นอกจากนี้ ใครกันที่มีชีวิตโดยที่ไม่มีอดีต? ใครที่ไม่มีความลับปิดบังอยู่บ้างตราบใดที่เธอมั่นใจว่ากิดเดียนรักเธอแค่คนเดียว เธอก็พอใจแล้วในขณะเธอคิดแบบนี้ ริมฝีปากของเนลล์ก็ยิ้มอย่างพึงพอใจในขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่งภายในห้องทำงานแสงที่สลัวภายในห้อง กิดเดียนซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้นั่งหนังหลังโต๊ะ สีหน้าของเขาดูเศร้าหมองขณะที่เขาเอนตัวพินเก้าอี้การสนทนาทางวิดีโอกำลังดำเนินการบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผู้ชายที่ปรากฏอยู่ปลายสายกำลังพูดบางอย่างด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่อง อย่างไรก็ตามตลอดเวลาการสนทนา กิดเดียนได้เพียงฟังอย่างเดียวโดยไม่ตอบหลังจากชายคนนั้นพูดมามากกว่าสิบนาทีและทำงานของเขาเกือบจะเสร็จ เขาถามอย่างช่วยไม่ได้เมื่อกิดเดียนไม่ยอมตอบเขา “กิดเดียน แซม ลีย์ เมื่อไหร่ที่คุณจะจัดการคนพวกนั้นสักที? มันยากสำหรับการทำงานของเราโดยที่คนของคุณยังอยู่ อีกอย่างพวกเราไม่อยากจะเปิดเผยตัวจนของคุณ แต่ในเมื่อคนของคุณยังอยู่ เราไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดเผยตัวตนของคุณ!” กิดเดียนนั่งนิ่งพร้อมหรี่ตาลง นั่งเรียวยาวของเขาถูกวางลงบนที่พักแขนและค่อย ๆ เคาะลงอย่าเบามืออีกฝ่ายดูเหมือนจะหมดความอดทนอีกเช่นกัน
กิดเดียนถูกเนลล์อ่อยถูกครั้งที่เธอเข้าใกล้เขาเขาเอื้อมแขนของเขาไปกอดรอบเอวของเธอและดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดของเขา“เนลลี่ อย่าประเมินความแข็งแรงของคุณเธอน้อยไป”เขาค่อย ๆ โน้มหัวและยิ้ม ในขณะที่เขาพูดเสียงต่ำและแหบแห้งลมหายใจที่อุ่นของเขากระทบกับใบหน้าของเธอดูเหมือนจะทำให้เธอตื่นเต้นด้วยเหตุผลบางอย่าง เนลล์เขินถึงแม้ว่าสามีของเธอจะไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากพูดประโยคนั้นใบหน้าที่เรียวเล็กของเธอประกายความอมชมพูขึ้นมา ราวกับแสงของตะวันที่กำลังลับขอบฟ้า เธอดูสวบและสง่างามมากกิดเดียนยิ้มพร้อมกับโน้มหัวของเขา และจูบเธอที่ริมฝีปากอย่างอ่อนโยนเนลล์ตัวแข็งและรู้สึกราวกับครึ่งหนึ่งของร่างกายเธอกำลังชาก่อนที่จะเขาจะทำอะไรมากกว่านี้ เนลล์หยุดเขา “อย่านะ ยังมีคนอื่นอีกนะที่ยังอยู่ในบ้าน!”ยังมีแม่บ้าน และเด็กสองคนที่อาศัยอยู่กับพวกเขาแม้ว่าเด็ก ๆ จะหลับไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าพวกเขาจะตื่นขึ้นเมื่อไหร่กิดเดียนเข้าใจเช่นกัน นอกจากจะด่าคนอื่นอย่างเงียบ ๆ ที่อาจจะทำให้เสียอารมณ์ เขาก็ยังก้มตัวและอุ้มเนลล์ขึ้นมาเนลล์ตกใจในการกระทำที่กระทันหันของเขา เธอโอบคอมของเขาอ้าปากค้าง
