่งที่อยู่ในชุดสูทเรียบหรูบนใบหน้ามีแว่นสายตาประดับอยู่ก้าวเดินสำรวจรอบๆงานอย่างช้าๆ เพื่อสำรวจหาทางหนีทีไล่ไว้ เผื่อยามจำเป็นในการลงมือผิดพลาด ถึงแม้มันจะไม่มีวันผิดพลาดก็เถอะ"อืม"ดาร์บี้ครางรับในลำคอเบาๆพร้อมกับพยักหน้าให้กับบริกรที่เดินถือถาดเครื่องดื่มชั้นดีเสิร์ฟให้แขกในงานเป็นเชิงขอเครื่องดื่มแก้วหนึ่ง แต่ความจริงในการพยักหน้านั้นคือการตอบคาร์ลที่กำลังส่องสไนเปอร์รอบมองทั่วงาน และการส่องเลงปืนมานั้นรวมถึงการส่องเลงมาที่เขาด้วยบอกไม่เคยจำ!ร่างโปร่งที่รับแก้วไวน์จากบริกรหนุ่มไว้ในมือ ก็หันมองรอบๆ
ร่างโปร่งบางที่อยู่ชุดสูทเรียบหรูก้าวเดินตามหลังชายวัยกลางคนอย่างเงียบเฉียบ นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมองด้านหลังของเป้าหมายด้วยแววตานิ่งสงบเกินที่จะคาดเดา มือบางถือมีดประจำกายที่ตัวเองมักจะใช้ปลิดชีพเป้าหมายเป็นประจำ สองขายาวก็พลันก้าวเดินเร็วขึ้นเมื่อเห็นเป้าหมายเปิดประตูกำลังผลักให้อ้าออกกว้างมือบางข้างที่มีมีดยกขึ้นหมายจะปลิดชีวิตเป้าหมายจำต้องชะงักเปลี่ยนมาล็อกคอปิดปากชายเป้าหมายแทนแล้วผลักดันชายวัยกลางคนที่กำลังดีดดิ้นให้เข้าไปในห้องปิดประตูแล้วลงกลอน เมื่ออยู่ๆก็มีชายชุดดำนับสิบคนเดินมาทางพวกเขาเหมือนกำลังตามหาใครสักคน"บ้าชิบ!ผิดแผนไปหมด"ดาร์บี้สถบออกมาอย่างหัวเสียเมื่ือแผนลอบฆ่าของเขาพังลงไม่เป็นท่า จนต้องหันมาเผชิญกับเป้าหมายโดยตรง ยังดีที่เป้าหมายของเขาไม่ได้พกลูกน้องหรือบอดี้การ์ดมาคุยงานในครั้งนี้ด้วย เพราะเห็นคาร์ลบอกว่างานที่พวกเขาทั้งสองตกลงจะซื้อขายกันมันเป็นของล็อตใหญ่จึงต้องคุยกันอย
หนึ่งเดือนต่อมา"เป็นอะไรหน้าบูดหน้าบึ้งเป็นตูดลิงเชียว"องศาเอ่ยถามขึ้นพลางกระดกแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั้นดีในมือขึ้นดื่มจนหมดแก้ว"หงุดหงิด"เสียงใสเอ่ยตอบเพื่อนสนิทพร้อมกับยกแก้วเหล้าที่เพื่อนตัวดีเป็นคนชงให้ขึ้นดื่มจนหมดตามกันไปติดๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลสายแววความหงุดหงิดให้องศาได้เห็นอย่างชัดเจน จนองศาแอบเสียวสันหลังกลัวว่าเพื่อนตัวเองจะพังร้านเพื่อระบายความหงุดหงิดในใจซะเหลือเกินไอ้หมอนี้เวลาเมายิ่งทำอะไรเกิดความคาดหมายของเขาอยู่ด้วย"หงุดหงิดอะไรของมึงวะเซทท์"องศาเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยมือบางก็พลางชงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั้นดีสีอำพันให้เพื่อนสนิทไปด้วย จะไม่ให้เขาสงสัยได้ยังไง ก็ไอ้เพื่อนตัวดีของเขามันไม่ใช่คนที่จะหงุดห
