Mag-log inงานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้นับว่ามีเรื่องดี ทำให้บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งถึงเวลาที่แขกจะต้องลากลับ ส่วนเรื่องกำหนดการแต่งงานก็เป็นผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายที่นั่งคุยกันอยู่อย่างออกรส
“ฉันว่าเดือนหน้ามีฤกษ์ดี ๆ หลายวันอยู่นะคะ เราให้เด็ก ๆ แต่งกันเลยดีไหม” แม่ของอ้ายกวนถามหลิวเอ้อหลิงพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“อืม… ถ้าคุณว่าเหมาะสม พวกเราก็ไม่มีอะไรจะค้านค่ะ” หลิวเอ้อหลิงตอบ
“แม่คะ นี่จะไม่เร็วเกินไปเหรอคะ” ฉางเซียงจูรู้สึกใจหายไม่น้อย เธอเพิ่งจะสอบเสร็จและยังไม่ได้สอบเข้าทำงานตามความฝันเลย แต่กลับจะต้องแต่งงานเสียแล้ว
“ไม่เร็วไปหรอกลูก พวกลูกก็ดูใจกันมานานแล้วนี่นา” หลิวเอ้อหลิงหันไปบอกลูก
“แต่หนูอยากทำงานก่อนนี่คะแม่ ค่อยแต่งงานทีหลัง” ฉางเซียงจูงอแง
“ถึงจะแต่งงานแล้ว พี่ก็ไม่ห้ามน้องเซียงจูทำงานนี่ครับ หรือน้องไม่อยากแต่งกั
มิถุนายน 1989วันนี้มีเรื่องใหญ่ระดับประเทศเกิดขึ้น เมื่อรัฐบาลปราบปรามการชุมนุมของประชาชนที่จตุรัสเทียนอันเหมิน ทำให้ถูกคว่ำบาตรจากต่างประเทศและส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าทันทีบรรดาผู้จัดการของบริษัทตระกูลฉางต้องเร่งหาทางแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทขาดทุนมากเกินไป โดยพวกเขาเลือกเปิดตลาดในประเทศที่เป็นมิตรแทนการส่งออกสินค้าไปยังประเทศที่มีข้อพิพาท กว่าเรื่องทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง พวกเขาต้องใช้เวลากว่าสองเดือนในการแก้ไขปัญหาซูเมี่ยวจินจำได้ถึงเรื่องนี้ เพียงแต่เธอไม่สามารถบอกใครได้ ทำให้บริษัทของเธอต้องเกิดผลกระทบไม่น้อย ตอนนี้เธอจึงทำได้แค่ประคับประคองและช่วยติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อส่งออกสินค้าเท่านั้น“ภรรยา ผมคิดว่าอีกสามเดือนข้างหน้า บริษัทเราถึงจะเริ่มมีกำไรจากการเปิดตลาดใหม่นะครับ ปีนี้เราจะมีโบนัสให้ทุกคนหรือเปล่าครับ” ฉางเล่ยถามอย่างกังวล เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงจนส่งผลถึงการส่งออกสินค้า
