Share

บทที่ 9

ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ โรสโบกบัตรไปมาก่อนจะชำเลืองมองไปทางฟิลิป อย่างเย่อหยิ่งและพูดขึ้น “ช่วยตรวจสอบที ว่าบัตรใบนี้สามารถจองห้องอาหารส่วนตัวได้หรือเปล่า”

ทุกคนกลั้นหายใจรอคอยที่จะได้เห็นฟิลิปขายหน้า

หญิงสาวที่อยู่ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ รับบัตรไปรูดที่เครื่องและทันทีสีหน้าของเธอก็เป็นกังวลขึ้นมา เธอถามขึ้น “คุณผู้หญิงคะ นี่นี่บัตรของคุณงั้นเหรอ?”

เมื่อโรสเห็นดังนั้นเธอก็ส่ายหน้า ยื่นมือของเธอที่ทาเล็บสีแดงก่ำออกมา ชี้ไปที่ฟิลิปที่ถูกยืนห้อมล้อมและโดนหัวเราะเยาะอยู่ “ไม่ใช่ของฉันหรอกค่ะ แต่เป็นของเขา” ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องเหลวไหลสิ้นดี! ฟิลิปทำให้ตัวเองต้องขายหน้า และวินน์ก็จะเสียหน้าไปด้วยเช่นกัน นี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ! นี่มีชายที่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้าอยู่ตลอดจริง ๆ งั้นเหรอ?

โรสมีความสุขเป็นอย่างมาก เธอจ้องมองไปที่วินน์ที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ อย่างมีความสุข ก่อนจะพูดเยาะเย้ยขึ้น “รองผู้จัดการจอห์นสตัน สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

วินน์รู้สึกขายหน้าเป็นที่สุด เธอจ้องไปที่ฟิลิปอย่างขุ่นเคือง เตรียมตัวที่จะตำหนิเขาแต่หญิงสาวที่อยู่แผนกต้อนรับก็เข้ามาขัดเสียก่อน เธอลุกขึ้นยืนด้วยความนอบน้อมต่อหน้าฟิลิป ก่อนจะพูดขึ้นอย่างสุภาพ “ท่านคะ คุณเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มของร้านอาหารเรา ห้องพิเศษได้ถูกเตรียมไว้ให้คุณแล้ว กรุณาตามดิฉันมาได้เลยค่ะ”

เสียงหัวเราะเยาะ ถากถางรอบ ๆ พวกเขาเงียบลงในทันที

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทุกคนถึงกับตั้งตัวไม่ทัน

เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น? ห้องพิเศษยังงั้นเหรอ…?

โรสเป็นคนแรกที่พูดขึ้นมา เธอชี้ไปที่ฟิลิปอย่างร้อนรนก่อนจะพูดเหน็บ “เฮ้ เฮ้ เฮ้ นี่คุณดูผิดไปหรือเปล่า? เขาเนี่ยนะจะเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มของร้าน?”

“ดูให้ดีสิ เขาเป็นพนักงานส่งอาหาร เป็นแค่แมงดาเกาะผู้หญิงกินเท่านั้น! เขาจะเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มได้ยังไง?”

เกวินเองก็ตกตะลึงจนถึงขั้นพูดไม่ออก เขาเตรียมคำพูดที่จะเยาะเย้ยถากถางไว้มากมาย! แต่เมื่อความจริงที่ว่าฟิลิปเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มถูกเปิดเผยออกมา มันทำให้เขาถึงกับพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนบางสิ่งจุกอยู่ที่คอ

วินน์มองไปที่พนักงานหญิงรู้สึกสับสน เธอหันกลับมาจ้องฟิลิป นี่สามีของเธอเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มของเวอร์เทียส คอร์ทจริง ๆ งั้นเหรอ? เธอเพิ่งจะได้ยินจากเกวิน ว่าแค่สมาชิกธรรมดาก็ต้องมียอดใช้จ่ายต่อปีหนึ่งล้าน แล้วสมาชิกระดับแพลทตินั่มจะไม่ต้องใช้จ่ายอย่างน้อยสองสามล้านงั้นเหรอ?

พนักงานสาวยิ้มอย่างสุภาพก่อนจะพูดขึ้น “ฉันไม่ดูผิดหรอกค่ะ นี่เป็นบัตรสมาชิกแพลทตินั่ม และเจ้าของร้านของเราก็ทำบัตรนี้ออกมาเพียงแค่แปดใบเท่านั้นและท่านผู้ถือบัตรแต่ละท่านก็จะมีห้องส่วนตัวที่ถูกจองไว้เป็นของพวกเขาเอง”

ทุกคนต่างอ้าปากค้าง ห้องรับรองส่วนตัวต่อผู้ถือบัตรหนึ่งคนงั้นเหรอ? นี่มันการบริการระดับพระราชาแล้ว! นี่มันใช่สามีไร้น้ำยาของวินน์จริงงั้นเหรอ?

