ด้านนอกของห้องนั่งเล่น โจวซินหลานพาเฉินเยี่ยนมาถึงแล้ว“ประธานหลินไม่สบาย พี่ฉินกำลังรักษาประธานหลินอยู่ พวกเราสองคนรออยู่ที่นี่ก่อน ต่อไปคุณต้องแบ่งเบาภาระประธานหลินให้มาก ๆ ล่ะ อย่าปล่อยให้เธอทำงานหนักเกินไป”โจวซินหลานหาที่นั่งแล้วนั่งลง ทั้งกำชับเฉินเยี่ยนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เฉินเยี่ยนเคารพในตัวเธอมาก เธอมีความสุขมากที่ได้มาเป็นผู้ช่วยของหลินชิวเสีย“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ รองประธานโจว ฉันจดจำสิ่งที่คุณพูดมาได้หมดแล้ว ว่าแต่รองประธานโจวคะ ประธานหลินป่วยเป็นโรคอะไรเหรอคะ ร้ายแรงไหมคะ? ตอนที่ฉันเรียนอยู่ที่ต่างประเทศรู้จักกับหมอท่านหนึ่งมีชื่อเสียงมาก ฉันสามารถเชิญเขามารักษาประธานหลินที่นี่ได้นะคะ!”เฉินเยี่ยนเป็นวัยแรกรุ่นที่หน้าตางดงาม หุ่นดี มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในทุก ๆ ด้านโจวซินหลานพอใจในตัวเธอมาก“ฉันขอบคุณคุณแทนประธานหลินด้วยนะ แต่ว่าโรคของประธานหลินมีแค่พี่ฉินเท่านั้นที่จะสามารถรักษาให้หายได้ อีกอย่างเธอก็ยอมให้พี่ฉินรักษาเพียงแค่คนเดียวน่ะ”“ผู้ช่วยเฉิน ไม่ต้องกังวลกับอาการป่วยของประธานหลินหรอก ทำหน้าที่ของคุณให้ดีก็พอ!”พอเฉินเยี่ยนได้ยิน ก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วทันใ
“ถ้าคุณยังเอาแต่พูดโม้อีก ผมจะฆ่าคุณซะ!” ฉินเป่ยดึงเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลง ตอนนี้เป่ยเฉินอีหลางไม่กล้าอวดเบ่งอีกต่อไป เขารู้สึกหวาดกลัวในใจ วันนี้เขาเพียงตั้งใจมาแอบมองฉินเป่ยสักหน่อย คิดว่าเขาจะไม่เห็นเสียอีก“คุณฉินเป็นคนมีความลับเยอะและบ้าคลั่งจริง ๆ เลยนะครับ ไม่สิ คุณไม่ใช่มหาปรมาจารย์ ระดับพลังของคุณใช้เวทย์ลับในการบังคับให้เพิ่มระดับขึ้น!”“คุณมันก็แค่จุดสูงสุดของระดับยอดปรมาจารย์เท่านั้น!”เป่ยเฉินอีหลางมั่นใจมาก เพราะเขาสัมผัสได้ว่ามีลมปราณในร่างของฉินเป่ยที่เหมือนกับเวทย์ลับของเหล่าผู้คงทนเวทย์ลับแบบนั้นเป็นเวทย์แบบที่นักรบแห่งดินแดนอาทิตย์ใช้กันเป็นพิเศษเพื่อบังคับปรับปรุงอาณาจักรของพวกเขา และมีเพียงสมาชิกหลักของตระกูลวรยุทธอย่างตระกูลเป่ยเฉินเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้รับมันเวทย์ลับแบบนั้นมีผลที่น่ากลัวอย่างยิ่งต่อจอมยุทธ์ที่มีระดับพลังต่ำไปกว่าราชาจอมยุทธ์ เพราะมันสามารถเพิ่มความสามารถของระดับพลังได้มากที่สุด! ดังนั้นเขาจึงตัดสินอย่างมั่นใจว่า ฉินเป่ยไม่ใช่ปรมาจารย์เลย อย่างมากก็เป็นยอดนักพรต! อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ก็ทำให้เขาตกใจมาก เขาไม่ได้คาดคิดว่าฉินเป่ยจะเชี่ยวช