ร่างโปร่งบางนั่งมองแชทที่พึ่งจะเด้งขึ้นมาให้เขาได้อ่านเมื่อกี้ ก็ได้แต่นั่งขมวดคิ้วงงกับข้อความแชทที่เป็นรูปของชายคนหนึ่งที่เซทท์ดูจะคุ้นหน้าคุ้นตาแต่ร่างบางก็คิดไม่ออกว่าเคยเจอเขาที่ไหนทักติดต่อเข้ามาในเพจรับจ้างวาดรูปและออกแบบโลโก้ว่า"สวัสดีครับผมเป็นคนของบริษัทST.กรุปจำกัด บริษัทที่ค้าขายเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์ ทางบริษัทเราสนใจผลงานของคุณD.sและอยากที่ติดต่อคุณD.sให้มาช่วยออกแบบและวาดภาพให้กับทางบริษัทของเรา ไม่ทราบว่าคุณD.sสะดวกคุยมั้ยครับ""เอาไงดีวะ แต่บริษัทค้าขายเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์มีงานอะไรให้เราวาด หรือจะให้เราช่วยออกแบบลายรถให้ เห๊ยมันก็ไม่ใช่มั้ยไอ้เซทท์ก็เขาบอกอยู่ว่าขายอะไหล่รถยนต์ ไม่ใช่บริษัทขายรถซะหน่อยจะจ้างให้เราไปวาดออกแบบลายรถได้ไง แล้วบริษัทนี้จะจ้างให้เราไปวาดอะไร"พิร์ภูณกรบ่นพึมพำกับตัวเองพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย ว่าคนคนนี้จะทักมาก่อกวนหรือโกหกอะไร
"ไปกินข้าวกันมั้ย"เซทท์ได้แต่ยืนนิ่งงงกับคำถามของคนตรงหน้าตาปริบๆ นัยน์ตาใต้กรอบแว่นจ้องมองใบหน้าคมเข้มของคนตรงหน้าด้วยสายตาสงสัยปนงงงวย ใบหน้าหวานแสดงสีหน้าและท่าทางตกใจและไม่เข้าใจให้คนตัวสูงได้เห็นอย่างชัดเจน"เอ่อ...คือคุณมังกรครับผมมาที่นี้เพื่อที่จะคุยงานนะครับ"เสียงทุ้มใสเอ่ยขึ้นเพื่อเตือนสติของคนตัวสูงพลางมือบางก็ยังคงพยายามที่จะชักมือออกจากการจับกุมของมังกรอยู่เรื่อยๆโอ๊ยยยยยนี้มือคนหรือมือปลาหมึกเนี่ยจับแน่นชะมัด"ครับผมรู้ว่าคุณมาเพื่อคุยงาน"มังกรเอ่ยตอบขึ้นอย่างยิ้มๆก่อนที่จะยอมปล่อยมือของคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ ทันทีที่คนตัวสูงปล่อยมือของเซทท์ให้เป็นอิสระเซทท์ก็รีบถอยห่างจากโต๊ะทำงานของคนตัวสูงทันที
ตึง ตึง ตึงเสียงการแจ้งเตือนของเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นไม่หยุดหย่อนทำให้พิร์ภูณกรที่กำลังสาละวนอยู่กับการร่างแบบภาพนั้นรู้สึกหงุดหงิดกับบุคคลเจ้าปัญหาที่หลายวันมานี้ก่อกวนเขาไม่หยุดน่ารำคาญจริง!เซทท์เอื้อมมือไปคว้ามือถือเจ้าปัญหาที่ดังรบกวนสติสมาธิเขาไม่หยุดหย่อน ก่อนที่คิ้วสวยจะกระตุกหยิกๆเมื่อเห็นข้อความที่ตัวปัญหาส่งมาถึงเขาตลอดตั้งแต่เช้าตรู่06.12"คุณเซทท์ตื่นยังคงรับ"07.13"คุณเซทท์วันนี้ว่างมั้ยครับ"08.01"คุณเซท์ทวันนี้จะเ
