เมื่อเห็นเนลล์เป็นแบบนี้ กิดเดียนก็พูดอะไรไม่ออกไปสักพักเขาทำได้เพียงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “คุณหิวไหม? ผมจะให้คนไปเอาอาหารมาให้”เนลล์พยักหน้ารับ “ได้ค่ะ”เมื่อกิดเดียนออกไปแล้ว เธอจึงค่อย ๆ ขยับตัว และพยุงตัวลุกขึ้นกึ่งนอนกึ่งนั่ง เพื่อมองเด็กทั้งสองคนที่อยู่ในผ้าห่อตัวสำหรับเด็กมือเล็ก ๆ สีขาวอมชมพูของทารกน้อยทั้งสองคนกำแน่น ขณะที่พวกเขานอนหลับอยู่ตรงนั้นเหมือนก้อนข้าวเหนียวสองก้อนหัวใจของเนลล์พองโต และความรู้สึกไม่ดีที่เกิดขึ้นจากความเจ็บปวดก็จางหายไปในคราวเดียวสิบนาทีต่อมา กิดเดียนไม่เพียงนำอาหารมาให้เธอ แต่ก็นำหมอมาด้วยเมื่อรู้ว่าเนลล์ฟื้นขึ้นมา หมอจึงมาตรวจดูบาดแผลและการฟื้นตัวของเธอเขาตรวจให้มั่นใจว่าไม่มีปัญหา ก่อนที่เขาจะเรียกที่ปรึกษาการให้นมบุตรมาช่วยเธอปั๊มนมจากนั้นเขาจึงแจ้งให้เธอทราบ ถึงข้อควรระวังที่เธอต้องคอยระวังให้ดีแล้วเดินจากไปหลังจากที่หมอเดินออกไปแล้ว กิดเดียนจึงวางอาหารลงบนโต๊ะขนาดเล็กที่อยู่ตรงหน้าเธอ เนลล์พยายามพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง แต่กิดเดียนห้ามเธอเอาไว้เขาหยิบหมอนมารองหลังเธอ และค่อย ๆ พยุงเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ต้องขยับ ผมจะป้อนข้าวคุณเอง
ลิซซี่กลอกตา“เด็กแรกเกิดก็ตัวเล็กแบบนี้ทุกคนนั่นแหละ วีมอนด์ก็เคยตัวเล็กแบบนี้ตอนที่เป็นทารก”วีมอนด์น้อยตกใจกับสิ่งที่ได้ยินถึงเขาจะไอคิวสูง แต่เขาก็ยังเด็ก และไม่ค่อยรู้เรื่องความรู้รอบตัวมากนัก ถึงอย่างไรก็ตาม เขาแทบไม่ได้สัมผัสการใช้ชีวิตเลยแม้แต่น้อยดังนั้นในความคิดของเขา ช่างน่าแปลกใจที่มีเด็กตัวเล็กแบบนี้อยู่ในโลกถึงอย่างไรก็ตาม เพราะลิซซี่เคยเห็นเขาคลอดออกมากับตาของเธอเอง เธอจึงรับเรื่องนี้ได้เด็กทั้งสองคนเกาะอยู่ที่เปล แล้วมองซ้ายทีขวาทีราวกับพวกเขาหยุดมองน้องตัวเล็กไม่ได้วีมอนด์น้อยเอื้อมมือไปเขี่ยแก้มของน้องสาวตัวเล็กด้วยความสงสัย แต่ก็หดมือกลับมาทันทีด้วยความตกใจ หลังจากได้สัมผัสผิวนุ่มนิ่มอย่างไม่น่าเชื่อริมฝีปากของทารกสั่นระริกราวกับเธอจะร้องไห้ แต่เพราะเธอง่วงนอนจนเกินไป เธอจึงนอนหลับต่อพวกเขาเฝ้าดูน้อง ๆ อยู่สักพัก ก่อนที่เนลล์จะเรียกพวกเขาเข้ามา“เอาล่ะลูกทั้งสองคน หยุดรบกวนน้องได้แล้ว มาเล่นตรงนี้ดีกว่านะคะ!”เด็กทั้งสองคนเชื่อฟัง และไม่ปฏิเสธขณะที่พวกเขาเดินไปนั่งเมื่อเห็นว่าพวกเขาทำตัวดี เนลล์จึงรู้สึกพอใจจากนั้นลิซซี่จึงพูดขึ้น“คุณแม่คะ ค