ไม่นาน เนลล์ก็สามารถถอดรหัสได้เธอดาวน์โหลดอีเมลและอ่านเนื้อหาทั้งหมดภายในอีเมลมีคำอธิบายเฉพาะของสมาคมจีน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกก่อนที่อาวุโสเคจะเสียมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ถ้าเธอสามารถชี้เน้นประเด็นสำคัญที่น่าสงสัย ขอบเขตของการสืบสวนคงมีขนาดใหญ่แต่ถึงอย่างไร ใครที่เป็นคนส่งอีเมลฉบับนี้มา คงเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการสืบสวนก็สำคัญเหมือนกัน ดังนั้นแทนที่จะพูดถึงชื่อของผู้ต้องสงสัยที่ไม่อยากจะถูกเกี่ยวโยง จึงหันมาเน้นเพียงแค่ไม่กี่คนที่เกี่ยวข้องกับอาวุโสเคเท่านั้นดีกว่าเนลล์ไม่สนใจผู้ต้องสงสัยคนอื่น ๆ และมุ่งความสนใจต่อคนใดคนหนึ่งชายคนหนึ่งมีใบหน้าผอมแห้งและซีดเซียว เขาไม่สูงมาและคงจะสูงประมาณ 1.74 เมตร ถึง 1.75 เมตร เขาสวมใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีดำ เขาหัวโล้น และดูค่อนข้างซีดใบหน้าของเขาดูไม่มีเนื้อมากและมีลักษณะคล้ายคนเอเชียทั่วไป เขาไม่ได้ดูดึงดูดมากเกินไปและไม่น่าเกลียด เป็นเป็นคนที่สามารถกลมกลืนกับฝูงชนได้อย่างง่ายดายมากไปกว่านั้น คงเป็นสายตาของเขาที่ดูไม่ปกติสายตาคู่นี้ดูไม่ธรรมดา ชายคนนี้ผอมแต่ดวงตาของเขาไม่ได้มีสุขภาพที่ย่ำแย่ ในทางตรงกันข้าม สายตาของเขาเ
ทันทีที่ลิซซี่พูดอย่างนั้น ทุกคนต่างพากันตะลึงเนลล์ที่เป็นคนแรกที่ตอบสนองทันที เธอรีบก้มลงเพื่อปิดปากของลิซซี่จากนั้นใบหน้าของเธอปรากฎรอยยิ้มที่แสนอึดอัดให้ลูซี่และพูด “ฉันขอโทษจริง ๆ เด็กมักจะชอบพูดตรงไปตรงมาเสมอ เธอไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรอยู่น่ะ”จากการพิจารณาน้ำเสียงของลูซี่ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ยอมรับว่าเธอกำลังมีความสัมพันธ์กับโจเอล ในเมื่อพวกเขาไม่ได้คบกันการมีลูกก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันเนลล์ซึ่งเป็นหัวหน้าของลูซี่ แต่เธอรู้สึกว่าคำพูดของลูกสาวของเธอที่พูดออกมาอย่างกระทันหันทำให้ทั้งคู่รู้สึกขุ่นเคืองใจหน้าของลูซี่แดงก่ำไปด้วยความเขินอายเช่นกัน เธอรีบส่ายหน้าทันที “ไม่เป็นไรเลย”โจเอลดึงสติกลับมาเช่นกัน เขาไออย่างอึกอัก และรีบเปลี่ยนเรื่องรีบทีเปลี่ยนหลักเลี่ยงกับคุยเกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าวต่อหน้าเด็ก“สายแล้วนะ พี่สะใภ้ เดี๋ยวพวกเราจะไปทางนั้นกันต่อ”เนลล์พยักหน้า“ไปสิ ขอให้สนุกกันนะ”จากนั้นโจเอลก็ได้เดินนำทางลูซี่ไปเมื่อพวกเขาเดินจากไป เนลล์ก็ได้ถอนหายใจอย่างโล่งอกในขณะเดียวกันหลังจากออกไปนิทรรศการศิลปะ ลูซี่และโจเอลก็ไปเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ใกล้เคียงโจเ