“ท่านคะ นี่บัตรของคุณ กรุณาตามฉันมาได้เลยค่ะ” พนักงานพูดอย่างนอบน้อม

ฟิลิปรับบัตรคืนมา ก่อนจะจ้องไปที่ฝูงคนที่กำลังจ้องเขาด้วยดวงตาเบิกโพลง พร้อมกับกัดฟัน เขาอธิบาย “นี่ไม่ใช่บัตรของผมหรอก มันเป็นของเจ้าของบริษัท เจ้านายของผม ผมแค่มาที่นี่เพื่อจองให้เขาเท่านั้น”

ฟิ้ว! เมื่อได้ยินที่ฟิลิปอธิบาย เกวินและโรส ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นี่ก็เป็นแค่เรื่องของพนักงานที่เอาบัตรเจ้านายมาใช้สินะ บ้าเอ๊ย! เข่าของโรสถึงขั้นอ่อนยวบไปด้วยความตกตะลึงเสียแล้วด้วยซ้ำ

เกวินส่งสายตาโกรธเคืองไปยังฟิลิป ก่อนจะพูดเหยียดหยามเขาขึ้นมาอีก “ฉันก็คิดอยู่แล้วเชียวที่แท้ก็เป็นแค่การโฆษณาหลอก ๆ”

ได้ยินดังนั้นคนอื่น ๆ ต่างพากันหัวเราะเยาะ ในเมื่อห้องก็ได้ถูกจองไว้แล้วก็คงจะเปล่าประโยชน์ถ้าเกิดไม่ใช้มัน

ฟิลิปไม่ได้อธิบายอะไรอีก เขาเพียงแค่กระซิบกับวินน์เบา ๆ “พาพวกเขาไปกินข้าวเถอะ ผมจะกลับก่อน” โดยไม่รอให้วินน์โน้มน้าวให้เขาอยู่ต่อ ฟิลิปก็เดินออกไปจาก เวอร์เทียส คอร์ท พร้อมกับกล่องรูปภาพในมือเสียก่อนแล้ว

ถึงแม้วินน์จะรู้สึกแย่เป็นอย่างมากแต่เธอก็ไม่สามารถต้านทานเสียงเรียกร้องของเพื่อนร่วมงานของเธอได้ พวกเขาเดินตามพนักงานไปที่ห้องรับรองส่วนตัว

เกวินและโรสไม่ได้รู้สึกอิ่มเอมใจกับอาหารมื้อนี้มากนักด้วยเพราะสามีไร้ประโยชน์ของวินน์เป็นคนจองห้องมาได้

หลังจากออกมาจาก เวอร์เทียส คอร์ท ไม่นาน ฟิลิปก็ได้รับข้อความสั้น ๆ จากวินน์: ขอบคุณนะ

ฟิลิปจ้องมองข้อความก่อนจะยิ้มออกมาแล้วตอบกลับไป: ไม่เป็นไร

ฟิลิปยังคงรู้สึกผิดต่อวินน์ เพราะแท้ที่จริงแล้ว เขาเป็นทายาทของกลุ่มสถาบันทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลกแต่เป็นเพราะเขาไม่เต็มใจที่จะสืบทอดธุรกิจของตระกูล เขาจึงมาที่เมืองริเวอร์เดล เพื่อที่จะลองใช้ชีวิตการเป็นคนจนดู

แล้วเมื่อไหร่ที่เขาจะบอกวินน์เรื่องนี้ดี? บางทีอาจจะต้องรอไปอีกสักพัก

หลังจากเช่าจักรยานเสร็จ ฟิลิปก็มุ่งตรงไปที่โรงพยาบาล

ระหว่างทางไปที่นั่น ฟิลิปเลี้ยวขวาและแล้วรถมอเตอร์ไซต์ก็พุ่งตรงมาทางเขา

เสียงเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซต์ดังเข้ามาในหูของเขาและในทันใดนั้น ฟิลิปรู้สึกถึงลมแรงที่ด้านข้างของเขา ในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์แฉลบไปด้านขวาตามมาด้วยเสียงชน คนขับและรถล้มลงไปที่พื้นหญ้าด้านข้างถนน

“โอ้ ไม่นะ!” ฟิลิปโยนจักรยานของเขาออกไป ก่อนจะรีบวิ่งไปดูว่าคนขับและคนซ้อนบาดเจ็บหรือเปล่า

ชายหนุ่มและหญิงสาวปีนขึ้นมาจากพื้นหญ้า กระโปรงดำของหญิงสาวขาดรุ่งริงจากการที่โดนกิ่งไม้เกี่ยว เธอดูหวาดกลัว ส่วนชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวก้มตัวลง “นี่คุณตั้งใจจะฆ่าตัวตายหรือยังไง? บ้าเอ๊ย!”

