มีเพียงคนในวังไป๋ฮวาเท่านั้นที่มียาแก้พิษ“เอาล่ะทุกคน กลับกันเถอะ มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในระยะนี้ ดังนั้น ช่วงนี้ก็อย่าออกไปข้างนอก”“ไม่ต้องห่วง พวกเขาสองคนไม่มีวันรอด”ทันทีที่นายหญิงสิบสามออกไปพร้อมกับลูกศิษย์ของเธอทั้งหมด ไม่นานหลังจากที่พวกเขาจากไป ฉินเป่ยและชางเยว่ก็ปีนขึ้นมาจากด้านล่างของหน้าผาทั้งสองไม่ได้ตกลงไปที่ด้านล่าง เพราะฉินเป่ยใช้พลังดาบในวงแหวนพลังดาบสกัดกั้นทั้งสองคนไว้กลางอากาศ และยาที่พวกเขาเพิ่งได้รับไปก็เพียงพอที่จะปกป้องพวกเขาจากก๊าซพิษที่อยู่ไปทั่วในอากาศแต่ในเวลานี้ ทั้งสองเหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายเท่านั้นยาของวังไป๋ฮวานั้นร้ายกาจเกินไปจริง ๆ แถมยังถูกกัดกร่อนด้วยก๊าซพิษที่อยู่ด้านล่างตอนนี้ฉินเป่ยและชางเยว่กลายเป็นอัมพาตอยู่บนพื้น พวกเขาอาเจียนเป็นเลือดโชคดีที่หลังจากพักผ่อนไปสักพัก ความแข็งแกร่งทางกายภาพของชายทั้งสองก็ฟื้นตัวขึ้น แต่พลังการต่อสู้ของพวกเขายังไม่กลับคืนมาแต่นี่เป็นพรในความโชคร้ายอยู่แล้ว“ครั้งต่อไปช่วยบอกข้าล่วงหน้าก่อนที่จะกระโดดลงจากหน้าผาได้ไหม”“รู้ไหมว่าเมื่อกี้ข้าเกือบตายเพราะเจ้า”“ถ้าข้ารู้เรื่องนี้ ข้าจะไม่มีว
ถึงยังไงบนตัวของฉินเป่ยก็มีไข่มุกวิญญาณอยู่!“ได้ งั้นคุณก็อยู่ที่นี่เถอะ”“คุณอู๋ ผมยังต้องขอให้คุณช่วยผมอีกสักอย่าง”“ส่งข่าวไปที่วังไป๋ฮวาให้ผมหน่อยครับ บอกไปว่าผมยังไม่ตาย”“ค่ะ ข้าจะจัดการตอนนี้”อู๋ซื่อเยว่ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย และก็ไม่คัดค้านเลยด้วย เพราะเธอรู้ดีว่าฉินเป่ยมีเรื่องที่เขาเองต้องทำอีกทั้งเมื่อคืนหลังจากที่เธอกลับไปและคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังตลอดทั้งคืน เธอก็พบว่าฉินเป่ยมีบางอย่างผิดปกติแต่เธอไม่กล้าถามฉินเป่ยไม่นานเธอก็จากไป ส่วนฉินเป่ยก็ออกไปตามลำพังหลังจากนั้นอู๋ซื่อเยว่และชางเยว่เดาไว้ไม่ผิด ฉินเป่ยมีเรื่องที่เขาต้องทำจริง ๆ และเขาไม่สามารถให้พวกเขารู้ได้เหตุผลที่เขาต้องการฆ่าผู้คนในวังไป๋ฮวาและทำลายวังไป๋ฮวา ก็เพราะว่าอาจารย์ของเขาบอกเขาว่า นายหญิงสิบสามเจ้าของวังไป๋ฮวา อาจรู้ตัวตนของอวี่เจียวหรงและความลับเกี่ยวกับเธออีกประการหนึ่งคืออาจารย์ของเขาบอกเขาว่า นายหญิงสิบสามมีความสัมพันธ์บางอย่างกับวิหารแน่นอนว่าตอนนี้นายหญิงสิบสามไม่รู้เลยว่าอวี่เจียวหรงมาถึงเมืองไป๋หูแล้ว และเขาต้องฆ่านายหญิงสิบสามมีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถทำเรื่องเหล่านี้ได้