“เฮอะ! ลูกขอทานจะมีปัญญาซื้อได้ยังไง?”ผู้หญิงข้างเออซูล่าเยาะเย้ย “อย่ามาเหยียบที่นี่ถ้าเธอไม่มีปัญญาจะซื้ออะไรได้! เธอมันแค่คนไร้ค่า”ลูซี่ขมวดคิ้ว “ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์…ของครอบครัวเธอเหรอ?”หญิงสาวหัวเราะ “ไม่ใช่ แต่ตอนที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้น ครอบครัวของฉันบริจาคไปเกือบห้าสิบล้าน ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าคนอย่างเธอจะเคยเห็นเคยจำนวนมหาศาลเท่านี้มาก่อนในชีวิตหรือเปล่า!”“ฉันแนะนำให้เธอออกไปเดี๋ยวนี้เลย ถ้าเธอมาทำให้พี่แชนนอนรำคาญใจละก็ เธอจะส่งคนมาเตะเธอออกไปหรืออาจจะทำยิ่งกว่า!”ลูซี่ขยับริมฝีปากของเธอ ที่จริงแล้วคนพวกนี้ชอบที่จะใช้อำนาจของอีกคนเพื่อมารังแกคนอื่นเธอรู้ดีเกี่ยวกับหารบริจาคของครอบครัวของแชนนอล เธอยังจำได้อีกว่าโจเอลเป็นคนปล่อยให้ครอบครัวปีเตอร์ ดำเนินเรื่องเกี่ยวกับการบริจาคแต่ถึงอย่างไร คนพวกนี้กลับแสดงเหมือนว่าพวกเขาเป็นคนใจกว้าง เธอรู้สึกแดกดันขึ้นมาเมื่อเธอนึกถึงเรื่องนี้“นี่! ฉันกำลังคุยกับเธออยู่นะ ได้ยินหรือเปล่า?”หนึ่งในหญิงสาวรู้สึกโกรธ เมื่อลูซี่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรต่อคำพูดของเธอ ดังนั้นจึงผลักลูซี่บาดแผลที่ขาของลูซี่ที่เธอได้มาจากอุบัติเหตุตอ
แต่โจเอลได้ยอมรับหรือเปล่าว่าผู้หญิงคนนี้คือแฟนของเขา?ข่าวที่ได้ยินมาก็เปรียบเหมือนกระสุนและกลุ่มผู้หญิงดังกล่าวพบว่ามันยากที่จะเชื่อ“คุณไปยืนทำไมตรงนั้น? คุณจะไล่ผู้หญิงพวกนี้ออกไปไหม?” โจเอลตะโกนใส่คุณบาร์เน็ตต์ที่กำลังเหงื่อไหล เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วเขาจึงขึ้นเสียงใส่แชนนอนและกลุ่มของเธอ “ไม่ได้ยินเหรอ? สถานที่นี้ถูกซื้อโดยนายน้อยฟอสเตอร์แล้ว ออกไป!”แชนนอนและญาติของเธอสบตากันก่อนที่จะเดินจากออกไปจากนั้นคุณบาร์เน็ตต์ยิ้มด้วยความขอโทษ “นายน้อยรองฟอสเตอร์ครับ ช่วยดูเอกสารของพิพิธภัณฑ์…”“จัดการตอนนี้เลย!”“ครับ! ครับ! ผมจะให้คนมาจัดการให้ทันทีเลยครับ”คุณบาร์เน็ตต์หยิบโทรศัพท์ของขึ้นมาโทรพร้อมกับปาดเหงื่อของเขาที่หน้าผาก ลูซี่กลับรู้สึกผิดเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงจับไปที่แขนเสื้อของโจเอลและลดเสียงของเธอลง “อย่าซื้อที่นี่เลยนะ โจเอล”โจเอลเหลือบมองไปที่เธอ และเม้มริมฝีปากของเขา“โจเอล…” ลูซี่เรียกเขาอีกครั้งโจเอลเงียบเธอไม่มีทางเลือกนอกจากจะใช้กลของเธอ เธอยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “โจเอล…”และใช่ ริมฝีปากของชายหนุ่มค่อย ๆ คลายลงและท่าทีของเขาดูอ่อนลง เขากระซิบ “ผมบอกแล้วว่าคุณเ
