เขาพยักหน้าและมองไปที่เธอ เจเน็ตควบคุมตัวเองไว้และบ่นออกมา “การขอแต่งงานครั้งนี้ไม่เห็นจะโรแมนติกเอาซะเลย งานแต่งงานก็ไม่มี ดังนั้นฉันจะไม่ยอมรับมันหรอก อย่ามาเพ้อฝันไปหน่อยเลย”เลียมตอบด้วยการยักไหล่อย่างไม่สนใจไยดี “ไม่เป็นไร ตราบใดที่กฎหมายยังรองรับอยู่”เจเน็ตพูดอะไรไม่ออกในไม่ช้า รถก็มาถึงสนามบินเจเน็ตรู้สึกลังเลเมื่อเห็นตั๋วเครื่องบินที่เลียมเตรียมเอาไว้ให้เธอเธอนึกถึงปฏิกิริยาของพ่อของเธอเมื่อเขากลับถึงบ้าน และรู้เรื่องที่เกิดขึ้น สุดท้ายแล้ว เธอก็ยังคงไปขึ้นเครื่องบินกับเลียมเธอรู้ว่าไม่สามารถหันหลังกลับไปได้แล้วหลังจากตัดสินใจเรื่องนี้แม้ว่าเธอจะพูดว่าเธอปฏิเสธที่จะยอมรับการแต่งงาน ทว่าลึก ๆ แล้วเธอเองก็เห็นด้วยเธอเห็นด้วยกับการจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้อง และเธอก็เต็มใจเซ็นชื่อของเธอลงไป เธอยอมรับในเสียงที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจของเธอเช่นกันเป็นเวลา 16:00 น.แล้ว ตามเวลาที่พวกเขามาถึงที่เมืองหลวงเจเน็ตไม่ได้รับโทรศัพท์ใด ๆ บนเครื่องเนื่องจากเธอปิดโทรศัพท์อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์ของเธอเริ่มดังไม่หยุดเมื่อเธอลงจากเครื่องบินเป็นทั้งอีธานและอัลริกที่โทรเข้ามาเ
เลียมสังเกตเห็นปฏิกิริยาของเธอและหรี่ดวงตาของเขาลงหยอกล้อ“เธอกำลังมองอะไรอยู่เหรอ คุณนายแจ็คแมน?”เขาถามขึ้นขณะที่เช็ดผมให้แห้งด้วยผ้าขนหนูเจเน็ตหน้าแดงและแกล้งไอออกมาแก้ความเขินอาย จากนั้นเธอก็ทำหน้ามุ่ยและพึมพำตอบ “ใครจะไปอยากมองนาย? นายมันเด็กไร้ยางอาย!”จากนั้นเธอก็หันหลังและแกล้งทำเป็นไม่สนใจเขายิ่งเธอพยายามทำตัวเหมือนหวงเนื้อหวงตัวมากเท่าไร เธอก็ยิ่งแสดงอารมณ์ที่แท้จริงออกมาทันใดนั้น เลียมก็อารมณ์ดีขึ้นมา ความเคร่งขรึมในตัวเขาหายไปเขาเช็ดผมให้แห้งพลางถอดผ้าเช็ดตัวออกแล้วปีนขึ้นไปบนเตียงเจเน็ตรู้สึกแปลก ๆ เมื่อความรู้สึกอบอุ่นเริ่มโอบรอบตัวของเธอเอาไว้เธอตกใจและลุกขึ้นนั่งตัวตรงเพื่อมองไปที่ชายคนนั้นที่ยกผ้าห่มขึ้นเธอกรีดร้องออกมา “นายทำอะไร?!”เขาเลิกคิ้วอย่างซื่อ ๆ “กำลังจะนอน”เจเน็ตจ้องมองเขา “นายไม่มีห้องนอนของนายหรือไง? นายไม่ไปนอนที่ห้องของนายเหรอ?”เลียมส่ายหัวของเขาและอธิบายอย่างอดทน “ก่อนหน้านั้นเรายังไม่ได้แต่งงานกัน ดังนั้นเราจึงต้องแยกห้องนอนกัน แต่ตอนนี้เราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เธอเคยเห็นคู่รักนอนแยกห้องกันหรือไง?”เจเน็ตเงียบเธอรู้