"ขอโทษครับที่รัก พี่ขอโทษ เด็กดีไม่ร้องนะครับ""ฮึก ผมไม่ร้องแล้วก็ได้ แต่คุณต้องบอกผมมานะว่าเด็กคนนั้นชื่ออะไร ไม่สิเอาประวัติของเด็กคนนั้นมาเลย ผมจะให้เมทีไปจัดการ"เซทท์เอ่ยพูดพลางดันตัวออกจากอ้อมกอดของมังกรมาสบกับดวงตาคม ก่อนที่จะยกมือบางของตัวเองขึ้นมาเช็ดน้ำตาบนใบหน้า ซึ่งมังกรที่เห็นอย่างนั้นก็เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้กับคนรักอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอ่ยถามร่างบางอีกทีว่าเด็กที่เซทท์พูดถึงนั้นคือเด็กคนไหนเพราะเขาไม่รู้จริงๆว่าเด็กคนนั้นมันเป็นใคร"เอ่อ...คือเด็กคนไหนหรอครับ"มังกรเอียงใบหน้าถามเสียงเบาพลางมือหนาข้างขวาก็ประคองใบหน้าสวยของคนรักไว้ส่วนมืออีกข้างก็วางไว้ที่เอวบางของคนตรงหน้า ที่ช่วงนี้เขารู้สึกว่าเมียสุดที่รักของเขานั้นดูจะมีน้ำมีนวนขึ้นซะเหลือเกิน อย่างเช่นหน้าท้องที่เคยมีลอนกล้ามเล็กน้อยของเซทท์นั้น ในตอนนี้กลับแปลเปลี่ยนเป็นแอบมีพุงเล็กๆแทนซะแล้ว"ก็เด็กมหาลัยคนนั้นไง เด็กที่หน้าตาน่ารักตัวขาวๆ สเป๊กของคุณเลยอ่ะ""ครับ? เด็กคนไหน"มังกรก็ยังคงแสดงสีหน้างงงวยไม่รู้ว่าเด็กที่เซทท์เอ่ยถึงนั้นเป็นใคร จนเซทท์ที่เห็นเป็นต้องโมโหเอ่ยพูดถึงเด็กที่เ
เนื้อหาในตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลังแต่อย่างใดและเนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น หากท่านใดไม่ถูกใจสามารถกดข้ามได้ทุกเมื่อณ.ตระกูลโชติฐิติเมธานนท์"อะ อื้มมม อ่าาาพี่มังกรพอก่อน เซทท์ไม่ไหวแล้ว อะ! พอแล้ว อื้อส์ พอ มะ ไม่ไหว อ่าาาส์"น้ำเสียงครางหวานหลุดลอดออกมาจากกายเล็กเป็นระยะๆ เมื่อโดนเอวสอบของคนตัวสูงบนร่างโยกขยับเข้าออกช่องทางรักของตัวเองไม่หยุดหย่อนเป็นเวลานับสามชั่วโมงแล้วที่อชิตพลบรรเลงบทเพลงรักอันเร่าร้อนกับพิร์ภูณกรอย่างไม่มีช่วงเวลาเว้นว่างให้กายบางใต้ร่างได้พักหายใจ หายคอ จนร่างบางในตอนนี้แทบจะสิ้นสติอยู่ล่อมล้อ เซทท์ที่โดนคนพี่เสร็จสมใส่ช่องทางรักรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ได้แต่นอนหอบหายใจเหนื่อยชายตามองดวงตาคมด้วยแววตาเหนื่อยอ่อนแทบจะปิดเปลือกตาลงได้ทุกวินาที"เหนื่อยแล้วหรอครับ หื้มมม"เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามคนใต้ร่างด้วยน้ำเสียงนุ่มนวนพลางมือหนาก็เอื้อมขึ้นมาลูบใบหน้าหวานของคนใต้ร่างอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะทิ้งร่างของต