ฉินเป่ยได้พบสัญญัณของของการสมคบคิด ใบหน้าของเขามืดมนทันที ดังนั้นเขาจึงเป็นห่วงยู่เจียวหลงด้วย แต่ตอนนี้เขาสามารถตรึงความหวังไว้กับเหลาเหว่ยได้ ตอนนี้เขาไม่สามารถออกจากหลินฉู่เซียะได้เลย และเขาไม่สามารถติดต่อเป่ยเฉินอิจิโร่ได้อีกต่อไป มิฉะนั้น ถ้าเขาเห็นข้อบกพร่องออก มันจะไม่สนุกแล้ว“ดูเหมือนว่าวิธีเดียวที่จะทําได้คือผ่านเฉินเหยียน!” ฉินเป่ยเชื่อสัญชาตญาณของเขาและสัญชาตญาณบอกเขาว่า เฉินเหยียนและจ้าวเทียนจี๋ต้องมีความสัมพันธ์กับเป่ยเฉินอิจิโร่ เมื่อนึกถึงที่นี่ เขาจึงกลับไปที่กลุ่มบริษัทหลินอยู่ จนกระทั่งหลินฉิวเซียะเลิกงานแล้วพาหล่อนกลับไปที่วิลล่าที่ ๑ โดยตรง หลังจากปักหลักหลินฉิวเซียะให้ดีแล้วฉินเป่ยก็จากไปและทันทีที่เขาออกมาข้างนอกหญิงสวยสีบลอนด์ที่มีรูปร่างร้อนแรงและชุดสีแดงยาวก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา “ฮุยย่านจื่อ มาพบเจ้านายหนุ่มด้วยความเคารพ!”ฮุยย่านจื่อ ซูเปอร์เอเจนต์ของชาติอาร์กติก และราชาแห่งการต่อสู้สี่ยศ โทรศัพท์ก่อนหน้านี้ของฉินเป่ยโทรมาหาหล่อน “มากับฉัน!” ฉินเป่ยคว้าแขนฮุยย่านจื่อและพาหล่อนขึ้นไปในอากาศ ไม่กี่วินาทีต่อมาทั้งสองได้ปรากฏตัวขึ้นแล้วในเขตชาน
“พี่อะ ถึงเวลาพูดถึงเราสองคนแล้วนะ!” “อ้าว เราสองคนจะทําอะไรได้บ้าง? มาเจอกันครั้งแรกเนี่ย น้องชายเล็กไม่ควรเป็นแบบนี้นะ!”“มันสายไปแล้ว พี่สาวจะไปก่อนนะ!” เฮยฟึ่งหวงตอบสนองอย่างรวดเร็ว สงบลงทันที พยุงร่างกายหล่อนยืนขึ้นแล้ววิ่งหนีไปโซ!กริชในมือของฉินเป่ย บินออกไปและกริชก็ไล่ล่าเฮยฟึ่งหวงราวกับว่ามันมีสติปัญญาทางจิตวิญญาณและตราบใดที่หล่อนเคลื่อนไหวมันจะติดตามหล่อน! ตอนนี้เฮยฟึ่งหวงเป็นใบ้อย่างสมบูรณ์ หล่อนไม่เคยเห็นสถานการณ์แบบใดเลย “ผู้ชายหล่อ ฉันแค่อยากฉี่ คุณบอกว่าทําไมกริชตัวนี้ติดตามฉันมาตลอด” เฮยฟึ่งหวงเดินขึ้นไปหาฉินเป่ย หลับตาและหมดสติในอ้อมแขนของเขา “เชดดดด!” ฉินเป่ยตกใจเพราะเขารู้ว่าเฮยฟึ่งหวงไม่ได้แกล้ง หล่อนเป็นลมจริงๆ ไม่มีทางเขาต้องไปรับหล่อนและเดินไปที่คลินิกและในเวลาเดียวกันด้วยการโบกมือของเขาโมเมนตัมอันยิ่งใหญ่ก็ปะทุขึ้นจากฝ่ามือของเขาเปลี่ยนศพของนักรบ ประเทศอาทิศย์เหล่านั้นให้กลายเป็นขี้เถ้าทันที!“ลุกขึ้นมาทํางาน!” ฉินเป่ยเคาะประตูของวอนซู่ซู่และไม่กี่วินาทีต่อมา วอนซู่ซู่ก็ปรากฏตัวในห้องของเขาด้วยดวงตาที่ง่วงนอน เมื่อหล่อนเห็นเฮยฟึ่งหวงบนเตียงอย