สุดท้ายแล้วเนลล์ก็รู้ว่าเจเน็ตต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหนในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เธอด่าผู้ชายคนนี้มาโดยตลอด เธอสงสัยว่าเขาเป็นใครและเขาขาดความรับผิดชอบเพียงใดที่ละเลยลูกของเขาและทิ้งเจเน็ตไว้ตามลำพังสีหน้าของเนลล์หดหู่เมื่อเธอมองเลียมแม้จะรู้ว่าปัญหาและความขัดแย้งบางอย่างยังคงพัวพันอยู่รอบตัวของพวกเขา ทว่าเนลล์ก็ยังพูดเชิงต่อต้านอยู่เล็กน้อยเลียมไม่ได้รังเกียจ เขารู้ว่าเนลล์และเจเน็ตเป็นเพื่อนสนิทกัน เขาจึงไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเนลล์หลังจากไปรับซันนี่แล้ว เลียมก็พาเจเน็ตกลับบ้าน เนลล์ไม่ค่อยพอใจนักที่เจเน็ตอยู่กับเลียม แต่สุดท้ายแล้วมันคือปัญหาส่วนตัวของเพื่อน และเธอก็ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวโชคดีที่เจเน็ตได้สัญญาของเธอกลับมาแล้ว เธอเตรียมที่จะคัมแบ็คในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ด้วยความช่วยเหลือของอัลริก สัญญาที่ลงนามภายใต้บริษัทแฮนค็อกอาจจะเป็นโมฆะ ทว่าอีธานก็แทบจะเป็นบ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขารู้ว่าลูกสาวของเขาแต่งงานโดยไม่ได้แจ้งให้เขาทราบล่วงหน้า เขาเคยประกาศด้วยซ้ำว่าใครก็ตามที่กล้าเซ็นสัญญากับเธอจะต้องเป็นศัตรูกับแฮนค็อก!มีความเป็นไปได้มากว่าอีธานต้องการขัดขวางเธอ
เนลล์เม้มริมฝีปากของเธอ เธอคิดไตร่ตรองและตอบตกลง“ได้ เข้ามา”สเตฟานี่ไปจอดรถของเธอเอาไว้ข้างหลังรถของเนลล์ จากนั้นก็ขึ้นมานั่งบนที่นั่งของผู้โดยสารบนรถของเนลล์เนลล์รู้สึกอึดอัดใจ มันเป็นครั้งที่สองที่เธอบังเอิญมาเจอกับปัญหาของสเตฟานี่และจัสตินถ้ามันเกิดขึ้นถึงสองครั้ง มันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกต่อไป เนลล์ได้เจอกับคนทั้งคู่ถึงสองครั้ง เธอคงจะไม่เชื่อว่ามันเป็นความบังเอิญเหมือนกันนับประสาอะไรกับสเตฟานี่“คุณการ์เร็ต คุณต้องการจะคุยอะไรกับฉัน?”แม้ว่าเธอจะรู้เรื่อง ทว่าเนลล์ก็ยังคงถามคำถามแทนที่จะหันมาพูดกับเนลล์ สเตฟานี่มองไปข้างหน้าด้วยท่าทางเย็นชาและพูดขึ้น “คุณได้ยินที่พวกเราคุยกับก่อนหน้านี้ใช่ไหม?”“อะแฮ่ม!”เนลล์ไออย่าเก้ ๆ กัง ๆ และอธิบาย “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ จริง ๆ ฉันกำลังจะขับรถออกไปแต่ฉันไม่คิดว่าคุณจะอยู่ที่นั่น”สเตฟานี่มองเธอด้วยท่าทางเยาะเย้ย“แบบนั้น คุณก็ได้ยินทุกอย่างใช่ไหม?”เนลล์พูดอะไรไม่ออกเธอไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้ทำหน้าบึ้งหลังจากเห็นท่าทางที่สเตฟานี่พูดกับเธอ เธอตอบกลับไป “ใช่ ฉันยอมรับว่าฉันได้ยินทุกอย่าง แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องของคุณไม่เกี่