ห้องอาหาร"อุแว้ อุแว้ อุแว้"เด็กชายพิรภพเริ่มจะแผดเสียงร้องไห้อีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วไม่ได้ยินเสียงทุ้มเข้มของผู้เป็นพ่อ"อ่าาา ร้องไห้งอแงอีกแล้วนะเจ้าเสือ น้องติณห์หนูจะเอาอะไรลูก ทำไมวันนี้หนูงอแงกับมี๊จังครับ"พิร์ภูณกรบ่นอุ๊บอิบพลางช้อนอุ้มเด็กตัวน้อยเดินเล่นรอบห้องโถง เวลาผ่านไปไม่กี่นาที ร่างสูงของมังกรก็เดินทอดน่องลงมาจากชั้นสองก่อนที่จะรีบสาวเท้าเดินตรงมาหาสองแม่ลูกในทันที"น้องติณห์หนูไม่ดื้อกับมี๊สิครับ เห็นมั้ยป๊ายังไม่ดื้อกับมี๊เขาเลยนะ"อชิตพลเดินประชิดตัวร่างบางพลางยกมือขึ้นมาจิ้มพุงของลูกน้อยเบาๆสองสามที ก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มลูกน้อยและไม่วายเงยหน้ามาหอมแก้มนุ่มของผู้เป็นแม่ไปด้วยฟอดใหญ่ฟอดดดด"คุณมังกร!!!คุณนี้อีกแล้วนะ! อะ!เจ้าเสือ!!มี๊จั๊กจี้"เซทท์ที่กำลังเอ่ยว่าให้มังกรเป็นต้องร้องเสียงหลงหันมาปลามลูกน้อยแทน เมื่อใบหน้าเล็กของลูกน้อยหันเข้าหาอกบางแล้วใช้ริมฝีปากเล็กงับลงยอดถันผ่านเนื้อผ้าบาง พอผู้เป็นพ่อเห็นลูก
เนื้อหาในตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลังแต่อย่างใดและเนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น หากท่านใดไม่ชอบหรือไม่ถูกใจสามารถกดออกได้ทุกเมื่อณ.ตระกูลโชติฐิติเมธานนท์"อุแว้ อุแว้ อุแว้"เสียงของเด็กน้อยวัยแรกเกิดแผดร้องดังก้องไปทั่วทั้งห้องนอน ทำให้คุณแม่มือใหม่อย่างพิร์ภูณกรได้แต่อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมอกแล้วพาเดินไปเดินมาทั่วห้องเพื่อหวังให้ลูกน้อยนั้นสงบลงสักหน่อย เพราะเซทท์ไม่รู้เลยว่าในตอนนี้ลูกน้อยของเขานั้นเป็นอะไร ถึงเอาแต่แผดเสียงร้องไห้อยู่อย่างนี้นานนับชั่วโมง จะว่าลูกน้องของเขาหิวก็เป็นไปไม่ได้เลย เพราะเขาพึ่งจะป้อนนมลูกน้อยไปเมื่อไม่กี่นาทีนี้เองและเขาเองก็ตรวจเช็กก้นลูกน้อยของเขาเรียบร้อยแล้วด้วยเจ้าตัวน้อยของเขาไม่ได้อึหรือฉี่เลยแม้แต่น้อย"ติณห์หนูเป็นอะไรครับ ทำไมหนูถึงร้องไห้งอแงจังเลยลูก"ร่างโปร่งบางที่อยู่ในสบายอิดโรยและใต้ขอบตาเริ่มมีสีดำคล้ำได้แต่อุ้มลูกน้อยโยกตัวไปมา ส่วนเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นมารดาก็ยังคงแผดเสียงร้องไ
บทส่งท้ายผ่านไป2ปีไว้เหมือนในนิยาย"คุณมังกร!!!"เสียงใสทรงอำนาทตะเบ่งเรียกชื่อประมุขของบ้านดังลั่น ทำให้เหล่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาที่กำลังฝึกอยู่ของอชิตพลต่างพากันสะดุ้งหันไปมองยังต้นเสียงตามๆกัน"คะ ครับ..."มังกรที่กำลังยืนดูการฝึกฝนของลูกน้องที่พึ่งจะรับเข้ามาใหม่ ต้องสะดุ้งโหย่งหันไปมองตามเสียงแล้วรีบเอ่ยขานรับน้ำเสียงติดขัดในทันที และด้วยเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้เหล่าลูกน้องชายที่อยู่ในชุดลำลองต่างหันมองหน้าสบตากันอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้เป็นนายเหนือหัวที่ดูเงียบขรึมและน่าเกรงกลัวของพวกเขากัน