“ของมันร้อน สุดท้ายก็ต้องเอาออกมาขายกินสินะ” วิชญ์ยิ้มเหยียดอย่างนึกสมเพชแก้วกาญ เพราะไม่ทันไรก็ขายเครื่องเพชรที่เขาซื้อให้กินเสียแล้ว“คนของเราที่เวียงจันทน์สืบที่อยู่ของสองนั้นเจอหรือยัง”“ยังครับเจ้านาย แต่ผมขอเวลาครึ่งเดือนน่าจะได้ข่าวครับ”“ฉันให้เวลาตามที่นายขอกมล หลังจากนี้ถ้ามีอะไรคืบหน้า รายงานตรงกับฉันได้เลย” แม้จะอยากรู้ที่อยู่ของแก้วกาญและพศินเดี๋ยวนี้ แต่วิชญ์ก็เข้าใจการทำงานว่าทุกอย่างมันมีขั้นตอน ต่อให้เขาจะใจร้อนแค่ไหนก็คงต้องรอสักหน่อย “ครับเจ้านาย” เอ่ยรับคำเสร็จกมลก็วางสายแล้วไปทำงานของตัวเองต่อ ในขณะที่วิชญ์นั่งนิ่งๆ เพราะกำลังใช้ความคิดว่าเขาจะทำยังให้แก้วกาญโผล่หางออกมาเพราะหลังจากนี้เขาจะทำให้เธอคลานกลับมาขอความเมตตา หลังจากนี้เขาจะทำให้เธอเป็นฝ่ายตามหาตัวเขากลับบ้าง แค่คิดก็รู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นก็เดินไปยังห้องนอนของมารีญาก๊อก ก๊อก ก๊อก“เปิดประตูหน่อย” น้ำเสียงห้วนๆ ของเจ้าของเพนต์เฮาส์เอ่ยบอก นั่นทำให้คนที่อยู่ในห้องแม่บ้านต้องออกมาเปิดประตูให้อย่างเลี่ยงไม่ได้ “คุณวิชญ์”“ฉันมีข่าวพี่สาวเธอมาบอก”“ข่าวพี่แก้วหรือคะ” ประโยคที่ได้ยินสร้างความดีใจ
“ตอนนี้มันพาคุณแก้วไปซ่อนตัวที่อื่นแล้วครับ” นั่นเพราะกมลตามไปจนถึงบ้านเช่าของทั้งสองคน แต่ทว่ากลับเจอเพียงความว่างเปล่า “บัดซบ”“ผมขอโทษครับเจ้านาย” กมลเอ่ยขอโทษตรงๆ เพราะเขาก็อยากทำผลงานให้เจ้านายพอใจเช่นเดียวกัน แต่ความพลาดแค่นิดเดียวกลับทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว “ตามหาสองคนนั้นให้พบ ถ้าไม่พบพวกนายก็อย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก ไป”“ครับ” เอ่ยรับคำเสร็จกมลก็วางสายไปแล้วแยกย้ายกันไปทำงาน ในขณะที่วิชญ์ก็หัวเสียจนต้องหาบหรั่นดีมาดื่มดับอารมณ์โกรธ ชายหนุ่มกระดกบรั่นดีชั้นเลิศที่สั่งนำเข้ามาจากฝรั่งเศสลงคอราวกับนั่นเป็นน้ำเปล่า แม้มันจะบาดภายในลำคอจนหน้ายู่ แต่ทว่ากลับไม่ได้ทำให้เขาหยุดดื่มแต่อย่างใดจู่ๆ ใบหน้าของมารีญาก็ผุดเข้ามาในความคิด ก่อนที่วิชญ์จะเดินถือแก้วบรั่นดีทรงสวยตรงไปยังห้องนอนของเธอ ดูเหมือนเวลานี้ความไม่พอใจทำลายเหตุผลที่เคยมีไปอย่างสิ้นเชิง ก๊อก ก๊อก ก๊อก“เปิดประตู” เจ้าของเพนต์เฮาส์เอ่ยบอกคนที่อยู่ข้างในเสียงดังลั่น ส่งผลให้มารีญาที่ยังไม่นอนเกิดอาการลนลาน สองจิตสองใจว่าจะแกล้งหลับหรือออกไปเปิดประตูให้วิชญ์ สุดท้ายก็เลือกอย่างหลัง“คุณวิชญ์”“นอนหรือยัง”“ยังค่ะ”“งั้นออ
