ในท้ายที่สุด ลีวาย เฟอร์นันเดซให้เวลาเธอในการปรับสภาพร่างกายก่อนจะถ่ายทำต่อ และสถานะของนักแสดงก็ราบรื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในที่สุดฉากก็จบลงด้วยดีลูซี่กังวลว่านักแสดงจะมีภาระหนักใจและเดินไปหาเธอด้วยรอยยิ้ม “พี่แอสทริด ก่อนหน้านี้พี่ทำได้ดี อย่าเครียด”แอสทริดมองเธอด้วยสายตาที่ซับซ้อน ใบหน้าของเธอไม่ได้แสดงความซาบซึ้งอย่างที่ควรเธอกลับพูดอย่างเฉยเมยว่า “ฉันไม่ได้เครียด”จากนั้นเธอก็หันหลังและจากไปอย่างเย็นชาลูซี่ค่อนข้างลำบากใจและงุนงงกับการอาการเย็นชาแบบนั้นอย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แอสทริดถูกดูหมิ่นต่อหน้ารุ่นน้อง ดังนั้นเธออาจจะรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้หลังจากพักช่วงสั้น ๆ ระหว่างฉาก พวกเขาก็ย้ายไปที่ฉากถัดไปอย่างรวดเร็วมันเป็นฉากแอ็กชั่นที่ถ่ายทำร่วมกับแอสทริดและเธอด้วยลูซี่รับบทเป็นนางเอกที่ค้นพบว่าคู่หูของเธอ ซึ่งแสดงโดยแอสทริดเป็นสายลับของศัตรู ซึ่งทำให้การต่อสู้ปะทุขึ้นในการต่อสู้ เธอจะแทงแอสทริดด้วยดาบ และแอสทริดจะหนีไปหลังจากได้รับบาดเจ็บแน่นอนว่าการแสดงโลดโผนทั้งหมดถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ พวกเขาก็แค่แสด
ลีวายตะคอกอย่างหมดความอดทนแล้วมองไปที่ลูซี่“คุณคิดที่จะเล่นเป็นคนดีกับทีมงานนั้นก็ไม่ได้แย่ แต่โชคไม่ดีที่วิธีการของคุณไม่ได้ทำให้ดูฉลาดเลย”ลูซี่เลิกคิ้วขึ้นด้วยเหตุนี้ เธอจึงเข้าใจทัศนคติของลีวายที่มีต่อเธอในที่สุดโดยไม่ต้องหันกลับมามอง เธอก็ได้ยินคนอื่น ๆ พูดถึงเธอ พวกเขามีเหตุผลที่จะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเพิ่งเห็น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้คิดในรายละเอียดว่าทำไมลูซี่ถึงถึงเลือกแอสทริดเป็นเป้าหมายตั้งแต่แรกสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ แม้แต่ผู้กำกับเฟอร์นันเดซก็ยังสรุปว่าลูซี่เป็นคนเจ้าเล่ห์ ครั้งแรกที่เขาช่วยพูดในนามของแอสทริด ขณะตอบโต้กับลูซี่เป็นการส่วนตัวลูซี่ยิ้มอย่างเย็นชาและมองลงไปที่ดาบบนพื้น และหยิบมันขึ้นมาอย่างใจเย็น“ก่อนหน้านี้มันเป็นความผิดพลาดของฉัน อย่างไรก็ตาม ฉากนี้ยังไม่จบ ดังนั้นมาถ่ายกันต่อเลย”ลีวายมองนักแสดงสาวคนสวยด้วยความประหลาดใจ“ถ่ายต่อเหรอ”“ใช่ คุณไม่ต้องการให้การถ่ายทำมันล่าช้าไม่ใช่หรือไง งั้นก็ไปถ่ายต่อเลย อาการบาดเจ็บของรุ่นพี่แอสทริดเป็นเพียงบาดแผลที่เล็กน้อย มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการถ่ายทำใช่ไหม?”แอสทริดไม่ได้คาดหวังว่าลูซี่จะมีการตอบสนองที่สง