ทำไมอยู่ๆผู้เป็นนายที่มีสีหน้าท่าทางที่ดูจะโหดเหี้ยมของพวกเขาเมื่อกี้ ถึงได้แปลเปลี่ยนกลายเป็นแมวน้อยเชื่องๆตัวหนึ่ง เมื่อชายร่างโปร่งใบหน้าหวานคนนี้ปรากฏตัวขึ้น"คุณลืมอะไร"เซทท์เอ่ยถามขึ้นเสียงต่ำพลางก้าวเดินเข้าประชิดตัวคนตัวสูงด้วยใบหน้านิ่งๆ ส่วนมังกรที่ได้ยินคำถามของคนตัวเล็กกว่า ก็ได้แต่ยืนงงพลางในหัวก็นึกคิดถึงสิ่งที่คนตรงหน้าเอ่ยถามไปด้วยล
4เดือนต่อมาเวลา 03.12 นาที"อุแว้! อุแว้!"เสียงเด็กแผดร้องดังก้องขึ้นทั่วทั้งห้อง ทำให้คนตัวสูงที่กำลังนอนคว่ำเผยให้เห็นแผ่นหลังที่แต่งแต้มไปด้วยรูปรอยสักมังกร ต้องดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างเหม่อลอย เมื่อได้สติมือหนาก็เอื้อมไปกดเปิดสวิทไฟที่หัวเตียงให้ทั่วทั้งห้องสว่างขึ้นแล้วหย่อนขายาวทั้งสองลงจากเตียงนอนเดินตรงไปหาเปลนอนของลูกน้อยที่กำลังนอนแผดเสียงร้องไห้อย่างเอาแต่ใจอยู่"ว่าไงเด็กดื้อ หิวหม่ำๆหรอครับ หรืออึๆ หื้มมม"เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่สองแขนแกร่งจะช้อนอุ้มเด็กตัวน้อยที่กำลังร้องห่มร้องไห้มาไว้ในอ้อมอกแล้วโยกไปมาเพื่อกล่อมเด็กน้อยให้หยุดร้อง"ชู่ววว์ ไม่ร้องนะครับเด็กดี ไม่ร้องนะ มี๊กำลังหลับอยู่ ไม่ร้องนะครับ ชู่ววววว์"มังกรเอ่ยกล่อมเด็กน้อยในอ้อมอกพลางตรวจเช็กแพมเพิสของเด็กน้อยว่าได้อึหรือฉี่หรือเปล่าพอเห็นว่าเด็กน้อยอึ มังกรก็จัดการปรับเปลี่ยนแพมเพิสให้เด็กตัวน้อยในทันทีหลังจากที่เปลี่ยนแพมเพิสและป้อนนมให้ลูกเสร็จ อชิตพลก็ช้อนอุ้มลูกน้อยพาดบ่าเพื่อ
ณ.โรงพยาบาลอชิตพลหลังจากที่ชิตพลสติแตกแล้วโดนฝ่ามือเรียวของพิร์ภูณกรฟาดเรียกสติกลับมา มังกรก็รีบเร่งพาคุณแม่ท้องโตมาที่โรงพยาบาลในทันที พอมาถึงโรงพยาบาลเซทท์ก็ถูกเหล่าคุณพยาบาลเข็นพาไปที่ห้องเตรียมคลอด ส่วนมังกรก็ได้อยู่กรอกเอกสารต่างๆมากมายจนเสร็จสรรพแล้วค่อยตามไปเฝ้าร่างบางที่ห้องรอคลอดเวลาพัดผ่านไปหลายชั่วโมงหลังจากที่คุณหมอตรวจร่างกายของพิร์ภูณกรเรียบร้อย ก็แจ้งให้ว่าที่คุณแม่อย่างพิร์ภูณกรงดน้ำและอาหารเพื่อเตรียมผ่าคลอดในทันที พอถึงเวลาบุรุษพยาบาลก็มาพาคุณแม่ท้องโต้เข้าห้องผ่าตัดเพื่อผ่าคลอด โดยที่มังกรก็ได้แต่เดินตามและหยุดยืนรออยู่ด้านนอกห้องไม่ได้ตามเข้าไปถ้าจะถามว่าทำไมเขาไม่ตามเข้าไปทั้งที่เขาก็สามารถตามเข้าไปได้ ให้ตอบตามความจริงเลยคือ เขาไม่อยากเห็นเด็กดื้อของเขาเจ็บปวด แค่สีหน้าที่เซทท์แสดงให้เขาเห็นตอนเจ็บท้องคลอดระหว่างรอเวลาเข้าห้องผ่าคลอดเขาก็แทบจะทนไม่ไหว ถ้าเขาตามเข้าไปเฝ้าในห้องผ่าคลอดเขาต้องเป็นบ้าตายก่อนแน่ๆ