หลังจากที่นั่งลงแล้ว ผู้หญิงสองคนก็จับมือกันแล้วพูดคุยกันอย่างมีความสุขเรื่องที่พูดคุยกันก็ไม่ใช่เรื่องอื่นใด นอกจากเรื่องเด็ก ๆ และครอบครัวอย่างไรก็ตาม เคธี่ซึ่งแตกต่างไปจากเนลล์ ในแง่มุมที่เธอนั้นเป็นแม่บ้านที่ไม่มั่นใจในความคิดนักเธอมีนิสัยอ่อนโยน และมีความคิดที่ล้าสมัย ยึดหลักการดำเนินชีวิตเป็นช้างเท้าหลังไม่อย่างนั้นเธอคงจะไม่ถูกคนสารเลวอย่างฌอร์น เจนนิงส์ และซิลเวีย วอร์กเกอร์ ทำร้ายตั้งแต่แรกที่ผ่านมาเนลล์ไม่เคยเข้าใจเธอเลยเธอไม่เคยเข้าใจว่าทำไมคุณแม่ถึงไม่สู้บ้าง ทั้ง ๆ ที่พ่อของเธอเลวขนาดนั้นในเวลาต่อมา เมื่อเธอมีลูกของเธอเอง เธอจึงดูเหมือนว่าเข้าใจหัวอกของคุณแม่เป็นอย่างดีนอกจากนี้ เธอยังโชคดีพอที่ได้พบกับผู้ชายแสนดีอย่างกิดเดียน ลีย์ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยมีเรื่องทุกข์ใจหลังแต่งงานแต่ถึงอย่างนั้น ไม่ใช่ทุกคนบนโลกที่จะโชคดีแบบนี้หลาย ๆ คนก็เป็นเหมือนคนปกติทั่วไป มีทุกข์มีสุขแม้บางครั้งอาจจะขมขื่นมากเพียงใด แต่พวกเขาส่วนใหญ่ยอมอดทนเพื่อให้ลูกมีครอบครัวที่สมบูรณ์ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ทำเกินกว่าเหตุ ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกทิ้งไปเพื่อเห็นแก่เด็กถึงอย่างนั้น ตอน
เนลล์พูดขึ้นใหม่ “ฉันจะเรียกคุณเองถ้าฉันทำธุระเสร็จแล้ว”กิดเดียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กับท่าทางเขินอายของเธอ“ได้ ระวังด้วยนะครับ เสร็จแล้วก็เรียกผมแล้วกัน”“อืม”กิดเดียนจึงเปิดประตูออกไปราว ๆ สามนาทีต่อมา เสียงเหนียมอายของเนลล์ก็ดังออกมาจากข้างใน“ฉันเสร็จแล้วค่ะ”จากนั้นเขาจึงเปิดประตูเข้าไปอีกครั้ง จัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อย แล้วอุ้มเธออกมาอีกครั้งเนลล์นอนอยู่บนเตียง เมื่อลูกที่อยู่ในเปลตื่นขึ้นมากิดเดียนอุ้มพวกเขาออกมาแล้วเปลี่ยนผ้าอ้อมตามคำแนะนำของเนลล์จากนั้นจึงป้อนนมให้กับพวกเขาทารกน้อยยังเล็ก เพราะพวกเขาเป็นฝาแฝดกัน เนลล์จึงให้ลูกดื่มนมจากเต้าเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงดื่มนมจากเต้าและเสริมด้วยนมผงโชคดีที่เจ้าตัวน้อยทั้งสองคนแข็งแรงดี เมื่อพวกเขาได้จับขวดนม พวกเขาจะจับไว้แน่น จนบางครั้งเนลล์ก็ดึงขวดนมออกจากพวกเขาไม่ได้ในช่วงสองวันที่ผ่านมา นายท่านลีย์และท่านผู้หญิงควินตันมาทุกวันเหตุผลหนึ่งก็คือมาดูเหลนของพวกท่าน ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือมาเยี่ยมเนลล์ท่านผู้หญิงรู้ว่าครั้งนี้เนลล์ลำบากมาก ท่านจึงซื้อต้นไวเบอร์นัมที่น่ารักให้เป็นพิเศษ แล้ววางไ
