Share

ทาสหัวใจของนายเขื่อน
ทาสหัวใจของนายเขื่อน
Author: ซินเหมย / ณศิกมล

1

last update Last Updated: 2025-09-02 18:04:38

บทที่ 1

จิระรีบลุกจากม้านั่งหิน เมื่อเห็นรถของเพื่อนสนิทเลี้ยวเข้ามาภายในบริเวณลานวัด ใกล้กับที่เขานั่งคอยอยู่ เขารีบเดินเข้าไปเปิดประตูรถ แล้วขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ

“นึกว่านายจะไม่มาซะแล้ว”

“รับปากแล้วก็ต้องมาสิวะ” ธีรสิทธิ์ตอบเพื่อนรัก มองหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของอีกฝ่าย “ไปหาที่คุยกันดีกว่า”

“ไม่ต้องหรอก คุยที่นี่แหละ ถ้าตกลงจะได้ไม่เสียเวลา”

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงรีบให้ฉันมาหาวะ” คำพูดมีนัยยะของเพื่อนรักทำให้เขาสงสัย

จิระพยักหน้ารับ มองเพื่อนอย่างลังเล ก่อนตัดสินใจขอความช่วยเหลือ

“ฉันฝากน้องสาวไปทำงานกับนายสักปีสิวะขัน”

“ทำไมวะ หรือว่าแกจะไปไหน”

“อือ ฉันถูกบริษัทส่งตัวไปสิงคโปร์ว่ะ ที่นั่นเงินเดือนและสวัสดิการค่อนข้างดี อยู่ฟรีกินฟรี ไปอยู่ที่นั่นฉันคงลืมตาอ้าปากได้บ้าง แต่ฉันก็ไม่กล้าทิ้งให้เกลมันอยู่คนเดียว นายก็รู้ว่าน้องฉันสวยขนาดไหน แล้วนายก็เห็น ๆ อยู่ว่าแถวที่ฉันอยู่เป็นยังไง ฉันเป็นห่วงมันว่ะขัน”

“แค่นั้นเหรอที่แกห่วง” ธีรสิทธิ์หยั่งเชิง เพราะรู้ว่าเพื่อนรักเล่าไม่หมด

“นายก็รู้ ๆ อยู่”

“ฉันถึงบอกให้แกเอาเงินฉันไปใช้เจ้าหนี้พวกนั้นก่อน แล้วค่อยมาผ่อนให้ฉันทีหลัง” เขาเต็มใจช่วยเหลือเพื่อนรักคนนี้ เพราะรู้ว่าหนี้ที่มันเป็นอยู่ เกิดจากการหาเงินส่งเสียค่าเล่าเรียนตัวเอง และน้องสาวที่เป็นลูกของอาที่เสียชีวิตไปแล้ว และยังต้องหาเงินรักษาอาการป่วยของบิดา ที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อปีที่ผ่านมา

“ที่นายช่วยฉันมาก็เยอะแล้วไอ้ขัน ฉันเอาจากนายอีกไม่ได้หรอก ฉันละอายแก่ใจว่ะ”

“แล้วแกจะให้เจ้าหนี้ตามทวงอยู่แบบนี้เหรอ แต่ละเดือนจ่ายได้แต่ดอก ผ่อนต้นบางส่วนก็ไม่ได้ ต้องจ่ายเป็นก้อนเหมือนตอนที่ยืม ไอ้พวกนี้มันฉลาด มันจะกินแต่ดอกจากแกไง”

“ฉันถึงต้องไปนี่ไง”

“แล้วแกจะจ่ายดอกพวกมันยังไง”

“เรื่องนั้นนายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แค่ตอบรับเรื่องน้องสาวฉันก็พอ”