ภูเขาและองศาเวลา03:23นาทีคุณแม่ท้องโตที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ในห้วงนิทราอยู่บนเตียงนอนนุ่ม ต้องสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นกลางดึก เมื่อความรู้สึกปวดร้าวเข้าเล่นงานที่ขาเรียวด้านซ้ายของเขา องศายันตัวลุกขึ้นนั่งใบหน้าสวยแสดงความบิดเบี้ยวด้วยความปวดราวที่เริ่มทวีคูณขึ้น จนเสียงใสต้องหลุดร้องออกมาให้คนที่นอนหลับอยู่ข้างกายได้ยิน"โอ๊ยยยย"ภูเขาที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้วงนิทราเป็นต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างตื่นตัว เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ร้องอย่างเจ็บปวดขององศา ร่างสูงรีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งในทันทีพลางมือหนาก็เอื้อมไปเปิดไฟที่หัวเตียงเพื่อให้ภายในห้องเกิดความสว่าง ก่อนที่เสียงทุ้มเข้มจะเอ่ยถามคนรักขึ้นอย่างเป็นห่วง"องศาเป็นอะไรครับ"ภูเขาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรนพลางนัยน์ตาคมก็ลอบมองสังเกตกายของคนรักด้วยแววตาที่แสดงถึงความเป็นห่วงให้ได้เห็นอย่างชัดเจน"ตะคริวกินขาด้านซ้าย"องศาเอ่ยตอบคนตัวสูงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมกับรอบๆดวงตาสวยได้มีน้ำสีใสเอ่อนอง"อ่าาาโอเคครับ มาครับเดี๋ยวพี่นวดให้"ภูเขาที่ได้ยินคำตอบจากคุณแม่ท้องโต
เวลาพัดผ่านไป3เดือนด้านภูเขาและองศา"องศาคุณอย่าดื้อได้มั้ย"เสียงทุ้มเอ่ยว่าคนท้องพลางมือหนาก็ยกขึ้นคว้ามือบางขององศาที่กำลังสาละวนอยู่กับเส้นผมของเขา แต่องศาก็ยังคงชักมือออกจากการกับกุมของมือหนาและจัดการมัดจุกให้คนตัวสูงเหมือนเดิม"ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อย"คนท้องยังคงเอ่ยปฏิเสธเสียงใสและมือบางก็ยังคงจับกลุ่มผมดกดำของภูเขามัดเล่นอยู่ไม่ห่างผมที่กำลังนั่งตรวจทานเอกสารอยู่ในห้องทำงานนั้นได้แต่ถอดถอนหายใจ เมื่อโดนคุณแม่ท้องโตที่หนีบมาทำงานด้วยก่อกวนไม่เลิก ก็ตั้งแต่วันที่องศาออกจากโรงพยาบาลมาจนถึงทุกวันนี้ องศาเขาก็ยังคงแสดงอาการออดอ้อนและอยากตามติดผมอยู่ตลอดเหมือนเดิมแถมดูท่าจะหนักขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วย เพราะเวลาผมจะเดินไปไหนมาไหน องศาก็จะคอยเดินตามและคอยออดอ้อนผมอยู่ตลอดเวลาเหมือนไม่อยากที่จะห่างจากผม ขนาดผมจะเดินเข้าห้องน้ำองศายังจะเดินตามผมเข้ามาด้วยจนผมนึกสงสัยกับท่าทีที่แปลกไปแบบนั้นของเขา จึงได้พาไปหาหมอและพบว่าองศาได้แพ้ท้องแบบติดกลิ่นของผม คือแบบแพ้มากแบบติดกลิ่นผมมากๆ แบบติดกลิ่นของผมชนิดที่ว่าไม่ให้ห่างจากสายตาหรืออยู่