ฉางเต๋อเป่าที่วางสายจากครอบครัวแล้ว เขาหันไปชวนน้องชายนั่ง ก่อนจะเล่าให้ฟังว่าทุกคนที่บ้านพูดว่าอะไร“พี่ครับ พี่แน่ใจนะว่าจะซื้อบ้านมาปล่อยเช่าตามที่พ่อบอก” ฉางเต๋อชิงถามอย่างสงสัย เขาไม่มีหัวทางธุรกิจเหมือนพี่ชาย แต่ชอบเรื่องการแพทย์มากกว่า“อืม… เริ่มต้นตอนนี้ก็ไม่เลว รอให้พี่ปาไจ๋กับไคหลงกลับมาก่อน เราค่อยไปดูบ้านที่พวกเขาติดต่อนายหน้าไปวันหลังนะ พี่จะพาน้องไปด้วย” ฉางเต๋อเป่าอยากสอนน้องชายเกี่ยวกับธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พ่ออยากให้ทำสักหน่อย“ได้ครับพี่ สอนผมด้วยนะครับ” ฉางเต๋อชิงยิ้มแป้นบอกสองนายน้อยนั่งคุยกันต่ออีกพักใหญ่ ก่อนที่พวกเขาจะแยกย้ายกันเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ช่วงนี้พวกเขากำลังอ่านทบทวนหนังสือที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ต่อ เพื่อที่หากเข้าเรียนแล้วจะได้ไม่ลำบากมากนักช่วงเย็นวันต่อมา ฟงหย่วนมาพร้อมเอกสารการซื้อขายบ้านปึกใหญ่สำหรับฉางเล่ย และเอกสารการซื้อบ้านของเขาเอง มามอบ
ยี่สิบนาทีหลังจากฉางเล่ยอ่านรายละเอียดบ้านแบบต่าง ๆ จบ เขาก็หันไปหาซูเมี่ยวจินเพื่อบอกความต้องการเรื่องบ้านที่จะปล่อยเช่า“ภรรยา ผมเลือกบ้านเนื้อที่ 70-100 ตร.ม. อย่างละ 5 หลังได้ไหมครับ” ฉางเล่ยเห็นว่าในเอกสารมีบ้านแบบนี้อยู่เป็นจำนวนมาก แต่เขาอยากเลือกแค่สิบหลังเท่านั้น“ไม่มีปัญหาค่ะ คุณฟงช่วยคิดราคาให้สามีฉันหน่อยนะคะ อีกสักครู่เราจะได้ไปที่ธนาคารเพื่อโอนเงินกัน” ซูเมี่ยวจินหันไปบอกฟงหย่วนหลังคุยกับฉางเล่ย“สักครู่นะครับนายหญิง ไม่ทราบเจ้านายอยากได้หลังไหนบ้างครับ” ฟงหย่วนลุกขึ้นเดินไปข้างกายฉางเล่ยเพื่อดูว่าเขาเลือกบ้านหลังไหนฉางเล่ยชี้บอกบ้านที่เขาดูเมื่อสักครู่ บ้านเหล่านี้เป็นคอนโดทั้งหมด แต่อยู่คนละโครงการเท่านั้น มีบางหลังที่อยู่ในโครงการเดียวกัน ราคาของแต่ละหลังก็ต่างกันอยู่พอสมควรเลยทีเดียวฟงหย่วนกาเครื่องหมายบ้านหลังที่ฉางเล่ยเลือกเอาไว้ จากนั้นเขาจึงนำเอกสารไปนั่งที่เดิมและเ
“เฮ้อ ก็ได้ครับภรรยา ผมจะทำตามที่คุณว่า แล้วบ้านที่อังกฤษเราจะหายังไงดีครับ”“คุณส่งอีเมล์บอกเต๋อเป่าก็ได้ค่ะ เรากลับเมืองหลวงแล้วค่อยโอนเงินให้เขา” ซูเมี่ยวจินจำได้ว่าลูกชายอยากทำธุรกิจ เธอก็จะให้เขาลองทำบ้านเช่าดูก่อน“ตกลงครับ ผมจะอีเมล์บอกลูกเอง” ฉางเล่ยยิ้มกว้างออกมาได้เสียที ถ้าลูกชายเขาหาบ้านดี ๆ มาปล่อยเช่าได้ รายได้ของครอบครัวเล็ก ๆ ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอีก“วันนี้คุณอยากไปตลาดหุ้นหรือเปล่าคะ” ซูเมี่ยวจินเห็นว่าไหน ๆ ก็มาฮ่องกงแล้ว ถ้าจะกลับไปโดยไม่ได้ลงทุนหุ้นก็คงน่าเสียดายแย่“อืม… ก็ดีเหมือนกันนะครับ แต่ไม่รู้ว่าจะมีหุ้นตัวไหนน่าซื้อบ้าง ผมอ่านข่าวก็ยังมีเรื่องตลาดหุ้นตกต่ำอยู่เลย” ฉางเล่ยบอก“ถ้าเป็นอย่างที่คุณว่า รอบนี้เราก็ซื้อหุ้นที่มูลค่าไม่สูงสักสองสามตัวดีไหมคะ ส่วนหุ้นที่คุณถือเอาไว้ก็เก็บต่อไป ยังไงตอนนี้คุณก็ได้กำไรแล้วไม่ใช่เหรอคะ&rd