“แล้วนายไว้ใจฉันเหรอ” ธีรสิทธิ์ถามหยั่งเชิงเพื่อนรัก

“เออ” จิระตอบอย่างไม่ลังเล “นายกับฉันกินนอนมาด้วยกันตั้งแต่เข้ามหาลัย นายก็สนิทกับน้องฉันมาตั้งแต่สมัยนั้น ฉันดูออกว่านายคิดกับเกลมันยังไง” เขามั่นใจในตัวเพื่อนรัก รู้ดีว่าธีรสิทธิ์เห็นน้องสาวของเขาเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น

“ฉันให้น้องเกลไปอยู่กับฉันที่ฟาร์มก็ได้ แต่แกต้องเอาเงินจากฉันไปใช้หนี้พวกมันให้หมดก่อน เพราะไม่อยากให้เจ้าหนี้ของนายโผล่ไปทวงหนี้เกลถึงที่ฟาร์มของฉัน เกลมันไม่รู้เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ” ธีรสิทธิ์ให้เหตุผล และถามตบท้ายอย่างไม่แน่ใจ

“รู้แค่ว่าใช้หนี้หมดแล้ว”

“ถ้านายเป็นห่วงเกล นายต้องทำอย่างที่ฉันบอก ไปคิดมาก็แล้วกันว่าเป็นหนี้ทั้งหมดอยู่อีกเท่าไหร่ ฉันจะได้โอนให้ แล้วนายก็ไปตั้งหน้าตั้งตาทำงาน กลับมาได้เอาเงินมาใช้หนี้ฉัน ลงจากรถไปได้แล้ว ฉันมีนัดกับสาวเว้ย”

“แล้วเรื่องน้องฉันล่ะ”

“แจ้งยอดหนี้ให้ฉันเมื่อไหร่ ฉันก็มารับน้องนายเมื่อนั้นแหละ คุยกับเกลมันให้รู้เรื่องก็แล้วกัน”

“เรื่องเงิน ฉันคิดไว้ว่าจะลองยื่นกู้ที่บริษัทดูน่ะขัน ฉันไม่อยากรบกวนนายจริง ๆ”

“เอาที่ฉันไปนี่แหละ ไม่ต้องเสียดอก ไม่ต้องมีประวัติที่บริษัท ทำตามที่ฉันบอกดีที่สุดแล้ว”

จิระครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้ารับ “อือ ขอบใจมากนะไอ้ขัน แล้วฉันจะรีบติดต่อกลับไป”

“โอเค ลงไปให้ไว ฉันรีบ ฝากบอกน้องเกลด้วยว่าพี่ขันคิดถึง พรุ่งนี้บ่าย ๆ จะมารับไปกินโอมากาเสะ มึงก็ไปด้วยล่ะ”

“อือ เดี๋ยวจะบอกให้” แล้วจิระก็เปิดประตูลงจากรถของเพื่อนรัก...

ตุลฎาเปิดประตูออกมาจากห้องพักพนักงาน ส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานที่เข้ามาต่อกะพร้อมโบกมือลา

“กลับก่อนนะ อย่าหลับล่ะ”

“จ้ะ วันนี้กลับบ้านเลย หรือว่าไปทำพิเศษที่อื่นต่อล่ะ” เพื่อนร่วมงานสาวทักทายกลับ

“สองทุ่มแล้วนะ จะให้ไปทำพิเศษอีกเหรอ”

“ก็บีเห็นเกลทำงานต่อเนื่องอย่างกับหุ่นยนต์”

“ตอนนี้เรียนจบแล้วจ้ะ ก็เลยลดงานลงบางส่วน แต่ก็มีรับงานจากคนรู้จักไปทำที่บ้านบ้าง”

“ทำอะไรเหรอ”

“ทำดอกไม้จันทน์ สนใจไหม”

“หึ ไม่ทำดีกว่า” เพื่อนร่วมงานหัวเราะคิกคักเมื่อพูดจบ

“เกลกลับก่อนนะ พี่ชายมารับแล้ว” ตุลฎาบอกลาเพื่อน เมื่อเห็นพี่ชายมาจอดมอเตอร์ไซค์ที่หน้าร้าน