ฟีนิกซ์ดำไม่กล้าปริปากต่ออันที่จริง หลังจากที่เธอเห็นฉินเป่ยสังหารเหล่าจอมยุทธ์แดนอาทิตย์หลายคนในพริบตาเดียวเมื่อวานนี้ เธอก็เชื่อสิ่งที่พ่อของเธอพูดกับเธอในโทรศัพท์ และในตอนนั้นเธอก็รู้แล้วว่าตัวเองกำลังมีหายนะแต่ตอนนี้ฉินเป่ยกลับโมโหจนอยากจะชกคน แต่เมื่อมองดูก็เห็นว่าบั้นท้ายของฟีนิกซ์ดำไม่สามารถจะตีได้อีกแล้ว ถ้าตีอีกเกรงว่าคงได้บานกันหมดพอดี“พวกคุณสองคนพ่อลูกช่างมีจริยธรรมจริง ๆ เลยนะ ผมได้ยินมาว่าพวกคุณจากเมืองหยางตูไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลับมาอีกล่ะ?”“อย่าบอกนะว่าคุณจะมาพึ่งพาผมน่ะ!”“แล้วก็ ทำไมพวกคุณถึงโดนจอมยุทธ์ของแดนอาทิตย์ตามสังหาร?”ฉินเป่ยโมโหก็ส่วนโมโห แต่เขาก็ยังดึงฟีนิกซ์ดำขึ้นมาก่อนจะสวมเสื้อผ้าให้เธอหลังจากที่ฟีนิกซ์ดำลุกขึ้นนั่ง เธอก็พูดด้วยความโมโห “คุณฉิน คุณนึกว่าฉันอยากจะกลับมาเหรอ ก็เจ้าพวกสัตว์เดรัจฉานจากดินแดนอาทิตย์นั่นมันสมควรตายจริง ๆ”หลังจากนั้น ฟีนิกซ์ดำก็เล่าจุดกำเนิดเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฉินเป่ยฟัง เมื่อฉินเป่ยฟังจบ เขาก็รู้สึกทั้งประหลาดใจทั้งโกรธ“คุณจะบอกว่าพวกสัตว์เดรัจฉานจากดินแดนอาทิตย์แทรกซึมเข้ามาในเมืองหยางตูอย่างลับ ๆ ตั้งแ
ฟีนิกซ์ดำปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนเธอเปล่งรัศมีพลังที่แข็งแกร่งออกมา เธอทะลวงระดับพลังแล้ว!เป็นยอดปรมาจารย์!สายตาของทุกคนจ้องมองไปที่ฟีนิกซ์ดำทันที รวมถึงฉินเป่ยและอันหนิง!บูม!รัศมีพลังบนร่างของฟีนิกซ์ดำรวมตัวกันเป็นก้อนพลังและกระแทกเข้าใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นกระเด็นออกไป!ชายวัยกลางคนตกใจssมากจนทรุดตัวลงกับพื้นและพูดด้วยความหวาดกลัว “เฮย เฮยเย่ นี่ท่าน ท่านกลับมาเมื่อไรกันครับ?”เพียะ!ฟีนิกซ์ดำวาดมือตบหัวของชายวัยกลางคนกลางอากาศจนกลายเป็นลูกแตงโมเละ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่น ๆ ตกใจตัวจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง!ฉินเป่ยและอันหนิงต่างก็ขมวดคิ้ว ในใจก็คิดว่าฟีนิกซ์ดำรุนแรงเกินไปแล้ว“จงลืมตาดูให้ชัด ๆ ใครกล้าไม่เคารพคุณฉินอีก ต่อไปก็จะมีจุดจบแบบนี้!”รัศมีพลังอันดุร้ายของฟีนิกซ์ดำยังคงไม่ลดน้อยลง เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองไปที่ชายวัยกลางคนซึ่งหัวของเขากลายเป็นกองแตงโมเละไปแล้ว พวกเขาก็คุกเข่าลงบนพื้น ก่อนจะหันไปทางฉินเป่ยและอันหนิงที่กำลังคุกเข่าและร้องขอความเมตตา!“ไสหัวไป!”ฟีนิกซ์สีดำตะคอกด้วยความโกรธ ทำเอาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบล้ม