“ดี ถ้าคุณอยากซื้อที่อยู่ใหม่ ฉันอนุญาตให้คุณกู้เงินจากบริษัทตระกูลฉางได้โดยไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย แค่จ่ายเงินขั้นต่ำในการผ่อนเงินกู้ทุกเดือนก็พอ” ซูเมี่ยวจินยอมให้ฟงหย่วนใช้สิทธิเหมือนพนักงานในประเทศ ซึ่งเธอคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับการซื้อใจคนอย่างฟงหย่วน“อ่า… นายหญิงพูดจริงเหรอครับ” ฟงหย่วนถามอย่างตื่นเต้น ครอบครัวเขาพักกันอยู่ในห้องเช่าแคบ ๆ ห่างจากใจกลางเมืองมากถึงยี่สิบกิโลเมตร หากเขาได้รับเงินกู้จริง ๆ เขาก็จะสามารถซื้อบ้านหลังใหญ่ให้ครอบครัวได้อยู่เสียที“จริงสิ ฉันจะโทรบอกผู้จัดการสาขาเสินเจิ้นให้ คุณข้ามฝั่งไปทำเรื่องก็พอ”“ขอบคุณนายหญิงมากครับ ฮึก..” ฟงหย่วนอดสะอื้นไห้ขึ้นมาไม่ได้ เขาคิดว่าชีวิตนี้จะไม่มีโอกาสซื้อบ้านเป็นของตัวเองเสียอีก ด้วยคนในครอบครัวจำนวนมากที่เขาต้องรับภาระดูแลอยู่ ทำให้ค่าใช้จ่ายที่เขาหามาได้แทบไม่มีเงินเก็บเลย เวลาพ่อแม่เขาป่วย เขายังต้องเสียเงินจำนวนมากพาไปหาหมอด้วย
สามวันต่อมาวันนี้ซูเมี่ยวจิน ฉางเล่ย ฉางชิงหยู หลิวเอ้อหลิงและบอดี้การ์ดสามคนต้องเดินทางออกจากอังกฤษแล้วเมื่อวานนี้พวกเขาบอกเรื่องราวหลายอย่างให้เด็ก ๆ จำเอาไว้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการดูแลตัวเอง เพราะสภาพอากาศที่นี่ต่างกับในประเทศที่พวกเขาจากมาบอดี้การ์ดสามคนขับรถสองคันไปส่งคนทั้งหมด พวกเขายังเรียกแท็กซี่อีกหนึ่งคันสำหรับให้บอดี้การ์ดที่ติดตามซูเมี่ยวจินนั่งไปสนามบินด้วยตั๋วเครื่องบินจากอังกฤษไปยังฮ่องกงถูกซื้อเอาไว้ตั้งแต่พวกเขามาถึงที่นี่แต่แรก ทำให้คนทั้งกลุ่มไม่ต้องเสียเวลาหาตั๋วใหม่ในวันนี้ ตั๋วที่ซูเมี่ยวจินซื้อเป็นตั๋วในชั้นเฟิร์สคลาสทั้งเจ็ดที่นั่ง เธอแทบจะเหมาชั้นเฟิร์สคลาสทั้งหมดที่มีสิบที่นั่งมาไว้เพียงคนเดียวเลยทีเดียว นั่นเพราะระยะเวลาเดินทางไปฮ่องกงต้องใช้เวลานานเกือบหนึ่งวันเต็มรวมเวลาพักเครื่องระหว่างทาง ซูเมี่ยวจินจึงยอมจ่ายค่าตั๋วในราคาแพงเพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่พวกเขาไปถึงสนาม