“นี่ พวกเขาจะคุยเรื่องอะไรกัน?”เจเน็ตมองเนลล์แล้วหันไปมองที่ประตูหลังจากนั้นเธอจึงลดเสียงลงแล้วพูดขึ้น “เลียมอยากย้ายสำนักงานใหญ่กลับมาเริ่มต้นใหม่ที่ประเทศจีน เขาเพิ่งทะเลาะกับพวกตาแก่งี่เง่าในตระกูลกริฟฟินเมื่อไม่นานมานี้เอง เขาก็อาจจะมาหากิดเดียนเพื่อที่จะเรียนรู้จากเขา”ทุกคนทราบดีว่านายท่านใหญ่ไม่ใช่คนบุกเบิกลีย์ คอร์ปอเรชั่น อย่างจริงจัง เมื่อบริษัทอยู่ในมือของท่านอย่างไรก็ตาม นายท่านใหญ่มาจากการเป็นทหาร ท่านนำกองกำลังในสงครามได้ แต่ท่านไม่มีพรสวรรค์ในการทำธุรกิจท่านเป็นคนพูดตรง ๆ และไม่ชอบการคำนวณ เมื่อท่านทำธุรกิจ ท่านจึงมักจะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนมากกว่าการแสวงหาผลกำไรอาจเป็นเพราะตระกูลลีย์มีเงินทองมากมาย พวกเขาจึงเติบโตต่อไปได้แต่กิดเดียนต่างออกไปเขาเป็นนักธุรกิจตัวจริง ที่ใช้วิธีการเข้มงวดและไร้ความปราณี ซึ่งทำให้เขาพลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือได้ ยามที่อยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบถ้าเลียมอยากกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่ประเทศจีน ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่มาปรึกษากิดเดียนเนลล์โล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้นพูดตามตรง หลังจากที่ได้รู้ถึงตัวตนที่ซ่อนอ
เมื่อเนลล์ เจนนิ่งส์ มาถึง โรงแรมลินด์เซ ก็เป็นเวลา 23:00 น ตอนกลางคืนในช่วงเวลานี้ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ทำงานในธุรกิจที่ขายผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใหญ่เพื่อทำการจัดส่งด้วยตนเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กสาวและยังสวยอย่างไรก็ตามเมื่อมันไม่มีตัวเลือกอื่น และชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกอย่างต้องใช้เงินตั้งแต่อาหารเสื้อผ้าที่อยู่อาศัยไปจนถึงการเดินทาง นอกจากนี้ เจสัน มอร์ตัน จะกลับมาในอีกไม่กี่วันพวกเขาคบกันมาหกปีแต่เขาใช้เวลากว่าครึ่งห่างจากเธอ เขาต้องดูแลธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้โชคดีที่พวกเขามีความรู้สึกที่ดีต่อกัน เธอยังทำธุรกิจเล็ก ๆ นอกเหนือจากงานประจำวันดังนั้นเธอจะสามารถเซอร์ไพรส์วันเกิดในอีกไม่กี่วันให้เขาได้เมื่อคิดเช่นนี้ริมฝีปากของเนลก็ยกยิ้มอย่างเงียบ ๆ เธอดึงหมวกปีกสีดำบนศีรษะลงก่อนจะคว้ากล่องส่งของและเดินเข้าไปข้างในโรงแรมลินด์เซ เป็นสถานประกอบการที่มีชื่อเสียงในเมืองเพย์สันคนส่วนใหญ่มาที่นี่เพื่อมาจับจ่ายใช้สอยและเป็นคนที่ร่ำรวย มีหน้ามีตาเห็นได้ชัดเลยว่าห้องโถงได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราและแม้แต่ลิฟต์ก็ตกแต่งด