“เธอไม่น่าจะถามฉันแค่คำถามเดียวหรอกมั้ง...ใช่ไหม” มารีญาไม่ตอบอะไร เธอนั่งจ้องแก้วบรั่นดีอยู่นาน ก่อนจะคว้ามาถือไว้แล้วเริ่ม...ดื่มรสชาติของมันทั้งคมและบาดคอไม่ได้อร่อยสักนิด คิ้วสวยขมวดกันเป็นปมก่อนจะกลืนบรั่นดีรสชาติไม่ได้เรื่องลงคอ ไม่เข้าใจว่าใครต่อใครทำไมถึงชอบดื่มมันนัก เพราะนอกจากรสชาติจะแย่แล้วยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีก แต่ถึงจะไม่ชอบแต่มารีญาก็ฝืนดื่มไปจนหมดแก้ว นั่นทำให้เธอรู้สึกร้อนไปทั้งตัว“ฉันดื่มหมดแล้ว คราวนี้คุณจะตอบคำถามมาได้หรือยังว่าตอนนี้พี่แก้วอยู่ที่ไหน”“เวียงจันทน์”“ก็อยู่ที่เดิมที่คุณเคยบอกฉันนี่”“ใช่...แต่คราวนี้ฉันรู้ลึกกว่านั้น รู้ว่าพี่สาวอยู่กบกานอยู่ที่บ้านหลังไหน ซอยอะไร เข้าออกบ้านกี่โมง แต่ละวันไปที่ไหนมาบ้าง” วิชญ์ยิ้มพอใจกับระดับความจำของมารีญา ก่อนจะพูดเกินจริงไปนิดๆ หน่อยๆ เพื่อบีบคั้นเธอ ก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มด้วยท่าทางสบายๆ ในขณะที่มารีญาเองก็กำลังตกใจกับสิ่งที่ได้รู้และเธอมีคำถามจะถามเขาต่อ จึงหยิบขวดบรั่นดีมารินใส่แก้วในปริมาณที่วิชญ์รินให้ดู จากนั้นก็ดื่มด้วยท่าทางไม่ชอบทันที ซึ่งพอวางแก้วลงคำถามที่สองก็ออกจากปากเธอ“ตอนนี้พี่แก้วยังส
เขาไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มหรือเสนอตัวก่อน หากเหตุการณ์จบลงก็คงถือว่าเป็นผู้ถูกกระทำจากมารีญามากกว่า ฉะนั้นเธอควรต้องรับผิดชอบเขาไม่ใช่ให้เขาไปรับผิดชอบเธอวิชญ์พลิกตัวขึ้นไปอยู่ด้านบนแล้วกดร่างบางที่สั่นสะท้านของมารีญาให้อยู่ในอ้อมกอด ชายหนุ่มจัดการถอดเสื้อนอนออกแล้วโยนไปอีกทาง ปล่อยให้มารีญาตะลึงแล้วเพ่งมองรูปร่างท่อนบนอยู่ไม่กี่วินาทีก็โผเข้าไปหาเธอและมอบจูบให้อีกครั้ง บางจังหวะที่ความกลัวก่อตัว มารีญาก็ผลักไสวิชญ์บ้างด้วยการใช้กำปั้นน้อยๆ ทุบแผงอกของชายหนุ่มสลับออกแรงผลักให้เขาออกห่าง แต่กลับถูกชายหนุ่มมอบจูบให้อย่างร้อนแรงจนเธอแทบหายใจไม่ทัน ไหนจะมือไม้ของเขาทั้งสองข้างที่ป้วนเปี้ยนลูบไล้ร่างกายเธออย่างเป็นเจ้าของ“ขะ...คุณวิชญ์”“อะไร” น้ำเสียงแหบพร่าด้วยอารมณ์ปรารถนาของวิชญ์เอ่ยดังขึ้น ซึ่งคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ได้ก็คือมารีญา “คุณยังไม่รับปากฉันว่าจะปล่อยพี่แก้วไป”“พรุ่งนี้ฉันจะรับปาก” เอ่ยบอกเสร็จวิชญ์ก็ซุกไซ้กึ่งปากกึ่งจมูกลงไปตรงซอกคอของมารีญา สัมผัสจากเขาทำให้เธอขนลุกซู่อย่างเสียวซ่าน แต่ก็พยายามใจแข็งผลักไสชายหนุ่มออก เพราะมองว่าวิชญ์ไม่ทำตามที่พูด “ถ้างั้นฉันจะกลับห้อง แล