“พี่ลูซี่ ให้ฉันซื้อยาให้ไหม? หรือพี่ต้องการให้ฉันขอลาพักงานกับผู้กำกับ?”ยาที่เธอซื้อเมื่อเดือนที่แล้วน่าจะยังอยู่ในกระเป๋าของลูซี่ แต่เธอก็หามันไม่เจอ ไม่ว่าเธอจะคุ้ยหามันยัไงก็ตามลูซี่มองดูท่าทางกังวลของคาริน่าและส่ายหัว"ฉันไม่เป็นอะไร"เธอบังคับตัวเอง และนั่งหน้ากระจกแต่งหน้าด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว“แค่ช่วยพี่เตรียมกระติกน้ำร้อน และเตรียมน้ำร้อนให้สักแก้ว ไม่ต้องทำให้มันวุ่นวาย”คาริน่าเห็นหน้าซีดของเธอ และต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่ลังเลทำได้เพียงพยักหน้าไม่นานนัก นักแสดงที่เหลือก็เข้ามาเนื่องจากมีห้องแต่งหน้าเพียงไม่กี่ห้อง หลายคนจึงต้องอันกันอยู่ในห้องเดียวเพราะเหตุการณ์ของเมื่อวานนี้ ทุกคนต่างมีความคิดเห็นเกี่ยวกับลูซี่แตกต่างกันออกไป แต่พวกเขาไม่กล้าแสดงมันออกมาให้เห็นต่อหน้า เนื่องด้วยบทบาทของเธอในฐานะนักแสดงนำหญิง ตลอดจนอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของเธอในแวดวงในช่วงสองปีที่ผ่านมาอย่างไรก็ตาม คาริน่ายังคงสังเกตเห็นความรู้สึกของการปฏิเสธ และการแยกตัวออกมาเป็นอย่างที่เธอคาดไว้เธอทำหน้าบอกบุญไม่รับพร้อมที่จะระเบิดออกมา ถ้ามีใครดึงแอบดึงแขนเสื้อของเธอเมื่อก้มศีรษะลง เธอ
ลูซี่บังคับตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะส่ายหัว "ไม่เป็นไร พี่แค่เวียนหัวนิดหน่อย”คาริน่าเห็นว่า ลูซี่ดูไม่ค่อยดีนัก จึงเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเธอด้วยความสงสัย“อา พี่ลูซี่พี่ไข้ขึ้น”ลูซี่ตกตะลึง เธอยังเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเธอด้วยความประหลาดใจอย่างไรก็ตาม เพราะว่าเธอมีไข้ ร่างกายของเธอจึงร้อน ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกอะไรเมื่อแตะหน้าผากของเธอเธอแค่รู้สึกเวียนหัว และทุกสิ่งที่เธอเห็นดูเหมือนจะพร่ามัวคาริน่าเริ่มวิตกกังวลและกำลังจะโทรหาหมอ แต่ลูซี่หยุดเธอ“อย่าเพิ่งโทร” เธอเอื้อมมือออกไปหยุดคาริน่า และพูดว่า “ช่วยพี่บอกผู้กำกับว่าขอลาพักงาน บอกเขาว่าคืนนี้พี่จะไม่กลับไปหาทีมงาน โทรไปแบบส่วนตัว และอย่าให้คนพบเห็นเธอมากไป เราจะไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง”คาริน่ายังคงไม่แน่ใจ “แต่สภาพของพี่…”“พี่ไม่เป็นอะไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่ อย่างมากที่สุดพี่ก็แค่เพิ่งตกลงไปในน้ำและเป็นหวัด พี่ไม่ได้จะตาย”คาริน่ากัดริมฝีปากของเธอ แต่ท้ายที่สุด เธอเพียงทำตามที่เธอบอกเท่านั้นคาริน่าอธิบายเหตุผลให้ลีวายฟังเป็นการส่วนตัว และลีวายก็เป็นคนมีเหตุผล อย่างไรก็ตามเขามีความเชื่อบางอย่างกับลูซี่ที่ปกปิดความจ