ซิลเวียยืนอยู่ข้างหลังฌอน เจนนิงส์ คำรามด้วยความโกรธ “นังแพศยา! แกพูดอะไร?"เนลล์หัวเราะเยาะ "ก็แค่ความจริง"เธอไม่คาดคิดเลยจริง ๆ ว่าผู้หญิงที่อยู่กับเจสันจะเป็นเซลีนเดิมทีเธอคิดแค่ว่าเจสันหักหลังเธอ เธอเลยทำลงไปด้วยความโกรธเท่านั้นเพื่อให้เจสันดูโง่ ลดคลายความขุ่นเคืองของตัวเองแต่คาดไม่ถึงว่าคู่หมั้นของเธอไม่เพียงแต่นอกใจเธอเท่านั้น แต่คนที่เขานอกใจเธอด้วยคือน้องสาวต่างแม่ของเธอเอง!เป็นเรื่องที่น่าตลกสิ้นดี!"แก!"คุณย่าซิลเวียโกรธมากจนยกไม้เท้าขึ้นมาทุบเนลล์ แต่แซลลี่หยุดเธอไว้อย่างรวดเร็ว“แม่เรามาคุยกันแบบดี ๆ กันดีกว่า อย่าเพิ่งโกรธมันจะไม่ดีต่อสุขภาพ”จากนั้นเธอก็หันไปหาเนลล์ “เนลล์ เธอไม่ควรทำให้คุณย่าโกรธ เซลีนเป็นฝ่ายผิดก็จริง แต่เธอสามารถทุบตีหรือตะโกนใส่เขาก็ได้ทุกอย่างตามที่เธอต้องในภายหลัง แต่คุณย่าอายุมากแล้ว ควรเชื่อฟังและไม่เถียงเธอเข้าใจไหม?”หากผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาเห็นการแสดงออกที่อ่อนโยนและมีน้ำใจของแซลลี โดยที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นใครพวกเขาคงคิดว่าเธอเป็นที่คนใจดีจริง ๆริมฝีปากของเนลล์เม้มเข้าหากันพร้อมกับรอยยิ้มเหน็บแนมเมื่อณอร์นพ่อของเธอเห็นการแสดงออก
เมื่อเนลล์เห็นท่าทางอ่อนแอและทำอะไรไม่ถูกของ เซรีนเธอก็รู้สึกรังเกียจอย่างมากเธอสะบัดออกจากการเกาะกุมอย่างเย็นชา “อย่าแตะต้องตัวฉัน!”เนลล์ไม่ได้ใช้กำลังมากนัก แต่จู่ ๆ เซลีนก็สะดุดล้มลงกับพื้นพร้อมกับเสียงกรีดร้อง“เซลีน!”เจสันพุ่งไปข้างหน้าเหมือนอย่ารวดเร็วเพื่อช่วยเธอ เขาตะคอกใส่เนลล์ด้วยความโกรธ “เนลล์! คุณกำลังทำอะไร?"“ฉันไม่ได้…”การแสดงออกของเนลล์เปลี่ยนไปเมื่อเธอพยายามอธิบายตัวเองโดยไม่รู้ตัว แต่เซลีนขัดจังหวะเธอ“เจสันอย่าโทษเนลล์ ฉันเป็นคนที่ล่อลวงคุณ ไม่เป็นไรหรอก แม้ว่าเธอจะผลักฉัน ตะโกนใส่ฉันหรือทุบตีฉัน เธอทำถูกแล้ว"ตาของเนลล์เบิกกว้าง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตกใจเธอเงยหน้าขึ้นมองดวงตาที่ผิดหวังของเจสัน“ผมไม่คิดว่าคุณจะเป็นแบบนี้ นี่เป็นความผิดของผมดังนั้นคุณควรทำผมสิ ผมทำให้คุณโกรธ! ทำไมคุณถึงลงไม้ลงมือกับเซลีน?”เนลล์เปิดปากของเธอ แต่จู่ ๆ คำอธิบายของเธอก็จุกในลำคอราวกับว่ามีหนามทิ่มแทงเธอ“คุณคิดว่า…ฉันผลักเธอเหรอ?”“คุณคิดว่าผมเข้าใจผิดกับสิ่งที่เห็นด้วยตาตัวเองหรือเปล่า? ผมคิดเสมอว่าคุณเป็นคนใจแข็ง แต่คุณก็ยังใจดี วันนี้ผมรู้ว่าคุณโหดเหี้ยมและอาฆ