“อะ...อ้ายยย” แม้จะมีมือปิดปากอยู่ แต่เสียงครางของมารีญาก็ดังชัดเจน มันกระตุ้นอารมณ์ของวิชญ์จนลุกโชนได้ดี เขาจึงตอบแทนเธอด้วยแรงดูดจากปากหนักๆ จนมารีญาแอ่นอกขึ้นรับอย่างลืมตัว ใบหน้าสวยเหยเกทรมาน ภายในร่างกายปั่นป่วนจนยากจะอธิบายความร้อนจากเหล้าที่ดื่มเพื่อหวังมอมตัวเองกลับสู้ไม่ได้เมื่อเทียบกับความร้อนที่ถูกจุดโดยวิชญ์ ทั้งๆ ที่เธอมอมเหล้าตัวเองเพื่อไม่ให้รู้สึกอะไรแล้วแท้ๆ แต่ทำไมถึงไม่เป็นอย่างที่คิดสักนิด ทั้งรอยจูบทั้งรอยสัมผัสจากวิชญ์กลับตราตรึงอยู่ในความรู้สึก ตราตรึงอยู่ในทุกอณูของร่างกายและลมหายใจที่สะท้านขึ้นลงด้วยไฟปรารถนาที่ไม่คุ้นเคย แต่เธอกลับอยากได้รับมันอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอกำลังถูกวิชญ์มอมเมาด้วยเหล้าที่เรียกว่าความปรารถนาดีกรีของมันร้อนแรงจนอะไรบนโลกใบนี้ก็เทียบเคียงไม่ได้ มันทำให้เธอพ่ายแพ้และโหยหาเขา ซึ่ง มารีญาก็สื่อออกมาจากแววตาที่เธอกำลังมองวิชญ์ ชายหนุ่มยิ้มมุมปากเพราะรู้ว่าเวลานี้มารีญาคงไม่แสดงอาการต่อต้านอะไรเขาได้อีก แต่ทว่าทำไมเขาถึงรู้สึกห่วงรวมถึงไม่อยากให้เธอหวาดกลัวสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั่นทำให้วิชญ์เปลี่ยนท่าทีมาอ่อนโยนกับมารีญามากขึ้น แต่ดูเหมือนจ
มือหนาที่อุ่นร้อนของวิชญ์เองก็กำลังฟอนเฟ้นบีบคลึงหน้าอกของมารีญาไปด้วย ยิ่งทำให้เธอตื่นตัวและความตื่นตัวนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความอ่อนระทวย “ลืมตาขึ้นมองฉันสิ” วิชญ์ที่เวลานี้ละความสนใจจากกุหลาบดอกสวยของมารีญาชั่วคราว ขยับตัวขึ้นมากระซิบบอกเธอ ซึ่งมารีญาก็ทำตามราวกับถูกมนต์สะกดจากนั้นเขาก็มอบจูบให้เธออีกครั้งพร้อมกับบดเบียดสะโพกสอบเข้าหาอย่างตั้งใจ แกนกายของเขาที่เวลานี้ขยายใหญ่เสียดสีไปมาอยู่แถวๆ หน้าขาของ มารีญา บางจังหวะมันก็ขยับมาเสียดสีกับความสาวของเธออย่างเชื้อเชิญให้คล้อยตามเสียงครางกระหึ่มดังมาจากวิชญ์ นั่นทำให้มารีญารู้สึกแปลกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะทรมานเช่นเดียวกับเธอ แต่ความแปลกใจก็ถูกเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า เมื่อถูกวิชญ์ล่อหลอกด้วยรสเสน่หาอันไม่คุ้นชินจนเตลิดวิชญ์จัดการถอดอันเดอร์แวร์ออกแล้วคว้ามือของมารีญาไว้ จากนั้นก็นำทางให้เธอได้สัมผัสกับแกนกายของเขาเป็นครั้งแรก มารีญาตกใจก่อนจะดึงมือตัวเองกลับแต่ก็ถูกวิชญ์รั้งเอาไว้แล้วเสียก่อน“ลองจับมันดูสิ...อืม” ท้ายประโยคคือเสียงครางของชายหนุ่ม วิชญ์เป่าลมออกปากหนักๆ อย่างทรมาน เพราะเพียงแค่ฝ่ามือนุ่มของมารีญาลูบไล้ไปมาบนแกนกายข