เนลล์นำชามซุปที่ป้าจอยซ์เตรียมเอาไว้ให้กิดเดียน เพราะว่าเนลล์รู้สึกไม่ค่อยสบาย และมักจะรู้สึกหนาวอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งกิดเดียนก็ยุ่ง ป้าจอยซ์จึงทำซุปให้พวกเขาเพื่อบำรุงร่างกายเนลล์ทานไปบ้างแล้ว ดังนั้นเธอจึงนั่งลงข้าง ๆ กิดเดียนเพื่อเป็นเพื่อนเขา เธอดูขณะที่เขาดื่มซุปและพูดขึ้น “ฉันพนันได้เลยว่าตอนนี้พวกการ์เร็ตต์กำลังยุ่งด้วยอาการป่วยของนายท่านใหญ่”กิดเดียนหัวเราะออกมาด้วยความเย็นชา“ไม่ใช่แค่ยุ่งครับ แต่วุ่นวายสุด ๆ “เนลล์ยิ้ม “ตระกูลการ์เร็ตต์มีลูกมากมายค่ะ คุณลุงการ์เร็ตต์และคุณลุงรองการ์เร็ตต์เป็นลูกคนละแม่ บวกกับพวกเขามีกลุ่มและผู้สนับสนุนตัวเอง เป็นปกติที่ความขัดแย้งระหว่างพี่น้องจะดำเนินต่อไป แต่โชคดีที่นายท่านใหญ่การ์เร็ตไม่เป็นไร ฉันแน่ใจว่าพวกเขาจะเตรียมการที่จำเป็นสำหรับงานศพของนายท่านเพื่อเห็นแก่ตระกูล เพื่อให้การต่อสู้และการขัดแย้งไม่เลวร้ายจนเกินไป”กิดเดียนพยักหน้า “ผมก็หวังเช่นนั้น”เขาหยุดไปชั่วขณะราวกับว่าเขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้พลางเหลือบมองไปที่เนลล์เนลล์เลิกคิ้วขึ้น“มีอะไรคะ?”“ไม่มีอะไรครับ”กิดเดียนพบว่ามันตลกและหัวเราะขึ้นเบา ๆ ก่อนจะพูดต่อ
เซลีนพยักหน้ารับ“คุณปู่ หนูเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง และมีหลายสิ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น หนูกลัว...”ท่าทางของนายท่านใหญ่การ์เร็ตต์ดูซึมลง“นั่นคืออดีต อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป หนูอย่าไปจมอยู่กับมัน เกรแฮมคนเล็กเป็นคนใจกว้างและเขาก็ไม่ได้รังเกียจหนู ดังนั้นหนูไม่ต้องกังวลเรื่องนี้”เซลีนกัดริมฝีปากของเธอและส่ายหัวด้วยความแน่วแน่“ไม่ มันเป็นความผิดของหนูทั้งหมด ถ้าหนูไม่ไปเจอคนผิดและรู้เรื่องของคุณพ่อและคุณย่าก่อนที่ผลจะออกมาแตกต่างแบบนี้ แม้ว่าหนูจะกลับมาที่ตระกูลการ์เร็ตต์แล้ว หนูรู้ดีว่าใคร ๆ ก็คิดว่าอดีตของหนูเป็นตราบาป”“หนูอายค่ะคุณปู่ ทำไมหนูต้องสร้างปัญหาให้คนอื่นด้วย? มันจะยุติธรรมพอถ้าหากนายน้อยเกรแฮมใส่ใจ แต่เขาไม่และเขาก็ใจดีมาก นี่ก็เป็นเหตุผลมากพอแล้วที่หนูจะไม่ทำร้ายเขาและปล่อยให้ใคร ๆ ฉีกหน้าเขาด้วยการพูดว่าเขาแต่งงานกับลูกสาวของฆาตกร หนูทำไม่ได้!ขณะที่เซลีนพูด เธอปิดใบหน้าของเธอเอาไว้พลางสะอื้นนายท่านใหญ่การ์เร็ตต์โกรธมากจนสีหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึก และบรรยากาศภายในห้องก็ตึงเครียดขึ้นหลังจากนั้นไม่นานเขาก็คำรามขึ้น “พวกสวะ! ใครคือลูกสาวของฆาตกร?