ฟิลิปรีบขอโทษ “ผมขอโทษ ผมไม่ทันเห็นคุณ พวกคุณเป็นอะไรหรือเปล่า? ต้องการที่จะไปโรงพยาบาลไหม? ผมจะจ่ายค่าเสียหายของรถคุณให้เอง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มก็ระเบิดความโกรธออกมาก่อนที่จะเริ่มก่นด่าฟิลิป ”นี่มัน ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน สปอร์ตสเตอร์ ไอออน 883 สั่งทำเลยนะ! มูลค่าของมันสองแสนเชียวนะเว้ย! แกจ่ายได้งั้นเหรอ?”

ฟิลิปตอบกลับ “ผมจะชดเชยให้คุณสามแสน หนึ่งแสนเป็นค่ารักษาพยาบาล”

ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะผลักฟิลิปอย่างโกรธเคือง “แกคิดว่าแกมีเงินเยอะอย่างนั้นเหรอ? สามแสนจ่ายมาเลยสิ! แกทำเป็นอวดดี รออะไรอยู่ละ?”

ฟิลิปเซไปด้านหลังจากแรงผลัก เขาขมวดคิ้วก่อนจะพูดขึ้น “นายเองนะที่เป็นคนฝ่าไฟแดงมา นี่ฉันก็ใจดีมากเท่าไหร่แล้วที่ไม่ทะเลาะกับนายเรื่องนั้น อย่ามายั่วโมโหฉัน”

ฟิลิปไม่ได้เป็นคนผิดเรื่องสัญญาณไฟ คนขี่มอเตอร์ไซค์ต่างหาก ที่ฝ่าไฟแดงมา ถ้าจะพูดกันตามจริงคนที่ผิดก็คือคนขับมอเตอร์ไซค์”

“แกพูดว่าฉันฝ่าไฟแดงงั้นเหรอ? ตาข้างไหนของแกที่เห็น” หนุ่มไบเกอร์ส่งเสียงหัวเราะลั่นออกมาในทันที

ขณะนั้นเองหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังของเขาก็ได้สติกลับมา เธอถอดหมวกกันน็อกออก จ้องไปที่ฟิลิป ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงแหลม “คุณมาทำอะไรที่นี่?”

ฟิลิปมองไปยังต้นเสียงก่อนจะรับรู้ได้ว่าหญิงสาวคนนั้นคือลินน์ จอห์นสตัน

บรรยากาศรอบ ๆ เปลี่ยนเป็นอึดอัดขึ้นมาทันที

“พี่เจคอบ อย่าปล่อยเขาไปง่าย ๆ นะ” ลินน์ตะโกนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด

ชายคนนี้คือ เจคอบ เวลส์ ลูกชายของชายผู้มั่งคั่งคนหนึ่ง

ฟิลิปมองไปที่ลินน์ รู้สึกลังเลเล็กน้อย เจคอบชี้นิ้วไปที่จมูกของฟิลิป ก่อนจะถามลินน์ขึ้นมา “เธอรู้จักเขาเหรอ?”

ลินน์พยักหน้า จ้องไปที่ฟิลิป “พี่เขยลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง แต่เราไม่สนิทกัน เขาเป็นแมงดา”

“บ้าเอ๊ย! ไอ้แมงดานี่ กล้ามาพูดโอ้อวดต่อหน้าฉันอย่างนั้นเหรอ? แกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วงั้นสินะ?” เจคอบพ่นคำด่าออกมา ก่อนที่จะถากถางฟิลิป “ถ้าอย่างนั้นก็ได้แกพูดเองใช่ไหมว่าจะชดใช้ให้ฉัน? สามแสนดอลลาร์จ่ายมาสิ?”

รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าเย็นชาของลินน์ สามแสนยังงั้นเหรอ? ฮ่า! ขยะไร้ค่าอย่างฟิลิป เนี่ยนะ จะมีปัญญาหาเงินสามแสนจากที่ไหน?