“เราจะไปอยู่ที่ไหนกันพศิน” แก้วกาญที่จู่ๆ ก็ต้องหอบหิ้วเงินสดเครื่องเพชร รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวออกจากบ้านมาอย่างฉุกละหุกเพื่อหนีคนของวิชญ์เอ่ยถามขึ้น “ห้องเช่าครับ”“ห้องเช่าเหรอ ฉันอยู่ที่แบบนั้นไม่ได้หรอกนะ” คำปฏิเสธของแก้วกาญทำให้พศินที่หันหลังให้อยู่ถึงกับชักสีหน้าไม่พอใจออกมา“แต่ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกแล้ว คุณไม่เห็นหรือไงว่าคนของคุณวิชญ์ตามหาเราทั้งคู่เจอ ป่านนี้คงป้วนเปี้ยนอยู่เต็มเวียงจันทน์ ขืนอยู่ในที่ที่หาได้ง่ายๆ พวกมันก็เจอเรากันพอดี”“แล้วคลีนิคของเราละ” แก้วกาญเอ่ยถามถึงคลีนิคเสริมความงามที่เธอลงเงินทุนไปอย่างมากมาย เพราะนั่นคือความหวังใหม่ของเธอนั่นเอง “เรื่องนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว”“จัดการยังไง”“ก็ใช้เงินยัดคนท้องถิ่นให้เก็บเรื่องเราไว้เป็นความลับก่อน แต่คนพวกนั้นก็อยากได้เงินเพิ่ม ซึ่งผมเองก็เกรงใจที่ต้องมาขอคุณบ่อยๆ” พศินเล่นบนเศร้าเล่าความเท็จได้อย่างแนบเนียน ทั้งๆ ที่เวลาหน้าหน้าสิ่วหน้าขวาน แต่เขาก็ยังหาทางสูบเงินมาจากแก้วกาญจนได้ “ทำไมถึงพูดเหมือนเราเป็นคนอื่นคนไกลแบบนั้นละพศิน” พอเห็นพศินเศร้าแก้วกาญก็พลอยใจไม่ดีตามไปด้วย “ก
“เออๆ ไม่ต้องพูดแล้ว”“ครับ” ภูมิเอ่ยรับแล้วยืนรอเจ้านายกลับเข้าห้องไปจัดการธุระส่วนตัว ซึ่งวันนี้ดูเร็วเป็นพิเศษเพราะเวลาประชุมกระชั้นชิดเข้ามาแล้วนั่นเองแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังให้ภูมิไปตามมารีญามาพบ เพราะเธอต้องส่งเขาไปทำงานเหมือนที่เคยทำ แม้จะอยากหลบหน้าเขาแต่มารีญาก็คิดว่าคงทำแบบนั้นได้ไม่ตลอด ทางเดียวคือทำตัวให้เป็นปกติและปล่อยให้เรื่องเมื่อคืนผ่านไปพร้อมน้ำตา“คุณวิชญ์เรียกฉันหรือคะ” มารีญาเอ่ยถามขึ้น ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธอไม่กล้ามองหน้าวิชญ์ด้วยซ้ำ“ใช่...เพราะฉันกำลังจะไปทำงานแล้ว”“ค่ะ”“ค่ะก็เข้ามาใกล้ๆ สิ จะยืนห่างแบบนั้นทำไม” เมื่อได้ยินวิชญ์พูดแบบนี้ มารีญาจึงต้องขยับเข้าไปใกล้เขามากขึ้น และเมื่อมากพอวิชญ์ก็รวบตัวเธอเข้าไปกอดจากนั้นก็บดขยี้จูบลงมาปิดกั้นคำประท้วงจูบจากวิชญ์ทำให้มารีญาตกใจจนสตั้นไปหลายวินาที พอตั้งสติได้ก็ผลักไสชายหนุ่มให้ออกห่าง แต่ยิ่งเธอผลักเขาก็ยิ่งเพิ่มแรงจูบมา