เมื่อคิดอย่างนี้ เนลล์ก็ได้บอกกับกิดเดียนเรื่องนี้เมื่อกิดเดียนได้รับข่าว เขาก็คิดว่าความคิดของเนลล์เป็นไปได้ด้วยดี ดังนั้นเขาจึงส่งคนไปประเทศ F ในชั่วข้ามคืนเพื่อติดต่อสมาคมจีนในพื้นที่อีกด้านหนึ่ง ลูซี่กลับมาจากโรงพยาบาลแล้วทันทีที่เธอกลับมาที่สถานที่ถ่ายทำ เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับบรรยากาศสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตร และพินิจพิเคราะห์อย่างหนักกว่าเมื่อก่อนอย่างไรก็ตาม เธออยู่ในแวดวงนี้มาหลายปีแล้ว เหตุผลที่เธอปฏิเสธที่จะให้คาริน่าโทรหาหมอของทีมงาน เพราะเธอกลัวว่าจะเป็นคนที่ดูสูงส่งเกินไป และจะเป็นหัวข้อนินทาในเวลานี้เธอจะยังทำเป็นไม่สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไรบังเอิญมีสายของซูซาน รีท เข้ามาพอดี ลูซี่รู้ดีว่าการปิดบังความจริงจากซูซานไม่ใช่เรื่องดี เธอจึงบอกสถานการณ์ปัจจุบันของเธอเธอยังพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน และวันนี้ด้วยซูซานก็ประหลาดใจเช่นกัน หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมด“แอสทริด ลินด์ เหรอ? เธอไม่รู้จักกันเหรอ ทำไมเธอถึงเล็งเป้าหมายมาที่เธออย่างไม่มีเหตุผลล่ะ”ลูซี่ถอนหายใจแล้วนอนลงบนเตียง“ถ้าฉันรู้เหตุผล ฉันจะไม่ยอมอยู่เฉย ๆ แน่”ซูซานลังเลกับค
หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว การถ่ายทำก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการลูซี่ในชุดเดรสยาวสีน้ำเงินเดินไปที่สะพานตรงข้ามกับเธอนั้น มีโจรสองสามคนมัดชายหนุ่มที่สวมหน้ากากและกดมีดลงไปที่คอของเขา พวกเขาตะโกนใส่ลูซี่ “แค่ท่านคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาใกล้ ๆ ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาอาวุธใด ๆ ถ้าไม่เชื่อฟัง ข้าจะฆ่ามันทันที!”ลูซี่ยืนอยู่บนสะพานและเยาะเย้ย “ข้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่าท่านจะปล่อยเขาจริง ๆ เมื่อข้าไปถึง”ผู้คนที่อยู่ตรงข้ามต่างตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะตั้งเงื่อนไขขึ้นมาในตอนนี้เขาคำราม “แค่ทำตามที่ข้าบอก ถ้าท่านไม่ตกลง ข้าจะฆ่าเขาเดี๋ยวนี้”ทุกคนรู้ดีว่าเจ้าชายกับเจ้าหญิงสนิทสนมกันมาก และรักกันมากตั้งแต่ที่พวกเขาแต่งงานกันพวกเขามั่นใจว่าเจ้าหญิงจะไม่กล้าล้อเล่นกับชีวิตของเจ้าชาย นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาข่มขู่เธออย่างไรก็ตาม ลูซี่เพียงแค่ยืนอยู่ในที่ที่เธออยู่ และเยาะเย้ยพวกเขา“เพราะนี่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ทั้งสองฝ่ายต้องแสดงความจริงใจ ข้ามาที่นี่ แต่พวกท่านปฏิเสธที่จะแสดงความจริงใจ เท่าที่ท่านกังวล ทุกสิ่งที่ท่านพูดมันเป็นเร