ความตั้งใจแรกของฟิลิปคือจ่ายเงินให้พวกเขา แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการที่จะจ่ายแล้ว “ฉันไม่อยากจ่ายแล้ว เพราะพวกนายเองที่เป็นคนฝ่าไฟแดงมา”

ถ้าลินน์ไม่อยู่ที่นี่ ฟิลิปก็คงจ่ายเงินเพื่อให้เรื่องนี้จบไปอย่างเงียบ ๆ แล้ว แต่ตอนนี้เขาทำแบบนั้นไม่ได้

ลินน์หัวเราะเสียงเย็นออกมา “ฮ่าฮ่า! ฉันคิดว่านายไม่มีเงินต่างหากล่ะ นี่คุณแสดงได้เก่งเหมือนกันนะก่อนหน้านี้ ทำไมตอนนี้ถึงถอนตัวซะแล้วล่ะ?”

เจคอบคำราม “สามแสนจ่ายมา! ไม่งั้นฉันจะเรียกพวกของฉันมาเพิ่ม”

เรียกพวกมางั้นเหรอ? ฟิลิปไม่กลัวสักนิด

“เรียกพวกเขามาสิ” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็น

“ก็ได้ ไอ้เศษสวะจอมอึด! อย่าวิ่งหนีหางจุกตูดทีหลังแล้วกัน” เจคอบข่มขู่พลางชี้หน้าฟิลิป ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เขาพูดขึ้น “พี่ไคล์ พาพวกของพี่มาที่ ซิลเวอร์สโตนที”

หลังจากวางสาย เจคอบจ้องไปที่ฟิลิป ก่อนจะพูดขึ้น “พี่ชายของฉันจะมาที่นี่เร็ว ๆ นี้เตรียมตัวอ้อนวอนไว้ได้เลย”

ฟิลิปมีท่าทีเฉยชา ไม่มีใครบอกได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหา แอกเนส ซัมเมอร์ “แอกเนส พาคนของเรามาที่ซิลเวอร์สโตนที มากเท่าไหร่ยิ่งดี”

หลังจากที่เขาวางสาย เจคอบถุยน้ำลายออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า! แกก็เรียกพวกของแกมาด้วยงั้นเหรอ? น่าขำเสียจริง! อยากจะเห็นจริง ๆ แกเรียกใครมาได้”

ลินน์เพียงแค่เฝ้ามองอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ ฟิลิปหันไปมองเธอสองสามครั้ง ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ

ที่ โกเฟอร์การบริการ แอกเนสรีบส่งข่าวหลังจากได้รับโทรศัพท์จากฟิลิปในทันที

และในเวลาไม่นาน เหล่าพนักงานส่งอาหารในเมืองภายใต้บริษัทโกเฟอร์ การบริการก็พากันขึ้นรถสกูตเตอร์สีแดง สวมเสื้อกั๊กและหมวกกันน๊อกสีแดงสด ขับผ่านถนนและตรอกซอกซอยมุ่งหน้ามาที่ซิลเวอร์สโตน มองจากไกล ๆ ดูราวกับจุดสีแดงเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนที่กำลังมุ่งหน้าไปยังซิลเวอร์สโตนช้า ๆ

กลับมาที่ฝั่งของฟิลิป คนที่เจคอบเรียกมาได้มาถึงแล้ว

ฮาร์ลีย์-เดวิดสันสี่คัน คนทั้งหมดแปดคนมีทั้งชายและหญิง ทุกคนต่างแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าของไบเกอร์แลดูดีมีสไตล์

พวกเขาขับมาที่นี่ด้วยรถมอเตอร์ไซต์ที่ส่งเสียงดังจนแทบจะทำให้หูหนวก หัวหน้ากลุ่มคือชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีสูง 1.8 เมตร หุ่นล่ำ ราวกับนักกีฬาและหล่อเหลาเป็นอย่างมาก

“เจคอป เกิดอะไรขึ้น? รถของนายกลายเป็นขยะไปซะแล้ว” ไคล์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าน่าสะพรึงกลัว พร้อมกับพวกของ เขาเหลือบตามองฟิลิป ก่อนจะเดาเหตุการณ์ออกได้อย่างง่ายดาย “แกทำอย่างนั้นเหรอ?” ไคล์ถามขึ้นด้วยเสียงทุ่มต่ำพร้อมกับจ้องหน้าฟิลิป

ฟิลิปนิ่งเงียบ

“พี่ไคล์ เป็นเขานั่นแหละที่ทำ อย่าปล่อยเขาไปจนกว่าจะได้เงินสามแสนเชียวนะ” เจคอบ ตะโกนขึ้นมาจากด้านหลัง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status