มารีญากลับมาบ้าน บ้านที่เธอจากไปด้วยเหตุสุดวิสัยแต่วันนี้ได้กลับมาแล้ว แต่ทว่าเธอไม่ได้กลับมาอย่างมีความสุขแต่กลับแบกน้ำตามากมายกลับมาด้วยความเสียใจจากการสูญเสียแก้วกาญยังคงหลงเหลืออยู่ในแววตาของเธอ รวมถึงความเสียใจที่วิชญ์ปล่อยให้เธอจากมาโดยไม่รั้งแม้แต่คำเดียว ทั้งๆ ที่เธอโหยหาอิสรภาพเช่นในตอนนี้มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แต่เมื่อได้รับมันกลับไม่ได้รู้สึกยินดีแม้แต่น้อยนิดมารีญากวาดสายตามองไปรอบๆ บ้านที่ทรุดโทรมลงไปทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มีความสุขที่ได้อยู่ หญิงสาวเริ่มลงมือทำความสะอาดเพราะไม่ได้กลับมานาน ทั้งภายในตัวบ้านและภายนอกจนรู้สึกเหนื่อย“ตายจริง กลับมาแล้วหรือคะหนูมายด์”“ค่ะ”“ป้าก็เป็นห่วงหนูแทบแย่”“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะป้าน้อย”“ไม่เป็นไรๆ ว่าแต่ผู้ชายคนนั้นเขาทิ้งหนูแล้วเหรอ อุ๊ย! ขอโทษทีนะที่ป้าถามอะไรตรงไปหน่อย แต่ที่ถามก็เพราะว่าป้าเป็นห่วง”“ค่ะ” มารีญาต
“จะตายห่าอยู่แล้วมึงก็ยังไม่เลิกโกหกกู กูรู้หมดแล้วว่ามึงปั้นเรื่องหลอกกูทั้งนั้น เรื่องคลีนิคเรื่องห่าเหวอะไรไม่มีจริงสักอย่าง ความรักจอมปลอมของมึงก็ด้วย อ้อ...สิ่งที่มีจริงคงเป็นเมียกับลูกชายแสนน่ารักนั่นของมึงล่ะมั้ง” สีหน้าและแววตาของพศินตื่นตะลึงอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าแก้วกาญจะรู้เรื่องหมดแล้ว“ตกใจหรือไงที่กูรู้” เอ่ยถามเสร็จแก้วกาญก็หัวเราะออกมาราวกับคนเสียสติ ในขณะที่พศินก็ลนลานเอาตัวรอด แต่กลับถูกแก้วกาญใช้มีดแทงเข้าที่ต้นขาทั้งสองข้าง แม้จะเจ็บปวดแค่ไหนแต่พศินกลับไม่มีเสียงแม้จะเปล่งออกมา แววตาเขาอ้อนวอนขอชีวิตจากแก้วกาญ แต่ทว่าเธอกลับไม่ยอม“กูไม่ยอมให้มึงเสวยสุขอยู่บนโลกนี้คนเดียวแน่ ไอ้สารเลว” แก้วกาญตะคอกบอกก่อนจะกระหน่ำแทงมีดลงไปบนร่างกายของพศิน จนเลือดสาดกระเซ็นเลอะตามตัวเธอจนแดงฉานไปหมดในที่สุดพศินก็สิ้นใจอย่างทรมาน แก้วกาญก็สติหลุดมากขึ้น จากเสียงหัวเราะก็กลายเป็นร้องไห้สลับกันอยู่แบบนี้ ชีวิตของเธอไม่เหลือใครอีกแล้ว ในเมื่อไม่มีใครต้องการแล้วเธอต้องอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปอีกทำไม สู