เพียงดาบเดียว ฉินเป่ยก็สังหารสาวกทุกคนในวังไป๋ฮวา เหลือเพียงนายหญิงสิบสามเท่านั้น!ภาพเบื้องหน้านี้ทำให้นายหญิงสิบสามตกใจมากและหวาดกลัวตามสารที่เหยียนเซินมอบให้เธอ ฉินเป่ยไม่ได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้!จากนั้นเธอก็รู้ว่าเธอถูกหลอก แต่เธอไม่ได้เกลียดเหยียนเซิน เพราะเธอไม่กล้าเพราะเธอเป็นเพียงทาสของเหยียนเซิน ถ้าเหยียนเซินสั่งให้เธอตายเธอก็จะต้องตายดาบของฉินเป่ยทำให้เธอตระหนักว่าระดับวรยุทธ์ของเขานั้นเหนือกว่าเธอมากถ้าให้เธอต้านเขาตรง ๆ เธอไม่มีทางทำได้แน่แต่เธอมีหลายวิธี การที่ฉินเป่ยจะฆ่าเธอมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแป๊ะ แป๊ะ!นายหญิงสิบสามปรบมือของเธอ ก่อนที่ฉินเป่ยจะทันได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็เห็นมนุษย์โลหิตสองคนปรากฏตัวขึ้นทันทีเขาฟันดาบออกไปโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวฉึบ!พลังดาบอันน่าสะพรึงกลัวโจมตีมนุษย์โลหิตสองคนนั้น แต่กลับทำให้พวกเขาทั้งคู่บาดเจ็บสาหัสเท่านั้นภาพเบื้องหน้านี้ทำให้ฉินเป่ยประหลาดใจ“น่าสนใจนี่ เจ้าสองสิ่งนี้มันคืออะไร!”ฉินเป่ยไม่รีบร้อนที่จะลงมืออีกครั้ง แต่กลับถามด้วยความสงสัยนายหญิงสิบสามซ่อนตัวอยู่หลังมนุษย์โลหิตสองคนนั้น เธอยื่นหัวออก
ครู่หนึ่งนายหญิงสิบสามรู้สึกหวาดกลัวไม่ว่าฉินเป่ยจะฝึกเธอให้กลายเป็นมนุษย์โลหิตหรือตกไปอยู่ในมือของวิหาร ชะตากรรมของเธอคงจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตายเธอไม่กลัวความตายสิ่งที่เธอกลัวคือการอยู่ก็ไม่ได้ขอตายก็ไม่ได้เธอฝึกฝนมนุษย์โลหิตทุกคนด้วยตัวเธอเอง และมีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ดีที่สุดว่ากระบวนการนี้จะเจ็บปวดเพียงใดเมื่อนึกถึงตรงนี้เธอก็คุกเข่าลง“คุณชายฉิน โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย”“จริง ๆ แล้ว ข้ามีตัวตนอีกระดับหนึ่ง ข้าเป็นทาสของเหยียนเซินท่านทูตจากวิหาร”“วังไป๋ฮวาของข้าคือดวงตาของวิหาร รับผิดชอบในการติดตามและรวบรวมสารต่าง ๆ เกี่ยวกับกองกำลังทุกสำนักในเมืองจูเชวีย โดยเฉพาะตระกูลอู๋!”นายหญิงสิบสามไม่กล้าปิดบัง เธอบอกทุกอย่างเกี่ยวกับเธอและเหยียนเซินรวมทั้งเรื่องที่เหยียนเซินสั่งให้เธอจัดการกับฉินเป่ยด้วยฉินเป่ยพอใจมากและถามว่า: “คุณเคยเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับหญิงสาวที่สวมเสื้อคลุมสีขาวและถือหอกมังกรเงินหรือไม่”นายหญิงสิบสามไม่ค่อยเข้าใจว่าคำพูดของฉินเป่ยหมายถึงอะไร“ข้าไม่รู้สิ ข้าไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อนค่ะ”“แล้วคุณเคยได้ยินเรื่องหงส์ปัณฑูรบ้างไหม?”วิ๊ง!ในหัวของนายห