“จ้ะ ฝากบอกพี่ชายด้วยนะว่าอย่าหล่อให้มาก สาวเซเว่นใจละลายหมดแล้ว”

“จ้ะ ไปก่อนนะ” หญิงสาวโบกมือให้เพื่อน แล้วรีบเดินออกไปจากร้าน

“ซื้อข้าวไปกินที่บ้านไหม หรือว่าจะกินจากที่ร้านไปเลย” จิระถามน้องสาวเมื่อเธอเดินมาถึงที่รถ

“เกลซื้อกะหล่ำปลีกับมาม่าไว้แล้ว ตั้งใจจะทำผัดมาม่าใส่ไข่กับผัก แต่ถ้าพี่จิระไม่อยากกิน ก็กินข้าวก็ได้” แม้จะเรียนจบปริญญาตรีแล้ว และลุงซึ่งเป็นพ่อของจิระจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่หญิงสาวก็รู้ว่าหนี้สินที่พี่ชายเป็นอยู่ยังมีอีกมาก ถึงแม้เขาจะบอกว่าใช้หมดแล้ว แต่เธอรู้ว่ามันไม่จริง ดังนั้นอะไรที่ช่วยประหยัดได้เธอจึงอยากช่วย

“ผัดมาม่าก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้กินนานแล้ว ของพี่ใส่ผักเยอะ ๆ นะ”

“ได้ค่ะคุณพี่” ตุลฎาโค้งกายรับคำสั่งอย่างนอบน้อม

จิระหัวเราะกับความขี้เล่นของน้องสาว “ขึ้นรถเร็ว ท้องพี่เริ่มร้องแล้ว” แล้วชักชวนน้องสาวเพื่อรีบกลับบ้าน ส่งหมวกกันน็อกให้เธอ...

กลับถึงบ้านเธอก็รีบทำอาหารทันที ไม่นานผัดมาม่าสองจาน ในปริมาณที่ไม่เท่ากันก็เสร็จเรียบร้อย

อิ่มจากอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว จิระจึงเริ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจเอาไว้

“เกล”

“จ๋า”

“ไม่ต้องหางานแล้วนะ พี่ฝากงานให้เราเรียบร้อยแล้ว”

“ทำไมต้องฝากให้เกลด้วยล่ะพี่จิระ เกลอยากใช้ความสามารถของตัวเองมากกว่า”

“เส้นเสิ้นที่ไหนล่ะ ไอ้ขันมันบอกพี่ว่าอยากให้เราไปเป็นผู้ช่วยของมันที่ฟาร์ม”

“ทำไมต้องให้เกลไปทำงานกับพี่ขันด้วยล่ะ เกลหางานทำแถวนี้ก็ได้นี่ เมื่อกี้ผู้จัดการก็เรียกเกลไปคุย บอกว่าจะให้เกลรับตำแหน่งผู้จัดการสาขา เพราะรู้ว่าเกลเรียนจบแล้ว”

“แล้วจะอยู่ยังไง เกลก็รู้ว่าพี่ต้องไปสิงคโปร์เป็นปี พี่ไม่กล้าทิ้งให้เราอยู่ที่นี่คนเดียวหรอก ไปอยู่กับไอ้ขันน่ะดีแล้ว พี่ไว้ใจมันที่สุด เพราะมันก็รักเกลเหมือนน้องเหมือนนุ่ง เชื่อพี่นะ” จิระให้เหตุผลพร้อมกับคำขอร้อง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทาสหัวใจของนายเขื่อน   9

    บทที่ 9ลลิตาคุยกับคุณตำรวจสายตรวจทั้งสองนาย เสร็จแล้วจึงพารุ่นน้องไปรักษาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงเดินทางจากโรงพยาบาลไปสถานีตำรวจ…“ถ้านายไปเมืองนอกแล้วน้องสาวนายล่ะ”“เกลเขาเรียนจบแล้วครับพี่กิ๊ง ตอนนี้เขาไปทำงานอยู่ที่ฟาร์มไอ้ขันครับ แล้วพี่กิ๊งล่ะครับ ตอนนี้ทำอะไรอยู่”“พี่ก็ช่วยงานที่ฟาร์มนั่นแหละ ไม่ได้ไปไหนไกล”“แล้วพี่ได้เจอไอ้ขันมันบ้างหรือเปล่าครับ” จิระรู้ว่าหญิงสาวเป็นเครือญาติกับเพื่อนสนิทของตน จึงถามออกไป“ไม่ค่อยได้เจอกันเลย” ถึงจะอยู่ที่เดียวกัน แต่มันคงเป็นเรื่องยาก ที่พี่น้องทั้งสองจะแวะเวียนมายังสถานที่ที่เธออยู่ ซึ่งเธอก็รู้ดีว่าเพราะอะไร“โชคดีจังที่รู้ว่าพี่กิ๊งอยู่ที่นั่นด้วย ผมจะบอกให้เกลแวะไปทักทายพี่บ้าง ผมก็ถือโอกาสฝากฝังให้พี่ช่วยดูแลเกลซะเลย”“ได้สิ แต่พี่ไม่รู้ว่ายังจะจำน้องสาวนายได้อยู่หรือเปล่

  • ทาสหัวใจของนายเขื่อน   8

    บทที่ 8ในห้องทำงานส่วนตัวของธีรทัศน์“นั่งสิ” เขาบอกกับหญิงสาวก่อนนั่งประจำที่ เปิดดูเอกสารการสมัครงานของเธอ ไม่ลืมมองดูวันเดือนปีเกิดในสำเนาบัตรประชาชนของเธอ ซึ่งมันก็ตรงกับของเขาจริง ๆ “จบอะไรมา”“การตลาดค่ะ”“ทำไมถึงเลือกเรียนการตลาดล่ะ”“เพราะตั้งใจจะสมัครเข้าทำงานกับที่เก่าเมื่อเรียนจบค่ะ คือหนูทำงานพาร์ตไทม์ตั้งแต่เรียนค่ะ” เธออธิบายให้เขาเข้าใจมากขึ้น“แล้วทำไมถึงเลือกมาทำที่นี่ล่ะ”“พี่ชายต้องไปทำงานที่สิงคโปร์ค่ะ ก็เลยให้มาทำงานกับพี่ขันก่อนจนกว่าเขาจะกลับมา”“แค่นั้นเองเหรอ”คำถามของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวต้องมองหน้าเขาอย่างสงสัย แต่ก็พยักหน้าตอบรับ“ค่ะ”“ไม่จริงมั้ง”“อะไรเหรอคะ” ทำไมเขาต้องยิ้มและมองเธอแบบนั้นด้วย“เปล่า ฉันจะให้หนูทดลองงานก่อนสี่เดือน สี่

  • ทาสหัวใจของนายเขื่อน   7

    บทที่ 7เช้าตรู่วันใหม่ตุลฎาหยิบโทรศัพท์มือถือมากดปิดเสียงนาฬิกาปลุก รีบลุกจากที่นอนไปล้างหน้าล้างตา แล้วเดินออกจากห้องเพื่อไปทำความสะอาดเรือนพญาหลังนี้.. เมื่อวานตอนที่พี่ขันพาชมบ้าน เธอจำได้ว่าหลังห้องครัวมีห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่“อกอีแป้นแตก!” ละม่อมอุทานด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อจะเอ๋กับสาวสวยที่หน้าห้องครัวพอดิบพอดี“ป้าเป็นอะไรไหมคะ” ตุลฎารีบเข้าไปประคองสตรีสูงวัย ที่ทำท่าเหมือนจะเป็นลม“ไม่เป็นไร ๆ”“หนูขอโทษค่ะป้า” เธอยกมือไหว้แล้วชี้ไปที่ด้านหลังของครัว “หนูแค่จะเดินไปหยิบไม้กวาดกับที่ตักขยะที่ห้องเก็บของ หนูไม่รู้ว่ามีคนอยู่”ละม่อมยกมือรับไหว้จากเด็กสาว “แล้วหนูเป็นใครจ๊ะ มาอยู่ที่เรือนนี้ได้ยังไง”“หนูชื่อเกลค่ะ เป็นน้องสาวของเพื่อนพี่ขัน มาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ หนูจะมาทำงานที่นี่ชั่วคราว ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะป้า”“อ๋อ ป้าชื่อละม่อมนะ เรียกป้าม่อมก็ได้”“ค่ะป้าม่อม ป้าทำงานอยู่ที่นี่เหรอคะ ทำไมเมื่อวานหนูไม่เห็นป้าล่ะ” หญิงสาวถามด้วยความสงสัย“ป้าไม่ได้พักอยู่ที่นี่หรอก มีหน้าที่แค่มาทำอาหารเช้า และปัดกวาดเช็ดถูเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนทำความสะอาดใหญ่จะมีคนอื