เฉินเยี่ยนนอนลงและแสร้งทำเป็นเขินอาย“ไม่จำเป็นหรอก ผู้ช่วยเฉิน แค่ปลดกระดุมที่ปกเสื้อออกเม็ดเดียวก็พอครับ”“อ่อ” เฉินเยี่ยนหน้าแดงและปลดกระดุมปกเสื้อของเธอ ทันใดนั้น เธอก็เกิดความคิดชั่วร้ายและทำการปลดกระดุมทุกเม็ดออกนับตั้งแต่เธอค้นพบว่าจี้หยกบนตัวของหลินชิวเสียหายไป เธอก็สงสัยว่าฉินเป่ยเป็นคนเอามันไปหรือเปล่า เพราะเธอพบว่านอกจากเธอแล้ว มีเพียงฉินเป่ยและโจวซินหลานเท่านั้นที่ติดต่อกับหลินชิวเสียในช่วงสองวันที่ผ่านมา และฉินเป่ยก็เป็นหมอของหลินชิวเสียเธอจึงตั้งใจจะแอบทดสอบฉินเป่ยสักหน่อยในตอนนี้เอง ฉินเป่ยเห็นเฉินเยี่ยนปลดกระดุมปกเสื้อออก และแล้วทัศนียภาพดั่งหิมะขาวก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขาเขาต้องยอมรับจริง ๆ ว่าเฉินเยี่ยนมีของมาก ชุดทำงานที่เธอสวมอยู่ตอนนี้ออกแบบโดยเฉพาะจากหลินซื่อกรุ๊ป ซึ่งอันที่จริงเธอดูน่าดึงดูดมากทีเดียวแต่เมื่อเขานึกถึงเรื่องที่เธออาจมีจุดประสงค์อื่นต่อหลินชิวเสีย อีกทั้งเขาก็รู้แล้วว่าเธอเป็นผู้คงทน จึงทำให้ฉินเป่ยรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่ครู่หนึ่ง แต่เพื่อที่จะฟื้นฟูเครื่องรางที่เหลืออยู่บนร่างกายของเธอ เขาต้องแกล้งทำเป็นคนลามกจกเปรตเสียหน่อย“ผู้ช่ว
จ้าวเทียนจี๋ลุกขึ้นเดินไปที่มุมเงียบสงบเพื่อรับโทรศัพท์หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเขาก็วางสาย และเดินกลับไปหาทุกคนเพื่อบอกให้พวกหวังเป่ยซานและคนอื่น ๆ กลับออกไป หลังจากนั้นไม่นานภายในคฤหาสน์ก็เหลือเพียงตัวเขา อู่เทียนสง และชายอีกคนที่มีอายุราว 30 ต้น ๆ ชายผู้คนนั้นนามว่า ฉวนหยางเจียจวิน เป็นชาวดินแดนอาทิตย์ แพทย์และหมอยาระดับสาม และระดับพลังมหาปรมาจารย์!ทันทีที่เขามาถึง เขาได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนยาลูกกลอนกับอู่เทียนสง อู่เทียนสงรู้สึกทึ่งในความสามารถของเขามากและเรียนรู้จากเขาอย่างละเอียดรอบคอบทุกอย่างหลังจากที่อู่เทียนสงพูดคุยกับจ้าวเทียนจี๋ในคืนนั้น เขาก็ตกลงที่จะเข้าร่วมแผนการนี้ในวันรุ่งขึ้น“แพทย์เซียนอู่ แพทย์เซียนฉวนหยาง ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์ของผมเมื่อสักครู่ เขาขอให้ผมเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่และไปที่คลินิกเจียวหรงพรุ่งนี้ ผมอยากรู้ว่าตอนนี้ยาลูกกลอนของคุณก้าวหน้าไปแค่ไหนแล้วครับ?”เมื่ออู่เทียนสงได้ยิน เขาก็พูดขึ้นด้วยความดีใจ “คุณชายใหญ่จ้าวไม่ต้องกังวล แพทย์เซียนฉวนหยางและผมพร้อมแล้วครับ แพทย์เซียนฉวนหยางเป็นอัจฉริยะจริง ๆ ทักษะทางการแพทย์ของเขาและการกลั่นยาลูกกลอนมีค