Mag-log inความรักของพวกเขาเบ่งบานในฤดูฝน เติบโตในฤดูหนาว และแตกสลายในฤดูร้อน เคยบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรทั้งๆที่ใจแม่งโคตรเจ็บไหม? เคยแสร้งทำเป็นลืมทั้งๆที่จำได้ทุกอย่างไหม? หรือเคยเอาแต่ผลักไสทั้งที่ใจโคตรจะรักไหม? ถ้ายังไม่เคยเดี๋ยวไวน์กับคิมหันต์จะทำให้เคยเอง เรื่องย่อ... คิมหันต์ไม่ใช่หมาวัดหรือเจ้าชายขี่ม้าขาวแต่เป็นนักรบเดินเท้าที่ไม่มีเหี้ยไรเลยนอกจากมอไซค์เก่าๆ ชีวิตค่อนไปทางสมบุกสมบัน แต่ดันแอบชอบเด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่ง ชื่อไวน์ ไวน์เองก็ไม่ใช่ดอกฟ้า เขาเป็นหนอนหนังสือบ้านจนคนธรรมดา กำลังยืนงงหลังจากได้ยินเสียง'ปุ๊ด' ขณะเดินทางกลับบ้าน ใครปุ๋งวะ? "โทษที พอดีกินไข่ต้ม" และนั่นคงเป็นการพบกันครั้งแรกของพวกเขาสองคน
view moreในโลกที่ประชากรหญิงน้อยกว่าประชากรชายถึงสิบเท่า ผู้หญิงจึงเปรียบเสมือนสมบัติล้ำค่า พวกเธอมีตัวเลือกในการหาคู่ครองอย่างล้นหลาม แน่นอนว่าผู้ชายฐานะปานกลางถึงยาจกไม่เคยอยู่ในตัวเลือกนั้นแม่้แต่ปลายเล็บ
ขณะเดียวกัน...
เหล่านักวิจัยกำลังเร่งแก้ปัญหากอบกู้สถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาได้ทดสอบตัวยาที่มีชื่อว่า 'ไวท์ช็อก' และ 'ดาร์กช็อก' สองตัวนี้จะทำให้ผู้ชายสามารถตั้งครรภ์ได้
เป้าหมายหลักคือการเพิ่มจำนวนประชากรโลก ทว่ากลับเกิดข้อผิดพลาดเมื่อตัวยาสองชนิดเกิดรั่วไหลจากห้องวิจัยสู่ภายนอก
อนุภาพของตัวยาแผ่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชั่วพริบตา และในเวลาต่อมาเหล่านักวิจัยได้ประกาศกร้าวทั่วโลกเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้น
พวกเขาได้ตั้งชื่อโลกใบใหม่ว่า 'ช็อกเวิร์ส'
เป็นโลกที่มีประชากรเพิ่มมาอีกสองประเภท จากเดิมที่มีเพียงผู้หญิงและผู้ชายธรรมดา สองประเภทนั้นมีชื่อเรียกว่า
ไวท์ช็อก และ ดาร์กช็อก
ไวท์ช็อก เป็นประชากรชายที่มีกลิ่นกายหอมหวานเฉพาะตัว ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสเปิร์มของดาร์กช็อก กล่าวคือพวกเขาสามารถตั้งครรภ์ได้หากถูกผสมพันธุ์โดยดาร์กช็อกนั่นเอง
ส่วนดาร์กช็อกผู้ชายกลิ่นตัวเข้มประดุจกาแฟเพียวอย่างที่กล่าวไปข้างต้น พวกเขาเกิดมาเพื่อเพิ่มประชากร ทำให้ไวท์ช็อกตั้งครรภ์
ความผิดพลาดของเหล่านักวิจัยในครั้งนั้นทำให้เป้าหมายของการเพิ่มประชากรบนโลกสำเร็จ เพียงแต่...
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างกันออกไป ผู้หญิงส่วนใหญ่มองไวท์ช็อกเป็นศัตรูและกล่าวหาว่าไวท์ช็อกเป็น'พวกแปลกแยก' ซึ่งนั่นไม่แปลก อาจเป็นเพราะพวกเธอกลัวสูญเสียมูลค่าในตัวเองรวมถึงตัวเลือกที่ลดน้อยลง
เช่นเดียวกับชายธรรมดาบางกลุ่ม พวกเขาเองก็รับไม่ได้ จึงมีความเห็นต่างเหมือนกัน
ขณะเดียวกันก็มีชายหลายกลุ่มทั้งคนธรรมดาและดาร์กช็อก ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นกระแสนิยมหรือกลิ่นหอมละมุนของตัวไวท์ช็อกที่ทำให้พวกเขาหลงใหล และเรียกไวท์ช็อกว่า 'ชายตัวหอม'
แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกแปลกแยก หรือชายตัวหอม สุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงมนุษย์ไม่ต่างกัน พวกเขาไม่สามารถห้ามความคิดใครได้นอกจากเปลี่ยนทัศนคติของตัวเอง
กลับกันดาร์กช็อกถูกมองว่าเป็นผู้วิเศษในสายตาผู้หญิง ชายกลิ่นเข้มที่ทำให้หญิงสาวต่างอยากลิ้มลอง คงจะอยากรู้ว่าสเปิร์มนั้นวิเศษขนาดไหนถึงขั้นทำให้ผู้ชายเหมือนกันท้องได้
นั่นจึงทำให้ดาร์กช็อกเป็นศัตรูทางธรรมชาติของเหล่าชายธรรมดา ถึงขนาดรังสรรค์น้ำหอมที่มีกลิ่นคล้ายคลึงกับดาร์กช็อกเพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองเลยทีเดียว
แต่ของปลอมหรือจะสู้ของจริง
จริงไหม?