ในตอนนั้น ทีมงานทั้งหมดลูซี่ห้อยอยู่ตรงนั้นประมาณราว ๆ สิบนาทีกว่าแล้วลีวายกับคาริน่า กำลังช่วยกันคิดหาวิธีต่าง ๆ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถช่วยเธอได้เนื่อจากวันนี้มีการถ่ายทำที่ภูเขาเพียงฉากเดียวเท่านั้น จำนวนคนที่มาทำงานจึงไม่มากเท่าที่ควร มีสิ่งจำเป็นแค่อุปกรณ์จัดแสงและช่างภาพ ก็มีเพียงแค่ลีวาย นักแสดงบางส่วนและช่างแต่งหน้าเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนตกใจลีวายตะโกนใส่คนที่คอยดูแลอุปกรณ์จัดแสงเพียงไม่กี่คน “คุณบอกว่า คุณได้เช็คมันแล้วไง นี่คือสิ่งที่คุณเรียกว่าเช็คเหรอ นี่คือสิ่งที่คุณทำใช่ไหม?”ทีมงานยังคงรู้สึกผิด “ผู้กำกับ นั่นไม่ใช่สะพานที่เรานำมา นั่นมันอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว ทุกคนเดินได้ปกติ เราก็ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อลูซี่เดินบนนั้นมันถึงได้หัก”ลีวายโกรธมาก เขาโกรธเดือดดาลจนลืมตัวเขาหันไปมองหาผู้ช่วยของเขา “เจอใครบ้างไหม?”ผู้ช่วยของเขาส่ายหัวอย่างช้า ๆ “ผู้กำกับ ภูเขาอยู่ไกลมากและฝนกำลังตก กว่ารถเครนจะมาถึงใช้เวลาพอสมควร”ลีวายเริ่มกระวนกระวายใจ “แล้วพวกสตั๊นท์แมนล่ะ บอกพวกเขาให้พาคนที่ฝึกการแสดงมาเพื่อพาเธอออกมา”ผู้ช่วยกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
”มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น”โจเอลอดไม่ได้ที่จะถามลีวายรีบเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อเขาได้รู้เรื่องเกี่ยวกับสะพานที่หัก แล้วลูซี่ที่กำลังห้อยอยู่ด้านล่าง โจเอลก็ตกใจมาก ตอนนี้เขาบอกได้เลยว่าเขาโกรธมาก “แล้วทำไมถึงยังยืนอยู่ที่นี่กัน คุณปล่อยให้เธอห้อยอยู่ที่นั่นคนเดียวเหรอ?”ลีวายรู้สึกผิดมากที่ถูกเขาตะโกนใส่อย่างเย็นชา“นายน้อยฟอสเตอร์ เราไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ผมได้เรียกใครสักคนมาแล้ว แต่ฝนมันตกหนักมากและพวกเขากำลังเดินทางมาจากในเมือง มันใช้เวลาอย่างน้อยประมาณยี่สิบนาทีเพื่อมาที่นี่ ผมกลัวว่าลูซี่ไม่อาจจะทนได้นานขนาดนั้น”คาริน่ากังวลมากจนน้ำตาของเธอไหลออกมาจากดวงตาของเธอ“นายน้อยฟอสเตอร์ คุณต้องช่วยพี่ลูซี่นะ คุณมีมีเงินทองและมีทางออกที่ดีใช่ไหม?”ใบหน้าของโจเอลเปลี่ยนเป็นโกรธทันที“ผมไม่ใช่พระเจ้า และผมไม่อยากให้ใครต้องมานองเลือดที่นี่ ผมทำอะไรได้บ้าง”ความหวังได้คืบหลานใส่พวกเขา ใบหน้าของคนกลุ่มนั้นมืดมัวทันทีในตอนนั่นเอง ที่เริ่มมีฟ้าผ่าลงมาบนท้องฟ้าถูกปกคลุมอีกครั้งทุกคนตกใจกับเสียงฟ้าร้องและทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงขาดมาจากใต้หน้าผา มีคนร้องไ