  • ทาสหัวใจของนายเขื่อน   6

    บทที่ 6ตุลฎารับฟังการแนะนำจากธีรสิทธิ์อย่างตั้งใจ จนกระทั่งเขาพูดจบ“ยังขาดอีกห้องนะคะ”ชายหนุ่มนึกทบทวน ส่ายหน้าไปมาช้า ๆ “ไม่นะ พี่ว่าครบแล้วนะ”“ไม่ครบ คิดดี ๆ สิคะ” เธอยังยืนยันคำเดิม“นี่บ้านพี่นะ เราจะมารู้ดีกว่าพี่ได้ยังไง” ธีรสิทธิ์แสร้งต่อว่าน้องสาวของเพื่อนสนิท “ถ้าแน่จริงก็บอกมาสิว่าห้องอะไร” เขาท้าทาย“ห้องน้ำค่ะ โอ๊ย!” หญิงสาวยกมือลูบหน้าผากป้อย ๆ“โห! ร้องซะเว่อร์ พี่ดีดเบา ๆ เองนะ”“เกลทำผิดอะไรคะ พี่ขันถึงตีเกลแบบนี้”“ไม่ต้องมาทำเป็นตีหน้าเศร้าเลยนะ พี่ไม่สงสารหรอก เรือนหลังนี้มีห้องน้ำห้าห้องจ้ะ ห้องน้ำในห้องนอนทั้งสามห้อง และข้างน้ำแขกอีกสองห้อง พอใจหรือยัง”ตุลฎาฉีกยิ้มอวดฟันขาวดังไข่มุก ส่ายหน้าไปมาเร็ว ๆธีรสิทธิ์ยิ้มให้หญิงสาวด้วยความรู้สึกรักและเอ็นดู ยื่นมือไปให้เธอ“เข้าบ้านกันดีกว่า”“ค่ะ” หญิงสาวยื่นมือไปจับมือกับชายหนุ่ม แล้วเดินตามเขาไปติด ๆ ก้าวขึ้นบันไดไม้สามขั้นที่ฝังอยู่กับเนินหญ้าเขียวขจีตอนแรกที่เห็นแค่ภายนอกก็ว่าอลังการงานสร้างมากแล้ว พอเข้ามาภายในเธอถึงกับตะลึงกับการตกแต่งภายในที่ดูหรูหรา สมกับฐานะเจ้าของฟาร์มนกกระจอกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย“ชา