ภาพบรรยากาศที่สวยอะไร?!โจเอลพยายามที่จะเขย่ารถกับเธอเหรอ?ความประหม่าของลูซี่ถูกแทนทีด้วยความโกรธเธอพลักเขาออกไปทันทีและพูดด้วยความโกรธ “โจเอล ฟอสเตอร์ อย่าข้ามเส้น!”โจเอลค่อย ๆ กะพริบตาของเขาและยิ้ม มันกลับไม่ใช่รอยยิ้มที่ร่าเริง แต่กลับแฝงด้วยความเย็น ชาแทนเขาไม่ได้ใส่ใจที่ลูซี่ผลักเขาออก และปัดฝุ่นที่ตัวออกแทนและพูด “ผมแค่เตือนความจำให้คุณ ตั้งแต่เธอตกลงยอมรับเงื่อนไขของผม คุณก็ไม่มีโอกาสที่จะต่อรองแล้ว ผมพูดแล้วว่าสุดสัปดาห์นี้คุณต้องไปที่บ้านกับผม และมันต้องเป็นไปตามนี้”ลูซี่โกรธมาก เพราะความไม่มีเหตุผลของเขา เธอกัดฟันและพูด “คุณ!”โจเอลรีบเข้าหาเธอทันทีอีกครั้งพร้อมกับรองยิ้ม ริมฝีปากของเขาอยู่ใกล้กับด้านข้างของตา และพูด “คุณรู้ไหม? ที่จริงแล้วผมกำลังถูกความดุร้ายและพฤติกรรมที่จับต้องไม่ได้ของคุณดึงดูด คุณรู้ไหมว่าผู้ชายส่วนใหญ่ชอบที่จะเอาชนะ ยิ่งคุณทำอย่างนี้มากเท่าไร ผมก็ยิ่งชอบ ดังนั้นคุณอย่าคิดว่าผมจะยอมแพ้เรื่องคุณเพียงเพราะพฤติกรรมของคุณ มันเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน ไม่แม้แต่ในความฝันของคุณ”ในขณะที่เขากำลังพูด เขาหัวเราะพร้อมกับเหยียบคันเร่ง และเมินป
“ถ้าคุณไม่อยากยอมแพ้ งั้นเราคงจะต้องทะเลาะกันให้ตายไปข้าง! แต่ฉันอยากเกี่ยวข้องอะไรกับคุณอีกต่อไปแล้ว!”ในขณะที่เธอพูดจบ เธอหันหลังและก้าวออกไปโดยไม่ชายตามองเขาแม้แต่นิดเดียวในตอนนี้ ลูซี่หวาดกลัวมากเธอไม่ได้โง่ที่ไม่รู้ว่าโจเอลคิดจะลากเธอไปตายพร้อมกันกับเขาชายผู้เสียสติ!ถ้าเธอตายไปคงไม่เป็นอะไร แต่แม่เธอล่ะ?ทำไมเขาถึงเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้นะ? เขาทำทั้งหมดก็เพราะว่าเธอไม่ตกลงที่จะไปบ้านของเขาลูซี่รู้สึกแหลกสลาย เธอยังคงเดินไปข้างหน้าต่อพร้อมกับปาดน้ำตาของเธอในตอนนั้น เธอไม่สามารถเก็บความรู้สึกคับข้องใจไว้กับตัวเองและกลายเป็นน้ำตาในที่สุดเธอไม่แน่ใจว่าเธอเดินมาไกลแค่ไหน แค่ขาของเธอเริ่มที่จะรู้สึกชาจากนั้นเธอพบกับที่ ๆ หนึ่งข้างถนนและเธอก็นั่งลงห่างไปไม่ไกล ที่จริงแล้วรถเฟอร์รารี่สีดำได้ค่อย ๆ ขับตามเธอไปด้วยความเงียบ โดยที่เธอไม่ได้สังเกตเลยตั้งแต่เธอเดินออกมาภายในรถ โจเอลจ้องมองหญิงสาวที่กำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ใต้ไฟของถนนที่อยู่ห่างไปไม่ไกล เขาเริ่มจะรู้สึกเจ็บปวดอันที่จริง เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงทำตัวอย่างนั้นลงไป ราวกับว่าเขาโดนผีเข้าเขาคิดว่าเขาต้องทำให้