“คุณวิชญ์ยกโทษให้แก้วแล้วใช่ไหมคะ หลังจากนี้เราก็จะได้กลับไปอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม” แก้วกาญรีบพูดเข้าข้างตัวเอง แต่วิชญ์กลับตอบเสียงเย็นกลับมาเพียงคำเดียว ก็ชัดเจนเสียจนแก้วกาญสะท้านกลัวไปทั้งตัว“เปล่า”“คุณวิชญ์”“ผมยกโทษให้ก็จริง แต่จะให้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมคงไม่ได้ ต่างคนต่างอยู่แล้วกัน”“แก้วไม่ยอม!” เสียงค้านของแก้วกาญดังขึ้น วิชญ์มองเธอด้วยหางตาเพราะคนอย่างแก้วกาญมีสิทธิ์ที่จะไม่ยอมรับมันด้วยอย่างนั้นหรือวิชญ์เอื้อมมือมาบีบหน้าของแก้วกาญเต็มแรงจนเธอหน้าเบ้บ่งบอกความเจ็บ เธอพยายามแกะมือของเขาออกแต่กลับทำไม่ได้“ขะ...คุณวิชญ์ แก้วเจ็บ”“เธอมีสิทธิ์พูดคำว่าไม่ยอมด้วยเหรอแก้วกาญ” แววตาของวิชญ์เวลานี้แข็งกร้าวดูน่ากลัว ปกติสายตาแบบนนี้เขาไม่เคยใช้กับเธอมาก่อน นั่นทำให้แก้วกาญยิ่งกลัวแต่ก็พยายามใจดีสู้เสือ“กะ...แก้วจะทำตามที่คุณบอก แต่แก้วก็มีข้
“ฉันนึกว่าเธอท้องแล้วเสียอีก”“ท้อง!” คำว่าท้องทำให้มารีญาหน้าซีด นั่นเพราะเธอยังไม่อยากท้องในตอนนี้ แต่เพราะตัวเองยังมีรอบเดือนอยู่จึงโล่งอกไปได้มาก“เพราะหลายครั้งที่ฉันไม่ได้ป้องกัน”“ถ้าฉันท้องขึ้นมา คุณวิชญ์จะ...”“จะอะไร” เพราะจู่ๆ มารีญาก็หยุดพูดต่อวิชญ์จึงเอ่ยถามขึ้น“จะรับหรือจะสั่งให้ฉันไปทำแท้ง”“ในสายตาเธอคิดว่าฉันเลวร้ายถึงขนาดจะฆ่าเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองได้ลงคือเลยหรือไง” น้ำเสียงของวิชญ์ฟังดูห้วนขึ้นด้วยความไม่พอใจ“เปล่าค่ะ ฉันแค่อยากรู้”“รอให้เธอท้องก่อน ฉันจะตอบ” เอ่ยบอกเสร็จวิชญ์ก็กระชับอ้อมกอดที่มีมารีญาอยู่แน่นขึ้น การกลับมาของแก้วกาญไม่มีผลกระทบอะไรกับเขา แต่กับมารีญาคงไม่ใช่แน่ดีไม่ดีแก้วกาญอาจทำให้มารีญาทุกข์ใจ ซึ่งเขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่การจะตัดแก้วกาญที่จู่ๆ ก็ตาสว่างกลับมาหวังขอโอกาส แม้จะไม
“วันนี้ผมจะออกไปดูความคืบหน้าที่คลีนิคหน่อยนะครับ”“อืม...ไปสิ”“ส่วนนี่เป็นมื้อเที่ยง ผมเตรียมไว้ให้แล้ว” เอ่ยบอกเสร็จพศินก็วางกับข้าวที่เขาออกไปซื้อหามาให้แก้วกาญบนโต๊ะ“จะไปนานขนาดเตรียมมื้อเที่ยงให้ฉันเลยเหรอ”“เผื่อไว้นะครับ กลัวคุณหิว” อีกฝ่ายแก้ต่างได้อย่างไม่มีท่าทางตะกุกตะกักให้เห็นเลยแม้แต่น้อย“ขอบใจมากนะพศิน เธอดีกับฉันมากจริงๆ”“ครับ” พศินเอ่ยรับอย่างไม่ได้นึกระแวงอะไร จากนั้นก็ออกไปจากบ้านเช่า ในขณะที่แก้วกาญก็ให้คนแถวนั้นซึ่งเธอจ้างวานไว้ก่อนหน้านี้แล้วขับรถพาเธอตามพศินไป จึงเห็นกับตาว่าชายหนุ่มมาหยุดอยู่ที่จุดข้ามแดนและทำเรื่องข้ามกลับไปฝั่งไทย ซึ่งแก้วกาญก็ทำเช่นเดียวกันเธอตามพศินมาจนเห็นว่าเขาไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่มาพร้อมลูกน้อย พศินโผเข้าไปกอดคนทั้งคู่แล้วหอมแก้มผู้หญิงคนนั้นก่อนตามด้วยเด็กชาย หลักฐานตำตาเพียงแค่นี้ก็ทำให้แก้วกาญโกรธจนอยากไปอาละวาดให้ร้าน