  • ทาสหัวใจของนายเขื่อน   5

    บทที่ 5ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาจิระกดปุ่มปิดท้ายรถยนต์คันหรูของเพื่อนสนิท เมื่อเอากระเป๋าสัมภาระของน้องสาวใส่เข้าไปแล้ว“ขัน ฉันฝากดูแลเกลแทนฉันด้วยนะ”“ฉันจะดูแลน้องเกลอย่างดี ไม่ต้องห่วงหรอกน่า” ธีรสิทธิ์ยื่นมือไปขยี้ศีรษะของหญิงสาวด้วยความเอ็นดู“อยู่กับพี่เขาทำตัวให้ดี ๆ ล่ะ กลับจากสิงคโปร์แล้วพี่จะไปรับ” จิระบอกกับน้องสาว“จ้ะ” หญิงสาวรับคำน้ำตาคลอเบ้า“พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง” ธีรสิทธิ์ส่ายหน้า เมื่อเห็นเพื่อนสนิทเริ่มมีอาการแบบเดียวกับน้องสาวประโยคที่บุคคลทั้งสามคุยกันที่ท้ายรถ ธีรทัศน์ได้ยินเต็มสองรูหู แต่เขาก็เพียงแค่รับฟังและนั่งรออย่างสงบอยู่ที่เดิม ไม่นานพวกเขาก็มาขึ้นรถ ยกเว้นจิระ“ผมฝากน้องสาวผมด้วยนะครับพี่เขื่อน ถ้าเธอทำอะไรไม่ถูกใจพี่ หรือทำให้พี่โมโห พี่โทรมาด่าผมได้เลยนะครับ ผมยอมให้พี่ด่าได้เต็มที่ แต่พี่อย่าด่าเกลเลยนะครับ เพราะเธอเป็นคนอ่อนไหวเกินไป เธอคงรับเหตุการณ์แบบนั้นไม่ไหว” จิระฝากฝังน้องสาวกับพี่ชายของเพื่อนอีกคน“ฉันไม่ด่าคนเพื่อใช้ระบายอารมณ์หรอกนะไอ้น้องชาย ฉันมีวิธีระบายอารมณ์ที่ดีกว่านั้นเยอะ” นั่นก็คือการพาขึ้นเตียง เขาคิดต่อในใจ“ไม่ต้องห่วงน่า พี่ชายฉัน

  • ทาสหัวใจของนายเขื่อน   4

    บทที่ 4ธีรทัศน์หันไปมองน้องชายที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถ เมื่อเขาเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ลานหน้าวัดแห่งหนึ่ง แทนที่จะเป็นหน้าบ้านของเพื่อน“เพื่อนแกบวชเป็นพระ น้องเขาเป็นชีหรือไงไอ้ขัน” เขาแกล้งแซว“เพื่อนผมอยู่หลังวัด เข้าทางนี้ง่ายกว่า ไม่งั้นก็ต้องขับเข้าซอยหลังวัด แล้วเดินเท้าเข้าซอยเล็ก ๆ ไปอีกหน่อย มันก็เลยนัดให้เจอกันที่นี่ เดี๋ยวมันจะขี่มอเตอร์ไซค์พาน้องสาวมาหาเราเอง” ธีรสิทธิ์อธิบาย“เพื่อนแกนี่มันจงใจยัดเยียดน้องสาวให้แกหรือเปล่าวะไอ้ขัน” แปดในสิบเขามั่นใจว่าคิดถูก“ปากพี่นี่ร้ายยิ่งกว่าปากผู้หญิงอีกรู้ตัวหรือเปล่า ผมบอกแล้วไงว่าระหว่างผมกับน้องเกล เป็นได้แค่พี่กับน้องเท่านั้น”“ฉันรู้ว่านายเป็นคนดี ไม่กินไก่วัด” ชายหนุ่มประชดใส่หน้าน้องชายที่เป็นคนเจ้าชู้เงียบ ไม่เหมือนเขาที่ชอบเปิดเผย ถ้าสนใจก็แสดงออกไปเลย“พี่ก็ไม่กินไก่วัดเหมือนกันแหละ”สองพี่น้องหนุ่มหล่อคนละขั้ว ต่างรู้ความหมายของประโยคเปรียบเปรยนี้ดี“ฉันไม่ชอบเลี้ยงไก่ สู้ไปซื้อกินดีกว่า อยากกินพาสต้าหรือว่าสลัดก็เลือกได้”ธีรสิทธิ์ค้อนใส่พี่ชายเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขารออยู่ประมาณสิบนาทียังไม่เห็นเพื่อนสนิทพาน้องส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status