กระทั่งสิบปีต่อมา...
มนุษย์ต่างปรับตัวเข้ากับโลกใบใหม่จนเคยชิน
'ช็อกเวิร์ส' จึงไม่ใช่โลกใบใหม่อีกต่อไป
แต่ได้กลายเป็นโลกใบเดิม
ว่ากันว่าในตอนที่คนเรามีความสุขเวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ ยิ่งสุขมากเท่าไหร่ก็จะเร็วมากเท่านั้น เหมือนตอนงานเลี้ยงเลิกราทุกคนต่างแยกย้าย มือเย็นเองก็รวดเร็วกว่าตอนที่คิมหันต์คิดไว้"เดี๋ยวผมล้างเองครับ"คิมหันต์อาสาล้าง พูดจบก็เก็บกวาดถ้วยชาม เศษอาหารบนโต๊ะ แต่โดนลูกของแม่ยายแย้ง"ไม่ต้องครับ พี่ไปอยู่กับลูกเถอะ ลูกอยากอยู่ด้วย ทางนี้ผมจัดการเอง" ไม่พูดเปล่าคนตัวเล็กกว่าเอื้อมมือไปแย่งชามเปล่าจากคิมหันต์"เถอะน่า" คิมเองก็ไม่ยอมทั้งคู่ดูยืดเยื้อจนคนมองอย่างกานดายิ้้ม ในสายตาของหญิงมากประสบการณ์ทั้งดูแปลกไปเล็กน้อย ใช้ชีวิตมาขนาดนี้ดูก็รู้ว่า'ผัวเมียงอนกัน'อยู่"ไม่ต้องทั้งคู่นั่นแหละ เดี๋ยวแม่ทำเอง ไปอยู่กับลูกเถอะ" เธอไล่คู่ผัวเมียเข้าห้อง ก่อนหันไปมองหลานตัวน้อยที่กำลังจ้องการ์ตูนอย่างตั้งใจ "โลมา ไปเล่นกับป๊าม้าก่อนลูก ก่อนนอนเดี๋ยวยายไปรับมาฟังนิทานเรื่องใหม่""วันนี้เรื่องอะไรฮับ!" เด็กน้อยเลิกสนใจจอทีวี หันไปมองหน้าคุณยายอย่างใคร่รู้ "วิธีง้อม่ะม้าขี้งอน"แน่ใจนะว่าชื่อนิทาน ไม่ใช่การบอกทริคลูกเขยทางอ้อม "ฮับ!" ตัวเล็กตาลุกวาว รีบลงจากเก้าอี้ วิ่งไปจับมือป่ะปิ๊กับป่ะป๊า พาสองคน
หลังทานมื้อเช้าเสร็จ ไวน์ขับรถมาส่งโลมาที่โรงเรียน"กอดเอวป่ะปิ๊ไว้แน่นๆนะโลมา""ฮับ!" มือน้อยๆกำชับเอวผู้ให้กำเนิดอย่างว่าง่าย"เก่งมาก"สิ้นเสียงมอเตอร์ไซค์คันเก่าก็เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง กระจกซ้ายหมุนให้เห็นหน้าคนซ้อนท้าย ส่วนด้านขวาไว้มองทาง ถึงถนนจะปลอดโปร่งแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่มักห่วงลูกตัวเองเสมอ เขากังวลทุกครั้งที่ยายต้องมาส่งหลานด้วยรถประจำทาง และใจหายเวลาโลมาต้องเผชิญหน้ากับสังคมที่ไม่คุ้นเคย เขามักฟุ้งซ่านและคิดมาก ห่วงเสมอ ลูกจะล้มไหม เพื่อนจะแกล้งหรือเปล่า กลัวอันตรายรอบด้าน แต่เขาทำได้แค่เฝ้ามองการเติบโต และเป็นห่วงอยู่ห่างๆเพราะทุกบาดแผลล้วนทำให้คนเราเติบโตอย่างเข้มแข็งมาถึงหนา้โรงเรียนเขาดับรถ ก่อนลงรถเป็นคนแรกตามด้วยการอุ้มลูกชายตัวจ้อยลงรถเป็นอันดับถัดมา ก่อนย่อตัวแล้วพร่ำสอนลูกชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ถ้าเพื่อนแกล้งให้ต่อยกลับเลยนะ แต่เราห้ามแกล้งเพื่อนก่อน เข้าใจมั้ยครับ?""ฮับ" เด็กน้อยพยักหน้ารับ"ถ้าล้มหรือไม่สบายต้องรีบบอกครูนะโลมา""ฮับ" "เก่งมาก" ไวน์ลูบหัวลูกชายก่อนจำใจปล่อยเด็กตัวจ้อยเดินดุ๊กดิ๊กเข้าไปในโรงเรียนที่มีธงสีฟ้าขาวโบกสะบัดอยู่ริมรั้ว พอเห