ข่าวการเปิดตัวคนรักของวิชญ์ ร้อนแรงแซงอุณหภูมิหน้าร้อนของเมืองไทยชนิดไม่เห็นฝุ่น วิชญ์นั่งมองข่าวของตัวเองที่เขาตั้งใจสร้างขึ้นมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย นักข่าวคงได้ข่าวกับคลิปจากงานเปิดตัวไปเยอะพอสมควร ซึ่งวิชญ์สั่งให้ภูมิจัดการใต้โต๊ะให้นักข่าวช่องหนึ่งทำข่าวของเขากับมารีญานานหน่อย เพราะอยากให้ข่าวนี้ถึงหูคนที่อยู่เวียงจันทน์ ที่สัญญาณโทรศัพท์จากไทยน่าจะส่งไปถึงและทุกอย่างก็เป็นจริงอย่างที่วิชญ์คาดการไว้ไม่มีผิด เพราะต่อให้แก้วกาญปิดโทรศัพท์เครื่องเก่าแต่เครื่องใหม่ก็ยังท่องโซเชียลได้ด้วยการใช้ชื่อแฝงเพื่อปกปิดตัวตน หรือแม้จะเลิกรากับวิชญ์แต่เธอก็ยังตามข่าวของเขาอยู่เรื่อยๆ เพราะอยากรู้ว่าเวลานี้ชายหนุ่มเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องของเธอมากแค่ไหนทว่าข่าวที่ได้รู้ก็ทำให้เธอตกใจจนนั่งไม่ติดที่ก็ว่าได้ เมื่อเห็นข่าวชายหนุ่มเปิดตัวผู้หญิงที่กำลังคบหาอยู่อย่างออกหน้าออกตา โดยมีทั้งรูปคู่และคลิปที่เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งไม่ใช่คนอื่นคนไกลแต่เป็นน้องสาวของเธอ...มารีญา“กรี๊ดดดดด” แก้วกาญกรีดร้องออกมา
มารีญานอนหายใจสะท้าน ใบหน้าสวยแดงก่ำ ก่อนจะตกใจเมื่อถูกพลิกให้ขึ้นไปนอนทาบทับอยู่บนตัวของวิชญ์บ้าง ชายหนุ่มกดใบหน้าเธอลงมารับจูบหนักๆ พร้อมกันนั้นก็ลูบไล้สะโพกผายอย่างต่อเนื่อง“ลองกินฉันดูหน่อยสิ ว่ามันจะหวานไหม” เมื่อถอนจูบออก วิชญ์ก็กระซิบบอกแววตาพราวระยับ มารีญากัดริมฝีปากอวบอิ่มราวกับว่ากำลังลังเล แต่สุดท้ายเธอก็โน้มใบหน้าลงไปจูบชายหนุ่มก่อน จากนั้นก็ไล้จูบต่ำลงไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงหน้าอกแกร่งของเขา“อืมม” วิชญ์ครางกระเส่าออกมา ก่อนจะสะดุ้งรับเมื่อมารีญากำลังใช้ปากนุ่มและร้อนคลอเคลียกับหน้าอกแล้วรับเอาเม็ดยอดเข้าไปดูดดุน ทำเช่นเดียวกับที่เขาทำให้เธอไปเมื่อครู่ชายอกสามศอกกำลังสะท้านหวั่นไหวกับสัมผัสที่ได้รับ ความไม่ประสาของมารีญาคือเสน่ห์ที่ทำให้วิชญ์ยิ่งคลั่งยามถูกเธอสัมผัสอย่างอยากรู้อยากเห็น สัมผัสอุ่นร้อนของมารีญาค่อยๆ ขยับลงต่ำไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงหน้าท้องที่เต็มไปด้วยซิกแพคมารีญาชะงักไปเล็กน้อย เพราะสายตาของเธอมองเห็นบางอย่างที่เวลานี้มันกำลังผงาดท้าทาย เธอค่อยๆ ยื่นมือไปสั