เรือนจำซิวหลัว สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นของแดนใด และไม่อยู่ภายใต้อำนาจควบคุมของแดนใดด้วยเช่นกันผู้คนที่น่าหวาดกลัวและชั่วร้ายอย่างสุดขีดในโลกถูกคุมขังอยู่ที่นี่ แค่เพียงนักโทษทุกคนของที่นี่กระทืบเท้า ทั้งโลกก็จะต้องสั่นสะเทือน!แต่จนถึงขณะนี้ ที่ยังไม่มีแดนใดกล้าแตะต้องสถานที่แห่งนี้ไม่เพียงเพราะคนชั่วช้าสามานย์อย่างสุดขีดถูกคุมขังที่นี่ แต่ยิ่งไปกว่านั้นเป็นเพราะชายหนุ่มคนหนึ่งที่นี่ด้วยนั่นก็คือ ฉินเป่ย!ในเวลานี้ ผู้คนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งมากกว่าร้อยคนกำลังคุกเข่าต่อหน้าฉินเป่ย ด้วยความเคารพยำเกรงอย่างยิ่ง แม้กระทั่งไม่เต็มใจแม้กระทั้งรู้สึกอาลัยอาวรณ์!ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด แต่เพราะวันนี้ฉินเป่ยจะได้ออกจากคุก“นายน้อย นี่คือทรัพย์สินทั้งหมดของผมใน แดนหิมะ มีอยู่เพียงห้าหมื่นล้านซดอลลาร์สหรัฐซึ่งนับว่าไม่มาก แต่เพื่อขอบคุณท่านช่วยที่ดูแลผมตลอดหลายปีที่ผ่านมา หวังว่าท่านคงจะไม่รังเกียจ”“นายน้อย นี่คือหุ้น 50% ของผมในไฟว์สตาร์กรุ๊ป ตามราคาตลาดปัจจุบัน จะมีมูลค่าหนึ่งแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ”“นายน้อย นี่เป็นบัตรอิมพีเรียลแบบจำกัดจำนวนระดับโลกที่ออกโดยตระกูลรอธไชลด์ของผมครับ ในโลกนี้มีแค่
ภายในห้องโจวห้าวด่ากราดเสียงดังไปทั้งห้อง“ไอ้คนชั่ว ฉินเป่ย ฉันจะให้แกตายไปซะ!”“ห้าปีก่อนผมควรจะกำจัดคุณไปซะ”“แม่งเอ้ย นี่แกยังอยากได้เงินเหรอ? แกรอดูได้เลย”ในฐานะเป็นนายน้อยของตระกูลขั้นที่สาม โจวห้าวไม่เคยถูกเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อนเลย เขากลืนความโกรธนี้ไว้ไม่ได้!“พี่ห้าว เอาฉินเป่ยให้ตายเลยนะคะ เขา...เขากล้ายังไงมาทำร้ายพี่ พี่รีบเรียกคนมาจัดการเขาให้ตายไปซะเลยนะ” หยางลี่พูดพร้อมกัดฟันแน่น ใบหน้าของเธอโดนตบจนเลือดออกจริงๆ ตระกูลหยางของเธอนั้นเป็นแค่ตระกูลเล็กๆอันดับปลายในเมืองหยางตูเท่านั้น แต่หลังจากเธอได้อยู่กับโจวห้าวแล้ว ตระกูลหยางก็ได้คว้าโอกาสไม่น้อย และก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็วและตอนนี้ระหว่างตระกูลหยางกับการเป็นตระกูลขั้นที่สามก็ห่างกันแค่เพียงก้าวเดียวเธอจะไม่ยอมให้ตนเองถูกดูถูกขนาดนี้หรอก เธอจะไม่ให้เงินฉินเป่ยแม้แต่แดงเดียว“สบายใจเถอะที่รัก จะกำจัดฉินเป่ยน่ะมันง่ายจะตายไป ต่อให้ทำให้เขาตายไม่ได้ แต่การจะส่งเขาเข้าไปอยู่ในคุกน่ะมันก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยนั่นล่ะ!”“แม่ของเขาอยู่ที่ชานเมืองไม่ใช่เหรอ? บริเวณนั้นมีเหมาสงเป็นผู้ปกครอง เดี๋ยวผมจะโทรให้เหมาสงพาคนไปจัดการแม่ฉิ