กระทั่งถึงลานจอดรถในคอมโด ไวน์ดับเครื่องก่อนลงรถ เดินไปเคาะกระจกเก๋งขาวที่จอดเทียบข้างๆ ก๊อกๆ! เบาๆสองที ไม่นานหน้าต่างสีทึบก็ลดลงเผยให้เห็นโฉมหน้าคนขับ"ลงมา" เขาชะโงกหน้าเข้าไปในตัวรถอย่างไม่เกรงกลัว กระดิกนิ้วทำหน้าเหมือนจะหาเรื่อง คนขับลงจากรถด้วยท่าทางเหลอหลา หน้าแดง ตาปรือ ต้อยๆมายืนตรงหน้าเหมือนหมารอรับคำสั่ง ดูก็รู้ว่าเมาหนักมาก"ตามมาทำไมครับ?" ไวน์เปิดประเด็น ไม่รู้จะได้ปูดหรือได้เปรียบ "เป็นห่วง" ร่างสูงตรงหน้าตอบกลับสั้นๆ ก่อนหน้าบอกพลาดจูบ ตอนนี้บอกเป็นห่วง สักพักบอกคิดถึง สุดท้ายพรุ่งนี้ ข้ออ้างก็คือ'เมา' ตบท้ายด้วยคำขอโทษ จะเล่นกับใจของเขาไปถึงไหนกัน!จับปล้ำแล้วบอกพลาดไปเลยดีไหม?ไวน์ก็ได้แค่คิดเขาไม่กล้าหรอก ก็โดนผลักไสขนาดนัั้นหนิ "เห็นแล้วหนิครับว่าผมไม่เป็นไร เพราะงั้นไสหัวไปได้แล้วครับ""งั้น..เจอ..กั..นนะ""ไม่เจอจะดีมากเลยครับ" ใจไม่อยากให้กลับหรอก แต่ให้ทำไงอะ ปากมันไปไวกว่าสมอง สุดท้ายเลยได้แต่มองแผ่นหลังกว้างของคิิมหันต์หายเข้าไปในรถตาละห้อยไม่นานเก๋งขาวก็เคลื่อนตัวผ่านไวน์ไป แม่งเอ๊ย! คงเป็นเสียงสบถผ่านสีหน้าของเขาตอนนี้ สามปีไม่เคยพลาดท่า แต่มาตกม้าตายเ
"ทำไมครับ?" หือ? เสียงนี้... คิมหันต์ หันไปมองเจ้าของเสียงที่เดินตามมา เห็นเป็นหนุ่มผมทองตาฟ้าเบ้าหน้าลูกครึ่งถึงกับตกใจ "เปล่าครับ ผมสะกิดคนผิด" กะจะสะกิดไหล่ไวน์แต่ดันเป็นเจอาร์ หน้าเลยหมองลง"คุณชอบไวน์เหรอครับ"คิมหันต์กำลังจะเดินกลับแต่คำถามอีกฝ่ายทำให้เขาชะงัก "ไม่ได้ชอบ" ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ผมดูออกน่่า อย่าปฏิเสธหน่อยเลย""รักเลยต่างหาก"และคำตอบนัั้นทำให้หนุ่มผมทองนิ่งค้าง ทั้งที่คนตอบเดินจากไปแล้ว เขาไม่คาดคิดถึงสิ่งที่ได้ยิน นั่นมันไม่ต่างอะไรจากการป่าวประกาศว่าเป็นศัตรูกับเขาโต้งๆเลยสักนิด เพราะใครๆต่างก็รู้ว่าเขากำลังจัีบคุณไวน์อยู่ขณะเดียวกันคิมหันต์เดินออกจากห้องน้ำ สายตาทอดมองไปไกล ทัศนียภาพในกรอบสายตาเห็นเพียงไวท์ช็อกผมน้ำตาลอ่อนนั่งดื่มคนเดียว เขารีบจ้ำอ้าว พยุงตัวให้มั่นไปหาอีกฝ่ายอย่างไร้สติ มาถึงก็จับมือน้อยๆของไวท์ช็อกผมน้ำตาลโดยไม่รู้ตัวไวน์ที่กำลังเคี้ยวเนื้อแก้มตุ่ยถึงกับตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ไม่ทันได้ถามก็ถูกฉุดกระชากให้เดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ "จะพาผมไปไหน!" เขาพยายามสะบัดข้อมือสุดแรงแต่กลับไม่เป็นผล ถูกลากมาที่รถเก๋งขาว กระจกทึบคันหนึ่ง จอดนิ่ง