วันรุ่งขึ้น นายท่านใหญ่ประกาศว่าเขาจะจัดงานวันเกิดให้ตัวเองล่วงหน้านายท่านใหญ่การ์เร็ตต์จะมีอายุครบเจ็บสิบหกปีในปีนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่วันเกิดที่สำคัญ ด้วยวัยเท่านี้การจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้กับตัวเองทุกปีมันก็เป็นงานที่น่ายินดีในตัวของมันเองนอกจากนี้เขายังป่วยหนัก หากสามารถจัดงานวันเกิดได้ในตอนนี้และช่วยถ่วงเวลาเรื่องเลวร้าย เป็นปกติที่ไม่มีใครในตระกูลการ์เร็ตต์พูดอะไรออกมาเมื่อเนลล์รู้ข่าว มันก็เป็นช่วงบ่ายของวันต่อมาแล้วเมื่อมองไปที่การ์ดเชิญตรงหน้าของเธอ เธอเองก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยอย่างไรก็ตาม นายท่านใหญ่การ์เร็ตต์ดูเหมือนจะไม่ใช่คนที่มีความเชื่อเรื่องโชคร้ายนอกจากนี้ เขายังเป็นคนคิดริเริ่มเรื่องนี้ด้วยตัวเองอีกด้วย ทว่าใครก็ตามที่เคยป่วยคงจะรู้ว่าเมื่อพวกเขาป่วย พวกเขาแค่ต้องการจากไปอย่างสงบ มีไม่มากนักที่จะสนุกสนานตื่นเต้นอย่างไรก็ตาม บัตรเชิญทั้งหมดได้ถูกส่งไปแล้ว ดังนั้นไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ต้องดำเนินต่อไปงานเลี้ยงวันเกิดจะถูกจัดขึ้นในตอนเย็นของวันหยุดสุดสัปดาห์ และสถานที่จัดงานจะจัดขึ้นที่การ์เร็ตต์ เรสซิเด้นในความเป็นจริงแล้วมีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับเชิญ เป็นเพีย
ท่าทางของธาราเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทว่าความรู้สึกผิดของเธอกลับชัดเจนมากยิ่งขึ้นณ จุดนี้ แม้จะเสียความรู้สึก โอเวนก็สังเกตเห็นเช่นกันว่ามีบางอย่างผิดปกติเขามองไปที่เนลล์ก่อนจะมองไปที่ธาราด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น“ธารา คุณรู้อะไร? ไม่ต้องกลัว ผมอยู่ตรงนี้ พูดออกมาเลยถ้าคุณต้องการ”ในขณะที่เขาพูด เขาก็จับมือของเธอเอาไว้เพื่อให้ความเข้มแข็งกับเธอแววตาที่สับสนฉายแววผ่านดวงตาของธาราออกมา ทว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไรอย่างไรก็ตาม เนลล์ไม่ได้กังวลและรอฟังคำตอบของเธอเงียบ ๆแม้ว่าโซ่ของสร้อยคอเส้นนั้นจะค่อนข้างยาว ดังนั้นแม้ว่าเธอจะสวมมันเอาไว้ตัวจี้ก็มักจะซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าของเธอ นอกเหนือจากนี้เธอไม่เคยสวมเสื้อคอลึก หากก่อนหน้านี้เธอจำสร้อยคอไม่ได้ เธอคงไม่มีทางรู้ว่ามีทับทิมประดับอยู่ที่จี้นึกถึงปัญหาที่ธาราติดพันอยู่ในตอนนี้ ต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้นตอนนี้เรื่องราวได้ถูกเปิดเผย เธอรู้ว่าถ้าธาราต้องการจะพูดออกมา เธอจะต้องพูดมันออกมาอย่างแน่นอน ถ้าเธอไม่ต้องการจะพูดถึง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะฉุกเฉินมากแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปบังคับเธอยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ของเธอกับธาราตอ