ตกลงเธอเป็นใครกันแน่?ถึงก่อนหน้านี้ฉินเป่ยจะถูกรูปร่างหน้าตาอันงดงามของอวี่เจียวหรงทำเอาตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่เขาก็ยังสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นนักรบจากการวิเคราะห์อาการบาดเจ็บของเธออวี่เจียวหรงไม่ได้สนใจสายตาของฉินเป่ย เธอนั่งลงที่ข้างเตียงก่อนจะยื่นแก้วน้ำให้เขาฉินเป่ยรับแก้วน้ำไว้ก่อนจะดื่มเสียงดังอึก ๆ ตอนนี้เองที่อวี่เจียวหรงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “สวัสดีฉินเป่ย ฉันชื่ออวี่เจียวหรง เป็นคู่หมั้นของคุณ!”“อะไรนะ? คู่หมั้นผม?”ฉินเป่ยงุนงงจนไม่มีกะจิตกะใจสนใจรูปร่างสะโอดสะองของอวี่เจียวหรงคู่หมั้นมาจากไหน?ในระหว่างที่ฉินเป่ยกำลังทำตัวไม่ถูก จู่ ๆ อวี่เจียวหรงไม่รอช้าถาโถมตัวเข้ามาในอ้อมกอดของเขา ก่อนจะพูดขึ้น “เดิมทีฉันอยากจะยกตัวเองให้คุณตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ว่าคุณดื่มจนเมาไม่รู้เรื่อง ตอนนี้คุณก็ตื่นแล้ว ด้านนอกแสงแดดก็งดงามมาก เราอย่าพลาดยามเช้าอันงดงามแบบนี้ไปเลยนะคะ!”พูดจบ อวี่เจียวหรงก็ประกบปากเข้าจูบฉินเป่ยทันทีฉินเป่ยตะลึงจนสมองขาวโพลน แต่ตัวเขาในฐานะเทพเจ้าสงครามแห่งซิวหลัว แน่นอนว่าเขาควบคุมตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม เขาจึงยื่นมือไปดันหัวไหล่ของอวี่เจ
“อาจจะเจ็บเล็กน้อย คุณอดทนหน่อยนะครับ!”เข็มที่สองฝังลงไป“มาครับ ใช้หมอนหนุนบริเวณด้านหลังของหน้าอกไว้ พอเข็มนี้ฝังลงไปแล้ว เลือดคั่งที่บริเวณปอดของคุณก็จะถูกล้างออกทั้งหมดภายในครึ่งชั่วโมง”ฉินเป่ยพูดพร้อมกับส่งหมอนให้อวี่เจียวหรงหลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เลือดที่คั่งอยู่บริเวณปอดของอวี่เจียวหรงก็ถูกล้างออกจนหมด ภายในเวลาไม่นานสีหน้าของเธอก็ดีขึ้นมาก และมันก็ทำให้เธอดูสวยตราตรึงขึ้นไปอีก“ตอนนี้ผมจะต้องฝังเข็มให้คุณอีกครั้ง เพื่อปกป้องตรีลมปราณสัตตะชีพจรของคุณเอาไว้ก่อน นี่สามารถถึงชีวิตได้เลย ต่อจากนี้การสร้างตรีลมปราณสัตตะชีพจรของคุณขึ้นมาใหม่จะต้องใช้ตัวยาหายากสิบหกชนิดและจะต้องต้มเป็นยาลูกกลอน ตอนนี้ผมไม่มีตัวยาพวกนี้อยู่ในมือ แต่ผมสัญญาว่าผมจะหาซื้อมาให้ได้ภายในสองวันนี้!”“คุณ สร้างตรีลมปราณสัตตะชีพจรของฉันขึ้นมาใหม่ได้จริง ๆ เหรอคะ?”ตอนนี้อวี่เจียวหรงสงสัยในตัวของฉินเป่ยมากขึ้นไปอีก วิธีการรักษาแบบนี้เธอไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน!“ได้แน่นอน แค่ว่ามันออกจะยากอยู่สักหน่อย”ฉินเป่ยยังคงฝังเข็มต่อไปไม่หยุด ตอนนี้บนร่างกายของอวี่เจียวหรงมีเข็มเงินฝังอยู่เต็มไปหมด!ตลอดขั้น