บรรยากาศตอนไปว่าเงียบแล้วตอนกลับเงียบยิ่งกว่า ขนาดเสียงหายใจยังแทบไม่ได้ยินด้วยซ้ำ วิชญ์ทำหน้าที่ขับรถในขณะที่มารีญาก็นั่งเงียบมาตลอดทางเช่นกัน ก่อนที่เธอจะหน้าตาตื่นเมื่อจู่ๆ ชายหนุ่มก็เลี้ยวเข้าปั๊มเมื่อจอดรถเสร็จวิชญ์ก็เปิดประตูแล้วก้าวลงไป มารีญามองตามจึงเห็นว่าชายหนุ่มเดินเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะหายไปสิบกว่านาทีแล้วกลับมาพร้อมของกินเต็มมือ และเมื่อกลับเข้ามานั่งในรถได้ก็ยื่นแซนวิชที่อบมาร้อนๆ ให้มารีญา“กินสิ”“ฉัน...”“ไม่ต้องโกหกว่าไม่หิว เพราะในงานฉันไม่เห็นเธอหยิบอะไรเข้าปากนอกเสียจากน้ำเปล่า” นั่นเพราะวิชญ์เองก็คอยสังเกตมารีญาอยู่เช่นกัน“ก็ไม่รู้จะกินอะไรนี่ค่ะ” มารีญาตอบอย่างซื่อๆ แม้อาหารในงานจะน่ากินมาก แต่เธอกลับเก้อเขินจนไม่กล้าแม้แต่จะถือจานไปตักใส่ เพราะประหม่ากับสายตาใครหลายคนจับจ้องอยู่“ไม่รู้ว่าจะกินอะไรหรือทำตัวไม่ถูกกันแน่”“ทั้งสองอย่าง ส่วนเรื่องที่เกิดวันนี้..
วิชญ์แนะนำให้กลุ่มเพื่อนได้รู้จักกับมารีญา อันที่จริงเขาอยากเก็บเธอไว้บนเพนต์เฮาส์อย่างเดียว ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของเธอด้วยซ้ำ แต่ในเมื่ออยากส่งข่าวไปถึงแก้วกาญให้เธอนั่งไม่ติดที่ ก็คงมีแค่วิธีนี้วิธีเดียวที่จะสร้างอิมแพคได้มากราวกับสึนามิข่าวการเปิดตัวว่าเขากำลังคบหาผู้หญิงคนใหม่คงไม่น่าสนใจหากผู้หญิงคนใหม่ที่ว่าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่...มารีญาเมื่อแนะนำตัวมารีญาให้บรรดาเพื่อนๆ ได้รู้จักแล้ว วิชญ์ก็ถูกเลขาของท่านเจ้าสัวตามตัวให้ไปพบ ซึ่งชายหนุ่มก็จำต้องปลีกตัวไปโดยปล่อยมารีญาไว้กับกลุ่มเพื่อนแม้จะต้องอยู่ตามลำพังแต่มารีญาก็ยังเอาตัวรอดได้ดี เพราะบรรดาเพื่อนๆ ของวิชญ์ไม่ได้ถามอะไรที่ทำให้เธออึดอัดใจที่จะตอบ กลับกันเพราะพวกเขาเล่าวีระกรรมเปิ่นๆ ตั้งแต่สมัยเรียนของวิชญ์ให้เธอฟังอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเกิดการเผาในระยะใกล้เกิดขึ้นรอยยิ้มจริงใจของมารีญาที่มีอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา กลับทำให้ผู้คนรอบข้างต่างชื่นชอบในความเป็นมิตรที่เธอแสดงออก ผิดกับวิชญ์ที่เสร็จธุระจากท่านเจ้าสัวแล้วแต่ไม่ได้เข้าไปสมทบ เพราะกำลังยืนมองและคิดกับเธอในแง่ลบ